ขณะที่กำลังนับถอยหลังอำลาปีเก่า 2564 ต้อนรับปีใหม่ 2565 แต่หลายประเทศทั่วโลกกับเผชิญกับสถานการณ์ไวรัสโควิดโอมิครอน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศด้วย ทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อภายในประเทศไม่ให้ลุกลาม
ในปี 2565 เราควรจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งจากการท่องเที่ยวในประเทศและจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมกัน ตั้งแต่ 1.3 ถึง 1.8 ล้านล้านบาท ...เราจะจริงจังกับการท่องเที่ยวแบบดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเดินตามนโยบาย BCG Economy เพื่อให้การท่องเที่ยวมีความยั่งยืน
โดยผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่เมื่อวันอังคารที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศบค.มีมติให้ระงับการลงทะเบียนเข้าประเทศแบบ Test & Go และ Sandbox ไว้เป็นการชั่วคราว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.2564-4 ม.ค.2565 ยกเว้นโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ที่ยังเปิดรับนักท่องเที่ยวตามปกติ โดยหลังจากวันที่ 4 ม.ค.2565 ที่ประชุมจะพิจารณาสถานการณ์เพื่อกำหนดมาตรการอีกครั้งต่อไป
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนอยู่ในระบบขณะนี้ประมาณ 2 แสนราย ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 1.1 แสนคน อยู่ระหว่างรอการอนุมัติ 9 หมื่นคน ยังสามารถเดินทางเข้าไทยตามแผนเดิมได้ตามปกติ แต่ให้กำหนดมาตรการตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR รวม 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ และจะมีการติดตามตัวอย่างใกล้ชิด
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำว่า มาตรการต่างๆ ที่ออกมาเพื่อรับมือกับโควิดสายพันธุ์โอมิครอนดังกล่าว เป็นเพราะหากไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาจะเป็นความสุ่มเสี่ยง เพราะหากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดไม่กลับไปกระเพื่อมอีกครั้งแบบช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา ก็ไม่เป็นไร แต่หากกลับไปสู่จุดเดิมอีก สิ่งที่รัฐบาลทำและลงทุนไปทั้งหมดก็ต้องบอกเลยว่าล้มเหลว ซึ่งการจะให้คงไว้ เราต้องไม่เสียทั้งสองฝั่ง คือด้าน เศรษฐกิจ เราก็ต้องเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนด้าน สาธารณสุข เราต้องพยายามรักษายันไว้ให้อยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องบอกว่ายาก ไม่ใช่ง่าย
มาตรการดังกล่าวไม่ได้เป็นการปิดประเทศ แต่ขอให้เดินทางเข้ามาในระบบแซนด์บ็อกซ์ คือเข้ามาได้ แต่ให้อยู่ในพื้นที่จำกัดเหมือนแซนด์บ็อกซ์ เช่น เข้ามาในภูเก็ตได้ หลังตรวจ RT-PCR เรียบร้อย ก็เดินทางท่องเที่ยวได้เลย จากนั้นช่วงที่เข้ามาแล้วมาอยู่จนกระทั่งถึงช่วงวันที่ 6-7 ก็ทำ RT-PCR อีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เดินทางต่อได้เลย เมื่อเกิดเหตุการณ์ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนแบบนี้ เราก็ไม่อยากไปเดินตามหลังประเทศต่างๆ ที่เริ่มพบการแพร่ระบาดสูง ไม่อย่างนั้นเหมือนกับว่าเรากลับไปนับหนึ่งใหม่
แต่ถ้าเราคุมตรงนี้แล้วสามารถยุติได้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เราจะสามารถกลับมาเดินต่อได้ ดังนั้นก็ต้องเพิ่มความเข้มข้น แต่นายกรัฐมนตรีไม่มีนโยบายที่จะปิดประเทศ เพราะนายกรัฐมนตรียืนยันมาตลอดว่าเราเดินมาถึงจุดนี้ได้ เราคงไม่ย้อนกลับไปยังจุดเดิม
อย่างที่ทำโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ จะพบว่าเมื่อช่วง 1 ก.ค. ประเทศไทยเรามีการกระเพื่อมของการติดเชื้อโควิดวันละร่วมสองหมื่นคนในช่วง ก.ค.-ส.ค.2564 ที่เป็นช่วงซึ่งพีกที่สุดในประเทศไทย หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ทยอยลดลง จนทุกวันนี้ก็อยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 คน
เพราะฉะนั้นเราคงไม่อยากให้ย้อนกลับไปสู่จุดนั้นอีก เพราะแม้วันนี้โอมิครอนจะแพร่ระบาดไปทั่้วโลกแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้แสดงอาการว่ามีความรุนแรงเหมือนกับสายพันธุ์เดลตา แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ วันนี้คนไทยฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร-เข็มสองฉีดไปแล้วกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย
ส่วนวัคซีนเข็มสามก็ใกล้เคียงประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว ณ เวลานี้ โดยวัคซีนก็จะทยอยเข้ามามากขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565
เมื่อถามถึงอนาคตของการท่องเที่ยวไทย ในช่วงกำลังต่อสู้กับวิกฤตโควิดจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ เพราะรายได้หลักของประเทศไทยคือรายได้จากการท่องเที่ยว รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวตอบว่า ตอนนี้ที่กลายเป็นพันธุ์เป็นโอมิครอน ถือเป็นความกังวลของคนทั้งโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าในยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา มีการแพร่กระจายค่อนข้างเยอะ เรื่องเหล่านี้ต้องมองถึงสถานการณ์การควบคุมและการดูแลนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย
สำหรับผมมองในสองมิติ โดยมิติแรกคือ มิติที่เป็นโอกาส กับมิติที่เราเสียโอกาส โดยมิติที่เราเสียโอกาสก็คือประเทศต้นทางที่เราคาดหวังนักท่องเที่ยวให้เขาเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ประเทศต้นทางก็อาจมีการล็อกดาวน์ประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ ที่เริ่มล็อกดาวน์ประเทศ แต่ก็มีอีกหลายประเทศเหมือนกับไม่ได้ล็อกดาวน์ แต่ว่านักท่องเที่ยวประเทศเขาเมื่อมาเที่ยวประเทศไทยและเดินทางกลับเขาต้องกักตัว ที่เป็นปัญหาประการหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอหรือเลื่อนการเดินทาง
ส่วนมิติที่คิดว่าเราได้ประโยชน์ก็คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นคนกลุ่มวัยเกษียณและวัยทำงานที่ออกมาทำงานต่างประเทศได้ และกลุ่มผู้ทำงานที่ทำงานจากทุกที่ (Digital nomad) ก็จะเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะเปิดรับคนกลุ่มเหล่านี้เข้ามาสู่ประเทศไทย ที่ก็ขึ้นอยู่กับมาตรการที่รัฐบาลประกาศออกมา โดยหากเป็นมาตรการที่เขารับได้ คนกลุ่มเหล่านี้ก็จะทะลักเข้ามาประเทศไทย เพราะเมื่อเข้ามาแล้วเขาสามารถใช้ชีวิตเหมือนปกติได้ โดยหากเข้ามาแล้วเขายังไม่เดินทางกลับ เขาก็จะใช้โอกาสนี้ทำงานในประเทศไทย หรือมาพักผ่อนในประเทศไทย
ยิ่งโดยเฉพาะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาวของยุโรป-สหรัฐอเมริกา-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ที่โดยปกติเขาจะมาพักผ่อนท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นปกติอยู่แล้ว ก็จะเป็นการเริ่มให้เขาตัดสินใจในการเลือกว่าจะอยู่ประเทศเขาอย่างมีความกังวล หรือจะตัดความกังวลแล้วมาพักผ่อนในประเทศไทยเลยดีหรือไม่ ก็จะเห็นได้ว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มันก็มีทั้งมิติที่เป็นข้อดีและข้อเสีย
ผมหวังว่าจากที่ประเทศไทยเรามีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง จนได้รับการประกาศให้อยู่ในอันดับที่ห้าของโลก ต้องดูว่าเราจะยังคงไว้ได้หรือไม่ จากอดีตเราเคยได้อันดับหกของโลก และเคยตกไปอยู่อันดับหนึ่งร้อยยี่สิบกว่า ซึ่งความพลิกผันค่อนข้างรุนแรง แต่สิ่งนี้หมายถึงว่า ขณะที่เราเจอโควิดระลอกแรก ระบบสาธารณสุขเรามีความสามารถ โดยเฉพาะมีการเตรียมความพร้อมเรื่องการป้องกันและดูแลผู้ติดเชื้อ
พิพัฒน์-รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวต่อไปว่า สำหรับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยที่จะเดินหน้าในปี 2565 เรื่องการกำหนดยุทธศาสตร์ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและการกีฬา ได้พยายามจะนำทั้งการท่องเที่ยวและการกีฬามา merge เข้าหากัน เช่น การจัดแข่งขันกีฬา หากจัดการแข่งขันในระดับนานาชาติ ก็สามารถดึงให้คนเข้ามาท่องเที่ยวได้ หรือแฟนคลับที่ตามนักแข่งขันกีฬาระดับโลกที่จะมีอยู่ในต่างประเทศ เราก็ต้องหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้เขาเข้ามาท่องเที่ยว หรือการจัดอีเวนต์ท่องเที่ยว ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ไม่ใช่ว่าต้องจัดแต่อีเวนต์ท่องเที่ยวอย่างเดียว เพราะอีเวนต์บางอย่างก็สามารถนำเรื่องกีฬาไปผนวกไว้ด้วยได้ เช่น จัดอีเวนต์ในการแข่งขันแล้วก็เชิญชวนให้คนเข้ามาท่องเที่ยว โดยเฉพาะการจัดอีเวนต์ท่องเที่ยวและการแข่งขันกีฬาในพื้นที่ชุมชนทั้งระดับตำบลและอำเภอ โดยให้มีกิจกรรมกีฬาเข้ามาด้วยในการท่องเที่ยว เช่น ปั่นจักรยาน-วิ่งมาราธอน เพื่อให้นำกีฬาเข้ามาเสริมในเรื่องการท่องเที่ยวด้วย
สำหรับการพรีเซนต์ว่าประเทศไทยเรามีอะไรดีในการเชิญชวนนักท่องเที่ยวหรือพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ทำให้เกิดการท่องเที่ยวทำให้คนสนใจ วันนี้ประเด็นหลักก็คือการดูแลและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งวันนี้โควิดไม่ได้เป็นอะไรที่ถึงกับหนัก แต่ก็ทำให้คนทั้งโลกรู้สึกกังวลจนส่งผลทำให้การเดินทางลดน้อยลง
เราจึงต้องแสดงศักยภาพว่าประเทศไทยเรามีอะไรดี เรามีระบบการป้องกันอย่างไร สาธารณสุขเราออกมาตรการอะไรออกมาบ้าง ซึ่งการออกมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็ต้องขอเข้าไปร่วมและหารือใน ศบค. สิ่งเหล่านี้ก็คือไม่ใช่ว่าจะเอาสาธารณสุขมาเป็นหลักเพียงอย่างเดียว ถ้าเอามาตรการของกระทรวงสาธารณสุขหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็จะเป็นการปิดกั้นประเทศไทย หรือบล็อกประเทศไทยโดยการปิดประเทศแบบกลายๆ คือไม่ได้มีการประกาศ แต่สร้างมาตรการออกมาแบบแข็งโป๊ก เราก็ต้องสอดแทรกเข้าไปว่ามาตรการที่จะออกมาต้องผ่อนคลายหรือลดลงมาบ้างได้หรือไม่
ตั้งเป้ารายได้ท่องเที่ยวไทย 2565
1.3 ถึง 1.8 ล้านล้านบาท
พิพัฒน์-รมว.การท่องเที่ยวฯ ย้ำว่า เป้าหมายเรื่องการท่องเที่ยวในปี 2565 ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ตั้งเป้าไว้ว่าเราต้องมีการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยคนไทยประมาณ 160 ล้านคน/ครั้ง ที่เพิ่มจากปี 2564 ที่ตัวเลขจนถึงเดือนธันวาคม 2564 อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านคน/ครั้ง และสำหรับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทย ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ 5-15 ล้านคน
โดย 5 ล้านคนหมายถึงการรับนักท่องเที่ยวชาวยุโรป-สหรัฐอเมริกา-เกาหลี-ญี่ปุ่น เราประมาณการว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสักประมาณ 4-5 ล้านคนได้ แต่หากจะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถึงระดับ 7-8 ล้านคน เราควรจะเปิดให้อินเดียกับรัสเซียเข้ามา โดยอำนวยความสะดวกให้เขาเข้ามาประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น แต่หากจะให้ได้ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาถึง 15 ล้านคน เราคงต้องเปิด border สี่ประเทศเพื่อการเดินทางเข้ามาทางบกคือ มาเลเซีย-ลาว-เมียนมา-กัมพูชา
เรื่องดังกล่าว ผมนำสถิติของปี 2562 มาเป็นตัวตั้ง ที่พบว่าเรามีนักท่องเที่ยวจากสี่ประเทศรอบบ้านเรา ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยโดยทางบกประมาณสิบล้านคน โดยที่บอกตัวเลขข้างต้นดังกล่าวไม่ได้รวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน เพราะผมยังไม่มีความมั่นใจว่านักท่องเที่ยวจากจีนจะเดินทางเข้ามาได้เมื่อใด ก็หวังว่าหากมีวัคซีนที่คุมโอมิครอนได้ ผมมั่นใจว่าครึ่งปีหลังของปี 2565 ประเทศจีนน่าจะให้มีการท่องเที่ยวโดยให้คนต่างชาติเข้าไปเที่ยวที่จีนได้ และให้คนในประเทศจีนออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศได้ ซึ่งจะไปสอดคล้องกับการจัดแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ของประเทศจีนในเดือนกันยายนปีหน้า ที่หวังว่าก่อนเดือนกันยายนจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนออกนอกประเทศมาเที่ยวที่ประเทศได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นก็ตั้งเป้าตัวเลขว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวที่ประเทศไทยประมาณสองล้านคน
"ก็จะเป็นการตอกย้ำว่าในปี 2565 เราควรจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งจากการท่องเที่ยวในประเทศและจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมกัน ตั้งแต่ 1.3 ถึง 1.8 ล้านล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขที่ผมกล่าวมาข้างต้น"
ถามเพื่อขอคำตอบที่ชัดเจนมากขึ้นว่ายุทธศาสตร์ที่ต้องการดึงนักท่องเที่ยวจากสี่ประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาไทย มีแผนงานอย่างไร รมว.การท่องเที่ยวฯ อธิบายแนวทางดังกล่าวไว้ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เคยนำเสนอต่อ ศบค.ว่าอยากให้มีการเปิด border บางส่วนเฉพาะเมืองต่อเมือง ตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2564 แต่ ศบค.ก็มีข้อกังวลเลยขอเลื่อนไปเป็น 16 มกราคม 2565 ซึ่งกรอบเวลาดังกล่าวต้องรอผลการหารือด้วย เพราะในอนาคตที่ทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะเดินทางมาเยือนประเทศไทยคงจะมีการหารือกันว่าระหว่างไทยกับมาเลเซีย ว่าจะมีโอกาสหรือไม่ที่จะเปิด border แล้วให้คนทั้งสองประเทศเดินทางไปมาหาสู่กันได้ เพราะในความเป็นจริงแล้วประชาชนในพื้นที่ 4-5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนของทั้งสองประเทศก็มีจำนวนไม่น้อยที่เป็นเครือญาติกัน ก็จะมีการเดินทางข้ามไปมาอยู่แล้ว เช่น เพื่อเดินทางไปเยี่ยมญาติ
ในปี 2562 เรามีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาในประเทศไทยเกือบห้าล้านคน ซึ่งเยอะเป็นอันดับสองรองจากประเทศจีนที่ในปีดังกล่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาไทย 11 ล้านคน หากเราเดินไปตามเป้าหมายและแผนงานทั้งหมด ก็คิดว่าเราน่าจะทำได้ตามเป้า
ที่สำคัญการที่เราจะเชิญชวนให้คนมาเที่ยวประเทศไทย เราต้องมาเริ่มว่าในปี 2565 ประเทศไทยเราจะมีความจริงจังกับการท่องเที่ยวแบบดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเดินตามนโยบาย โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน BCG Economy (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว) ที่นายกรัฐมนตรีประกาศให้ปี 2564-2565 เป็นปีแห่งนโยบายที่ให้แต่ละหน่วยงานไปดูเรื่อง Bio-Circular-Green Economy ดังนั้นการรณรงค์เชิญชวนให้คนท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็ต้องนำเรื่องเหล่านี้มาเป็นหลักในการวางแผนงานด้วย เช่น การเน้นเรื่องการท่องเที่ยวสีขาว เน้นเรื่องความสะอาด ความยั่งยืน ความเป็นธรรม
เดินหน้าการท่องเที่ยวแนวใหม่
New Chapters
ลงไปถึงฐานราก-ชุมชนทั่วประเทศ
พิพัฒน์-รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวต่อไปว่า มองว่าจากสถานการณ์โควิดในช่วงเกือบสองปีที่ผ่านมา ทุกอย่างในประเทศไทย โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู โดยเฉพาะแหล่งวัฒนธรรม จากการที่เราว่างเว้นการต้อนรับนักท่องเที่ยว เราก็ต้องทำการบูรณะซ่อมแซม ปรับปรุง รวมถึงการให้ความรู้จัดอบรมผู้นำชุมชนต่างๆ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่จะนำเสนอออกสู่ตลาดโลกใหม่ๆ ว่าเรามีชุมชนอะไรบ้าง
อย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยบอกว่า Amazing New Chapters เขาก็ต้องบอกว่า New Chapters แต่ละแห่งมีอะไรบ้าง มีอะไรที่เป็นสิ่งใหม่ๆ ที่จะนำเสนอสู่ตลาดโลก ที่ต้องไม่ใช่เหล้าเก่ามาใส่ในขวดใหม่ แล้วมาบอกว่านี้คือ New Chapters แบบนี้คงไม่ใช่
รายละเอียดของแผนงานยุทธศาสตร์ทั้งหมดในปีหน้า ผมได้มีการสัมมนากับหน่วยงานทั้งหมดในการดูแลของกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว-องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)-กรมการท่องเที่ยว-ททท.-กรมพลศึกษา-การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ผมได้ให้ทุกหน่วยงานไปคิดว่าในปี 2565 จากนโยบายเรื่อง BCG แต่ละหน่วยงานจะทำอะไร และ New Chapters จะมีสิ่งใหม่ๆ คืออะไรบ้าง รวมถึงให้ไปคิดว่าที่นายกรัฐมนตรีย้ำเสมอว่าต้อง พลิกโฉมประเทศไทย ทางหน่วยงานทั้งหมดมองว่าจะพลิกได้อย่างไร
เพราะในฐานะที่เราต้องเชิญชวนคนต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวประเทศไทย ให้เขานำเงินมาใช้ในประเทศเรา เรามีหน้าที่คือเป็นกระบอกเสียงของประเทศไทยและคนไทยทั้งประเทศ เราต้องร่วมกันพูดออกไปว่า เราจะช่วยนายกฯ อย่างไร ในการพลิกโฉมประเทศไทยตรงนี้ สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ต้องลงไปดำเนินการ และพยายามจะประกาศออกมาก่อนปีใหม่ หรือภายในไม่เกินครึ่งเดือนแรกของเดือนมกราคมปีหน้าให้ได้ว่า สิ่งที่พวกเราอยากจะทำและอยากจะเปลี่ยนจะมีอะไรบ้าง
พิพัฒน์-รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองนั้น เป็นเรื่องที่ ก.การท่องเที่ยวฯ ให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะ การท่องเที่ยวชุมชน ที่เราจะให้ลงไปในระดับชุมชนทุกจังหวัด เพราะเมืองหลักเขามีแผนงานของเขาแล้ว โดยการท่องเที่ยวชุมชนเป็นนโยบายของนายกฯ ที่ให้กระจายรายได้สู่ชุมชน เพราะถือว่าชุมชนเป็นฐานรากของประเทศไทย หากเราสามารถกระจายรายได้สู่ชุมชนได้ ก็จะทำให้ฐานรากของประเทศไทยเริ่มแข็งแรง ที่ก็จะทำให้ประเทศแข็งแรงตามไปด้วย และเพื่อให้การท่องเที่ยวมีความยั่งยืน ก็จะส่งเสริมในเรื่องการนำโมเดล BCG มาเป็นตัวตั้ง รวมถึงประเด็นที่นายกรัฐมนตรีไปประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP 26 ที่กลาสโกว์ สกอตแลนด์ มาเป็นตัวตั้งอีกจุดหนึ่ง โดยกำลังคิดว่าจะจับมือกับกระทรวงทรัพยากรฯ อย่างไร ในการทำเรื่อง การท่องเที่ยวสีเขียว ที่เน้นการดูแลธรรมชาติ ลดสภาวะโลกร้อน
เมื่อเราถามถึงในปี 2565 ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะมีมาตรการหรือแคมเปญในการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวอะไรออกมาอีกหรือไม่ นอกเหนือจากที่เคยทำก่อนหน้านี้ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน รมว.การท่องเที่ยวฯ เปิดเผยว่าจะเป็นอย่างที่บอกข้างต้น เช่น เรื่อง New Chapters ที่ต้องดูว่าจะมีอะไรที่เป็นสิ่งใหม่ เป็นการพลิกโฉมประเทศไทย
ส่วนแคมเปญต่างๆ อย่าง ทัวร์เที่ยวไทย ที่เป็นโครงการลักษณะคนไทย หากจะไปเที่ยวก็เป็นการเที่ยวลักษณะไปเป็นกรุ๊ปทัวร์ โดยรัฐบาลจะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายสูงสุดต่อหนึ่งคนไม่เกินคนละห้าพันบาท หรือสี่สิบเปอร์เซ็นต์ โดยการเดินทางต้องไปกับบริษัททัวร์ ซึ่งมีข้อแม้ว่าบริษัททัวร์ที่นำเที่ยวต้องมีมัคคุเทศก์ทุกทิศ เพราะที่มีการออกแคมเปญดังกล่าวนี้มาก็เพื่อต้องการช่วยกลุ่มมัคคุเทศก์-รถเช่า-รถทัวร์-บริษัททัวร์ เพราะเป็นกลุ่มที่เขาลำบากมาก จึงพยายามออกแคมเปญสนับสนุนให้พวกเขามีงานทำ ซึ่งก็ยอมรับว่าไม่ประสบความสำเร็จ ที่ผมแยกวงเงินห้าพันล้านบาทออกจากโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งถึงวันนี้ตัวเลขคนใช้สิทธิ์น่าจะไม่เกินสองหมื่นสิทธิ์จากที่โครงการตั้งไว้ที่หนึ่งล้านสิทธิ์ ซึ่งจากการหารือกับ ททท.และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก็คงต้องมีการคืนสิทธิ์ โดยคาดว่าอาจจะต้องคืนถึงแปดแสนสิทธิ์ คืนกลับไปให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เป็นเพราะว่าสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต้องปิดวงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทแล้ว โดยการปิดวงเงินกู้ดังกล่าว ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไม่ได้ขอการต่ออายุของโครงการออกไปตั้งแต่เดือนกันยายน เพราะฉะนั้นโครงการจะสิ้นสุดในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งถึงเดือนมกราคม ผมมองว่ายังไงไปถึงหนึ่งแสนหรือสองแสนสิทธิ์ก็ถือว่าเยอะมากแล้ว เพราะฉะนั้นตั้งใจว่าจะคืนไปแปดแสนสิทธิ์
โดยเมื่อกระทรวงการท่องเที่ยวฯ คืนไปแปดแสนสิทธิ์ ก็คือสี่พันล้านบาท จะมีการขอแปลงสี่พันล้านบาทมาเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกันในปี 2565 พร้อมกับจะขอวงเงินกู้ห้าแสนล้านบาท อีกสองล้านรูมไนต์ ก็เกือบๆ จะประมาณสักสามล้านรูมไนต์ ก็จะมาเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวเพื่อให้ได้ตามเป้าคือ 160 ล้านคน/ครั้ง โดยรัฐบาลสนับสนุน 40 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม คิดว่าทางนายกรัฐมนตรีคงสนับสนุน แต่แนวทางดังกล่าวได้มีการหารือเบื้องต้นไปยังสภาพัฒน์แล้ว เพื่อจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.ต่อไป ต้องยอมรับว่าโครงการทัวร์เที่ยวไทยไม่ค่อยได้รับเสียงตอบรับมากนัก เพราะวันนี้คนไทยส่วนใหญ่ก็จะเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองกันหมด ไม่มีใครไปกับทัวร์ ส่วนมากก็จะไปกันเป็นแบบครอบครัว แต่หากไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก ส่วนใหญ่ก็จะขับรถไปเที่ยวกันเอง
การเมืองในพื้นที่ภาคใต้ในอนาคตเป็นการต่อสู้กันระหว่างสามพรรคการเมือง ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในเวลานี้ทั้งหมดคือ พรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย แต่ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีเพิ่มขึ้นมาคือ พรรคประชาชาติ
อนึ่ง ผลการประชุม ครม.เมื่อ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามอบของขวัญปีใหม่ โดยการขยายเวลาการใช้สิทธิ์โครงการทัวร์เที่ยวไทย จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.2565 เป็น 30 เม.ย.2565 และเพิ่มจำนวนห้องพักโครงการเราเที่ยวด้วยกันอีก 2 ล้านห้อง กำหนดการสิ้นสุดโครงการวันที่ 30 เม.ย.2565.
'พิพัฒน์'ขุนพลภาคใต้ภูมิใจไทย
สามพรรครัฐบาลต้องแข่งกันเอง
บทบาททางการเมืองของ พิพัฒน์ รัชกิจประการ-รมว.การท่องเที่ยวฯ หลังจากนี้น่าสนใจไม่น้อย เมื่อผลการประชุมใหญ่พรรคภูมิใจไทยที่นครราชสีมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา เลือกให้เขาขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อรับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ ซึ่งในความเป็นจริง พิพัฒน์ ก็เป็นคีย์แมนของภูมิใจไทยในการรับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้มาตลอดอยู่แล้ว
ส่วนบทบาทหลังจากนี้นั้น พิพัฒน์ บอกไว้ว่า ที่ผ่านมาดูแลพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ให้กับพรรคภูมิใจไทยมาตลอด อย่างการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ตัวผมและภรรยาคือคุณนาที รัชกิจประการ ก็ได้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง จนพรรคภูมิใจไทยชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ ได้ ส.ส.เขตเข้ามา 8 คน และหลังเลือกตั้งก็ยังเดินหน้าทำงานการเมืองต่อเนื่องทุกสัปดาห์มาตลอดตั้งแต่เลือกตั้งเสร็จ โดยต้องขอออกตัวว่า การที่มารับตำแหน่ง รมว.การท่องเที่ยวฯ เป็นเรื่องของอุบัติเหตุทางการเมือง เพราะโดยปกติแล้วควรเป็นคุณนาที ที่จะต้องมาเป็นรัฐมนตรีมากกว่าไม่ใช่ผม แต่เมื่อผมเข้ามาแล้ว เป้าหมายในการทำงานก็คือจะทำอย่างไรให้กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาทำงานแบบเดินหน้า ภายใต้การทำงานแบบบูรณาการกัน เพื่อทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นที่รู้จัก และสร้างความสำคัญของกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาให้เป็นกระทรวงทางเศรษฐกิจให้ได้ สิ่งนี้คือเป้าหมายที่ผมตั้งไว้
พิพัฒน์-รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวอีกว่า การที่ได้รับเลือกให้เป็นรองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้ เป้าหมายต่อจากนี้ก็คือ จะต้องทำให้พรรคภูมิใจไทยยังคงตัวเลข ส.ส.เขตในพื้นที่ภาคใต้ที่มีอยู่ 8 คน ต้องคงไว้ให้ได้ ที่ก็จะต้องนำผลงานที่คนของพรรคภูมิใจไทยที่ได้ทำมาตลอดสองปีกว่าที่ผ่านมา สิ่งใดที่พรรคเคยพูดเอาไว้ตอนหาเสียง และถึงตอนนี้ได้ทำไปแล้ว ไปบอกกับประชาชน ซึ่งหากถูกใจประชาชนก็ขอให้ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นก็มาลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย อย่างผมเองที่รับผิดชอบกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็จะต้องต่อสู้อย่างหนักในช่วงโควิด เพื่อที่จะได้นำเสนอผลงานของผมและผลงานของพรรคภูมิใจไทยให้คนภาคใต้ได้มาเลือกผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย
จากการแก้ไขรัฐธรรมนูญและแก้ไขระบบการเลือกตั้งที่ทำให้ภาคใต้มี ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้วที่มี 50 คน และจะเพิ่มมาเป็นประมาณ 57 คน โดยพรรคภูมิใจไทยน่าจะได้ ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นมา อาจสัก 2 คนจากที่มีอยู่ตอนนี้ 8 คน แต่หากถามผมในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ ผมก็อยากได้มากกว่านั้น ส่วนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.เขตอยู่ 1 คน เราก็อยากได้เพิ่มเป็นสัก 2-3 คน แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่พี่น้องประชาชนทางภาคใต้ที่เขาจะดูว่าผลงานของพรรคเป็นอย่างไร
ถ้าเห็นว่าสิ่งที่พรรค พูดแล้วทำ มีผลงานปรากฏ โดยเฉพาะนโยบายที่พรรคได้ประกาศไว้เป็นนโยบายตั้งแต่ตอนหาเสียงและได้มีการทำออกมาแล้ว เช่น กัญชาเสรี การแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. การพัฒนาระบบคมนาคม โดยเฉพาะถนนหนทางต่างๆ ทั่วประเทศ การส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวทั้งการท่องเที่ยวภายในประเทศ และการทำให้ชาวต่างชาติกลับเข้ามาเที่ยวเมืองไทยหลังจากการหยุดชะงักจากผลกระทบโควิด เป็นต้น ก็ขอให้ช่วยเลือกคนของพรรคภูมิใจไทย ผมก็มองว่าการต่อสู้ทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่ที่ผลของงานมากกว่า อย่างผมเป็น รมว.การท่องเที่ยวและการกีฬา ผมก็ต้องดูว่าจะมีผลงานอะไรไปนำเสนอให้ประชาชนได้พิจารณาได้บ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นคำตอบว่าพี่น้องในภาคใต้จะเลือกพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ทั้งหมดก็อยู่ที่พี่น้องประชาชน
พิพัฒน์-ที่เป็นคนสงขลา กล่าวว่า การที่ขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ในทางการเมืองเรียกกันว่าแม่ทัพภาคใต้ของพรรค ก็จะพยายามทำอย่างดีที่สุด เพราะอย่างตอนนี้ก็มีการประกาศออกมาจากอีกสองพรรคการเมือง คือ พลังประชารัฐและประชาธิปัตย์ ที่มีการประกาศคนที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้
"อย่างนายกฯ ชาย หรือเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องบอกว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกัน เราคุ้นเคยกันมาก กินด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน เขาเป็นคนที่สนิทมากกับผม ส่วนพลังประชารัฐก็ทราบว่าได้มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้ด้วย ที่ทราบว่าพื้นเพเป็นคนโก-ลก
การเมืองในพื้นที่ภาคใต้ ผมมองว่าในอนาคตเป็นการต่อสู้กันระหว่างสามพรรค ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในเวลานี้หมดคือ ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย แต่ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะมีเพิ่มขึ้นมาคือ พรรคประชาชาติ ของท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา จะเป็นสี่พรรคการเมือง"
พิพัฒน์-รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย วิเคราะห์สถานการณ์การเลือกตั้งในอนาคตต่อไปว่า จากกติกาเลือกตั้งที่ใช้บัตรสองใบในการเลือกตั้งรอบหน้านั้น มองว่าบัตรสองใบเป็นโอกาสของพรรคการเมืองขนาดใหญ่ เป็นระบบที่ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคขนาดเล็ก ซึ่งบัตรสองใบคงทำให้พรรคขนาดเล็กสูญพันธุ์ จากการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบการคิดคำนวณจำนวน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ทำให้จะเกิดการรวมตัวหรือการควบรวมของพรรคขนาดเล็กเพื่อทำให้เป็นพรรคขนาดกลาง หรือพรรคขนาดเล็กก็จะไปอยู่กับพรรคใหญ่หรือพรรคขนาดกลาง ดังนั้นในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็จะพยายามอย่างดีที่สุด โดยอย่างน้อยก็ต้องรักษาแปดที่นั่ง ส.ส.เขตในภาคใต้เอาไว้ให้ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุทธัจจะ .. ในวังวนแห่งการตื่นธรรม .. ยุคไอที!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระรัตนตรัย... สัทธายะ ตะระติ โอฆัง.. บุคคลข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา.. โอฆะ หมายถึง ห้วงน้ำ ที่มีกระแสเชี่ยวกราก พัดพาสัตว์ทั้งหลายให้ตกไปในกระแสน้ำนั้น ยากจะข้ามฝั่งไปได้
’ห้าพันตารางกิโลเมตร‘ เท่ากับกี่ตารางนิ้ว ? เงื่อนตายของ MOU 2544 ?
MOU 2544 ไม่ใช่กรอบการเจรจาเพื่อหาข้อตกลง ”แบ่งผลประโยชน์(ปิโตรเลียม)“ เท่านั้น แต่หาข้อตกลง “แบ่งเขตแดน(ทะเล)“ ด้วย !
คำนูณ ผ่าปม 2 ได้ 3 เสีย ถ้าไม่ยกเลิก MOU 2544
ความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นเรื่อง MOU 2544 ที่เชื่อมโยงถึงเกาะกูด, การหาแหล่งพลังงานแห่งใหม่ในพื้นที่อ้างสิทธิไทย-กัมพูชา ที่มีการประเมินกันว่ามีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท ยั
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???
เคาะ 'รองปลัดคลัง-อธิบดี กสร.' นั่งบอร์ดไตรภาคี ลุยขึ้นค่าแรง 400 ของขวัญปีใหม่
'กระทรวงแรงงาน' เตรียมเสนอชื่อ 'ตัวแทน กสร.-รองปลัดคลัง' นั่งบอร์ดไตรภาคี ขง ครม. 19 พ.ย. เดินหน้าขึ้นค่าแรง 400 บาท เป็นของขวัญปีใหม่
อย่าได้ประมาทในธรรม.. “เมื่อใจตรง .. จะตรงใจ”..
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. เดินทางกลับมาจากอินเดีย เมื่อ ๗ พ.ย.๒๕๖๗.. ถึงกรุงเทพฯ ๘ พ.ย.๒๕๖๗ หลังจากไปร่วมประชุม “The First Asian Buddhist Summit 2024” ที่นิวเดลี งานนี้จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของรัฐบาลอินเดีย