บทบาท“รัฐมนตรีมหาดไทย”..ที่ควรชื่นชม ในวิกฤตการณ์ภัยธรรมชาติ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา วิกฤตธรรมชาติจากน้ำป่าไหลบ่าท่วมทับชุมชนเมือง ที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ เป็นดัชนีความจริงที่บ่งชี้ถึงสภาพธรรมชาติที่อ่อนแอ ไร้ความสมดุล จนทำให้เกิดปรากฏการณ์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน บ่งบอกถึงความจริงในอาการโคม่าของสภาพธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา ต้นน้ำลำธาร.. ลำคลองหนองบึง ที่เชื่อมโยงเป็นตาข่ายใยแมงมุม ว่าได้ผันแปรเสื่อมไปตามสภาพที่ทรุดโทรม อันเนื่องมาจากการทำลายที่ ไร้ความรัก..ความเข้าใจ ในธรรมชาติ.. ของคนเรา

การขาดความรัก..ความเข้าใจ ในวิถีธรรมชาติของสภาพป่าไม้ ภูเขา ต้นน้ำลำธาร สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ที่รวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย จึงก่อให้เกิดปัญหาส่งสืบมายาวนาน จนปรากฏผลดังที่เป็น..

เพื่อบ่งชี้ว่า ต่อไปนี้หากมนุษยชาติยังปรามาสในธรรมชาติ ขาดความรัก ความเข้าใจ ก็ยากจะแก้ไขปัญหาได้ตรงเหตุ.. ก็ต้องพร้อมยอมรับกับการเผชิญชะตากรรมของมวลมนุษย์ทั้งหลาย ที่มีกรรมเป็นของของตน.. มีกรรมเป็นผู้ให้ผล..

เรื่อง กฎแห่งกรรม.. ที่ควบคุมกระแสชีวิตของสรรพสัตว์ จึงเป็นความจริงที่ควรศึกษา เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงตามธรรม จะได้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทในธรรม.. ที่มีกฎเกณฑ์กรรมเป็นเครื่องมือแสดงบทบาทหน้าที่อย่างยุติธรรม มีระบบระเบียบแบบแผนที่มั่นคง ไม่ผันแปร และไม่เคยหยุดทำหน้าที่ในทุกขณะจิตที่ดำเนินไปตามกระแส

ในสังคมพุทธศาสนา จึงถูกสั่งสอนแนะนำให้เข้าใจในกฎเกณฑ์กรรมเป็นพื้นฐานชีวิต.. เพื่อการดำเนินชีวิตที่ต้องอ้างอิงสัจธรรม.. ที่ถูกสร้างให้ต้องมี คุณธรรม จริยธรรม..

เรื่อง คุณธรรม จริยธรรม จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาชีวิตของมนุษยชาติ ที่จักต้องคำนึงถึงในฐานะเป็นสัตว์ประเสริฐ เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม สิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ อย่างมีความรัก ความเข้าใจต่อกันและกัน โดยคำนึงถึง ประโยชน์และความเหมาะควร ทั้งของตนเองและผู้อื่น ที่ต้องเป็นไปอย่างไม่ขัดแย้งกับประโยชน์ของธรรมชาติ.. ที่เรียก ประโยชน์โดยธรรม..

ธรรมชาติจึงเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่จะต้องเข้าถึงความเป็นจริง.. ความมีอยู่จริงในธรรมชาตินั้น ที่เรียกว่า ธรรมธาตุ..

ในเมื่อมนุษยชาติ.. ปฏิเสธความเข้าใจใน ธรรมธาตุ ที่ปรากฏอยู่ ตั้งอยู่.. ดำรงอยู่ อย่างมีกำหนดตายตัว ว่า.. ต้องเป็นเช่นนี้ เป็นอย่างนี้ ไม่ผันแปรเป็นอย่างอื่น ของความมีอยู่จริง..ความเป็นจริงของธรรมธาตุนั้น.. โลกนี้จึงพบความหายนะอย่างวิปริต ก่อเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งนี้ เพราะมนุษยชาติมีความวิปลาสในธรรม.. ก่อเกิดความเข้าใจตามทิฏฐิของตน ที่ไม่เป็นไปโดยธรรม

ปัญหาที่ไม่ควรเป็นปัญหา.. จึงกลายเป็นปัญหา..

เรื่องที่ไม่ควรเป็นเรื่อง.. จึงกลายเป็นเรื่อง..

อารมณ์ขันในการดำเนินชีวิต ก็เจือจางไป..

การให้อภัย.. ก็ไม่ปรากฏ..

การปล่อยวาง.. จึงยากที่จะเกิดขึ้นได้ จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นความวุ่นวายของหมู่ชนที่พาลจะหาเรื่องทะเลาะกันได้ทุกวันเวลา.. ไม่เว้นแม้วันโกน.. วันพระ..

ได้ติดตามข่าวสาร น้ำป่าไหลหลากท่วมทับถม เมืองแม่สาย จังหวัดเชียงราย มาอย่างต่อเนื่อง.. ก็ได้แต่ตั้งจิตอธิษฐาน ขออำนาจธรรม ปกป้อง คุ้มครอง ประชาชนทุกคน.. ตลอดจนสัตว์เล็ก สัตว์น้อย ที่ล้วนต่างรักชีวิตตน

จริงๆ แล้ว ก่อนน้ำท่วมใหญ่ เชียงราย พะเยา ลำปาง.. ได้มีโอกาสไปเยี่ยม อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่ฟ้าหลวง ในนาม โครงการร้อยใจธรรม...ร้อยอำเภอ สืบสานราชธรรม ถวายเป็นพระราชกุศล ที่กำหนดทั้ง ๓ อำเภอ เป็นเป้าหมายใน ๑๐๐ อำเภอทั่วประเทศ

จึงมีโอกาสได้สัมผัสข้าราชการฝ่ายปกครองในพื้นที่นั้นๆ.. ในห้วงเวลาที่ฝนฟ้ากำลังเริ่มแสดงแสนยานุภาพ จำได้ว่า หลังจากเสร็จสิ้นการแสดงธรรม นำอบรมจิต แก่นายอำเภอ ข้าราชการฝ่ายปกครอง.. และศรัทธาสาธุชนที่มาร่วมงานดังกล่าวแล้ว ยังได้มีโอกาสขึ้นไปนั่งชมธรรมชาติท่ามกลางสายฝนตกพรำๆ ไปทั่วป่าภูเขาบนพระตำหนักดอยตุง..

บรรยากาศบนดอยตุงในห้วงเวลาที่ฝนฉ่ำฟ้า น้ำฉ่ำดิน.. นับว่าดีมากต่อผู้แสวงหาความวิเวกจากธรรมชาติ.. และนับเป็นเรื่องปกติของฝนตกในฤดูฝน..

เรื่องฝนตกใหญ่.. ในบ้านเมืองของเรา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด เพราะเป็นสภาพธรรมชาติที่ทุกคนคุ้นชินกันมาตั้งแต่เกิด.. จะมีน้ำหลาก.. น้ำท่วมบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา

แต่ที่เป็นปัญหาอย่างไม่ควรเป็น.. เพราะดินจากภูเขาไหลหลากปะปนไปตามกระแสน้ำ.. อย่างไร้จุดหมาย ในเมื่อหน้าดินไม่มีพืชปกคลุม.. เนื้อดินขาดรากต้นไม้ขนาดใหญ่จับยึดถักทอ.. โครงสร้างของดินที่ก่อตัวเป็นภูเขาจึงพังทลาย ก่อเกิดน้ำดินโคลนไหลหลากท่วมทับบ้านเรือน เรือกสวน ไร่นา ให้เสียหายทั่วทุกพื้นที่..

ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ เชียงราย หรือ ภาคใต้ที่ภูเก็ต และจังหวัดอื่นๆ ทั่วทุกภาค ล้วนได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ อันเกิดจากน้ำมือของคนเราเป็นส่วนใหญ่

จึงเป็นธรรมดาของคนเรา เมื่อปัญหาเกิดขึ้น.. ก็ต้องแก้ไข จะมาบ่นก่นว่าด่าทอ โทษมึง..โทษกู ก็ไม่เกิดประโยชน์ ภาระงานการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข จึงต้องเป็นภาระหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ที่มี นายอนุทิน ชาญวีระกูล เป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง

หากติดตามดูบทบาทรัฐมนตรีมหาดไทยในครั้งนี้ เชื่อได้ว่า คนไทยที่มีหัวใจเป็นธรรม ทุกคนต้องยอมรับว่า รัฐมนตรีมหาดไทยท่านนี้ มีความตั้งใจ.. มีความใส่ใจ.. ในการที่จะแก้ไขปัญหาอันเกิดจากภัยธรรมชาติน้ำท่วมในครั้งนี้อย่างจริงใจ.. ไร้มายาการเมืองปะปน..

โดยเห็นได้จากการเดินทางลงพื้นที่ปัญหาประสบภัยทุกแห่งอย่างทันต่อเหตุการณ์ พร้อมข้าราชการของกระทรวงที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานงานกับส่วนราชการในพื้นที่ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาช่วยเหลือประชาชน

จึงไม่แปลกที่จะเกิดปัญหาในกระบวนการบริหารจัดการเพื่อเร่งแก้ไขปัญหา.. เมื่อไม่ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูงในพื้นที่นั้นๆ ตามที่เป็นข่าว..

การทำงานที่จริงจัง จึงต้องเกิดความเคร่งเครียดขึ้น เพราะแทนที่จะได้แก้ปัญหาวิกฤตการณ์ธรรมชาติ.. กลับต้องมาแก้วิกฤตการณ์จริยธรรมของข้าราชการ.. ที่ไม่คำนึงถึงบทบาทหน้าที่.. ที่อาสาเข้ามาทำงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนด้วยความรัก.. ความจริงใจ

ปัญหาดังกล่าว.. จึงคงเป็นอีกเรื่องที่ควรยกเครื่องข้าราชการมหาดไทย นอกเหนือจากการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ โดยการเร่งปรับปรุงระบบคุณธรรม จิตสำนึกในฐานะนักปกครองที่ต้องมีจิตวิญญาณนักปกครอง ที่อาสาเข้ามาทำงาน บำบัดทุกข์ บำรุงสุขราษฎร

สำคัญอย่างยิ่ง คือ การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ด้วยการ สืบสานราชธรรม.. คือ ธรรมของผู้ปกครอง.. ให้ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมสืบตลอดไป ในข้าราชการฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย.. ซึ่งกรมการปกครอง โดย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ ๑ ตุลาคมนี้ ได้ดำเนินการอยู่ ซึ่งควรจะเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม นักปกครองให้เข้มแข็ง มั่นคง.. เพื่อสร้างสามัญสำนึกในวิญญาณนักปกครองว่า..

“ความเป็นนักปกครองที่มีอุดมการณ์นั้น จะต้องเป็นไปตลอดชีวิต.. ที่มุ่งมั่นอุทิศชีวิต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน.. และประเทศชาติ..

..และพึงคำนึงเสมอว่า.. จิตวิญญาณนักปกครอง จะไม่เกษียณไปพร้อมกับความเป็นข้าราชการ.. ตราบที่ยังมีลมหายใจ.. คำว่า “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” จะยังคงสืบสานจิตวิญญาณตลอดไป..!!”.

เจริญพร

dhamma_araya@hotmail.com