เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. เมื่อ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ได้ปฏิบัติกิจใน “โครงการร้อยใจธรรม .. ร้อยอำเภอ “สืบสานราชธรรม”” ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบฯ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยมีนายเลิศชัย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และนายธนยศ หิรัญเนตร นายอำเภอแก่งกระจาน นำข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ ร่วมตักบาตร ฟังธรรม และน้อมถวายสรรเสริญพระบารมี...
การไปแก่งกระจานในครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้กลับไปพักผ่อนในเขตธรรมชาติสมบูรณ์ อากาศดี สภาพบรรยากาศสัปปายะ.. อันควรแก่การ เจริญจิตภาวนา ซึ่งนับว่าไม่ผิดหวังต่อการเข้าพักใน เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แม้สถานที่จะเก่าไปบ้าง ด้วยอายุการใช้งานและการขาดการบำรุงรักษาที่ดี ไม่ว่าจะด้วยเหตุปัจจัยใด
แต่ก็มิได้ทำให้มนตร์เสน่ห์ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปลี่ยนแปลง ลดคุณค่าทางธรรมชาติไป
ด้วยความที่ไปช่วงวันปกติ จึงมีนักท่องเที่ยวน้อยมาก บรรยากาศจึงสงบเงียบ เหมาะควรกับการเจริญสมณธรรม ประพฤติสมณวิสัย ให้เหมาะสมกับสมณสารูป.. ของความเป็นบรรพชิตในพระพุทธศาสนา ที่จะต้องระมัดระวังยิ่งในการโคจรจาริกไปในสถานที่ต่างๆ ซึ่งแม้ว่า สถานที่นั้น ไม่ใช่เป็นที่ อโคจร .. ควรแก่การพักภาวนาตามที่พักที่เขาจัดให้ แต่ก็ต้องดูสิ่งแวดล้อมเป็นองค์ประกอบด้วยว่า เกลื่อนไปด้วยหมู่ชนหรือไม่.. เพราะหากมีคนมากเกินไป ก็ไม่ควรเข้าไปพัก โดยเฉพาะ ในหมู่คนที่ไปเที่ยวพักผ่อนแบบผิดศีลผิดธรรม
จึงกล่าวว่า เหมาะควรกับเวลา สถานที่ และกิจที่ต้องปฏิบัติ ซึ่งสามารถใช้คำว่า ถูกเวลา ถูกสถานที่ และถูกต้องกับชุมชน สังคม..
เรื่องรู้ความเหมาะควรของเวลาและสถานที่ เป็นข้อพิจารณาที่สำคัญมากสำหรับผู้ดำรงสมณวิสัย ซึ่งแม้สิ่งนั้นจะให้ประโยชน์ เกื้อกูลให้เกิดความสะดวกสบายอย่างเหมาะควร.. แต่ก็ต้องรู้จักประมาณในความสะดวกสบายเหล่านั้นด้วย
การรู้จักประมาณ.. ที่บาลีเรียก มัตตัญญุตา แปลว่า ผู้รู้จักประมาณ พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ รู้จักความพอดี พอเหมาะ พอควร อย่างมีเหตุผลและเหมาะสมกับตน เป็นองค์ธรรมสำคัญยิ่งของสัตบุรุษ
การรู้จักประมาณ.. ทำให้ใช้เวลา-ใช้สถานที่ ใช้ตนเอง ให้ก่อเกิดคุณประโยชน์อย่างมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสังคม บุคคลทั้งหลาย โดยเฉพาะการรู้จักประมาณในการบริโภควัตถุปัจจัยอันจำเป็นในการดำรงชีวิต
การรู้จักเวลาและสถานที่.. จึง ทำให้ถูกต้อง ทำให้เป็นคุณ และทำให้เหมาะควร ก็ย่อมเป็นไปได้ จึงได้ใช้เวลา สถานที่ ได้อย่างเกิดประโยชน์เต็มที่อย่างเหมาะควร ดังการไปพักที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และทำกิจเนื่องในโครงการร้อยใจธรรม .. ร้อยอำเภอฯ ได้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งสนับสนุนโดย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง และข้าราชการฝ่ายปกครอง
วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ จึงได้เห็นภาพ นายอำเภอแก่งกระจาน นำข้าราชการและประชาชนร่วมถวายความจงรักภักดี ด้วยการยืนตรงขับร้องบทสรรเสริญพระบารมี เพื่อถวายพระพรชัยแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพร้อมเพรียงกัน
เสร็จสิ้นจากแก่งกระจานจึงเดินทางกลับ เพื่อไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง โดยคาดการณ์ประมาณเวลาเผื่อไว้พอเหมาะ แต่เมื่อไปถึง.. ต้องอุทาน อนิจจัง.. ทุกขัง.. อนัตตา เพราะภายในสนามบินดอนเมือง เกลื่อนกล่นไปด้วยหมู่ชนที่เข้าแถวยาวเหยียดเพื่อรอคิวทำตั๋วเดินทาง.. หันกลับไปถามเณรที่ติดตามว่า “เกิดอะไรขึ้น!” .. เณรแสนรู้บอกว่า.. “พอดีเป็นช่วงวันหยุดต่อเนื่อง คนจึงแห่กันเดินทางกลับบ้านครับ!”
เมื่อฟังเณรแสนรู้จบ ก็ได้ปลงสังเวชว่า ทำไมคนจึงแห่กันมาเข้าคิวเดินทางกลับภูมิลำเนามากมายขนาดนี้ ยิ่งกว่าสถานีขนส่งสายเหนือ-สายใต้ในเทศกาลสงกรานต์.. ก็ได้แต่ทำใจว่า เดี๋ยวคงจะค่อยๆ ทยอยกันไปตามลำดับ
จึงได้ยืนรอพระกับเณรไปทำตั๋วในสนามบิน แต่เมื่อมองไปรอบๆ ได้เห็นความแปลกประหลาดเกิดขึ้น เมื่อหมู่คนที่มายืนรอเข้าแถวทำตั๋ว ไม่ขยับเลย มีแต่จะเพิ่มต่อหางแถวไปเรื่อยๆ จนยาวเหยียด
สักพักจึงทราบว่า เกิดปัญหาจากระบบคอมพิวเตอร์ล้มเหลว ที่แผ่กระทบวงกว้าง ขยายไปตามระบบทั่วโลก.. พร้อมกับมีข่าวประกาศไปทั่วว่า ระบบ IT ล่มทั่วโลก และกระทบสายการบิน ธนาคาร โทรคมนาคม จึงได้เขียนข้อความไว้อ่านเล่นเตือนจิตในขณะนั้นว่า..
ไอที ที่ว่าแน่ ยังแพ้ อนิจจัง
วัตถุนิยม ยังพัง ล่มสลาย
เทคโนโลยี ยังย่อย พังทลาย
หมู่ชน ตั้งสติหมาย.. โลกนี้ ไร้ “จีรัง”
เขียนไปก็ยิ้มไป.. เมื่อได้เห็นการแก้ไขปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว ด้วยการคืนกลับไปสู่ระบบใช้คนทำงานแทนคอมพิวเตอร์อีกครั้ง การเขียนชื่อ การขานชื่อ การเดินประกาศบอกกล่าวด้วยเสียงไปทั่วทุกทิวแถวของหมู่ชน
จึงไม่เป็นเรื่องแปลกประหลาด.. เมื่อต้องใช้เวลายืนรอทำตั๋วอยู่ร่วมชั่วโมง ก่อนจะเดินทางเข้าไปภายในสนามบิน เพื่อขึ้นเครื่องกลับเชียงใหม่ที่ช่อง ๓๑ ซึ่งต้องมานั่งรออยู่ตรงนี้อีกเป็นชั่วโมง รวมเบ็ดเสร็จน่าจะมากถึงสองชั่วโมง ก่อนที่จะทยอยกันเดินขึ้นเครื่อง
และนั่นเป็นครั้งแรกที่ต้องไปนั่งรอบนเครื่องบินนานที่สุด โดยใช้เวลารวมทั้งสิ้นที่นั่งอยู่ในตัวเครื่องบิน ประมาณสองชั่วโมงเศษๆ .. ก่อนเครื่องจะบินเหินฟ้าสู่ จ.เชียงใหม่ รวมเวลาตั้งแต่ถึงสนามบินดอนเมือง ตั้งแต่ยังไม่บ่ายสองโมง.. ไปจนถึงเครื่องลงสนามบินเชียงใหม่ เมื่อเวลา ๑๙.๑๓ น. นับว่าเป็นการใช้เวลาเดินทางที่สิ้นเปลืองมากที่สุดสำหรับการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ทางเครื่องบิน
ในระหว่างนั่งรอบนเครื่องบิน จึงได้เขียนบันทึกไว้ให้คณะศรัทธาได้อ่านเล่น มีเนื้อหาสาระดังนี้ว่า..
“วันนี้ (๑๙ ก.ค.๖๗) .. ได้เดินทางถึงเชียงใหม่-ลำพูน โดยสวัสดิภาพ ภายหลังจากต้องใช้เวลามากกว่า ๔ ชั่วโมงในการรอขึ้นเครื่อง.. ด้วยปัญหาระบบ IT ล่ม..
จึงได้มีโอกาสและเวลา.. ในการนั่งท่องทบทวนบทสวดบรรพชา-อุปสมบทของพระอุปัชฌาย์ ที่จะต้องทำหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ (๒๐ ก.ค.๖๗) ณ อุโบสถ วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ จ.ลำพูน ในฐานะพระอุปัชฌาย์ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (๒๐ ก.ค.๖๗) ในปีนี้ ตรงกับ วันอาสาฬหบูชา นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการใช้เวลาไม่ให้สูญเสียไปอย่างไร้ค่า
เวลาร่วม ๔ ชั่วโมงที่สูญเสียไปกับการเตรียมตัวเดินทาง ไม่สูญเปล่า.. โดยเฉพาะขณะที่นั่งในเครื่องบินร่วม ๒ ชั่วโมง ได้ถูกใช้ให้เกิดประโยชน์ นั่งท่องบ่นจดจำบทสวดบรรพชา.. การนั่งพักและการเจริญภาวนา..
จึงไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับเวลาที่ผ่านไป เพราะถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งหมด จนไม่รู้สึกว่า เวลาที่ผ่านไป ช่างยาวนาน... ให้นึกถึงสมัยเดินทางไปกลับอินเดีย-ไทย หรือเนปาล-ไทย ในช่วงระหว่างไปจำพรรษาและมีกิจต้องกระทำ สัตตาหกรณียะฯ ลากลับมา.. ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่เครื่องบินล่าช้า.. การรอเที่ยวบินที่กระโดดจากเช้าไปช่วงเย็น ปัญหาจากนักเดินทางที่ยื้อแย่งกันไป.. และปัญหาทางการเมืองที่มีการประท้วงปิดถนน โดยเฉพาะในสมัยที่ กบฏเหมาอิสต์ ทำการต่อสู้ทางการเมือง ใช้กำลังอาวุธกับฝ่ายรัฐบาลของเนปาลในยุคนั้น ซึ่งสาหัสกว่ามาก... ฯลฯ”
จึงควรปรับตัว-ปรับจิตให้สามารถ รู้ เข้าใจ ในธรรม ไม่ว่าในสถานการณ์ใด และควรอย่างยิ่งที่...
พึงเปลี่ยนคำบ่น เป็นคำชม ในเหตุเกิด
พึงเปลี่ยนทัศนะเลว เป็นเลิศ แม้ลำเค็ญ
พึงเปลี่ยนโลกทัศน์ เป็นธัมมทัศน์ ตามที่เป็น
พึงเปลี่ยนมุมมองที่เห็น.. ให้เป็นธรรม..
เมื่อเครื่องลงแตะแผ่นดินล้านนาโดยสวัสดิภาพ.. จึงได้เขียนข้อคิด..ตาม อัตโนมติ เพื่อประโยชน์แก่สาธุชนอีกบทหนึ่งว่า..
เร่งรีบ บางครั้ง ก็ไร้ค่า
เฉื่อยชา ส่วนมาก มักไร้ผล
พึงกำหนด ให้รู้แจ้ง ในกมล
รู้จัก ปลด, ปล่อย, ปลง .. จิตสบาย.
เจริญพร
dhamma_araya@hotmail.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุทธัจจะ .. ในวังวนแห่งการตื่นธรรม .. ยุคไอที!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระรัตนตรัย... สัทธายะ ตะระติ โอฆัง.. บุคคลข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา.. โอฆะ หมายถึง ห้วงน้ำ ที่มีกระแสเชี่ยวกราก พัดพาสัตว์ทั้งหลายให้ตกไปในกระแสน้ำนั้น ยากจะข้ามฝั่งไปได้
’ห้าพันตารางกิโลเมตร‘ เท่ากับกี่ตารางนิ้ว ? เงื่อนตายของ MOU 2544 ?
MOU 2544 ไม่ใช่กรอบการเจรจาเพื่อหาข้อตกลง ”แบ่งผลประโยชน์(ปิโตรเลียม)“ เท่านั้น แต่หาข้อตกลง “แบ่งเขตแดน(ทะเล)“ ด้วย !
คำนูณ ผ่าปม 2 ได้ 3 เสีย ถ้าไม่ยกเลิก MOU 2544
ความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นเรื่อง MOU 2544 ที่เชื่อมโยงถึงเกาะกูด, การหาแหล่งพลังงานแห่งใหม่ในพื้นที่อ้างสิทธิไทย-กัมพูชา ที่มีการประเมินกันว่ามีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท ยั
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???
อย่าได้ประมาทในธรรม.. “เมื่อใจตรง .. จะตรงใจ”..
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. เดินทางกลับมาจากอินเดีย เมื่อ ๗ พ.ย.๒๕๖๗.. ถึงกรุงเทพฯ ๘ พ.ย.๒๕๖๗ หลังจากไปร่วมประชุม “The First Asian Buddhist Summit 2024” ที่นิวเดลี งานนี้จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของรัฐบาลอินเดีย
ขึ้นต้นก็(เขียน)ผิดแล้ว ! ว่าด้วยเส้น “ละติดจูด” ที่ 11° “E” ในเอกสารแนบท้าย MOU 2544
เขียนและพูดเรื่อง MOU 2544 มาหลายปี หลากมุมมอง ล่าสุดช่วงนี้ก็จำแนกข้อดีข้อเสีย รวมทั้งส่วนที่จะได้และส่วนที่จะเสียหากเจรจาสำเร็จ ล้วนหนัก ๆ ทั้งนั้น .