สิ่งสำคัญที่ควรดำรงไว้.. เพื่อการดำเนินชีวิตไปสู่เบื้องหน้าอย่างปลอดภัย คือ การประกอบความเพียรชอบ อย่างมีสติ.. และปัญญา (สัมมาทิฏฐิ)...
วิริยะ สติ ปัญญา.. เมื่อเข้าสู่อริยมรรคก็จะแปลงรูปเป็น สัมมาวายา สัมมาสติ.. สัมมาทิฏฐิ.. ที่เรียกว่า บริขารสาม อันมีบทบาทยิ่งในการพัฒนาอบรมจิตให้เกิดความสมบูรณ์ใน องค์ธรรมทั้งแปด บนหนทางสายกลาง ที่เรียกว่า อริยมรรค .. ที่สามารถ ดับกรรม.. ดับทุกข์ ได้จริงๆ...
ในกระแสแห่งความเคลื่อนไหวของโลก .. จักทำให้ “กระแสชีวิต” ร้อนแรง รุนแรง รวดเร็ว ยิ่งขึ้น ๆ.. ด้วยพลังงานแห่งไฟกิเลส (ตัณหา) .. จึงพยากรณ์ได้ว่า วิถีโลกในพุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นต้นไป.. จะเกิดความแปรปรวนเปลี่ยนแปลงของโลกในมิติต่างๆ ที่เป็นไปอย่างยากจะสกัดกั้น.. ด้วยอำนาจ อวิชชา ในจิตใจของมนุษยชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้นจากการดำเนินชีวิตไปอย่างขาด วิริยะ สติ และปัญญา..
วิกฤตการณ์จะเกิดขึ้นครบทุกๆ ด้าน.. ไม่ต่างไปจากปีเก่าที่ผ่านไป.. ด้วยเงื่อนไขที่ยังดำรงอยู่และดำเนินไปบนความสัมพันธ์ของเหตุของปัจจัยตามนัย ปัจจยาการ..หรือกฎลูกโซ่...
เสียงร้องไห้คร่ำครวญปริเวทนาการ.. ของหมู่สัตว์โลกจะแผ่กว้างไปทั่วทุกหย่อมหญ้า.. ไม่ว่างเว้นแม้ในประเทศเขตแดนพระพุทธศาสนา.. ที่หมู่ชนบางหมู่บางคณะพากันบิดเบือนเติมแต่งพระสัทธรรม.. ให้เคลื่อนคลายไปจากเดิมอย่างสนุกสนาน จนก่อเกิด พระสัทธรรมปฏิรูป ขึ้นมาปิดบัง พระสัทธรรมแท้..
การทะเลาะเบาะแว้ง.. ที่นำไปสู่การทำร้ายทำลายกัน จะเกิดขึ้นมากในทุกกลุ่มชนเพศวัย.. ลุกลามแผ่ลงไปจนถึงเด็กๆ เยาวชน.. นักเรียน-นักศึกษา ที่ถูกครอบงำด้วยอำนาจของ อวิชชา.. ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ในสังคม..
ด้วย ตัณหาอุปทาน.. ในทุกเพศวัยที่ไม่ต่างกัน จึงได้เห็นการกระทำที่ผิดเพี้ยนไปจากธรรม.. ขาดความเคารพยำเกรงกัน แม้ในพ่อแม่ลูก.. พี่น้องญาติมิตร และครูกับศิษย์ ตลอดจนถึงผู้ปกครอง.. กับผู้ถูกปกครอง..
แม้ในเขตแดนที่เคยอุดมสมบูรณ์ด้วยพระสัทธรรม.. ก็ยังขัดแย้งกันใน ความเห็นที่ชอบหรือไม่ชอบ.. จึงได้เห็นการประพฤติย้อนแย้งกันของหมู่ศาสนิกเดียวกัน.. ที่ถือทิฏฐิของตนเป็นใหญ่เหนือพระสัทธรรม..
การแตกสลายขององค์กรศาสนาจะก่อตัวให้เห็นร่องรอยปริแยกมากขึ้น ดังปรากฏเป็นนิกายต่างๆ มากมายจากในอดีต แม้จะอ้างพระศาสดาองค์เดียวกัน...
ศาสนาใดไม่ทนทานต่อการพิสูจน์โดยเปิดเผย.. ศาสนานั้นๆ จะค่อยสูญสลายไปจากหมู่ชนคนรุ่นใหม่.. ที่จะพากันยึดถือทิฏฐิของตนเป็นใหญ่เหนือพระธรรมคำสั่งสอนของศาสดา... และพยายามใช้ทิฏฐิแห่งตนหักล้างคำกล่าวของพระศาสดา...
การล้มเหลวทางจิตวิญญาณของมนุษยชาติจะเกิดปรากฏมากขึ้น.. คงแต่ความเป็นหมู่ชน.. ที่แสดงความเป็นไปตามสภาพของความเป็นสัตว์สังคมในโลกให้ปรากฏ...
สังคมใด.. ยังพอมีสัตว์ประเสริฐอยู่บ้าง... สังคมนั้นก็จะสามารถประคับประคองตัวรอดพ้นไปได้ในท่ามกลางวิกฤตการณ์หลากหลาย.. ซึ่งมีกฎแห่งกรรมตามควบคุมดูแล...
สังคมใดขาดความเป็นสัตว์ประเสริฐของหมู่ชนในสังคมนั้น.. ก็จักปรากฏเพียงลักษณะของการกิน.. การถ่าย.. การเกิด.. การตาย.. การสืบพันธุ์ และความหวาดกลัว เป็นเครื่องหมายหรือลักษณะพฤติกรรมของหมู่ชนดังกล่าว.. ที่ไม่แตกต่างไปจากสัตว์เดรัจฉาน .. ในอบายภูมิ...
ด้วยวิกฤตการณ์ที่รุมเร้ามากขึ้น.. จนยากจะแก้ไขในหมู่ประชาคมโลก ดังเช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙.. หมู่ชนในฐานะสัตว์โลกที่สำคัญว่า.. เป็นเจ้าโลก จึงตื่นตระหนกและพยายามระดมสรรพกำลังความรู้ความสามารถเพื่อเอาชนะโรคันตภัยดังกล่าว
แม้ว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของชาวโลก.. จะเกิดการพัฒนาการในทุกด้าน.. จนโลกเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีชั้นสูงจนเข้าสู่ยุคไอที.. ที่สัตว์โลกภาคภูมิใจยิ่ง.. แต่ก็หาได้เอาชนะปัญหา.. อุปสรรค... สามารถขจัดภัยพิบัติต่างๆ ให้สิ้นไปได้ไม่...
แต่บนความเป็นจริงที่ปรากฏ.. กลับเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีรูปแบบและทิศทางของสรรพปัญหาเหล่านั้น ที่สามารถยกตัวขึ้นสู่ วิกฤตการณ์ เขย่าขวัญชาวโลกให้หวาดวิตกกังวลจนถึงขีดสูงสุดได้.. ดังการแพร่ระบาดของโรคร้ายจากไวรัสโควิด-๑๙.. ที่คร่าชีวิตชาวโลกให้ล้มหายตายจากไปจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์...
การไม่เข้าใจ ธรรมชีวิต .. ชาวโลกส่วนใหญ่จึงมองโรคร้าย กรณีไวรัสโควิด-๑๙.. เพียงแค่เชื้อโรค.. ด้วยการศึกษาที่ก้าวหน้าเพียงกายภาพ.. ที่สำเร็จความรู้ในชั้นการคิดนึก.. ที่อ้างอิงเหตุผลแบบโลกๆ .. จึงนำพามนุษยชาติไปสู่ความล้มเหลวของการเผชิญหน้ากับปัญหานั้นๆ... ที่สุดจึงไม่สามารถออกจากปัญหาเหล่านั้นได้.. ด้วยเพราะความไม่เข้าใจใน ธรรมชีวิตัง .. ในธรรมชาติแห่งชีวิต!!
เมื่อผสมผสานกับ.. ความอ่อนแอทางจิตวิญญาณของชาวโลกที่เคยรุ่งเรืองในอารยธรรมทางจิตใจ... ด้วยการเข้าถึงศาสนาที่มีคำสั่งสอนที่เป็น สัจธรรม... จึงได้เห็น กาลโกลาหลของชาวโลก อีกครั้ง... ที่สะท้อนความเป็นจริงของความล้มเหลวของการเจริญก้าวหน้าของ โลกวิทยาการ ที่ขาด ธรรมวิทยาการ จนโครงสร้างที่แข็งแกร่งของสังคมสัตว์โลก คือ ศีลธรรม อริยธรรม คุณธรรม.. ได้ย่อยสลายไปดังปรากฏในปัจจุบันที่ชาวโลก.. เต็มไปด้วย มิจฉาทิฏฐิ..
นี่คือผลพิษของการศึกษาที่ผิดแผกไปจาก พระสัจธรรม .. ของมนุษยชาติ.. ที่ส่งผลให้สัตว์โลกมากไปด้วยนานาทิฏฐิ.. ถือทิฏฐิเป็นใหญ่เหนือ สัจธรรม..
ทั้งนี้ ด้วยการเผยแผ่สัจธรรมที่ล้มเหลวของหมู่ชนผู้ทำหน้าที่สืบพระสัทธรรม.. คำสั่งสอน.. ที่ไม่ศึกษาปฏิบัติให้รู้แจ้งจริง เข้าใจจริง.. รู้เห็นตามความเป็นจริง.. และเข้าถึงประโยชน์ได้จริง.. ตามที่กล่าวอ้าง จึงกลายเป็นชนวนแห่งความล้มเหลวต่อการเผยแผ่พระสัทธรรมแท้.. จนนำไปสู่ความหายนะของสัตว์สังคม.. ที่เรียกว่า มนุษยชาติ.. ดังเรื่องที่แต่งเล่ากันมาว่า...
“..มีอุบาสกผู้หนึ่ง ใคร่อยากจะบรรลุพระนิพพานคือความดับทุกข์สิ้น อันเป็นจุดหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา.. จึงได้เข้าไปกราบพระอาจารย์ผู้ทรงความรู้ในสำนักเปรียญธรรมแห่งหนึ่ง เพื่อจะสนทนาธรรม ไต่ถามถึงหนทางการบรรลุถึงพระนิพพานตามที่ตั้งใจไว้.. ว่าจะต้องศึกษาปฏิบัติอย่างไร!?...
เมื่อได้เข้าไปกราบพระอาจารย์รูปดังกล่าวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคสมัย.. กล่าวพูดคุยกันไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันพอสมควรแล้ว จึงได้เอ่ยปากถามว่า..
อุบาสก : ..ท่านอาจารย์ครับ! ผมต้องการทราบว่า จะศึกษาปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า ที่จะนำไปสู่การบรรลุพระนิพพานว่า.. ได้อย่างไรครับ!?
พระอาจารย์ : โยมควรศึกษาให้เข้าใจใน อริยมรรคอันมีองค์ธรรมแปดประการ เพื่อการถือปฏิบัติตามหนทางดังกล่าว ที่เรียกว่า ทางสายกลาง หรือ มัชฌิมาปฏิปทา!
อุบาสก : หนทางสายกลาง หรือ อริยมรรค มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรครับ.. ช่วยอธิบายให้ทราบหน่อยเถอะครับ.. ผมใคร่รู้..?
พระอาจารย์ : หนทางสายกลาง คือ อริยมรรค..อริยมรรคคือ หนทางสายกลาง... มีสัมมาทิฏฐิ เป็นต้น.. มีสัมมาสมาธิ เป็นที่สุด..!
อุบาสก : สัมมาทิฏฐิ เป็นต้น อย่างไรครับ?
สัมมาสมาธิ เป็นที่สุด อย่างไรครับ?
พระอาจารย์ : แปลว่า ความเห็นชอบ คือ สัมมาทิฏฐิ!
แปลว่า ความตั้งมั่นชอบ คือ สัมมาสมาธิ... !
อุบาสก : ใครเห็นชอบ.. ใครตั้งมั่นชอบครับ... ท่านอาจารย์หรือกระผม...?
พระอาจารย์ : (เริ่มบ่นพึมพำเบา ๆ) ... และกล่าวว่า..
ไม่ใช่ใครชอบ.. ใครตั้งมั่น แต่เป็นความเห็นที่ถูกต้อง.. เป็นความตั้งมั่นที่ถูกต้อง!!
อุบาสก : ความถูกต้องที่ว่า.. เป็นอย่างไรครับ?
พระอาจารย์ : ..เรื่องความถูกต้อง.. มันอธิบายยาก แต่จะสรุปสั้นๆ พอเข้าใจว่า.. ถูกต้องคือ ไม่ผิด ไม่ผิดคือ ถูกต้อง.. เช่น เห็นถูกต้องตามความเป็นจริงว่า สิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา.. คงจะเข้าใจนะคราวนี้!
อุบาสก : ยังไม่เข้าใจครับ.. เพราะผมไม่เข้าใจว่าไม่เที่ยงเป็นอย่างไร.. อะไรคือความทุกข์.. และความเป็นอนัตตาเป็นอย่างไร!?...
พระอาจารย์ช่วยกรุณาอธิบายให้ละเอียดหน่อยเถอะครับ.. เพื่อกระผมจะได้มีความรู้-ความเข้าใจ.. บรรลุพระนิพพานได้จริง.. กระผมอยากไปพระนิพพานจริงๆ.. ไม่ได้พูดเล่น.. อายุก็มากแล้ว.. ไม่นานก็จะตายห่าแล้ว..!?
พระอาจารย์ : (ชักหน้าเครียด)..โยมพูดภาษาไม่ค่อยสุภาพ.. แต่เอาเถอะจะอธิบายให้ฟัง.... ฯลฯ
...บทสนทนาดังกล่าวดำเนินต่อไป ระหว่างพระอาจารย์กับอุบาสกผู้ปรารถนาพระนิพพาน.. ที่เกิดความหวาดกลัวในภัยของวัฏสงสารอย่างยิ่ง.. และแม้ว่าพระอาจารย์จะเพียรอดทนอธิบายอย่างไร.. ก็หาได้สร้างความเข้าใจแก่อุบาสก.. ได้ไม่ จนพึมพำออกมาเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะสิ้นปีเก่า พ.ศ. ๒๕๖๔... ว่า
“..สงสัยตัวเราจะสิ้นหวัง จะสิ้นหวัง ที่จะได้เข้าถึงพระนิพพานเสียแล้ว.. ในชาตินี้
ยิ่ง .. พระอาจารย์กล่าวว่า.. อนัตตาไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ตัวโยม.. เอ้า!!... แล้วเราจะไปนิพพานทำไมล่ะ.. ในเมื่อไม่ใช่ตัวเราไป... เวรกรรม!!”
ในวารดิถีเข้าสู่พุทธศักราช ๒๕๖๕ สาธุชนจึงควรเจริญสติ เพิ่มพูนปัญญา ประกอบความเพียรชอบ.. ดำเนินชีวิตไปบนหนทางสายกลาง.. ด้วยความเพียรชอบอย่างมีสติชอบและความเห็นชอบ.. เพื่อความถึงพร้อมใน ธรรมชีวี ย่อมชักนำพาตนเอง สังคม ประเทศชาติ.. ผ่านพ้นอุปสรรค ปัญหาต่างๆ ไปได้อย่างแน่นอน!!.
เจริญพร
dhamma_araya@hotmail.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศ. ดร.ไชยันต์ ไชยพร กับการสมัครชิง ตุลาการศาล รธน. มั่นใจ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม
การรับสมัครเพื่อสรรหาและคัดเลือก "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ใหม่สองคน เพื่อมาแทน ศ. ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
สว.จี้รัฐบาลถอน ร่างพรบ.สถานบันเทิงฯ ออกไปจากสภาฯ ไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้
สภาผู้แทนราษฎรได้ปิดสมัยประชุมไปแล้วเมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีการพิจารณา"ร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..ฯ"เพราะรัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการผลักดันให้สภาฯพิจารณาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.
“ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ๒๘ มี.ค.๖๘
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ..จากที่เล่าไปแล้วในฉบับก่อนว่า เมื่อ ๒๕-๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ได้ไปปฏิบัติศาสนกิจในโครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน...
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'โครงการกาสิโนของรัฐบาล : ตัวตนและเค้ามูลที่ปรากฎ'
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการด้านกฎหมาย เขียนบทความในรูปถาม- ตอบ เรื่อง "โครงการกาสิโนของรัฐบาล : ตัวตนและเค้ามูลที่ปรากฎ" โดยมีเนื้อหา ดังนี้
นิติวิศวกรรม กับการสืบหา สาเหตุตึก สตง.ถล่ม
การสืบสวนตรวจสอบเหตุ "ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน" (สตง.) ถล่มลงมา ในช่วงเกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศไทยเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ทำให้มีทั้งผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหาย
สังฆกรรมบนลำน้ำโขง .. หน้าพระธาตุพนม!! (ในร้อยใจไทยฯ จ.นครพนม)
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... ตามที่กล่าวไปใน “ปักธงธรรม” ฉบับที่แล้ว ว่า.. ระหว่าง ๒๕-๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ได้เดินทางไปขับเคลื่อนโครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน...