..หายนะจักไม่สิ้นไปจากโลก... !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในห้วงเวลาแห่งวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 .. ที่แสดงว่า โลกเข้าสู่สมัย โรคันตภัย ทุพภิกขภัย อมนุสสภัย อย่างเต็มตัว จึงควรอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาจิตใจให้ถึงพร้อมด้วยสติปัญญา เพื่อการบำเพ็ญเพียรชอบ.. จะได้ชื่อว่า.. เป็นผู้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท..

การดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท.. ไม่ใช่เป็นเรื่องที่สำเร็จด้วยความคิดนึก.. แต่จะต้องเข้าใจในหลักธรรมอันเป็นไปเพื่อความไม่ประมาท.. เพื่อจะได้ดำรงอยู่อย่างมีธรรมดังกล่าวที่ได้ชื่อว่า อัปปมาทธรรม

เมื่อนำ อัปปมาทธรรม มาขยายความก็จะพบว่า หมายถึง ความเป็นอยู่อย่างไม่ขาด สติปัญญา มีภาวะแห่งการตื่นรู้ปรากฏ.. ในความสงบตั้งมั่นของจิต

สติปัญญา ภาวะความตื่นรู้และความสงบตั้งมั่น.. จึงเป็นองค์คุณธรรมของอัปปมาทธรรม.. ฉบับจับต้องมองเห็นได้จริง.. ที่จักมีได้ด้วยการศึกษาปฏิบัติ.. ตามหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา...

จริงๆ แล้ว มหันตภัย ของมนุษยชาติ.. สัตว์โลกทั้งหลาย คือ ชาติ ชรา พยาธิ และมรณะ.. ที่สัตว์ทั้งหลายต้องพานพบ ยากจะหลีกหนี ตราบที่ยังวนเวียนแหวกว่ายอยู่ในวัฏสงสาร .. ด้วยกำลังของกิเลสในกระแสจิต.. ที่ขับเคลื่อนให้ไหลวนไปในวงจรชีวิต.. ที่มีมหันตภัยปรากฏอยู่..

การดำเนินชีวิตในวัฏสงสาร.. จึงควรมีหลักพึ่งพา เพื่อไม่ให้ไหลวนไปจนยากจะควบคุมดูแลชีวิต.. จะได้ผ่อนคลายจากมหันตภัย ในวัฏฏะ แม้ต้องเผชิญ ยากจะหลีกหนี

ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า “จงอยู่อย่างมีที่พึ่ง อย่าอยู่อย่างอนาถา เพราะอยู่อย่างอนาถาเป็นทุกข์”

ทั้งนี้ ได้ทรงประทานธรรมเพื่อเป็นที่พึ่ง ๑๐ ประการ ได้แก่

๑.ศีล.. คือ การประพฤติตามระเบียบแบบแผน มีความสังวรในพระปาติโมกข์.. สิกขาบททั้งหลายที่ทรงบัญญัติไว้ ดังที่รวมเรียกว่า พระวินัย ที่รวมถึงการรักษามารยาทในโคจรและอโคจร.. โดยจักต้องปฏิบัติตามหลักพระโอวาทปาติโมกข์ตามสิกขาบทพุทธบัญญัติและอภิสมาจาริกสิกขา.. ซึ่งแม้ความผิดเล็กๆ น้อยๆ ก็เห็นว่ามีภัย ไม่จงใจล่วงละเมิดสิกขาบทใดๆ...

๒.ความเป็นพหูสูต ได้แก่ ความทรงจำพระธรรมที่ได้สดับฟังแล้วได้มาก ทำการท่องบ่นสังวัธยายให้คล่องปาก ขึ้นจิต เจนใจ พิจารณาความหมายได้แจ่มแจ้งใจ..

๓.ความมีกัลยาณมิตร ได้แก่ การมีมิตรสหายดีๆ เป็นคู่ปรึกษาหารือ การคบคนดี เป็นมงคลแก่ตัว จะได้ฟังคำแนะนำดีๆ จากคนดี ที่จะนำไปสู่ความรุ่งเรืองในทางสัมมาปฏิบัติ อาจกำจัดอวิชชาให้หมดไปจากจิตใจ.. เพราะการช่วยเหลือของกัลยาณมิตร

พระพุทธองค์ตรัสว่า “กัลยาณมิตรเป็นตัวพระศาสนา (พรหมจรรย์)”

๔.ความเป็นคนว่านอนสอนง่าย (สุวโจ) ได้แก่ การพอใจรับคำสอนอย่างเต็มใจ อดทนต่อคำสั่งสอน ยอมให้ว่ากล่าวสั่งสอน ไม่โกรธแค้นชิงชังผู้ว่ากล่าวสั่งสอน

๕.ความขยัน ได้แก่ ความเอาธุระการงานของเพื่อนพรหมจรรย์ ฉลาดวิธีทำงาน สามารถทำเองหรือจัดแจงให้ผู้อื่นทำ ยังกรณียกิจของเพื่อนพรหมจรรย์ให้สำเร็จเรียบร้อย

๖.ความมุ่งธรรมะ ได้แก่ ความปรารถนา ความชอบธรรม รักการศึกษาหาความรู้ใส่ตน มีความปลื้มใจในการศึกษาพระธรรม พระวินัยชั้นสูงๆ ขึ้นไป หรือรายละเอียดของพระธรรม.. พระวินัย เพื่อความแตกฉานยิ่งขึ้นไป...

๗.ความเพียร ได้แก่ ความพยายามละอกุศลและความพยายามเจริญกุศล ความขยันขันแข็ง บากบั่น มั่นคง ไม่วางธุระในกุศลธรรม

๘.ความสันโดษ ได้แก่ ความพอใจในปัจจัยสี่สำหรับเลี้ยงชีวิต ตามมีตามได้ ไม่โลภโมโทสัน จนมีความทะยานอยากได้อยากมีในปัจจัยสี่จนเกินกำลังความจำเป็น..

๙.ความมีสติ ได้แก่ มีสติชนิดคุ้มครองตนเป็นอย่างดี เป็นบรมสติ สามารถนึกย้อนหลังถึงการทำ การพูด ที่ได้ทำ ที่ได้พูด นานแล้วได้ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับการกระทำ การพูดในปัจจุบัน เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น

๑๐.ความมีปัญญา ได้แก่ มีปัญญาชนิดเห็นความเกิด-ดับของสังขาร (วิปัสสนาญาณ) ซึ่งเป็นอริยปัญญา พาให้บรรลุพระนิพพาน ดับทุกข์ร้อนได้อย่างดี

พระพุทธองค์ทรงแสดงอานิสงส์ธรรม ๑๐ ประการดังกล่าว เพื่อเป็นที่พึ่งว่า.. “บุคคลผู้ถึงอานิสงส์นั้นจะได้รับเมตตากรุณาหรือความพอใจในการว่ากล่าวสั่งสอนจากภิกษุทั้งหลาย ไม่ว่าพระเถระ พระมัชฌิมะ หรือพระนวกะ ซึ่งภิกษุนั้นย่อมหวังความเจริญในกุศลธรรมได้แน่นอน”

..ซึ่งหากพิจารณาหลักการอยู่อย่างมีที่พึ่ง.. ไม่อยู่อย่างอนาถา.. คือ การมีธรรม (๑๐ ประการ) เป็นที่พึ่ง สอดคล้องกับพระพุทธพจน์ที่ว่า.. “พึ่งตน .. พึ่งธรรม” อย่ามีอย่างอื่นเป็นที่พึ่ง...

ด้วยพระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสริฐ ดีกว่าที่พึ่งอื่นใด เพราะเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงทรงสั่งสอนให้พึ่งพระธรรม..

การพึ่งพระธรรม คือ การปลูกฝังคุณธรรมให้มีขึ้นในตน แล้วอาศัยคุณธรรมนั้นก้าวขึ้นไปสู่คุณธรรมชั้นสูงตามลำดับ จนบรรลุคุณธรรมขั้นสูงสุดคือพระนิพพาน ..!!

ดังในสถานการณ์ที่ผันผวนแปรปรวนไปตามกระแสโลกที่ร้อนแรงยิ่ง รุนแรงเข้มข้นมากขึ้นด้วยมหันตภัยที่มีอยู่แล้วในวัฏฏะของโลก.. สิ่งสำคัญคือ การแสวงหาที่พึ่งที่ถูกต้องเป็นธรรม .. มากกว่าที่จะไปคิดนึกเรียกหาแต่วัตถุสิ่งของ หยูกยา อำนาจทางวัตถุนิยมของโลก จนลืมเหลียวแล.. ขาดความใส่ใจ.. ไม่มีความใคร่ครวญ ด้วยการเจริญสติปัญญา..

ความโกลาหลจึงเกิดขึ้นซ้ำซ้อนในความวุ่นวายของวิถีโลก.. ที่สลับซับซ้อนไปด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ นานา.. จนยากจะเข้าใจว่าอะไรคือต้นเหตุ ปลายเหตุ ของเรื่องราวเหล่านั้น..

ที่สำคัญยิ่ง.. คือ อกุศลจิต.. และโมหะจิต.. ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน.. ที่ขับเคลื่อนอยู่ในกระแสจิต ให้สัตว์ทั้งหลายล้นไปด้วยโลภะ โทสะ โมหะ จนมีแต่ มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ และมิจฉาปฏิบัติ

โลกจึงบรรลัย.. สัตว์โลกจึงฉิบหาย.. ด้วยไฟกิเลสดังกล่าว.. ที่สัตว์โลกยากนักจักเข้าสู่กระแสธรรม เจริญสติปัญญา.. ประกอบตนอยู่ในความเพียรชอบ เพื่อการเข้าถึง.. ดำรงอยู่และเป็นไปของการดำเนินชีวิตอย่างมีอัปปมาทธรรม!!

จึงไม่แปลกที่จะเห็นวิกฤตการณ์ของธรรมชาติ จึงให้มีป่าเขาลำเนาไพร.. ที่อยู่ในพื้นที่สงวน.. เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นป่าต้นน้ำ ก็ถูกทำลายย่อยยับ.. มีการพยายามบุกรุกเข้าไปแผ้วถางครอบครองปักหลักแสดงเขตการถือสิทธิ์กันอย่างเปิดเผย.. โจ่งแจ้ง.. อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง.. ดังที่เกิดขึ้นแถบเทือกเขานาคเกิดบนเกาะภูเก็ต ที่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยซ่องสุมของกลุ่มคนบางพวกและหมู่ชาติพันธุ์บางหมู่จากประเทศเพื่อนบ้าน.. จนบางครั้งเมื่อเดินทางไปภาวนาบนพระธาตุภูหว้า.. ให้นึกว่าตนเองกำลังจาริกปฏิบัติธรรมอยู่ในต่างแดน...

..เรื่องการบุกรุกทำลายป่า.. ถึงขั้นลงมือเผาป่า เพื่อเข้าไปครอบครองทำกิน.. เป็นเรื่องจริงที่ปรากฏ ซึ่งน่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง.. ในวิกฤตการณ์การทำลายธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แม้ในเขตป่าอนุรักษ์เช่นนั้น ซึ่งจะพบป่าอุดมสมบูรณ์เฉพาะในเขตที่พักสงฆ์.. ที่ยังไม่ถูกแผ้วถางทำลาย.. เพื่อการบุกรุกครอบครองถือสิทธิ์ทำกิน.. ดังมีการปักเขตแบ่งที่ดินป่ากันอย่างเอิกเกริก.. จนถึงขั้นเผาทำลายก็มีปรากฏ.. จนสภาพป่าต้นน้ำสูญเสียความเป็นธรรมชาติอย่างรุนแรง.. ให้เกิดผลกระทบต่อดินฟ้าอากาศ.. แม่น้ำลำธาร...

อาการอาพาธของป่าไม้ต้นน้ำ.. บนภูเขานาคเกิด.. จึงออกอาการโคม่า น่าเป็นห่วงยิ่ง เมื่อทรัพยากรของชาติที่ถูกทำลาย.. โดยขาดความใส่ใจอย่างจริงจัง.. การแก้ปัญหาอย่างจริงใจจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก็คงได้แต่อธิษฐาน.. ขออำนาจคุณธรรมความดีที่ถือปฏิบัติมา ได้อภิบาลรักษา ปกป้อง คุ้มครอง และเสริมสร้างผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์... ให้ปลอดจากมหันตภัยด้วยน้ำมือของสัตว์มนุษย์ที่น่ากลัวกว่าสัตว์ทุกประเภท เมื่อจิตใจเต็มไปด้วย โลภะ โทสะ โมหะ.... ด้วยเทอญ!!.

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..

รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ

เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก

คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!

เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย

ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?

การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก