ฟันธงกันว่าปิดจ๊อบปรับคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 2” ที่โรงแรมหรูกลางกรุงไปแล้ว โดยมี ทักษิณ ชินวัตร นั่งหัวโต๊ะคุยรอบสุดท้ายโดยไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน ว่ากันว่า โผนี้ชื่อของ เกรียง กัลป์ตินันท์ กับ สุทิน คลังแสง ยังเหนียว
แต่ก็ต้องลุ้นตอนประกาศโผว่า โผคาดการณ์ที่ออกมานั้นจะมีการปรับเปลี่ยนหลังจากการเคาะรอบสุดท้ายกลางโรงแรมหรูครั้งนี้หรือไม่
มาโฟกัสที่เก้าอี้ รมว.กลาโหมของ “สุทิน คลังแสง” ที่หลายฝ่ายจับจ้องว่าจะอยู่หรือไป เพราะเคยมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีจะมานั่งควบตำแหน่งนี้เองเพื่อบังคับบัญชาเหล่าทัพโดยตรง
“สุทิน” เคยเอ่ยปากว่า 6-7 เดือนที่นั่ง รมว.กลาโหม ถ้าจะพ้นไปก็รู้สึกเสียดาย เชื่อว่าอีก 1-2 เดือนผลงานก็จะออกมาให้เห็น แต่ก็พร้อมไปทำงานที่ไหนก็ได้ ต้องให้เกียรตินายกรัฐมนตรีในการปรับ ครม.
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งคำถามว่า หากต้องพ้น รมว.กลาโหม โครงการเรือดำน้ำ โครงการจัดหาเครื่องบินรบ และโครงจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ จะดำเนินการต่อได้หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า “คนมาทำก็ดำเนินการต่อได้ ผมอยู่ไหนก็ช่วยต่อ แม้ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ผมก็จะช่วย ไม่มีปัญหา”
จึงต้องโฟกัสว่าโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ หรือเรื่องค้างการพิจารณา และยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม มีเรื่องใดค้างการพิจารณาบ้าง?
- โครงการจัดหาเรือดำน้ำ หลังจากคณะทำงานที่มี บิ๊กอั๋น-พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา ที่ปรึกษา รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้สรุปข้อดี-ข้อเสีย ในการเดินหน้าโครงการแล้ว “สุทิน” ก็ได้เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ และ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ เดินทางไปด้วย เพื่อไปเจรจากับ ทีมจีน ซึ่งมีกระแสข่าวว่าเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และมีการวิดีโอคอลพูดคุยกันอีกหลายรอบ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่ามีความคืบหน้าอย่างไร
แต่ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ “สุทิน” มีกำหนดการหารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อติดตามความคืบหน้าในการหารือเรื่องนี้อีกครั้ง
- โครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูง ในงบประมาณปี 67-68 ไม่มีบรรจุไว้ โดยปี 2567 ถูกตัดออกไป และปี 2568 ไม่ได้รับอนุมัติเปลี่ยนแปลงงบประมาณก่อนจัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติ มีแนวโน้มว่า จะมีการเสนอการจัดซื้อในงบปี 2569 ต่อไป ซึ่ง “สุทิน” เคยไปพูดกลางสภาชี้แจงฝ่ายค้านที่เชียร์ให้ซื้อโดยสนับสนุนอู่ต่อเรือในประเทศว่า “ถ้าให้ ทร. 2 ลำ อย่ามาว่าผมนะ”
- การตัดสินใจต่อผลสรุปของคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงสาเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง จะเดินหน้าตั้งคณะกรรมกลางขึ้นมาอีกชุดเพื่อตอบคำถามสังคมให้สิ้นสงสัยอีกหรือไม่ หรือจะให้จบตามที่ ทร.สรุป
- โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนของกองทัพอากาศระยะที่ 1 กองทัพอากาศ ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ปี 2568 ผ่านความเห็นชอบของ ครม.ไปแล้ว วงเงิน 1.9 พันล้านบาท (ผูกพันงบประมาณรวม 1.9 หมื่นล้านบาท) รอการชี้แจงในสภา วาระที่ 1 เดือน มิ.ย. และในวาระ 2-3 ช่วงเดือนส.ค.
- โครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงทดแทน 2 เครื่อง กองทัพเรือ ซึ่งเป็นความต้องการ “พัฒนาขีดความสามารถอากาศนาวี” ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 3 ตามที่ระบุไว้ในสมุดปกขาวกองทัพเรือ ปี 2566 น่าจะผ่านฉลุย เนื่องจากเป็นเครื่องที่ใช้ในทางยุทธการสนับสนุนภารกิจส่งทางอากาศของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และสามารถใช้ในทางธุรการได้ทั้งทางทหารและพลเรือน
- การจัดทำแผนโครงการจัดหาอาวุธแบบรวมการ หรือการซื้ออาวุธแบบแพ็กเกจ ซึ่ง “สุทิน” มอบให้ "บิ๊กอั๋น” ไปดำเนินการจัดทำแผนเป็นลักษณะของ คัมภีร์ เพื่อให้เหล่าทัพใช้เป็นกรอบในการจัดทำสมุดปกขาว เพื่อลดความซ้ำซ้อนและจัดหาแบบองค์รวม เป้าหมายเพื่อประหยัดงบประมาณ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์การตอบแทนทางเศรษฐกิจกับประเทศ
ซึ่งหากย้อนดูจะคล้ายกับยุค ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และให้กระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ ทำแผนการจัดซื้อ "อาวุธแบบแพ็กเกจ” วงเงินแสนล้าน แต่ถูกแขวนไว้ เนื่องจากรัฐบาลจัดสัดส่วนงบไปที่โครงการประชานิยม สร้างกระแสให้พรรคการเมืองที่ได้หาเสียงไว้
ทำให้ช่วงนั้นแผนซื้ออาวุธของเหล่าทัพถูก “แช่แข็ง” แม้กระทั่งส่วนที่จำเป็นจริงๆ ก็ยังถูกแตะเบรก และมาถูก “ปล่อยผี” หลายโครงการรวดหลังการรัฐประหาร เพราะรัฐบาลตอนนั้นไฟเขียวผ่านฉลุย ฟื้นศักยภาพกำลังรบขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง
คงต้องติดตามดูต่อไปว่า “สุทิน” จะได้รับการอนุมัติให้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมต่อเพื่อผลักดันโครงการ และปัญหาที่ยังไม่ลุล่วงเหล่านี้หรือไม่
หรือจะเป็นเสนาบดีคนใหม่ที่ต้องมานับหนึ่งเดินพรมแดงสร้างสัมพันธ์เหล่าทัพอีกระลอก พร้อมรับปมประเด็นข้างต้นมาสานต่อ และแก้ไขให้จบ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิธรรม' สดุดี 'ทักษิณ' ครองใจคนอุดรฯ พา พท. ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.
'ภูมิธรรม' ฟุ้งอุดรธานีหัวใจคนเพื่อไทยโดยแท้ ชนะเป็นเรื่องธรรมดา ยํ้า ปชช. ยังรัก 'ทักษิณ' ชอบผลงานที่ทำมา อุบ 'อิ๊งค์' ลงพื้นที่ขอบคุณ
ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)
'ทักษิณ-พท.' อย่าเพิ่งตีปีก! ชั้น 14 ป.ป.ช. ใกล้งวด คดีครอบงำยิ่งชัด รอ กกต. เคาะ
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หน้าแตกกันไปตามๆ กัน เมื่อได้ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่รับวินิจฉัยคำร้อง
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
'ดร.ณัฏฐ์' ชี้กรณี 'ทักษิณ-พท.' รอดคดีล้มล้างฯ ไม่ตัดอำนาจ 'กกต.' ไต่สวนยุบพรรคได้
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเป็นการ
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49