'ราชธรรม..อำนาจธรรมคุ้มครองแผ่นดินไทย' เทศนาธรรม ณ หอประชุมศรีบูรพา (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)..

เจริญพร สาธุชนผู้มีศรัทธาปสาทะในพระพุทธศาสนา เมื่อ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ได้รับนิมนต์จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน จัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา (๒๘ ก.ค.๒๕๖๗) ถวายพระพรชัยแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี องค์พระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย...

การจัดงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวาระทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันนั้น นับเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ควรจะนำมาบอกเล่าให้ทุกคนได้รับทราบ เพื่อร่วมอนุโมทนายินดีกับคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การนำของ ศ.ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีฯ และพลเรือเอกคณีพล สงเจริญ ผอ.ศอญ.จอส.พระราชทาน ที่ได้นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมวลชนจิตอาสา ตลอดจนถึงคณะศรัทธาสาธุชน ในฐานะพสกนิกรชาวไทย เข้าร่วมงานดังกล่าว เพื่อร่วมกันประกอบคุณความดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เริ่มตั้งแต่ ทำทาน ใส่บาตรพระสงฆ์ ๒๘ รูป การฟังธรรมอบรมจิตภาวนาในหอประชุมศรีบูรพา และการนำจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์ในพื้นที่..

แม้การจัดงานเป็นไปด้วยดี แต่ก็น่าเสียดายที่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ผู้เข้าร่วมงานมากไปหน่อย จึงเป็นเหตุให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมงานได้ไม่มาก โดยเฉพาะข่าวสารงานสำคัญดังกล่าวไม่ได้แพร่กว้างขวางออกไปในหมู่ประชาชนทุกหมู่เหล่า จึงได้ยินเสียงบ่นเสียดายจากหลายๆ ฝ่าย

ฝ่ายพระสงฆ์จึงได้เพิ่มศาสนกิจ นำคณะศรัทธาสาธุชนเข้าร่วมสวดมนต์ถวายพระพร ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง และรับถวายภัตตาหารที่สวนสราญรมย์ โดยได้แสดงธรรมเพื่อฉลองศรัทธาพุทธศาสนิกชนอีกหนึ่งรอบ จนอิ่มเอิบใจกันถ้วนหน้า.. เพื่อร่วมถวายพระพรชัยที่สืบเนื่องมาจากการแสดงธรรมในเรื่อง..

“ราชธรรม..อำนาจธรรมคุ้มครองแผ่นดินไทย”

ที่ได้เห็นภาพความนิ่งสงบ ทั้งที่สวนสราญรมย์และโดยเฉพาะในห้องประชุมศรีบูรพา ที่ทุกคนตั้งใจสดับพระธรรมเทศนาในลักษณะบรรยายธรรม หรือ ปาฐกถาธรรม ที่เหมาะควรกับสถานที่และหมู่ชน โดยใช้เวลาร่วมหนึ่งชั่วโมง ต่อการประสานจิตใจของทุกคนให้เป็นหนึ่งโดยธรรม เพื่อน้อมนำถวายเป็นพระราชกุศลตามจุดมุ่งหมายความประสงค์ของการจัดงานแสดงธรรมเชิงปฏิบัติธรรมในครั้งนี้

จึงขอนำสารธรรมโดยย่อมาเผยแพร่ เพื่อสาธุชนทั้งหลายจะได้ร่วมบูชา .. อนุโมทนาร่วมกัน เนื่องจากการแสดงธรรมในเรื่อง “ราชธรรม..อำนาจธรรมคุ้มครองแผ่นดินไทย” ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ดังนี้

 “สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ผู้ดำรง เอกราไชศวรรยาธิปัตย์ เป็นพระเจ้าปฐพีมณฑลแห่งราชอาณาจักรไทย ได้ทรงบำเพ็ญเสริมสร้างพระบารมีตามแบบอย่างขัตติยราชประเพณี “พุทธกษัตริย์” ที่ทรงถือแบบปฏิบัติตามหลักทศพิธราชธรรม เพื่อเชิดชูอำนาจแห่งธรรมเหนือแผ่นดิน

ดังนับตั้งแต่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จ เถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็น มูรธาภิสิตกษัตริย์ พร้อมด้วยพระราชอิสริยยศ ทรงบริบูรณ์ด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นมา

พระมหาบพิตรราชสมภารเจ้า ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียะ ประกาศพระบรมราชานุภาพ.. อันเกิดแต่พระราชธรรม.. เพื่อเป็นพลังธรรม ปกปักคุ้มครองรักษาแผ่นดินไทย ให้หมู่ชนนิกรได้รับศุภวิบูลย์ผล อันเกิดแต่ พระราชธรรม สมดังพระปฐมบรมราชโองการที่พระราชทานอารักขาแก่ปวงชนชาวไทย ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

ประการสำคัญอย่างยิ่ง .. ที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าควรสดับ ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระปฐมบรมราชโองการพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยนั้น พระองค์ท่านได้ทรงหลั่งทักษิโณทก ประกาศพระราชสัตยาธิษฐาน ว่า “พระองค์จักทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ปกครองราชอาณาจักรไทย โดย “ทศพิธราชธรรมจริยา”

ดังนั้น ในกาลมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ใน ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานเดิมอันศักดิ์สิทธิ์ จึงเห็นควรอัญเชิญพระธรรมทั้ง ๑๐ .. “ทศพิธราชธรรม” ขึ้นบูชา.. เพื่อถวายพระพรชัย...

..ด้วยอำนาจแห่งธรรมทั้ง ๑๐ ที่เรียกว่า ทศพิธราชธรรม จึงยังให้พระราชาผู้ทรงธรรม.. มีความปีติโสมนัสอันยิ่งใน กุศลธรรม ที่ได้ประยุกต์อำนาจธรรมเข้าสู่กระแสจิต.. กระแสชีวิต เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นพระราชจรรยานุวัตร ที่ถึงพร้อมด้วยพระอัจฉริยธรรมและความสามารถในทุกด้านแห่งการบริหารประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา.. การศาสนา การปกครอง.. การเศรษฐกิจและสังคม

“มีครั้งหนึ่ง เมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ได้เสด็จฯ ไปทรงปฏิบัติธรรมที่วัดป่าพุทธพจน์ฯ

ได้ทรงเล่าให้ฟังเป็นส่วนพระองค์ว่า..

“..พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชศรัทธาในการปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง โดยทรงจัดหาหนังสือปฏิบัติสมาธิมาทรงศึกษาโดยพระองค์เอง.. ต่อมาจึงได้รับข่าวว่า พระองค์ท่านทรงอาราธนานิมนต์พระเถราจารย์เข้าไปถวายความรู้-ประสบการณ์จากการศึกษาปฏิบัติธรรมแด่พระองค์ท่าน” ซึ่งนับเป็นประโยชน์ยิ่งต่อการสืบสานอายุพระพุทธศาสนา เมื่อผู้นำของมหาชน.. พระราชา พระมหากษัตริย์ ทรงใส่พระทัยในการปฏิบัติธรรม...

ที่สำคัญยิ่ง คือ ทรงให้ความสำคัญในความสามัคคีธรรมของคนในชาติเป็นอย่างยิ่ง เพื่อความเป็นชาติไทยที่เข้มแข็ง มั่นคง.. อย่างเข้าใจ-เข้าถึง ในความรู้สึกของประชาชนทุกลำดับ ไม่ว่า เด็ก เยาวชน หรือผู้ใหญ่..

ดังที่ได้มีพระราชดำรัสให้เยาวชนหนุ่มสาวได้รู้จักการพัฒนาตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ให้มีความสุข น่าอยู่ ปลอดภัย ดังในอดีต

โดยทรงชี้แนะ.. “ให้ศึกษาประวัติศาสตร์ ซึ่งมีทั้งส่วนดีและไม่ดี.. นำมาเป็นบทศึกษาพิจารณา.. แล้วนำส่วนดีมาใช้”.. ฯลฯ

ที่สำคัญยิ่ง พระองค์ท่านได้ตรัสถึงความสำคัญของ สถาบันและประชาชน.. ว่า “สถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชน แยกกันไม่ได้..” โดยทรงแนะนำให้เยาวชนไปศึกษา.. ไปค้นหาเหตุผลที่พระมหากษัตริย์ของปวงชนชาวไทย ดังเช่น รัชกาลที่ ๙ ว่า.. พระองค์ท่านได้ทรงทำอะไรไว้บ้าง.. และผลที่พระองค์ท่านทรงกระทำนั้น ให้คุณประโยชน์.. ความมั่นคง ถึงในปัจจุบันอย่างไร !?.. จะเห็นได้ว่าพระองค์ท่านมิได้ทรงชี้นำ แต่ทรงพระกรุณาชี้แนะให้ทุกคนได้เปิดใจ.. เพื่อใส่ใจพิจารณาในพระราชกรณียกิจที่พระมหากษัตริย์ของชาวไทยทรงปฏิบัติมาอย่างเป็นเหตุเป็นผล .. ด้วยตนเอง ก่อนที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ.. โดยมีนัยสำคัญ คือ การสอนให้รู้เหตุ-รู้ผล.. ตามหลักสัปปุริสธรรม.. ในพระพุทธศาสนา อันเป็นวิสัยของพระราชาผู้ทรงธรรม

ด้วยพระราชจรรยานุวัตร ที่พระองค์อยู่ในพระราชธรรม.. จึงควรอย่างยิ่งที่ชาวไทยควรภาคภูมิใจ ปีติยินดี..” จากที่ยกขึ้นพรรณนาประกอบพระราชธรรมในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของปาฐกถาธรรมในครั้งนี้ ซึ่งต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถนำลงมาเผยแพร่ได้ทั้งหมด หากสนใจ กรุณาเปิดยูทูบช่อง Arayawangso.. ได้เลย!!.

 

เจริญพร

dhamma_araya@hotmail.com

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร่องรอยธรรม .. จากโครงการร้อยใจธรรม .. ร้อยอำเภอฯ ณ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. เมื่อ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ได้ปฏิบัติกิจใน “โครงการร้อยใจธรรม .. ร้อยอำเภอ “สืบสานราชธรรม”” ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบฯ

เทวฤทธิ์ -กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ เสรีนิยมก้าวหน้า ปฏิรูปสภาสูง

สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ชุดปัจจุบัน 200 คน จะประชุมร่วมกันนัดแรกในวันอังคารนี้ 23 ก.ค. โดยมีระเบียบวาระสำคัญที่จะให้สว.ทั้งหมดร่วมกันประชุมลงมติ นั่นก็คือ

“ศาสนกิจในอินเดีย .. ณ นครปูเน่” น้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ๒๘ ก.ค.๖๗ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ นครปูเน่ รัฐมหาราษฏระ อินเดีย เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการสร้างวัดแห่งแรกของชาวพุทธในอินเดีย

อังคณา สว. 2567 ภารกิจ-สิ่งท้าทาย สภาสูง กับโมเดลข้อเสนอ สภาเดี่ยว

การทำงานของสมาชิกวุฒิสภาชุดล่าสุด ที่เรียกกันว่า "สว. 2567" กำลังจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้ คาดหมายกันว่า การนัดประชุมวุฒิสภาเพื่อเลือก

บทธรรมถวายเป็นพระราชกุศล .. ในมหามงคลครบ ๖ รอบ “ราชธรรม .. สู่การเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย” (ตอนที่ ๗)

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. พระพุทธเจ้าได้ตรัส หลักการปกครองตามแบบธัมมิกสูตร ว่า..

ดร.มานะ-ว่าที่ สว. 2567 ความเป็นอิสระไม่มีอยู่จริง เรื่องใบสั่งก็คงมีบ้าง ไม่มีบ้าง

หนึ่งในผู้ผ่านการคัดเลือก 200 รายชื่อให้เตรียมเข้าไปทำหน้าที่ "สมาชิกวุฒิสภา" (สว.) ชุดใหม่ ที่น่าสนใจ ก็คือ "ดร.มานะ มหาสุวีระชัย อดีต สส.ศรีษะเกษ" ที่เคยสังกัดพรรคพลังธรรมและพรรคประชาธิปัตย์ตามลำดับ