ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก เตือนภัย...ขบวนการ เซาะกร่อน พันธุ์ใหม่

การที่นายทักษิณกลับมาในลักษณะนี้ ถ้าจะบอกว่าเป็นการลดความขัดแย้ง แต่ผมว่ามันจะก่อความขัดแย้งในรอบใหม่...มันคงมีมูลความจริงในส่วนว่าคงมีการต่อรอง มีการตกลงกัน ที่ว่าเป็นดีลลับ  หรือมีการดำเนินการเป็นการลับ ผมว่ามี และตัวละครทั้งหลายที่เป็นตัวละครเปิดเผย..ก็คงคุยกันอยู่แล้วกับคุณทักษิณว่าจะเอาอย่างไร แบบไหน และก็ไม่รู้ว่าจะมีฟันเฟืองอื่นที่คุยกันแบบไหน ที่ทำให้ทักษิณกลับมาได้แบบสะดวก มีคนปูทาง

หลายฝ่ายยังคงให้ความสนใจถึงความเคลื่อนไหวของ  “ทักษิณ ชินวัตร” ที่หลังได้รับการพักโทษก็กลับไปใช้ชีวิตที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน แม้ตอนนี้ทักษิณจะได้รับการพักโทษแล้ว แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์การที่เขาไม่ได้เข้าไปอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว แต่ไปนอนอยู่ รพ.ตำรวจถึง 6 เดือน จนสุดท้ายได้รับการพักโทษ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นระบบสองมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมไทย ที่เลือกปฏิบัติและช่วยเหลือทักษิณแบบไม่สนใจกระแสสังคม  ที่ก็ไม่แน่อาจเกิดกรณีแบบทักษิณนี้ขึ้นอีกก็ได้ หากยังไม่มีการปฏิรูประบบกระบวนการยุติธรรมไทยโดยเฉพาะงานราชทัณฑ์

มีมุมมองต่อกรณีดังกล่าวจากนักวิชาการที่หลายคนคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ "รศ. ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย" ซึ่งในทางการเมืองก็ผ่านงานมาหลายอย่าง เช่น อดีตที่ปรึกษา คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่กำลังใช้ในปัจจุบัน  เป็นต้น ที่ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านรายการ "ไทยโพสต์  อิสรภาพแห่งความคิด"

โดยก่อนที่จะไปคุยกันถึงสถานการณ์หลังทักษิณได้รับการพักโทษ บทสนทนาเริ่มต้นโดยที่ “รศ. ดร.เจษฎ์” เล่าถึงเส้นทางชีวิตการเมืองของทักษิณ เพื่อพยายามอธิบายตัวตนของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ โดยกล่าวถึงกรณีมีบางฝ่ายมักพูดกันว่าควรก้าวข้ามทักษิณได้แล้ว โดยเขามองถึงคำพูดนี้ว่า เวลาพูดเรื่องก้าวข้ามทักษิณ เคยมีคนพูดว่าประเด็นปัญหาของเราไม่ใช่อยู่ที่ตัวทักษิณ แต่อยู่ที่คนอย่างตัวนายทักษิณ การที่เรามาคุยกันผ่านตัวทักษิณ  เพราะว่าจริงๆ มีคนอย่างตัวนายทักษิณอยู่จำนวนมาก ไม่ได้มีแค่นายทักษิณ แต่นายทักษิณอาจเป็นคนที่เป็นสุดโต่งของคนอย่างคุณทักษิณ

...ดังนั้นพอเราพูดถึงเรื่องตัวคุณทักษิณ ไม่ใช่ว่าเราก้าวข้ามคนคนนี้ไม่ได้ แต่มันเป็นคนแบบนี้ คนอย่างนี้ โดยมีคนคนนี้เป็นตัวอย่าง ซึ่งคนแบบนี้ก็มีเยอะอยู่พอสมควร  เพียงแต่ว่าคนแบบนี้ที่สุดโต่งถึงขนาดนี้ ก็อาจมีแค่คนนี้ ยังไม่มีคนที่สอง คนที่สาม เพราะความสุดโต่งของคุณทักษิณ สมัยที่ทำธุรกิจใหม่ๆ ก็วิ่งตีเช็ค แลกเช็ค ติดหนี้ติดสินอะไรก็ว่าไป ล้มลุกคลุกคลานมา หาหนทางมาในการที่จะแสวงหาผลประโยชน์ได้ มีครูทางการเมือง ซึ่งจริงๆ ท่านเป็นคนดีคือท่านปรีดา พัฒนถาบุตร แต่เมื่อเดินไปตามทาง เดินตามช่อง แม้จะเดินกับคนดีก็ไม่ได้แปลว่าจะดีตาม หรือเดินไปกับคนไม่ดี ก็ไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นคนไม่ดีตามเหมือนกัน  ที่นายทักษิณเดินก็คงไม่ได้เดินแบบอาจารย์ปรีดา เพราะมาหาหนทางในเส้นทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีการสื่อสาร เช่นโทรศัพท์ ธุรกิจดาวเทียม และว่ากันว่าถูกตบทรัพย์อยู่พอควร ผมว่านักธุรกิจที่มีเงินมากมายมหาศาล ก็อาจผ่านกระบวนการแบบนี้อยู่ จากที่คนเล่าให้ฟัง ที่ผมก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ จนรู้สึกว่าถูกตบทรัพย์แบบนี้ ไฉนเลยไม่เล่นเอง (การเมือง) ก็เลยไปอยู่กับพรรคที่ถือว่าเป็นพรรคคุณธรรม ณ ตอนนั้นคือพรรคพลังธรรม

“ดร.เจษฎ์” กล่าวต่อไปว่า ทำไปทำมาตัวนายทักษิณ อาจคิดได้ว่า หากเดินตามแนวคุณธรรมอาจไปไม่ได้ อาจไม่ถึงฝั่ง แล้วก็คิดและนำเสนอสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับสังคม แม้จะไม่ได้คิดเองทั้งหมด เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ และใครต่อใครหลายคนที่ช่วยกันคิด หรือการให้กู้ยืมเงิน จริงๆ ก็เคยมีมาแล้วสมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เรื่องนโยบายเงินผัน ทั้งหลายเหล่านี้ก็ต้องบอกว่า ทักษิณก็มีฝีมือในการประมวลเข้าด้วยกัน แล้วก็นำเสนอจนกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ ณ ตอนนั้นที่คนรู้สึกว่ามันใช่เลย

ถ้าเทียบกันคุณทักษิณก็เหมือนพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกลในเวลานั้น เป็นสิ่งที่คนรู้สึกว่านี่แหละที่การเมืองขาดหายไป พอได้เป็นนายกฯ สมัยรัฐบาลทักษิณ 1  (2544) ก็ถือว่าใช้ได้ มีคนอย่าง นพ.เกษม วัฒนชัย อยู่ด้วย (เป็น รมว.ทบวงมหาวิทยาลัย) ถ้าเป็นนักการเมืองก็ถือว่าเป็นนักการเมืองน้ำดี แต่พอผ่านไปสัก 3-4 ปีเริ่มชักไปกันใหญ่ จนท้ายที่สุดถูกรัฐประหาร (ปี 2549) ที่ต่อมาถูกปรามาสจากการปฏิวัติเมื่อปี 2557 ว่าการรัฐประหารเมื่อปี 2549 เสียของ ตอนนั้นใครต่อใครรวมถึงผมก็เคยพูดว่า ที่ไปบอกว่ารัฐประหารปี 2549 เสียของ แต่คุณจะของเสีย ซึ่งทุกวันนี้ก็เริ่มกลายเป็นของเสียแล้ว และกลายเป็นส่วนหนึ่ง กลายเป็นหินหรือบันไดสำคัญที่ทำให้นายทักษิณ เดินได้ค่อนข้างมั่นคง

...คนอย่างนายทักษิณเป็นคนที่มีสีสันมาก เคยล้มลุกคลุกคลานทางธุรกิจ และจากนักธุรกิจพลิกตัวเข้ามาเป็นนักการเมือง จนขึ้นไปเป็นนายกฯ และก็ตกลงจากการถูกรัฐประหาร ก็เป็นคนที่น่าศึกษา ผมถึงได้บอกว่า ณ ตอนนี้คนอย่างนายทักษิณมีเยอะ แต่นายทักษิณคือสุดโต่งที่สุดของคนเหล่านี้ 

-มองกระบวนการที่เกิดขึ้นกับนายทักษิณที่ได้รับการพักโทษ และตอนนี้กลับไปบ้านจันทร์ส่องหล้าแล้ว  รู้สึกเจ็บปวดกับประเด็นไหนมากสุด?

หากเป็นการส่วนตัว ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรเป็นการส่วนตัว แต่ต้องบอกอย่างนี้ว่ามันน่าเจ็บใจแทนประชาชน เหตุที่ผมเท้าความถึงเรื่องของทักษิณ เพราะผมต้องการดึงข้อต่อมาให้เห็นว่า ณ ปัจจุบันมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น และทำไมคุณทักษิณถึงได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ คือที่บอกว่า นายทักษิณเคยล้มลุกคลุกคลานจนทำให้เศรษฐกิจดูดี เพราะจากภาวการณ์ในช่วงปี 2539-2540 ที่ประเทศไทยเจอวิกฤตเศรษฐกิจ นายทักษิณอาจไม่ได้พูดหมด แต่ประชาชนอาจรู้สึกว่าคุณทักษิณใช้หนี้ให้บ้านเมืองหมดแล้ว หลังไปกู้เงินจากต่างประเทศมา ตอนนั้นเขาบอกว่าเราใช้หนี้ไปหมดแล้ว ซึ่งพูดแค่ส่วนเดียว แล้วก็ดึงเศรษฐกิจเข้ามา จนเศรษฐกิจประเทศผงกหัวขึ้นมาได้ แต่ตอนรัฐประหารปี 2549 ที่ คมช.ทำรัฐประหาร แล้วมีการตั้ง คตส.ขึ้นมาทำคดีต่างๆ จนสุดท้ายมีการยึดทรัพย์ไปสี่หมื่นล้านบาทตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ แล้วก็ดันน้องสาว คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้ายก็ถูกรัฐประหารโดย คมช. ในปี 2557

กระบวนการทั้งหมดทำให้คนที่ช่วยเรื่องการถวายฎีกา ก็คิดตรงนี้ว่าเมื่อหักกลบลบกัน ความผิดของทักษิณมีหรือไม่ ก็มี แต่จะถึงขั้นต้องจำคุกแปดปีหรือไม่ แล้วก็เคยโดนยึดทรัพย์ไปแล้วสี่หมื่นล้านบาท ก็พอทำเนา ด้วยพระมหากรุณาฯ พระองค์ท่านฯ ก็ได้มีพระราชวินิจฉัยหลังมีการยื่นถวายฎีกา ก็พระราชทานอภัยลดโทษให้เหลือหนึ่งปี

ซึ่งหนึ่งปีนั้น หากไม่ต้องการให้ประชาชนรู้สึกเจ็บอกเจ็บใจ ก็ควรต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เจ็บไข้ได้ป่วยก็อยู่ รพ.ราชทัณฑ์คอยดูแล ไม่ใช่แบบที่บางคนบอก เช่น จตุพร  พรหมพันธุ์ บอกตระบัดสัตย์ บางคนก็บอกสับปลับหรือปลิ้นปล้อน เพราะตกลงแล้วมันเป็นไปได้หรือที่ รพ.ตำรวจ  ที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตั้งอยู่ในพื้นที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดของ รพ.เสียหมด ถ้ากล้องเป็นแบบนี้ตามท้องถนน ใครถูกข่มขืนถูกตีที่ไหน ตำรวจอยู่ได้หรือ บ้านเมืองเราอยู่ภายใต้การดูแลของตำรวจแบบนี้หรือ แบบนี้ประชาชนถึงเจ็บใจ ตำรวจทั้งบาง แต่ผู้บัญชาการแต่ละคนไม่ทำอะไรเลย ตัว รพ.ตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่อยู่ในการดูแลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แล้วตัวนายเศรษฐามาได้ยังไง คนก็บอกว่า เศรษฐาไม่มีวันได้เป็นนายกฯ ถ้าไม่ได้ทักษิณ มันก็น่าเจ็บใจตรงนี้สำหรับกระบวนการตำรวจทั้งหมด

ข้องใจบทบาท 'พรรคก้าวไกล'

"ดร.เจษฎ์" กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กระบวนการทางการเมืองทั้งหลายก็พากันเข้ามาช่วยทักษิณ อย่างพอนายทักษิณออกจาก รพ.ตำรวจมา แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก็พากันออกมาให้สัมภาษณ์บอกว่าจะไปเยี่ยมเยียน การที่ออกมาจากโรงพยาบาลเป็นไปตามกฎหมายทุกอย่าง บางคนบอกว่านายทักษิณเป็นเหมือนคุณอาของตนเอ' ประชาชนเจ็บใจตรงไหน เจ็บใจตรงที่เลือกพวกนี้เข้ามาเพื่อให้ไปทำแบบนี้หรือ ท้ายที่สุดหลายคนที่อยู่ในคุก ที่บอกว่าเขาก็ต้องได้รับสิทธิเหมือนกัน สิทธิมนุษยชนต้องเท่ากัน แม้กระทั่งคนเลือกพรรคก้าวไกลก็ต้องเจ็บใจไปด้วย

"พรรคก้าวไกลรอตั้ง 180 วัน พอทักษิณออกจากโรงพยาบาลตำรวจ เพิ่งมาพูดว่าเป็นสองมาตรฐาน"

...ก่อนหน้านี้ ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เคยบอกว่า ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พระมหากษัตริย์จะตรัสอะไรโดยพระองค์เองไม่ได้  พระมหากษัตริย์จะทรงทำการสิ่งใดด้วยพระองค์เองไม่ได้  ต้องผ่านสภาฯ ต้องผ่านบุคคลต่างๆ ไม่สามารถแม้กระทั่งการมีพระราชอำนาจในการให้คำแนะนำ ในการให้กำลังใจหรือให้คำตักเตือนทำไม่ได้ แล้วลองคิดดูว่า คนที่ไปชงเรื่องให้นายทักษิณได้รับพระราชทานลดโทษ ประกอบไปด้วยใครบ้าง อย่างน้อยตัวละครที่เราเห็น พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา, นายวิษณุ เครืองาม แล้วก็เชื่อมมารัฐบาลชุดนี้  นายเศรษฐา ทวีสิน, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อ้าวไหนบอกว่าเป็นการเมืองคนละขั้วไม่ใช่หรือ พลเอกประยุทธ์ทำรัฐประหารน้องสาวคุณทักษิณด้วยเหตุทุจริต แล้วเคยบอกว่าจะทำการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง  แล้วบอกว่าเข้ามาเพื่อทำประโยชน์ให้บ้านเมือง แต่อยู่มา 8-9 ปี แต่ก็พาพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าไป (ร่วมรัฐบาล)

ตรงนี้คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้น่าเจ็บใจยิ่งไปใหญ่ ตกลงให้บ้านเมืองเดินไปได้หรือให้บ้านเมืองถอยหลัง แล้วอย่างที่ ดร.ปิยบุตรเคยบอกดังกล่าว แล้วลองไปทำตามที่ ดร.ปิยบุตรบอก ที่บอกว่าไม่ให้ทำการโดยพระองค์เอง แค่เห็นเรื่องนี้ก็คงรู้แล้วว่านักการเมืองมันปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมืองขนาดไหน ขนาดว่า ณ ขณะนี้ต้องบอกว่าระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของบ้านเรา พระราชอำนาจหลายอย่างยังมี แต่พวกคุณยังปู้ยี่ปู้ยำแบบนี้ แล้วหากไปใช้วิถีทางแบบที่ ดร.ปิยบุตรเสนอ มันจะเกิดอะไรขึ้น

แนวทางของพรรคก้าวไกล ผมถึงได้เคยบอกว่า แม้กระทั่งพวกคนที่เลือกพรรคก้าวไกลยังเจ็บใจเลยว่า พวกคุณทำอะไร ที่ผมเท้าความให้เห็นก็เพราะพอมาถึงวันนี้  เจ็บช้ำน้ำใจส่วนตัวไม่มีอะไร แต่ผมรู้สึกว่าแล้วประชาชนไม่เจ็บใจแย่เลยหรือ แล้วไม่ใช่ว่าเราซาดิสม์อยากให้นายทักษิณติดคุก หรือเจ็บไข้ป่วยแล้วล้มหายตายจากไป ก็ไม่ใช่

-กรณีทักษิณที่ได้รับการลดโทษ แต่แค่กลับมาวันแรกก็ออกจากเรือนจำไปนอน รพ.ตำรวจเลย บางคนบอกว่าทำแบบนี้คล้ายๆ กับลบหลู่ดูหมิ่น เซาะกร่อนหรือไม่?

ใช่ ถูกต้อง หากดูจากพระบรมราชโองการ คุณทักษิณ ขัดพระบรมราชโองการ ละเมิดพระราชอำนาจ ในพระบรมราชโองการที่โปรดเกล้าฯ ลดโทษให้ ต้องรับผิด ต้องรับโทษ และต้องทำตนให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง แต่นายทักษิณไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง เขาเคยบอกจะไม่ยอมติดคุกแม้แต่นาทีเดียว แล้ววันที่กลับมาก็แค่แวะผ่าน

ซัดพฤติกรรมทักษิณ ท้าทายประชาชน

-แต่บางคนก็บอกว่า ที่ทักษิณเคยพูดว่าจะไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว พูดไว้นานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาพูดตอนกลับมา?

ก็ใช่ แต่นั่นก็ยิ่งแปลว่า แบบนี้เขาเรียกว่าเย้ยฟ้าท้าดิน เย้ยฟ้า ตัวแทนฟ้า ถ้าเราพูดตามหลักของจีน แต่เดิม ฮ่องเต้คือตัวแทนฟ้า พระมหากษัตริย์ก็เป็นตัวแทนฟ้า ยิ่งพูดไว้ก่อนว่าจะไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว ก็คือเย้ยฟ้าไว้ก่อนเลย ท้าดินคือท้าประชาชนทั้งแผ่นดิน ว่าฉันทำแบบนี้แล้วจะทำไม ท้ายที่สุดก็อย่างที่ผมบอก ถ้าในแง่ของพระบรมราชโองการ ขัดพระบรมราชโองการ ละเมิดพระราชอำนาจ

นอกจากนี้ กระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย ฉันไม่สนกระบวนการยุติธรรมอะไร เพราะอย่าลืม "ชนชั้นใด ตรากฎหมาย ชนชั้นใดใช้กฎหมาย ก็เพื่อประโยชน์แห่งชนชั้นนั้น" แล้วชนชั้นใดที่ตราพวกกฎหมายเหล่านี้ขึ้นมา แล้วชนชั้นไหนที่ใช้กฎหมาย ก็คือพวกนักการเมือง ก็พากันช่วยนายทักษิณ ก็อย่างที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางคนบอกว่าดีใจที่นายทักษิณได้กลับมา

ขณะที่ "กระบวนการทางการเมือง" พรรคก้าวไกล เองเรื่องนี้ก็แบะๆ ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ส่วนบรรดาพรรคการเมืองที่อยู่กับฝั่งทักษิณไม่ต้องพูดถึง ทั้งหมดเหล่านี้พอเหตุบ้านการเมืองมันผ่านมา การที่นายทักษิณกลับมาในลักษณะนี้ ถ้าจะบอกว่าเป็นการลดความขัดแย้ง แต่ผมว่ามันจะก่อความขัดแย้งในรอบใหม่ เพราะอย่างที่ถามโดยใช้คำว่าเซาะกร่อนบ่อนทำลาย อย่าลืมว่าใครที่ไปจัดงานในวัดพระแก้ว และตอนนี้ใครกันที่ยังติดเรื่องคดีมาตรา 112  อยู่ ที่ก็ยังไม่รู้ว่าอัยการจะว่าอย่างไร หลังมีอัยการบางคนออกมาบอกเองว่าทักษิณป่วยจริง ก็ไม่รู้ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง

 ทั้งหมดนี้คุณทักษิณไม่ใช่ว่าไม่ได้มีปัญหาแบบที่คนว่าพรรคก้าวไกลทำ พรรคก้าวไกลอาจจะทำในแง่ของทางกายภาพ สำหรับคนจากบางส่วนของคนเช่นกลุ่มทะลุวัง  กรณีขบวนเสด็จฯ ที่เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่กรณีของนายทักษิณเล่นแบบซึมลึก

ผมไปรอบบ้านผ่านเมือง ประชาชนถามผมง่ายๆ ที่ผมก็ไม่อยากจะพูด คุณทักษิณทำแบบนี้ได้ทั้งหมดเพราะอะไร เพราะพระบรมราชโองการถูกไหม พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ มาจากใคร ถ้าเขาคิดแบบนี้ นี่มันเกินเซาะกร่อนบ่อนทำลาย พสกนิกรคลางแคลง 

-คือกำลังจะบอกว่าทักษิณควรจะเซฟตรงนี้ไว้?

ผมยังไม่เห็นใครเซฟตรงนี้ ตอนที่พลเอกประยุทธ์นำ ครม.กล่าวถวายคำสัตย์ปฏิญาณตน (ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ตอนเป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่สอง) แล้วขาดไปในเรื่องของรัฐธรรมนูญ ถ้าจะปกป้องพระองค์ท่าน ต้องแอ่นอกออกมาบอกว่าผมพูดผิด พูดไม่ครบ ขอพระราชทานอภัยโทษ ที่ข้าพระพุทธเจ้ากล่าวถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ ทำไมต้องรอให้มีคนไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ทำไมต้องรอไปถึงตรงนั้น

-ถ้าอย่างนั้น คนที่รักนายทักษิณและอยากให้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ควรแนะนำทักษิณอย่างไร เพื่อไม่ให้คนไทยรู้สึกเหมือนที่กล่าวข้างต้น?

ผมเชื่อว่าเขาไม่ฟัง แล้วเขาก็จะเดินหน้าต่อ ซึ่งในการเดินหน้า อย่างที่เราคุยกันเรื่องทักษิณที่มีการปู้ยี่ปู้ยำกันพอควรแล้ว สิ่งที่คุณทักษิณทำ ที่เราก็บอกว่าไม่ได้เซฟอะไรเลย แม้กระทั่งพลเอกประยุทธ์ก็ไม่ได้เซฟอะไร มีใครเซฟอะไรบ้าง ก็เห็นมีแต่พากันช่วยนายทักษิณ

แล้วถ้าเกิดพาคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาอีกในลักษณะแบบเดียวกัน ที่ผมไล่เลียงเรื่องราวนายทักษิณในช่วงต้น ที่ล้มลุกคลุกคลานมา อาจจะมีการสร้างคุโณปการให้กับบ้านเมืองบ้างในเรื่องเศรษฐกิจ แล้วถูกทำร้าย แล้วตัวยิ่งลักษณ์โดนอะไรบ้าง แล้วใช่หรือไม่ที่จะได้อะไรแบบเดียวกับนายทักษิณ

หากยิ่งลักษณ์กลับมาอีก แล้วให้เดินผ่านทัณฑสถานหญิง แบบไม่ได้ติด ไม่ได้จำคุกจริง แล้วบอกว่า "ปูป่วยค่ะ"  ซึ่งป่วยคราวนี้มันอาจต่างกัน แล้วจะทำอย่างไร ในเมื่อก็ไม่ได้อายุเกิน 70 ปี ไม่ได้ทุพพลภาพ ไม่ได้ป่วยหนัก คือถ้าจะทำ หากจะกลับมา แล้วจะเข้าสู่วงรอบของกรอบการได้รับพระราชทานอภัยโทษ ก็ว่ากันไป ซึ่งจริงๆ แล้วนานาประเทศเกณฑ์ที่เขาใช้ในการให้อภัยโทษ ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ประมุขของรัฐเป็นประธานาธิบดี หรือประมุขของรัฐเป็นพระมหากษัตริย์หรือพระราชินี การจะพระราชทานอภัยโทษเขาก็คิดกันหนัก คือทุจริต ค้าอาวุธเถื่อน ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ กระทำการที่เป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติ ความผิดเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่มีการให้อภัยโทษ

ตัวยิ่งลักษณ์โดนคดีทุจริต เหมือนทักษิณก็คดีทุจริตที่ได้รับการพระราชทานลดโทษไปแล้ว ตรงนี้อาจเป็นอะไรที่ธรรมเนียมโลกเขาไม่ค่อยทำกัน แต่ไทยเราอาจพอหาหนทางกันได้ แล้วหากยิ่งลักษณ์มาตามครรลองนี้ พอถึงวันที่เป็นปกติ หากเข้าไปอยู่ในเรือนจำ แล้วต่อมากลายเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ทำตัวสงบเรียบร้อย ถ้าแบบนี้ผมคิดว่ามันก็พอทำเนา แต่ถ้าไม่ใช่ จะเอาแบบทักษิณเลย ผมคิดว่าประชาชน อย่างที่ผมบอกมันน่าเจ็บอกเจ็บใจ แล้วท้ายที่สุดผมว่าประชาชนจะรู้สึกว่ากลไกบ้านเมือง ขื่อแปบ้านเมืองมันไม่มีเสียแล้ว

-ฟังดูเหมือนไม่เชื่อว่าทักษิณจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง มีโอกาสที่จะถอดบทเรียนเก่าๆ แล้วเปลี่ยนตัวเองแบบพลิกโฉม เป็นนิวทักษิณ?

ผมคิดว่าคุณทักษิณหล่อหลอมตัวเอง จนมาไกลเกินกว่าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมจึงไม่เชื่อว่าคุณทักษิณจะเป็นนิวทักษิณ คือคุณทักษิณหล่อหลอมตัวเอง จนมาไกลเกินกว่าจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แม้ต่อให้คุณทักษิณในวัย 40 กว่าปี เขาก็หล่อหลอมตัวเองมาในทิศทางนั้น และจากวัย 40 กว่ามาจนถึงวัย 70 กว่า ก็ยังหล่อหลอมตัวเองในแบบเดิม

ส่วนคนในตระกูลชินวัตรรุ่นใหม่ๆ ก็ไม่ได้จะเหนี่ยวรั้งอะไร เพราะเท่าที่ดูไม่เหนี่ยวรั้ง แต่จะเดินตาม อย่างพอตอนตั้งรัฐบาลถีบพรรคก้าวไกลออกไปได้ ก็รู้สึกว่าปีกตัวเองแข็ง เลือกตั้งชนะได้แล้วทำไม ก็เพียงแค่ใช้ไอโอ อย่างที่นายทักษิณเคยพูด และที่เคยบอกว่ามันจบแล้วครับนาย  ก็เริ่มต้นใหม่ได้ครับพี่ ตอนทักษิณมายังไปรับกันเลย ที่สำคัญที่สุดที่ผมบอกไว้ คุณทักษิณมีคนถวายฎีกาให้ และคนชงเหล่านี้ ก็ชงจนกระทั่งทักษิณได้รับพระราชทานลดโทษ ก็ทำให้ทักษิณก็รู้สึกว่าตัวเองเดินได้แบบสบายๆ  ทำไมต้องเปลี่ยนตัวเอง

-บางคนเช่น จตุพร พรหมพันธุ์ วิเคราะห์ไว้ว่ามีดีลลับ คือให้เศรษฐาเป็นนายกฯ สักระยะ จากนั้นจะให้แคนดิเดตนายกฯ คนอื่นที่ไม่ใช่ แพทองธาร ชินวัตร  มาเป็นนายกฯ ต่อ ถ้าไม่มีการเบี้ยวดีลเสียก่อน โดยหากทำตามดีล ทักษิณจะอยู่รอดปลอดภัย แต่หากเบี้ยวดีลความวุ่นวายจะตามมา?

ผมอาจไม่ได้คิดไปไกลอย่างที่คุณจตุพรพูดถึง แต่ผมว่ามันคงมีมูลความจริงในส่วนว่ามันคงมีการต่อรอง มีการตกลงกัน ที่ว่าเป็นดีลลับ หรือมีการดำเนินการเป็นการลับ ผมว่ามี

ตัวละครทั้งหลายที่เป็นตัวละครเปิดเผย อย่างพลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิตร หรือใครต่อใคร ก็คงคุยกันอยู่แล้วกับคุณทักษิณว่าจะเอาอย่างไร แบบไหน และก็ไม่รู้ว่า จะมีฟันเฟืองอื่นที่คุยกันแบบไหน ที่ทำให้ทักษิณกลับมาได้แบบสะดวก มีคนปูทางในการให้ทักษิณถวายฎีกา

ท้ายที่สุดพอมาถึงตอนนี้ ที่บอกว่าเป็นดีลลับ ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ตามทฤษฎีที่จตุพรบอก  หากมองตามเลนส์ของคุณจตุพรที่มอง มันจะเป็นเหตุแบบนั้น เพราะกว่าที่จะมาถึงตอนนี้ได้ ซึ่งตัวคุณทักษิณอาจทำให้ดีลลับเกิดปัญหา เพราะถ้าดีลลับแล้วมาแบบยื่นถวายฎีกา แล้วได้รับพระราชทานลดโทษ เข้าไปอยู่ในคุกหนึ่งปี  แต่อาจจะมีการเข้าออก รพ.จนครบหนึ่งปี ผมว่าดีลลับอาจเกิดได้ แต่พอทักษิณออกฤทธิ์ออกเดชถึงขนาดนี้ ดีลลับมันจะยาก เพราะหากเปลี่ยนตัวนายกฯ เศรษฐาลง อนุทิน ขึ้น ที่เคยให้สัมภาษณ์เช่นจะไปเยี่ยมทักษิณ มันจะกลายเป็นภาพชัดเกินไปหรือไม่ ประชาชนจะยอมโดนหลอกถึงขนาดนั้นหรือไม่ ซึ่งก็อยู่ที่ว่าข้อตกลงของพวกเขาคืออะไรกัน ที่พูดกัน ดีลลับ ดีลเปิดเผย

ยุบพรรคก้าวไกล ถ้าผิดจริง ก็ต้องยุ

-เรื่องที่มีการไปยื่นเรื่องให้ กกต.พิจารณาส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล คิดว่ามีโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะโดนยุบหรือไม่?

ต้องแยกเป็นสองส่วน โดยส่วนแรกคือกฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ถ้าตามกฎหมายหากต้องยุบก็ต้องยุบไป จะใหญ่โตขึ้นมา จะได้คะแนนมาอย่างไร อย่างที่ผมเคยบอก  ถึงหากมี สส.เต็มสภาฯ ก็ช่างเถอะ ยังไงหากกฎหมายให้ยุบก็ต้องยุบ

ส่วนที่สองในทางการเมือง ถ้าจะเติบใหญ่สยายปีก ถ้าจะปู้ยี่ปู้ยำทำลายบ้านเมือง ก็ต้องจัดการ ถ้าช่วยกันทำนุบำรุงบ้านเมือง พากันเดินไปในทิศทางที่เหมาะควร ก็ว่ากันไป ผมว่าต้องแยกเลย กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ถ้าจะต้องยุบตามกฎหมายก็ยุบไป ซึ่งท้ายที่สุดถ้ายุบก็ยุบ ก็ว่าไป

สำหรับคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครองของศาลรัฐธรรมนูญ ผมว่าศาลรัฐธรรมนูญท่านเมตตา และได้อธิบายความเมตตาดังกล่าวด้วย ไม่ใช่ว่าไปบิดพลิ้วกฎหมายเพื่อความเมตตาอะไร ท่านก็อธิบายว่าที่เป็นมา เพราะพวกเขาทำแบบนี้ๆ ซึ่งเขาห้าม แล้วอนาคตข้างหน้าที่มันมีช่วงต่อ  ถ้าหยุดมันเหมือนควบม้ามาถึงริมผา หากไปต่อก็ตกผา  นัยของคำวินิจฉัยก็คือ ที่ผ่านมาให้พอแล้ว ซึ่งถ้าประมวลรวมแล้วไปดูว่าคำร้องคืออะไร ต้องดูผ่านคำร้องด้วย ที่ก็คือหยุดแล้วหากไม่ทำต่อ แต่ถ้าทำต่อยังไม่หยุด ยังเดินหน้า อย่างที่ศาลบอก หรือยังมีการยึดโยงในส่วนการเคลื่อนไหวภาคประชาชน ซึ่งยังไม่หยุด ผมว่าก็อย่างที่ศาลบอกคือยังเดินต่อ แบบนี้เท่ากับว่ามีโอกาสถูกยุบ. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยี้ครม.สืบสันดาน บีบ ‘อิ๊งค์’ เร่งผลงาน ระหว่างทางมีแต่ ‘กับระเบิด’

เห็นหน้าตากันเรียบร้อยสำหรับ ครม.แพทองธาร 1 มีรัฐมนตรีหน้าใหม่ 12 คน ได้แก่ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย,

'อ.เจษฎ์' ซัดทหารจุดเริ่มต้นให้การเมืองเป็นแบบนี้ เสียศักดิ์ศรีเพื่อจะได้ตำแหน่ง

ที่ลานกิจกรรมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) จัดกิจกรรมปราศรัยในหัวข้อ "เปิดโปงระบอบทักษิณ" โดยแกนนำคปท.อ่านแถลงการณ์ในช่วงระหว่างการปราศรัย

จับตา 'ทักษิณ' คัมแบ็ก! ว่าราชการหลังม่าน 'ครม.สืบสันดาน'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กบเลือกนาย ครม.มือใหม่หัดขับ กับครม. ที่เป็น รปภ. จะเอาอย่างไหน