บทธรรมดับโลกร้อน .. ที่นักปกครองต้องอ่าน!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โลกกำลังเข้าสู่ห้วงธรรมวิกฤต.. ที่มนุษยชาติประพฤติตนอยู่ในมิจฉาทิฏฐิ มีความโลภที่รุนแรงและราคะความกำหนัดที่ผิดธรรม .. เป็นส่วนใหญ่

สภาวธรรมจึงผันแปรไปในทางอกุศล.. ให้โทษเป็นบาป มีความทุกข์ร้อนเป็นภักษาหาร เพื่อตอบสนองให้สัตว์โลกที่มีความเป็นเผ่าพันธุ์.. ให้ต้องรับผล อันเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ

ตราบใดที่สังคมมนุษยชาติ.. ยังขาดแคลนสัตบุรุษเป็นผู้นำ ไร้บัณฑิตเป็นกัลยาณมิตรของสังคม อะไรๆ ที่ไม่เคยเกิดในด้านความหายนะ ก็ย่อมจะเกิดขึ้นได้ เพื่อแสดงให้เห็นความเสื่อมจากคุณธรรมความดีของมนุษยชาติ

นึกถึงวันที่โลกคืนกลับมาตั้งขึ้น.. สัตว์โลกที่อุบัติขึ้นครั้งแรก ด้วยสัตว์ที่มีปีติเป็นภักษาหารของใจ หรือจากใจที่มีปีติเป็นภักษาหารของสัตว์ที่อุบัติขึ้นในโลกนี้.. สมัยนั้น สภาวะของโลกยังมืดมน เย็นยะเยือก ไร้ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวนักขัตฤกษ์ทั้งหลาย

สัตว์ที่ใจมีปีติเป็นภักษาหาร ที่อุบัติมาจาก อาภัสสรพรหม อันเป็นต้นกำเนิดสัตว์โลกในยุคแรกนั้น มีกายสว่างไสว.. ท่องเที่ยวไปในอากาศได้ ดุจเทวดา อินทร์ พรหม ทั้งหลาย

ต่อมา เมื่อสัตว์มีราคะกำเริบเกิดขึ้น เพราะได้ทดลองลิ้มรสชาติชิม ง้วนดินที่ตั้งขึ้นในโลก.. สภาวะโลกเริ่มผันแปรไปตามความเปลี่ยนแปลงของสัตว์โลกที่กิเลสกำเริบ ยังให้ความสว่างในกายและการท่องเที่ยวไปในอากาศสิ้นสุดลง.. สู่ความเป็นสัตว์โลกเดินดิน.. อ้างอิงอาศัยฤดูกาล อันเกิดจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวนักขัตฤกษ์ ที่ปรากฏเกิดขึ้นภายใต้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติ.. ที่ช่วยสร้างสรรค์ตอบแทนสัตว์โลกที่ต้องเป็นไปตามวิบากกรรม...

สัตว์โลกเริ่มมีความผันแปรเปลี่ยนแปลงทางกายภาพให้มี สภาพกายหยาบกระด้าง ผิวพรรณเสื่อมทรามลง ในหมู่สัตว์ด้วยกัน ที่แตกต่างไปตามอำนาจของกิเลส (ราคะ)

การถือตัวยกตน ดูหมิ่นเหยียดหยามกันและกัน จึงเกิดขึ้น.. ด้วยอุปกิเลสกำเริบในจิตใจสัตว์เหล่านั้น จนนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของพันธุกรรม พืชพรรณธัญญาหาร สัตว์เล็กสัตว์น้อยทั้งหลาย จนถึง ฤดูกาล ดินฟ้าอากาศ..

วงจรธรรมชาติที่เสียความสมดุล จึงปรากฏให้เห็น อันนำไปสู่ความผันแปรของง้วนดิน ที่เปลี่ยนเป็นสะเก็ดดิน.. ที่สัตว์ทั้งหลายเสพคบเป็นอาหาร

“อาหารเกิด ตัณหาเกิด.. ตัณหาเกิด อาหารเกิด” จึงเป็นหลักธรรมที่แสดงความเป็นเหตุปัจจัยของกันและกัน ที่นำไปสู่ “ความทุกข์ เมื่อตัณหาเกิดขึ้น.. ดังคำกล่าวที่ว่า อาหารเกิด ตัณหาเกิด .. ตัณหาเกิด ทุกข์เกิด”

สัตว์โลกต่างพากันบ่นพึมพำ เสียดาย ง้วนดินที่มีรสชาติอร่อย น่ายินดียิ่ง ซึ่งบัดนั้นแปรสภาพสูญหายไป.. จนกลายเป็น สะเก็ดดิน ที่มีคุณภาพรสชาติต่ำลงจากเดิมมาก..

การเสพกิน สะเก็ดดินเป็นอาหาร ด้วยอำนาจแห่งตัณหา.. จึงยิ่งดำเนินไปมากขึ้นด้วยราคะที่แก่กล้าขึ้น จนร่างกายหยาบกร้านมากขึ้น.. และผิวพรรณยังเสื่อมทรามลงไปตามกำลังของกิเลส

การดูหมิ่น การถือตัว.. ที่เรียกว่า อติมานะ .. อัสมิมานะ จึงยิ่งมากขึ้น.. บนกระบวนการความสัมพันธ์ของวิถีกิเลสในรูป ตัณหา มานะ และทิฏฐิ .. ที่กล่าวเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปปัญจธรรม.. แปลว่า ธรรมอันเป็นเครื่องเนิ่นช้าของสัตว์โลก

สะเก็ดดิน.. จึงแปรเป็น เถาไม้.. ต่อมาเถาไม้ที่มี สี กลิ่น รส อันน่ายินดี ก็ได้ผันแปรไปกลายเป็น ผลสาลีที่ไม่มีเปลือก สามารถเก็บเกี่ยวนำไปกินได้เลย.. อย่างไม่จำกัด.. งอกออกมาทดแทนส่วนที่ถูกเก็บเกี่ยวไปได้.. อย่างไม่บกพร่องขาดสูญ

แต่ในที่สุด.. เมื่อราคะแก่กล้าขึ้น กลายเป็นโลภะในจิตใจของสัตว์โลก.. การงอกออกมาทดแทนส่วนที่เก็บเกี่ยวไปก็ไม่ทันใจ ด้วยมีการจัดเก็บไปมิใช่เพียงแค่พอกินในมื้อหนึ่ง แต่สั่งสมเพื่อการกินไปในมื้ออื่นๆ.. วันอื่นๆ ด้วย

ผลสาลี ไม่มีเปลือก กลิ่นหอม มีเมล็ดเป็นข้าวสาร จึงแปรเปลี่ยนไปตามสภาพ ทั้งขนาด สี กลิ่น รสชาติ และมีเปลือกมาห่อหุ้ม.. ที่สุดคือ ยากจะงอกออกมาทดแทนในส่วนที่เก็บเกี่ยวถอนไป

อำนาจความโลภ.. ก่อเกิดอกุศลจิตขึ้นในจิตใจของสัตว์ทั้งหลาย ที่เสพอาหารเลวลง ปรากฏเป็นเพศชายหญิง มีการเสพกามเกิดขึ้น ที่ต่อมาก็ยอมรับใน การเสพเป็นธรรม... จากที่ เคยรังเกียจว่าเสพเป็นอธรรม...

ความผันแปร ผันผวน วิปริตผิดไปจากธรรม เกิดปรากฏไปตามยุคสมัย อะไรที่เคยถูกว่าเป็นอธรรม.. ไม่ควรถือปฏิบัติ ก็ยังผันแปรมาถูกจัดให้เป็นธรรม สามารถถือปฏิบัติได้.. ทั้งนี้ ด้วยระดับคุณสมบัติของจิตใจสัตว์ทั้งหลายที่ลดระดับคุณธรรมลง

เราจึงเห็น จริยธรรม ที่เปลี่ยนแปลงไปในหมู่สัตว์โลก ดังปรากฏมากมายหลากหลายเรื่องในปัจจุบัน ที่ผันแปรไปตามอำนาจของราคะที่กล้าแข็งขึ้น ดังการแสดงออกทางเพศของหญิงชายในสมัยนี้ ที่เปิดเผยในความน่ารังเกียจจนเป็นเรื่องปกติ แม้แต่ท่าทางการแต่งตัว ที่เคยถูกจัดว่าเลวทราม น่าละอาย ที่กลับได้รับความนิยมจนเป็นกระแสแพร่ไปทั่วทุกเพศวัยของสังคมสมัยนี้

สมัยที่โลก.. ยังไม่ขาลงมากนัก.. ในความเสื่อมที่ก่อเกิดเป็นวิกฤตการณ์.. ก็จะมีสัตว์โลกบางบุคคล บางหมู่คณะ เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขขจัดปัญหาดังกล่าว

ในความเป็นอกุศลที่เกิดจากความโลภของสัตว์โลก ที่เกิดจากการแย่งชิงอาหาร จึงเกิดผู้นำขึ้นในหมู่สัตว์ เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการแบ่งปันอาหารให้มีความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย

การก่อเกิดผู้นำที่เป็นไปโดยธรรม.. จึงเกิดขึ้น เพื่อจัดการปกครองโดยธรรม ต่อสังคมของสัตว์โลก ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสังคม เพื่อทำหน้าที่ ติเตียนสัตว์ที่ควรติเตียน ขับไล่ลงโทษสัตว์ที่ควรขับไล่

สัตว์โลกที่ได้รับการคัดเลือกจากหมู่สัตว์ จะต้องมีเอกลักษณ์ความโดดเด่น เหมาะควรเป็นผู้นำ มีความงดงามทั้งร่างกายและจิตใจ.. เป็นผู้มีศักดิ์ใหญ่ยิ่งกว่าสัตว์ทั้งหลาย

การก่อเกิดผู้นำของหมู่สัตว์เป็นไปโดยอำนาจธรรม.. อำนาจแห่งธรรมจึงประเสริฐสุด ยิ่งกว่าอำนาจทั้งปวง

ธรรมจึงประเสริฐสุดในหมู่สัตว์โลกในทุกสมัย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต... นี่เป็นสัจธรรม!!

เมื่อหมู่สัตว์โลกเคารพธรรม.. ธรรมจึงอภิบาลคุ้มครองสัตว์โลก.. ให้มีความเป็นปกติสุขโดยธรรม การได้ผู้นำจากอำนาจแห่งธรรม.. จึงเป็นสิ่งประเสริฐในหมู่สัตว์โลก เพราะผู้นำที่เกิดขึ้นโดยธรรม ย่อมยกธรรมขึ้นเป็นใหญ่ในการปกครองหมู่สัตว์ทั้งปวง ให้ถึงซึ่งความยุติธรรม และจักคุ้มครองผู้ใต้ปกครอง ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลายโดยอำนาจธรรม.. ทั้งนี้ จะยับยั้งมิให้อธรรมเกิดขึ้นในเขตการปกครองของตน.. สังคมสันติธรรมจึงเกิดขึ้น นั้นเป็นธรรมดา!

..แต่เมื่อใดก็ตาม ที่ผู้นำ.. ผู้ปกครองของสังคมผันแปรไปจากธรรม.. อธรรมย่อมเกิดขึ้นเป็นใหญ่.. ในที่สุด การประพฤติผิดศีลธรรม การประพฤติทุจริตทางกาย วาจา ใจ จึงเกิดขึ้น จนนำไปสู่ความเสื่อมใน อายุ ผิวพรรณ แห่งสัตว์โลกเหล่านั้น อย่างเป็นปัจจุบัน...

คำว่า ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง.. จึงเป็นบทสะท้อนความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ที่ดำเนินไปตามเหตุปัจจัย ไม่ว่าความเจริญหรือความเสื่อมถอยของโลก.. ที่ย่อมมีมาจากเหตุปัจจัย อันเราท่านทั้งหลายต้องศึกษาให้เข้าใจ เพื่อการปลง ปลด ปล่อยวาง การยึดมั่นถือมั่น..ในโลก

สมัยหนึ่ง พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงมีสุบินนิมิตที่ไม่ดี.. เกิดความไม่สบายใจ จึงได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อขอทรงได้ทำนายสุบินนิมิตดังกล่าว ซึ่ง มีทั้งหมด ๑๖ ข้อ อันควรศึกษายิ่ง เช่น...

ความฝันในข้อที่ ๖ เมื่อพระราชากราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันฝันเห็น มหาชนพากันขัดถูถาดทองคำราคาตั้งแสนกหาปนะ แล้วนำไปให้สุนัขจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่ง และกล่าวว่า “เชิญท่านปัสสาวะใส่ถาดทองนี้เถิด” สุนัขจิ้งจอกแก่ตัวนั้นก็ปัสสาวะใส่ถาดทองนั้น ฝันนี้จะมีผลเป็นอย่างไร พระเจ้าข้า”

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า “มหาบพิตร ผลของความฝันนี้ จะมีในอนาคต ในสมัยของผู้ปกครองแผ่นดินไม่ตั้งอยู่ในธรรม ได้รังเกียจบุคคล ผู้มีตระกูลสูงไม่แต่งตั้งยศตำแหน่งให้ แต่จะแต่งตั้งให้แก่คนที่มีตระกูลต่ำทราม...

พวกตระกูลใหญ่ๆ จะตกยาก มีชีวิตฝืดเคือง จะพากันยกลูกสาวให้พวกมีตระกูลต่ำ

การอยู่ร่วมกับพวกตระกูลต่ำของลูกสาวจากตระกูลสูงเหล่านั้น ก็ เหมือนกับ ยกถาดทองรองรับปัสสาวะสุนัขจิ้งจอก..”

ความฝันอีกข้อหนึ่งที่น่าพิจารณา คือ ความฝันในข้อที่ ๑๐ ที่พระราชา ฝันเห็น น้ำเต้าจมน้ำได้.. ซึ่งทรงพยากรณ์ว่า...

“..ในกาลข้างหน้า เมื่อโลกเสื่อมลง ผู้ปกครองไม่ตั้งอยู่ในธรรม จะไม่แต่งตั้งยศตำแหน่งแก่คนที่มีตระกูลสูง.. แต่จะแต่งตั้งยศตำแหน่งแก่ผู้ที่มีตระกูลต่ำทราม พวกต่ำทรามจะเป็นใหญ่ พวกตระกูลสูงจะยากจน...

คำพูดของพวกตระกูลต่ำทรามจะเป็นหลักฐานมั่นคง เหมือนน้ำเต้าจมน้ำ...”

สมัยนั้น ธรรมคุ้มครองโลกจักเสื่อมลง.. ด้วยหมู่ชนละเลยการเคารพธรรม.. สัตว์โลกจึงต้องเอวังจากสันติธรรมด้วยประการฉะนี้!!.

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุทธัจจะ .. ในวังวนแห่งการตื่นธรรม .. ยุคไอที!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระรัตนตรัย... สัทธายะ ตะระติ โอฆัง.. บุคคลข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา.. โอฆะ หมายถึง ห้วงน้ำ ที่มีกระแสเชี่ยวกราก พัดพาสัตว์ทั้งหลายให้ตกไปในกระแสน้ำนั้น ยากจะข้ามฝั่งไปได้

คำนูณ ผ่าปม 2 ได้ 3 เสีย ถ้าไม่ยกเลิก MOU 2544

ความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นเรื่อง MOU 2544 ที่เชื่อมโยงถึงเกาะกูด, การหาแหล่งพลังงานแห่งใหม่ในพื้นที่อ้างสิทธิไทย-กัมพูชา ที่มีการประเมินกันว่ามีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท ยั

'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???

อย่าได้ประมาทในธรรม.. “เมื่อใจตรง .. จะตรงใจ”..

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. เดินทางกลับมาจากอินเดีย เมื่อ ๗ พ.ย.๒๕๖๗.. ถึงกรุงเทพฯ ๘ พ.ย.๒๕๖๗ หลังจากไปร่วมประชุม “The First Asian Buddhist Summit 2024” ที่นิวเดลี งานนี้จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของรัฐบาลอินเดีย

ขึ้นต้นก็(เขียน)ผิดแล้ว ! ว่าด้วยเส้น “ละติดจูด” ที่ 11° “E” ในเอกสารแนบท้าย MOU 2544

เขียนและพูดเรื่อง MOU 2544 มาหลายปี หลากมุมมอง ล่าสุดช่วงนี้ก็จำแนกข้อดีข้อเสีย รวมทั้งส่วนที่จะได้และส่วนที่จะเสียหากเจรจาสำเร็จ ล้วนหนัก ๆ ทั้งนั้น .