“มิจฉาธรรม .. ในอสัตบุรุษที่น่ากลัวยิ่ง”

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา สงกรานต์ร้อนที่เข้าสู่จุลศักราช ๑๓๘๖ เถลิงศกตรงกับ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗ นับว่าร้อนแล้ง ตรงกับคำพยากรณ์ที่พร้อมเกิดพายุร้อนได้ในทุกพื้นที่ เป็นการแสดงสภาวะผันผวนที่เนื่องมาจากวิกฤตร้อนของโลก (Climate Change) ที่หลายฝ่ายเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยความเป็นห่วงว่า มนุษยชาติจะผ่านวิกฤตโลกร้อนไปได้หรือไม่..

อย่างไรก็ตาม เรื่องวิกฤตทางธรรมชาติก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ด้วยสติปัญญาและความสามารถของคนเรา

แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ วิกฤตการณ์โลกร้อนอันเกิดจากภายในของคนเรา.. ที่หนาแน่นไปด้วยอำนาจกิเลสอันเป็นธรรมชาติที่เร่าร้อนและเศร้าหมอง เมื่อประกอบเข้ากับจิตใจ ก็ย่อมทำให้เร่าร้อนเศร้าหมองตามไปด้วย

การคิดประดิษฐ์วัตถุมีพิษ อาวุธสงคราม เพื่อการทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยกัน จึงเกิดการขยายตัวขึ้นมาก ด้วยความเจริญทางเทคโนโลยีชั้นสูง

เมื่ออาวุธพร้อม เครื่องมือพร้อม.. คนพร้อม การเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามที่มีปัญหากันก็ย่อมเกิดขึ้น และยากจะหลีกหนีการระดมสรรพกำลังทุกรูปแบบ เพื่อเข่นฆ่าทำลายกัน..

วันนี้ของชาวโลกจึงติดกับดักความรู้สึกนึกคิดของตนเอง ที่ประกอบอยู่กับ โลภะ โทสะ โมหะ.. จนยากนักที่จะคิดดี ทำดี พูดดี.. เพื่อประโยชน์และความเหมาะควรโดยธรรม

ความรู้สึกนึกคิดที่มาจากการกำหนดรู้จาก สมมติบัญญัติที่วิปลาส.. จึงเป็นผลให้เกิด จิตวิปลาส หมายถึง ความรู้สึกนึกคิดที่ผิดเพี้ยนไปจาก สัจธรรม.. จนนำไปสู่การตกผลึกเป็น.. ทิฏฐิวิปลาส

ทิฏฐิวิปลาส.. เป็นเครื่องหมายของสัตว์โลกในทุกยุคทุกสมัย จะหนัก จะเบา ขึ้นอยู่กับการสร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้องตามธรรมขึ้นประกอบกับจิตนั้น.. จนสามารถถ่วงดุลกับ ทิฏฐิวิปลาส ได้.. ด้วยการรู้จักอ่านจิตให้ออก.. ควบคุมจิตให้ได้.. เพื่อใช้จิตให้เป็นไปตามกระแสธรรม..

แต่ก็เป็นเรื่องที่คาดหวังได้ยากกับสัตว์สังคมในยุคสมัยไอทีทุกเพศวัย ที่ปล่อยปละละเลยให้จิตใจตกอยู่ภายใต้วัตถุเทคโนโลยี จนสูญเสียความตระหนักรู้ในฐานะสัตว์ที่ประเสริฐได้

ต้องยอมรับอย่างหมดสิ้นความกังขาว่า.. พระพุทธเจ้าของเราทรงรู้โลกอย่างแจ่มแจ้งจริงๆ .. จึงได้ทรงออกแบบ ธรรมปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาจิตให้ออกมาจากอำนาจ วิปลาสธรรม ที่ทำให้เกิด อคติธรรม ในบุคคลส่วนใหญ่

ธรรมปฏิบัติดังกล่าว คือ การเจริญสติ .. ที่เขียนเต็มรูปแบบว่า สติปัฏฐาน ๔ หรือสติปัฏฐานธรรม ดังปรากฏใน มหาสติปัฏฐานสูตร ที่ทรงแสดงในบทนำโดยอุเทศว่า..

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เหล่าสัตว์บริสุทธิ์ ล่วงพ้นความโศกและรำพันคร่ำครวญได้ ดับความทุกข์และโทมนัสได้ บรรลุอริยมรรคและเห็นแจ้งพระนิพพานได้

หนทางนี้คือ สติปัฏฐาน ๔ ประการ

จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ สติ เป็นเครื่องพัฒนาจิต.. สร้างเสริมปัญญา เพื่อกระทำความเพียรชอบอย่างถูกต้องตรงธรรม ในท่ามกลางที่สัตว์สังคมมีความแปรปรวนทางจิตวิญญาณสูงมาก อย่างผิดธรรมชาติ.. ที่เรียกว่า วิกฤต

สังคมที่มีลักษณะความแปรปรวน.. จึงเต็มไปด้วยวิกฤตการณ์ที่สัมพันธ์กันทุกด้าน จนสูญเสียดุลยภาพในวงจรธรรมชาติ จนนำไปสู่การเคลื่อนไหวที่ผิดเพี้ยนผันผวน

จึงไม่แปลกเลยที่ทุกคนต้องสัมผัสกับอากาศที่ร้อนจัดผิดปกติ สภาพดินฟ้าอากาศฤดูกาลที่แปรปรวน พืชพรรณธัญญาหารที่ไม่อุดมสมบูรณ์ดังแต่ก่อน ในเมื่อปฐมเหตุคือ จิตใจของสัตว์สังคมมันผิดเพี้ยนไปมาก จนยากจะนำคืนกลับมาเข้าสู่กระแสธรรมได้..

บทสะท้อนความวิปลาสทางสังคม.. จึงกลายเป็นดัชนีตัวบ่งชี้ที่สำคัญยิ่งของความสุขสงบในสังคมนั้นๆ.. ที่ไม่แปลกเลย หากจะเกิดข่าวสารในเชิงผกผันไปจากสภาพดั้งเดิมของสังคม

หลากหลายเรื่องราวที่เกิดในห้วงเวลานี้ จึงหลีกหนีไม่พ้นเรื่องการเข่นฆ่าทำลายกัน.. การรบราฆ่าฟันกัน.. การทะเลาะวิวาทกัน.. การประพฤติปฏิบัติที่ไม่เคารพธรรม.. ไร้สันติธรรม จนนำไปสู่ความเสื่อมถอยของแต่ละองค์กร โดยเฉพาะสถาบันทางศาสนา ที่เป็นผู้นำจิตวิญญาณของชาวโลกอย่างแท้จริง..

ภาวะการเซาะกร่อนเพื่อทำลายสถาบันทางจิตใจ ได้แก่ องค์กรศาสนาต่างๆ จึงเกิดขึ้น เพื่อชี้ให้เห็นความจริงอีกด้านหนึ่งของชาวโลก ที่กำลังสูญเสียความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ สวยงาม ด้านจิตวิญญาณไป ด้วยอิทธิฤทธิ์ของวิกฤตการณ์โลกที่ครอบคลุมทุกมิติในปัจจุบัน

การแก้ปัญหาต่างๆ ในสังคม จึงเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนยิ่งขึ้น ด้วยความสัมพันธ์ของเงื่อนไขต่างๆ ที่ผูกพันกันเป็นกระจุก เหมือนด้ายของช่างทอหูก เต็มไปด้วยปมเขื่อง จนยากที่จะสืบสาวหาต้นหาปลายได้เจอ.. ซึ่งสามารถสะท้อนความจริงของสังคม ที่ยุ่งเหยิงไปด้วยขยะแห่งความคิดให้เข้าใจได้ไม่ยาก จึงยากนักที่จะใช้เพียงแค่ความคิดเข้าไปแก้ไขปัญหาปมเขื่องนั้นให้สิ้นไปได้ตามวิสัยปุถุชน.. นักคิด.. นักปรุงแต่งตามกระแสโลก.. และมิหนำซ้ำ อาจกลับเพิ่มมูลค่าของปัญหาให้มากขึ้น จน เข้าสู่วิกฤตในวิกฤตแห่งปัญหา!!

จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่สภาพสังคมจะเต็มไปด้วย มิจฉาธรรม ในเมื่อทุกคน.. ทุกองค์กรสังคม กำลังเดินเข้าไปติดกับดักข่ายความคิดที่เหนียวแน่นไปด้วย มิจฉาทิฏฐิ

มิจฉาธรรม .. จึงเป็นเรื่องใหญ่ของมนุษยชาติที่ปรากฏชัดเจนในยุคนี้ อันเกิดจากความคิดที่เหนียวแน่นด้วยมิจฉาทิฏฐิ.. จนเป็นตัวตั้งต้นให้เกิด มิจฉาจิต.. ที่ชักนำไปสู่..

..มิจฉาทิฏฐิ, มิจฉาดำริ, มิจฉาวาจา, มิจฉากรรม, มิจฉากิจ, มิจฉาวายามะ, มิจฉาสติและมิจฉาสมาธิ

มิจฉาธรรม .. หากเกิดปรากฏมากขึ้นเมื่อไรจนยากจะควบคุม ย่อมแสดงให้เห็นถึงวิกฤตการณ์ของชาวโลกได้เกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะทางด้าน จิตวิญญาณ ของความเป็นสัตว์ประเสริฐ

ด้วยจิตใจที่มี มิจฉาธรรม.. จะปฏิเสธ ศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม.. อย่างสิ้นเชิง และจะเต็มไปด้วย ตัณหา มานะ ทิฏฐิ.. มีความหลงตนยิ่งขึ้น จนสามารถเข้าขั้น มิจฉามานะ ที่จะก่อให้เกิดความเห็นผิดลึกลงไปในความเห็นผิด ดังความเห็นที่ว่า...

“..ต้องทำตัวให้ใหญ่เข้าไว้ ใครๆ จะได้ไม่กล้าข่มเหง ..หรือทำตัวให้เล็กเข้าไว้ เพื่อจะได้ให้คนอื่นสงสาร รักใคร่เอ็นดู..”

มิจฉาธรรม .. จึงเป็นอำนาจของอวิชชาที่ทำให้เกิดการลุ่มหลงยึดมั่นถือมั่นในตัวตนอย่างผิดเพี้ยน.. จนยากจะปล่อยวาง สำคัญมั่นหมายในความเป็นของเรา.. เป็นเรา.. เป็นตัวตนของเรา

มิจฉาธรรม .. ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มกำลัง จะไปสร้างมานะในขั้นที่เป็น มิจฉามานะ คือ ความถือตัวผิดๆ หยิ่งผยองลำพองในความสามารถที่เป็นไปในความชั่วร้าย เช่น ภาคภูมิใจว่า พูดเท็จ.. โกงกิน.. ทำชั่วได้ดีกว่าใครๆ.. แม้ใครก็จับโกหกตนไม่ได้...

มิจฉาธรรม จึงประกอบบุคคลให้อยู่ใน มิจฉาปฏิบัติ อย่างไม่รู้สึกสะดุ้งเกรงกลัวต่อบาปกรรมใดๆ ทั้งสิ้น แม้สังคมพยายามจะก่นด่าว่า.. แต่บุคคลดังกล่าวหาได้รู้สึกรู้สาอะไรไม่.. ทั้งนี้เพราะ อำนาจมิจฉาธรรม นั้นเอง ที่เขาเสพคบมายาวนาน จนกลายเป็นเนื้อหนังมังสาและชีวิตของเขา.. ที่ยากเข้าใกล้คำว่า “คุณความดี”

ในหน้าร้อนของวิกฤตการณ์โลกที่รุนแรงกว่าทุกๆ ปี.. จึงต้องระวังอย่างยิ่งในการเสพคบกับคนที่ประกอบตนอยู่กับ มิจฉาธรรม.. เพราะอันตรายยิ่งกว่าสิ่งใดๆ... ดังที่กล่าวกันว่า.. คนประเภทนี้ นรกส่งมาเกิดจริงๆ.

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุทธัจจะ .. ในวังวนแห่งการตื่นธรรม .. ยุคไอที!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระรัตนตรัย... สัทธายะ ตะระติ โอฆัง.. บุคคลข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา.. โอฆะ หมายถึง ห้วงน้ำ ที่มีกระแสเชี่ยวกราก พัดพาสัตว์ทั้งหลายให้ตกไปในกระแสน้ำนั้น ยากจะข้ามฝั่งไปได้

คำนูณ ผ่าปม 2 ได้ 3 เสีย ถ้าไม่ยกเลิก MOU 2544

ความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นเรื่อง MOU 2544 ที่เชื่อมโยงถึงเกาะกูด, การหาแหล่งพลังงานแห่งใหม่ในพื้นที่อ้างสิทธิไทย-กัมพูชา ที่มีการประเมินกันว่ามีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท ยั

'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???

อย่าได้ประมาทในธรรม.. “เมื่อใจตรง .. จะตรงใจ”..

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. เดินทางกลับมาจากอินเดีย เมื่อ ๗ พ.ย.๒๕๖๗.. ถึงกรุงเทพฯ ๘ พ.ย.๒๕๖๗ หลังจากไปร่วมประชุม “The First Asian Buddhist Summit 2024” ที่นิวเดลี งานนี้จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของรัฐบาลอินเดีย