เปลี่ยนก้อนหิน เป็นดอกไม้..เปลี่ยนความขัดแย้ง เป็นความปรองดอง หลอมรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย พาประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า…..

ปีแล้วปีเล่าที่ประเทศอันเป็นที่รักของเรา ต้องติดหล่ม จมอยู่กับความขัดแย้ง และทิ่มแทงกันด้วยถ้อยคำกร้าวร้าวรุนแรง แบ่งฝักฝ่ายขว้างปาความเกรี้ยวกราดใส่กัน ด้วยเหตุจากความเห็นที่แตกต่างกัน และช่องว่างความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความเป็นธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสลดหดหู่หัวใจอย่างยิ่ง

ในฐานะพลเมืองไทยสูงวัย ที่ผ่านการบ่มเพาะประสบการณ์หลากหลายมิติ ผ่านเหตุการณ์มาแล้วนานัปการ ทั้งเหตุการณ์เศร้าสะเทือนใจ และเหตุการณ์ปลาบปลื้มชื่นใจ อยากเห็นสิ่งดีๆเกิดขึ้นแทนที่ความขัดแย้ง ในโอกาสที่การเมืองกำลังจะผลัดใบ….สมาชิกวุฒิสภาชุดเก่า กำลังจะหมดหน้าที่ และถูกแทนที่ด้วยสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง 

จังหวะเวลาของการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง จากสมาชิกวุฒิสภาชุดเก่า ไปสู่สมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่นี้…ผมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกวุฒิสภาชุดเก่า และกำลังจะมีสถานะเป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภา ต้องขอแสดงความยินดีกับสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ทุกท่าน พร้อมกับขออวยพรและเป็นกำลังใจ ให้ทุกท่านได้ทำงานเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ และประชาชนตามที่ตั้งใจไว้อย่างเต็มกำลังความสามารถ

ตลอดระยะเวลาหลายปี ของการทำหน้าที่ สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นกลไกส่วนหนึ่งของอำนาจนิติบัญญัติ ผมได้รับความรู้ ได้รับประสบการณ์มากมาย และได้พยายามปรับใช้ตามบทบาทหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความเหมาะสม สอดคล้องกับบริบทการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข บนหลักการความถูกต้อง เป็นธรรม เพื่อหวังจะเปลี่ยนความไม่เข้าใจระหว่างกัน ให้เป็นความเข้าใจ..เปลี่ยนความชัง ให้เป็นความรัก…เปลี่ยนความขัดแย้ง ให้เป็นความปรองดอง 

ว่าไปแล้ว ก่อนได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเป็นสมาชิกวุฒิสภา ผมเคยได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.คลัง ดร.สุธี  สิงห์เสน่ห์ ในสมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรีอานันท์  ปันยารชุน ในช่วงปี 2534-2535 ตั้งแต่ยังรับราชการเป็นผู้อำนวยการ กองรัฐวิสาหกิจ สำนักงบประมาณ และเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในช่วงปี 2549-2550

ในช่วงชีวิตที่เป็นข้าราชการประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง 5 ปีสุดท้ายในตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงบประมาณ ได้มีโอกาสทำงานใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีหลายท่าน…ได้มีโอกาสทำงานกับสมาชิกรัฐสภา ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร และสมาชิกสภานิติบัญญัติ…ได้มีโอกาสทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ของฝ่ายข้าราชการประจำที่ต้องประสานงานกับฝ่ายบริหาร หรือคณะรัฐมนตรี ประสานกับฝ่ายนิติบัญญัติหลายชุด-หลายสมัย 

ความที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับหลากหลายหน่วยงาน หลากหลายบุคคลที่มีชุดประสบการณ์ ทัศนคติ และรสนิยมที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องมีความตื่นตัวแสวงหาความรู้ พัฒนาทักษะในการประสาน เชื่อมโยงการทำงานที่ดี เพื่อผลักดันให้งานเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย และราบรื่น 

อยากบอกว่าช่วงเวลาที่มีค่า และตราตรึงอยู่ในความทรงจำไม่มีวันลืมเลือน คือช่วง 5 ปีสุดท้ายของความเป็นข้าราชการประจำ ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ

ผมได้รับโอกาสให้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคาร ตลอด 5 ปี ของการทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และผมไม่เคยพลาดการประชุมเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ในทุกบทบาท ทุกสถานะ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำ หรือข้าราชการการเมือง ผมตระหนักและยึดมั่นในการทำงาน เพื่อยังประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ

จิตสำนึกที่มุ่งประโยชน์สาธารณะเป็นที่ตั้ง ได้ทวีความเข้มข้นมากขึ้น เมื่อได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2562 ..

ตอนนั้น ผมซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญของสำนักงบประมาณ มีความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และในความปลื้มปิติ ก็บังเกิดความคิดวาร์ปไปถึงบรรยากาศการทำงานสมัยยังเป็นวัยรุ่นวัยคะนอง ที่มีความคึกคักมีชีวิตชีวากับการได้ลุยงานหนัก

ภาพความสุข สนุกกับการตะลุยงาน และภาพความประทับใจที่ได้ทำงานกับผู้ใหญ่หลายท่านแจ่มชัดขึ้นในความทรงจำ อาทิ ดร.สุธี  สิงห์เสน่ห์  ดร.วีระพงษ์  รามางกูร  คุณโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์  ศ.ดร.อัมมาร์  สยามวาลา  ศ.รังสรรค์  ธนะพรพันธ์ุ  ม.ร.ว.ปรีดิยาธร  เทวกุล ดร.สมคิด  จาตุศรีพิทักษ์   ดร.ชัยวัฒน์  วิบูลย์สวัสดิ์ และผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายต่อหลายท่าน ที่ทรงคุณค่า และคุณูปการต่อระบบเศรษฐกิจไทย ราวกับ…วันวานยังหวานอยู่ และวันวานกำลังหวนกลับคืนมา…. 

ความคิด..ความคาดหวังดื่มด่ำความสุข ในการทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภา เพื่อผลประโยชน์ของบ้านของเมือง กับความจริงในการทำหน้าที่ดูจะคลาดเคลื่อนไปจากสิ่งที่คิด สิ่งที่คาดหวังอยู่ไม่น้อย

ห้วงเวลา 5 ปีในฐานะสมาชิกวุฒิสภา เป็นห้วงเวลาที่บ้านเมืองดำรงอยู่ในสภาพคล้ายคลึงกับเรื่องของสองเมือง(A Tales of Two Cities) โดยชาร์ลส์ ดิกเกนส์ ซึ่งฮิลลารี่  คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 และอดีตรมต.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเคยนำมากล่าวแสดงปาฐกถาเอาไว้ ในพิธีประสาทปริญญา นักศึกษามหาวิทยาลัยเยล เมื่อปี 2561 ซึ่งมีสาระใจความสำคัญบ่งบอกว่าเป็นห้วงเวลาของความสับสน ย้อนแย้งระหว่างความดีสุดขั้ว กับความเลวร้ายสุดกู่…ระหว่างความสดใส กับความมืดมิด..ระหว่างความหวัง กับความสิ้นหวัง

โอกาสเดียวกันนั้นเธอ ยังสะท้อนแนวความคิดทางสายกลาง บนความยืดหยุ่นคือแนวทางของการอยู่ร่วมกันบนความเห็นต่างอย่างสันติ คือหนทางที่จะจรรโลงไว้ซึ่งกระบวนการประชาธิปไตยให้ยั่งยืน

ผมพยายามใช้ความรู้ ความสามารถอย่างเต็มที่ ในการทำหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ เจือจางความขัดแย้งให้เลือนลางหายไป เปิดทางให้ความสามัคคีปรองดองได้แทรกตัวเข้าแทนที่ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่บังเกิดผลตามที่ตั้งใจ

อย่างไรก็ดี..ประสบการณ์ชีวิตในห้วงเวลาของการทำหน้าที่ สมาชิกวุฒิสภา เป็นประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ ได้เข้าใจถึงคุณค่าแห่งการเคารพในความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ได้เข้าใจคุณค่าของการแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างอย่างลึกซึ้งมากขึ้น และดีใจที่ได้มีโอกาสใช้ความรู้ ความสามารถ ตลอดจนประสบการณ์ด้านการเงิน-การคลัง-การงบประมาณ ซึ่งสั่งสมมาทั้งชีวิตให้เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลในการพิจารณา กลั่นกรอง หรือให้ข้อคิด ข้อเสนอแนะ ตลอดจนการอภิปรายแสดงควมคิดเห็นด้านกฏหมายด้านการเงิน การคลัง การงบประมาณ และการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี และการอภิปรายประกอบการแถลงนโยบายของรัฐบาล

  ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ทุกท่าน จะได้นำประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในวิชาชีพที่มีความหลากหลาย มาประยุกต์ใช้ในการทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาอันทรงเกียรติ เพื่อเปลี่ยนก้อนหิน เป็นดอกไม้…เปลี่ยนความขัดแย้ง เป็นความปรองดอง…หลอมรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย พาประเทศก้าวเดินไปสู่ความสว่างสดใสในเบื้องหน้า

วุฒิพันธ์ุ  วิชัยรัตน์

อดีตสมาชิกวุฒิสภา ปี 2562 ถึง 2567

เวทีพิจารณ์นโยบายสาธารณะ
กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' ค้าน 'ปชน.' แก้รธน.สุดซอย เตือนระวังโดนฟ้อง 157 ผิดกราวรูด

'ธนกร' ปักธงค้าน 'ปชน.' ชงแก้มาตรา 256 ชี้ตัดอำนาจ สว. ชัดขัดเจตนารมณ์ รธน. ทำเสียสมดุล 2 สภา หนักข้อสุดซอยเอื้อมแตะหมวด 1-2 พ่วงอำนาจองค์กรอิสระ เตือนระวังถูกฟ้อง 157 เจอผิดกราวรูด

ทศวรรษนานาชาติแห่งวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ความยั่งยืนเป็นเรื่องที่รณรงค์กันมายาวนานต่อเนื่อง...และจะยังคงต้องรณรงค์กันต่อไป และ...วิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นเรื่องที่จะต้องรณรงค์คู่ขนานกันกับการพัฒนา

มติ 153 สว. ยืนประชามติ 2 ชั้น! อบรม 'ไอติม' พูดได้ไงจะมีผู้รณรงค์ให้ปชช.นอนหลับทับสิทธิ์

สว. ยกมือพรึ่บ 153 เสียง ผ่านกม.ประชามติ ฉบับกมธ.ร่วมฯ ยึดเสียงข้างมากสองชั้น ก๊วนสว.พันธุ์ใหม่ โวยดัดจริต สองมาตรฐาน โธ่! "ไอติม" โชว์กึ๋นนักเรียนนอก บอกสองชั้นเปิดช่องรณรงค์ให้ประชาชนนอนหลับทับสิทธิ์ สว.สีน้ำเงิน สวนทันควันใครจะกล้าทำแบบนั้น

สว.ปฏิมา กังวลกระบวนการยุติธรรมไทยกำลังถูกสั่นคลอนหนัก!

นายปฏิมา จีระแพทย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ปัจจุบันนี้ เราต่างทราบดีว่า การรักษาความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศคื