สังคมไทยภายใต้กระบวน การยุติธรรมหลาย มาตรฐาน 

ต้องยอมรับว่าหลายๆ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเราในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นทำให้ระบบสังคมโดยเฉพาะระบบย่อยหลายระบบ เช่น เศรษฐกิจ ครอบครัว สาธารณสุข ความเชื่อและศาสนามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเจริญเติบโตด้านวัตถุ โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า หรือการนำปัญญาประดิษฐมาประยุกต์ใช้งานและธุรกิจต่างๆ เราได้เห็นชุดความคิดใหม่ๆ ในขณะที่ประเทศได้เข้าสังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์แล้ว  (Complete Aged Society) คือ มีประชากรสูงวัยมากกว่าร้อยละ 14 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศและอีกเพียงไม่กี่ปีข้างหน้านี้เราก็จะพบกับสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) คือ มีประชากรสูงวัยมากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าเราจะขาดแคลนประชากรในตลาดแรงงานโดยเฉพาะแรงงานที่ต้องใช้ฝีมือและความเชี่ยวชาญพิเศษ  ความสามารถด้านการแข่งขันจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญแต่การดิ้นรนต่อสู้ เพื่อการหาเลี้ยงชีพจะยิ่งมีมากขึ้น

ปัญหาของการติดสินบน คอร์รัปชัน ความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ยิ่งถาถมปะดังเข้ามา กลุ่มผู้คนที่อยู่ได้ก็จะเกาะติดหนึบอยู่กับระบบอุปถัมภ์ซึ่งได้ฝังรากแก้วไว้อย่างแข็งแรงจนไม่สามารถจะทำให้หายไปจากสังคมได้ ระบบราชการเป็นอีกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนว่า “ค่าของคน อยู่ที่คนของใคร” และถ้าเป็นในแวดวงการเมืองแล้ว ยิ่งทำให้เห็นชัดชึ้นเพราะการเมืองเป็นเรื่องของ อำนาจและผลประโยชน์ ถ้ามีการจัดสรรกันได้ลงตัว ทุกคนก็รับได้ไม่ส่งเสียงใดๆ  

คำถามชวนคิดในบทความนี้คือเราควรมาคิดหาบรรทัดฐานของสังคมเพื่อความถูกต้องชอบธรรมหรือไม่ ถ้าเริ่มจากทุกคนต้องเคารพกฎหมายที่เป็นกติกากลางของสังคม หลายคนก็จะพูดว่ากฎหมายมีความไม่เป็นธรรมหรือเป็นสองมาตรฐาน คนนั้นขับรถชนคนตายติดคุก 5 ปี แต่คนนี้ขับรถชนตำรวจตาย ผ่านไปกว่าสิบปี คดีกําลังจะขาดอายุความ เป็นต้น

แต่ที่สำคัญมากจนขอขึ้นเป็นหัวข้อของบทความนี้คือประเทศเรากำลังอยู่ภายใต้กระบวนการยุติธรรมหลายมาตรฐานจริงหรือไม่ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านช่วยกันคิดและหาคำตอบร่วมกัน

ในประการแรก ประโยคที่ว่า กระบวนการยุติธรรมหลายมาตรฐานนั้น มีคำสำคัญอยู่ 3 คำคือ 1. กระบวนการ   2. ยุติธรรม และ 3. มาตรฐาน   โดยกระบวนการ หมายถึง ขั้นตอนการปฏิบัติงานหรือการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นจนงานเสร็จตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ และมาตรฐาน หมายถึง  สิ่งที่ถือเป็นเกณฑ์สำหรับรับรองกันทั่วไป ส่วนคำว่ายุติธรรม มีความหมายในตัวเองว่าผลใดๆ ที่เกิดขึ้นต้องเป็นธรรมและถูกต้องและที่สำคัญต้องสามารถอธิบายได้

ในประการที่สองนั้นกระบวนการยุติธรรมต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) โดยฉพาะในเรื่องของความโปร่งใส  ความสำนึกรับผิดชอบและความคุ้มค่า ซึ่งต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติ

ดังนั้น ถ้าเราตั้งสมมุติฐานว่ากระบวนการยุติธรรมประกอบด้วยผู้รับผิดชอบ 3 ระดับคือ ต้นน้ำ คือ ตำรวจ พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ กลางน้ำ คือ อัยการ และปลายน้ำ คือ ศาลยุติธรรม แล้ว  ปัญหาที่ต้องร่วมกันคิดวิเคราะห์ต่อคือในแต่ละระดับนั้น มีสิ่งที่ถือเป็นเกณฑ์สำหรับรับรองกันทั่วไป คือมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นในระดับต้นน้ำนั้น ใบสั่งจราจรสามารถเสียถูกลงแบบตั๋วเด็กได้หรือไม่ การไม่ใส่หมวกกันน๊อคหรือขับขี่สวนเลนทำได้หรือไม่ ในระดับกลางน้ำคือ อัยการนั้น มีมาตรฐานในการสั่งคดีเหมือนกันหรือไม่หากเป็นเรื่องระหว่างคนจนและคนรวยที่ขับรถชนคนตายโดยประมาทหรือในการตัดสินใจอุทธรณ์หรือไม่อุทธรณ์ในคดีต่างๆ เป็นต้น

สิ่งที่ชวนผู้อ่านให้น่าขบคิดคือในปลายน้ำซึ่งถือเป็นขั้นสุดท้ายของกระบวนการยุติธรรมนั้น หากศาลสูงสุดมีคำพิพากษาตัดสินแล้ว คำตัดสินดังกล่าวจะต้องถูกเคารพปฏิบัติโดยทุกฝ่าย ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้  ใช่หรือไม่ เพราะหากมีการตัดสินอย่างหนึ่งแล้วแต่ท้ายที่สุดนั้นคำตัดสินไม่ถูกบังคับปฏิบัติตามที่ปรากฏในคำพิพากษาแล้ว อาจถือได้ว่ากระบวนการยุติธรรมมีหลายมาตรฐาน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบสังคม โดยเฉพาะการเรียนการสอนในโรงเรียนกฎหมาย เพราะตัวบทกฎหมายจะไม่มีความสำคัญอีกต่อไป ซึ่งหากกระบวนการยุติธรรมของประเทศขาดความเชื่อถือในระดับสากลแล้ว ประเทศไทยคงจะไม่มีที่ยืนอย่างสง่างามบนเวทีโลกและการดำรงชีวิตต่อไปของผู้คนประชาชนจะขาดความเชื่อถือในกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของประเทศ  ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมหาคำตอบด้วยกัน

เวทีพิจารณ์นโยบายสาธารณะ                                                      

เทวัญ   อุทัยวัฒน์     

กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สว.ปฏิมา กังวลกระบวนการยุติธรรมไทยกำลังถูกสั่นคลอนหนัก!

นายปฏิมา จีระแพทย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ปัจจุบันนี้ เราต่างทราบดีว่า การรักษาความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศคื

'เสรีพิสุทธ์-โจ๊ก' เบี้ยวแจง กมธ.ปมทักษิณนอนชั้น 14 อดีตรองแพทย์ใหญ่ชิ่งบอกอยู่ช่วงเออรี่รีไรท์

'กมธ. ความมั่นคงฯ' ถกปม 'ทักษิณ' รักษาตัวชั้น 14 ด้าน 'บิ๊กโจ๊ก-เสรีพิศุทธ์' ไม่มา ขณะที่ 'ผอ.ราชทัณฑ์' ยัน เป็นไปตามกฎกระทรวง ส่วนอดีตรองแพทย์ใหญ่ ไม่ทราบเรื่องการรักษา อ้างอยู่ช่วงเออรี่รีไรท์-ลาพักร้อน

ทั่วโลกจับตา! 'คดีตากใบ' สะท้อนไทยล้มเหลว ปล่อยละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำ

แอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย หวั่นคดีตากใบหมดอายุความ กลายเป็นใบเบิกทางละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ชี้ชัด ทั่วโลกจับตาดูอยู่ เชื่อจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบนเวทีสาธารณะระหว่างประเทศต่อเนื่อง

ชวน 'นายกฯอิ๊งค์' ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปาก 'เหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต'

'อังคณา' ชี้รัฐบาลพท.-แพทองธาร ปฏิเสธความรับผิดชอบคดีตากใบไม่ได้ ชวนนายกฯ ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปากเหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต เตือนระวังคนรู้สึกไม่เป็นธรรม อาจเข้าร่วมขบวนการก่อเหตุ

สว. ห่วงบีอาร์เอ็นฉวย 'คดีตากใบ' โหมไฟใต้ วอนหน่วยมั่นคงป้องเหตุร้าย

'สว.' ห่วงสถานการณ์ชายแดนใต้ ชี้บีอาร์เอ็นฉวยคดีตากใบโหมไฟใต้ วอนหน่วยความมั่นคงบูรณาการปกครองรับมือ ป้องเหตุร้ายสถานที่ราชการ-ร้านค้า-ปั้มน้ำมัน-ชุมชนไทยพุทธ

'7 บิ๊กขรก.' พึงสังวร! หนีคดีตากใบ ต้องอยู่กับรอยเปื้อนใหญ่ตลอดชีวิต

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ผู้ต้องหาที่หลบหนีในคดีตากใบ ล้วนเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงทั้งสิ้น อาทิ