โอลิมปิคส์กับนโยบายเศรษฐศาสตร์การเมืองของมาครง

ผมนั่งเชียร์กีฬาโอลิมปิคส์อยู่ที่บ้านแล้วอดที่จะคิดถึงมิติการเมืองระหว่างประเทศ และปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญหน้าประธานาธิบดีมาครงไม่ได้

เพราะเมื่อเทียบกันแล้วสถานการณ์ฝรั่งเศสช่างคล้ายคลึงกับประเทศไทยที่เพิ่งเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ไปเมื่อ วันที่ 18 สิงหาคม นี้เหลือเกิน

ถึงแม้ฝรั่งเศสจะจัดโอลิมปิคส์ประสพความสำเร็จอย่างล้นหลามก็ตาม แต่ภายใต้เนื้อในของความสำเร็จเหล่านั้นยังมีความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายสังคมนิยมสุดขั้วและฝ่ายขวาอนุรักษ์นิยมสุดโต่งกับพรรค Renaissance ฝ่ายก้าวหน้าและเป็นกลางของมาครงผู้นำเสรีนิยม

มาครงเดินเกมส์เลือกตั้งเร็วหวังจะให้กีฬาโอลิมปิคส์ได้ช่วยพยุงฐานะทางการเมืองของเขาเพิ่มขึ้นแต่กลับปรากฎว่าโอลิมปิคส์ไม่ได้ช่วยเขาช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมืองแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ก่อนและหลังโอลิมปิคส์เศรษฐกิจจริงของคนชั้นล่างและเกษตรกรยังคงนิ่งสนิท

ดังนั้นไพ่ที่เหลือในมือมาครงอีกสองปีข้างหน้าคือการเลือกนายกรัฐมนตรีมือฉมังที่ต้องเข้ามาจัดการการเมืองจริง สางปัญหาความแตกแยกทางการเมืองจริงและแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจจริงรวมทั้งการผ่านงบประมาณปี 2025 ให้ที่เป็นที่พอใจของทุกฝ่าย

ไม่ใช่เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมาชมกีฬาที่ปารีส เพียงชั่ววูบชั่ววาบเท่านั้น เหมือนก่อน

เพราะฝรั่งเศสมีสถาพการเมืองอกแตกเหมือนกับอีกหลายๆประเทศ (รวมทั้งประเทศไทย) โดยมีพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายซ้ายสุดโต่ง และฝ่ายขวาอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรง รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสมโซ่ข้อกลางที่จัดตั้งโดยพรรคที่เป็นกลางๆชื่อพรรค Renaissance ของมาครงที่ครองอำนาจมาเป็นเวลานาน

เป็นรัฐบาลที่โปรโลกาภิวัฒน์ โปรยุโรป ดำเนินวิเทโศบายเป็นมิตรกับทุกฝ่าย แสวงหาสันติภาพ เชื่อมั่นในเสรีภาพ มีนโยบายเศรษฐกิจสังคมแบบก้าวหน้า ใช้นโยบายที่ดีของทั้งขวาและซ้ายมาสร้างธรรมาภิบาล ดำเนินนโยบายการค้าเสรี รวมทั้ง นโยบายเปิดกว้างที่ก้าวหน้าอื่นๆของ Neo-Liberalism

แต่ประเทศฝรั่งเศสและอีกหลายๆประเทศมีปัญหาความเหลื่อมล้ำและการว่างงานสูงในชนบทและประเทศถูกห่อหุ้มไปด้วยฝ่ายอนุรักษ์ชาตินิยมขวาจัดสุดโต่งหัวรุนแรงในต่างจังหวัดและภูมิภาคท้องถิ่นต่างๆ อันเป็นภาคเศรษฐกิจจริงและภาคการเมืองจริงที่มีความเป็นชาตินิยมสูง

ส่วนปารีสนั้นเล่าจัดการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตยสังคมนิยมฝ่ายซ้ายสุดขั้วมาตั้งแต่สมัยฟรองซัวส์มิตเตรองที่ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเมื่อ 44 ปีที่แล้วอันมีนโยบายซ้ายจัดปฏิรูปให้รัฐแทรกแซงทุกๆกระบวนการการปกครองประเทศไม่แพ้กับระบอบพรรคคอมมิวนิสต์

จึงมีความไม่สมดุลย์ทางด้านนโยบายและความคิดที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว

ภายใต้ปริบทนี้ พฤติกรรมของผู้นำควรเป็นเช่นไร?

            1.         ไม่ควรดิสเครดิตศัตรูหรือคู่แข่ง: ถึงแม้ชัยชนะของการจัดโอลิมปิคส์ของมาครงอาจจะถือเป็นการตบหน้าศัตรูคือนางเลอเป็น ผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยมชาตินิยมฝ่ายขวาสุดโต่งซึ่งต่อต้านการใช้จ่ายงบประมาณอย่างฟุ่มเฟือยในโอลิมปิคส์แต่มาครงกลับสูญเสียที่นั่งทำให้หลายฝ่ายอดคิดไม่ได้ว่ามาครงตัดสินใจเร็วไปหน่อยที่จัดให้มีเลือกตั้งก่อนโอลิมปิคส์เพียงไม่กี่วันเพื่อหวังดิสเครดิต ผู้นำฝ่ายขวาและหันเหความสนใจจากการเมืองเป็นการกีฬา ซึ่งเป็นลูกไม้ตื้นๆของจักรพรรดิโรมัน

            2.         มีนโยบายและปรัชญาเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของพรรคที่เป็นกลางและชัดเจน: ผู้ที่ติดตามการเมืองฝรั่งเศส คงทราบว่า พรรค Renaissance ของมาครงเป็นพรรคที่มีนโยบายเศรษฐกิจตลาดเสรีแบบมหาวิทยาลัยชิคาโก ที่ต้องการให้รัฐแทรกแซงตลาดน้อยที่สุด ตัวเขาเองเป็นอาจารย์และสมาชิกพรรคสังคมนิยมแต่เปลี่ยนมาสนับสนุนการแข่งขันการค้าเสรี ต่อต้านการออกมาตรการปกป้องและอุดหนุนสินค้าโดยรัฐ และต่อต้านการค้าโดยรัฐหรือรัฐวิสาหกืจ รวมทั้งต่อต้านการผูกขาดโดยรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ อีกทั้งมาครงยังสนับสนุนนโยบายการคลังที่รักษาดุลย์งบประมาณการใช้จ่ายของรัฐไม่ให้ขาดดุลย์ ด้วยการตัดลดประมาณการค่าใช้จ่ายของรัฐที่ไม่จำเป็นและลดภาษีรวมทั้งไม่ก่อหนี้ภาครัฐ

            3.         มาครงไม่ใช่รัฐบาลที่ไล่แจกเงินซื้อเสียงติดสินบนประชาชน หรือสร้างหนี้ให้ประชาชน หรือมีนโยบายประชานิยม หรือสร้างยุทธวิธีการซื้อเสียงที่ซับซ้อน รัฐบาลของเขาเหมือนกับกีฬาโอลิมปิคส์อยู่ภายใต้กรอบกติกาสากล ไม่ชกใต้เข็มขัด ไม่เอาหัวโขกคู่ต่อสู้ ไม่ติดสินบนกรรมการ มีธรรมาภิบาลทางเศรษฐกิจ สร้างการแข่งขันอย่างเป็นธรรม แสวงหาความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างมีธรรมาภิบาล ปราบคอร์รัปชั่นจริงจัง ไม่คอร์รัปชั่นเอง ไม่เป็นเศรษฐีเงินหลวง ไม่ส่งส่วยไม่รับส่วย ไม่เป็นเศรษฐีเงินหลวง ไม่ครอบงำข้าราการหรือมีอิทธิพลเหนือกระทรวงทบวงกรม ไม่ผูกขาดยึดติดในอำนาจหรือผูกขาดอำนาจ หรือยอมให้มีการผูกขาดฮั้วอำนาจ ไม่สนับสนุนให้ประชาชนติดยา ธำรงและรักษาไว้ซึ่งกรอบแห่งกฎหมาย ( Rule of Law) กับความยุติธรรมและไม่ยอมให้มีผู้มีอำนาจบารมีเหนือกรอบแห่งกฎหมาย มาเถลิงซึ่งอำนาจหรือการสืบทอดอำนาจ

            4.         พรรคมาครงยังมีอีกสองเสาหลัก คือการสร้างคุณค่าทางการเมืองและเศรษฐกิจ ทางวัฒนธรรมแบบก้าวหน้าและเสรี( Cultural Liberalism ) ซึ่งโอลิมปิคส์ และ Soft Power ของไทยเป็นตัวอย่างที่ดี และ Social Liberalism หรือ Social Democrat ด้วยการสร้างธรรมาภิบาล ความยุติธรรม และความทัดเทียมกัน

            5.         มาครงเตือนว่า นโยบายสุดโต่งของฝ่ายขวาและซ้ายอาจนำไปสู่สงครามกลางเมืองและ ประธานาธิบดีคนที่ 25 ของฝรั่งเศส บอกว่าเมื่อ 8 ปีที่แล้ว พรรค En March! ของเขาต้องเป็น กลาง คือไม่ขวาไม่ซ้าย แต่บัดนี้มาครง กล่าวว่าพรรค Renaissance ของเขา ต้องเป็นพรรคเป็นกลาง คือเป็นทั้งซ้ายและทั้งขวา เพื่อการรวมจิตวิญญาณของประเทศและประชาชนและเพื่อจัดทำงบประมาณที่เป็นกลาง นายกรัฐมนตรีใหม่ของไทย น่าจะมีโอกาสเรียนรู้จากผู้นำที่ทันสมัยเช่นมาครง หานโยบายที่สมดุลย์มานำพาประเทศ ในอีกสามปีข้างหน้าต่อไป

เวทีพิจารณ์นโยบายสาธารณะ

กฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์

อดีตรองประธานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า

กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระทึกสุดขีด! 22 พ.ย. ศาลรธน.ลงมติ 'รับ-ไม่รับ' คำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง

คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ”รับ-ไม่รับคำร้อง”คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ

'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!

นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน

ไทยในสายตาต่างชาติ (ตอนที่ 48: พระราชกฤษฎีกา 1 เมษายน 2476 คือ การทำรัฐประหารเงียบหรือ ?)

ในตอนที่แล้ว ผู้เขียนได้สรุปเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่เป็นเงื่อนไขที่นำมาสู่การประกาศพระราชกฤษฎีกาวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476

รู้ไว้ซะ 'ปิยบุตร' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เพราะก้าวไกลชนะเลือกตั้ง!

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกมาถกเถียงกันอีกครั้ง

ปากไว! นายกฯ อบรม 'พ่อนายกฯ' รอที่ประชุมเคาะก่อนไปพูดบนเวทีแจกเงินหมื่น

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศัยหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น มอง

พิราบขาว ตามจิกทักษิณ ยกปราศรัยหาเสียงที่อุดร หลักฐานมัดครอบงำเพื่อไทย

ที่สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อกกต.กรณีคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง