สังคมโกลาหล .. “ยุคคนช่างคิด .. บรรพชิตชอบไลฟ์”!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. คำสั้นๆ ที่ว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป..” กลายเป็นวจีที่โลกไม่เคยลืมเลือน สะท้อนความจริงว่า.. "ทุกสรรพสิ่งเป็นอย่างนี้เป็นธรรมดา.. ต้องเป็นอย่างนี้ จักไม่แปรเปลี่ยนไปจากความเป็นอย่างนี้!

แล้วทุกอย่างมันก็ผ่านไปจริงๆ.. อย่างไร้ความอาลัยไยดีต่อกัน.. มีแต่เราที่ไปหลงไยดี ไม่ยอมลืมเลือน ไปยึดถือยึดมั่น.. ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่ เห็นอยู่ว่า สรรพสิ่งเหล่านั้นผ่านไปแล้ว อย่างไม่ได้มีเยื่อใยใดๆ....

ความไม่เข้าใจธรรม.. จึงนำไปสู่ความไม่เข้าใจโลก.. วิปลาส อคติ วิบัติ จึงเป็นผลพวงที่ปรากฏในดวงจิต.. ที่มีภาวะเกิด-ดับ สืบส่งต่อกันไปเป็นกระแส.. ตราบที่มีแรงและความเร็วในการขับเคลื่อน..

“โลกทั้งใบ เกิดจากใจดวงเดียว” เป็นอีกประโยคที่ให้ความหมายกินใจยิ่งนัก หากรู้จักพิจารณาอนุวัตตามธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า..

..มโนเป็นประธาน มโนเป็นใหญ่ ทุกอย่างสำเร็จด้วยมโน..

คราวนี้.. จึงวุ่นวายไม่รู้จบ เมื่อมโนไม่เป็นธรรม.. ก่อเกิดมโนวิปลาสธรรมขึ้น จึงนำไปสู่ สัญญาวิปลาส จิตตวิปลาส.. ทิฏฐิวิปลาส                    วิปลาสทั้งสาม จึงเกลื่อนกลาด แพร่ระบาดอยู่ในกระแสสังคมโลกทุกระดับ ก่อเกิด อำนาจมิจฉาทิฏฐิ ขึ้นครอบคลุมจิตใจ.. ..โลกมืดจึงมิดเพราะมิจฉาทิฏฐิปกคลุม

สังคมมืดมิดเพราะอันธพาลปกครอง..

จึงเป็นคำกล่าวที่ยากจะปฏิเสธ เพราะเป็นความจริงที่ไม่มีใครๆ ในโลกจะมาคัดง้างให้สิ้นไปได้ ติรัจฉานวิชาจึงแพร่ระบาดไม่สิ้นสุด.. และยิ่งเลว.. หยาบ.. สกปรก.. จนเกินยากจะรับได้ ดังที่เป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วในเดรัจฉานวิชาที่ดำ มืด สกปรก.. นับเป็นเวรกรรมของคนยุคนี้จริงๆ...

ในขณะที่ติรัจฉานเผยแพร่เกิดบานสะพรั่งไปทั่วทุกสังคม.. ไม่เว้นแม้ในเขตศาสนาที่มีคำสั่งสอนหักล้างอวิชชา.. มิจฉาทิฏฐิ.. ติรัจฉานคติทั้งหลาย

ความโกลาหลในการเผยแพร่คำสั่งสอนก็เริ่มสับสนวุ่นวาย ด้วยนักบวชแต่ละค่าย ต่างประกาศตนทางระบบไอทีที่เผยแพร่ไปทั่วทุกหมู่ชนว่า.. ตนเป็นศาสดาเหนือศาสดา.. สามารถนำพาทุกสัตว์เข้าสู่พระนิพพานได้ เพียงแค่เชื่อถือ ปฏิบัติตามแนวทางของตนที่พร่ำสอนเผยแพร่ออกอากาศถ่ายทอดไปทั่วด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยในยุคห้าจี..

การปลูกสร้างความเชื่อใหม่.. ที่เกิดจากทิฏฐิของตน จึงเกิดขึ้นด้วยการอ้างอิงว่า.. ตนเข้าใจธรรม ตรงกับศาสดาเจ้าของหลักธรรมคำสั่งสอน.. เพื่อดึงดูดความสนใจของบรรดาผู้ปรารถนาบุญกุศล หวังผลการเข้าถึงพระนิพพานในชีวิตนี้.. ที่มันทุกข์หนักหนาในการเกิดมามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ที่วุ่นวาย ยากนิ่งสงบ..

ทิฏฐิความเชื่อแบบใหม่.. จึงปฏิเสธความเห็นความเชื่อแบบเก่าๆ คร่ำครึ ไปอย่างสิ้นเชิง โดยสร้างความเห็นความเชื่อแบบทันสมัยขึ้นมา ด้วยการอ้างอิงตำรับตำรา.. การค้นคว้าด้วยระบบทันสมัย การเข้าถึงศูนย์ข้อมูลได้ทั่วถึงในทุกมิติทั้งกว้างขวางและลึกซึ้ง...

อะไรๆ จึงเกิดขึ้นอย่างยากจะยับยั้ง บนความคิดใหม่ที่ว่า.. ของเก่าต้องถูกทำลาย.. ด้วยการสร้างของใหม่ขึ้นมาแทน...

การใช้เทคโนโลยีทุกช่องทาง เพื่อทำลายอำนาจเก่า.. แนวความเชื่อเก่าๆ ที่สืบสานมาเป็นวัฒนธรรมประเพณี ที่แม้จะอ้างอิงศาสนา จึงเกิดขึ้น.. อย่างไม่เคยปรากฏ.. เพื่อนำไปสู่ที่สุดแห่งยุคการทำลายศาสนา..

การพูดถึง สังคมในลักษณะปฏิเสธศาสนา จึงเกิดมีมากขึ้นในยุคนี้ โดยนำจุดอ่อนของคนที่ทำหน้าที่ในการสืบทอดศาสนามาเป็นเป้าโจมตี โดยเฉพาะในพวกที่ประพฤติผิดแผกไปจากหลักธรรมคำสั่งสอน

ศาสนา.. ทุกศาสนา.. จึงตกที่นั่งเดียวกัน เมื่อกระแสวัตถุนิยมในโลกยุคเทคโนโลยีได้เปิดแนวรบเข้ามาทุกด้าน เพื่อการทำลายศาสนาให้อ่อนกำลังลงและค่อยๆ บีบรัดสิ้นไป เพื่อการยึดครองโลกแบบเบ็ดเสร็จของ กิเลสมาร...

มารในคราบคน.. คนในคราบมาร.. ผีในคราบเทวดา.. ยักษ์ พญานาค.. ในคราบเทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ จึงผุดบานเป็นดอกเห็ด ต้อนรับหน้าฝนที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยตัณหาราคะ..

ทุกกระแสข่าวสารในโลกปัจจุบัน จึงตอบโจทย์มารทุกข้อว่า.. พร้อมแล้วที่มารจะยึดครองโลกให้สมฐานะความเป็นเจ้าโลกที่แท้จริง.. ด้วยการยึดหัวใจประชาคมโลกให้อยู่ภายใต้อุ้งตีนมาร..

การกระทำใดๆ ในโลกยุคนี้ จึงหนีไม่พ้นเฉโกโฉเกไปจากธรรม.. ที่มากไปด้วย วิจิกิจฉา

วิจิกิจฉาในธรรม.. จึงเป็นเครื่องย่อยสลายอำนาจธรรมให้สิ้นไป จนแม้ในสุดของวงการศาสนาก็เต็มไปด้วย วิจิกิจฉา

ยิ่งปรากฏ นักแสดง นักบรรยาย.. นักเทศน์ ที่ยึดติดอัตตาตัวตนมากเท่าไหร่.. ยิ่งได้เห็นภาพความเป็นจริงของสังคมวิจิกิจฉามากขึ้นเท่านั้น..

ความวิจิกิจฉา.. ความลังเลสงสัยในธรรมตัวเดียวจริงๆ ที่สะท้อนความเป็นจริงในภาพรวมทั้งหมดของทั้งศาสนจักรและอาณาจักร..

จึงหนีไม่พ้นโลกธรรมครอบงำ ทิฏฐิครองจิต ตัณหาผูกจิตใจ.. ให้สัตว์ทั้งหลายตกเป็นทาสของ มิจฉาทิฏฐิ ที่ยิ่งโอ้อวดมากเท่าไร.. ก็ยิ่งมิจฉาทิฏฐิ มากเท่านั้น..

มิจฉาทิฏฐิ .. จึงกลับมาบงการศาสนจักรให้มากไปด้วย ศาสนพิธี ศาสนวัตถุ.. ที่ส่งผลด้อยค่าศาสนธรรมและศาสนบุคคล จึงทำให้พระสัทธรรม (พระพุทธศาสนา) ดำรงอยู่ได้ไม่นาน สมดังพระพุทธพจน์ที่ว่า

“เมื่อพระพุทธองค์ปรินิพพานแล้ว เหตุปัจจัยที่จะทำให้พระสัทธรรมดำรงอยู่ไม่นาน ก็คือ บรรดาภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัย มีพฤติกรรม ๗ ประการ คือ

ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในพระศาสดา

ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในพระธรรม

ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในพระสงฆ์

ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในสิกขา

ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในสมาธิ

ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในความไม่ประมาท             และไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในปฏิสันถาร...”

จึงไม่แปลกที่กระแสสัทธรรมปฏิรูปจะไหลวนเข้ามาครอบคลุมพระสัทธรรมดั้งเดิมอีกครั้ง.. จนยากจะเข้าใจว่า อะไรคือหลักธรรมคำสั่งสอนที่แท้จริง.. และจะศึกษาปฏิบัติอย่างไร เพื่อการเข้าถึงแก่นธรรม.. สาระธรรม ในพระสัทธรรมนั้นได้จริง.. เพื่อการรู้จริง ทำจริง และจบจริง.. ในชาตินี้.. ที่ วัตถุก้าวหน้า.. แต่จิตวิญญาณ.. ถอยหลัง” ที่มากไปด้วยการสอนให้สำเร็จนิพพานด้วยการฟัง พูด นึก คิด.. และการปฏิบัติแบบตื้นๆ ด้วยความเข้าใจภาษาอริยธรรมที่ผิดเพี้ยนไปด้วยจิตปุถุชน.. อันเป็นเหตุนำไปสู่การสั่งสอนที่ปฏิเสธศีลธรรม.. ปฏิเสธจริยธรรม.. โดยอ้างอิงว่า เป็นความเก่าโบราณคร่ำครึ.. ที่ไม่ควรอ้างอิงให้มุ่งสู่การสำเร็จปัญญาส่วนเดียว.. ที่เป็นแก่นพระศาสนา.. ซึ่งแนวทางคำสอนตามทิฏฐิดังกล่าวแพร่หลายมากในยุคปัจจุบัน

..ที่คนในสังคมช่างคิด.. บรรพชิตชอบไลฟ์/Live เพื่อขายตนเองว่าเป็นผู้รู้.. เป็นผู้วิเศษ สามารถแก้กรรม สะเดาะเคราะห์ บอกวิธีการดับทุกข์ให้กับทุกคนได้จริง.. ที่เข้มขลังยิ่งกว่าญาณใดๆ ของพระอริยเจ้า.. จนหมู่ชนผู้ขาดความรู้ความเข้าใจในธรรม พากันไหลหลงเข้าไปเสียเงิน-เสียทอง-เสียเวลากันอย่างหน้ามืดตามัว.. จนต้องอุทานว่า เวรกรรมจริงๆ สัตว์โลกทั้งหลาย!!.

 

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เทวฤทธิ์ -กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ เสรีนิยมก้าวหน้า ปฏิรูปสภาสูง

สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ชุดปัจจุบัน 200 คน จะประชุมร่วมกันนัดแรกในวันอังคารนี้ 23 ก.ค. โดยมีระเบียบวาระสำคัญที่จะให้สว.ทั้งหมดร่วมกันประชุมลงมติ นั่นก็คือ

“ศาสนกิจในอินเดีย .. ณ นครปูเน่” น้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ๒๘ ก.ค.๖๗ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ นครปูเน่ รัฐมหาราษฏระ อินเดีย เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการสร้างวัดแห่งแรกของชาวพุทธในอินเดีย

อังคณา สว. 2567 ภารกิจ-สิ่งท้าทาย สภาสูง กับโมเดลข้อเสนอ สภาเดี่ยว

การทำงานของสมาชิกวุฒิสภาชุดล่าสุด ที่เรียกกันว่า "สว. 2567" กำลังจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้ คาดหมายกันว่า การนัดประชุมวุฒิสภาเพื่อเลือก

บทธรรมถวายเป็นพระราชกุศล .. ในมหามงคลครบ ๖ รอบ “ราชธรรม .. สู่การเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย” (ตอนที่ ๗)

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. พระพุทธเจ้าได้ตรัส หลักการปกครองตามแบบธัมมิกสูตร ว่า..

ดร.มานะ-ว่าที่ สว. 2567 ความเป็นอิสระไม่มีอยู่จริง เรื่องใบสั่งก็คงมีบ้าง ไม่มีบ้าง

หนึ่งในผู้ผ่านการคัดเลือก 200 รายชื่อให้เตรียมเข้าไปทำหน้าที่ "สมาชิกวุฒิสภา" (สว.) ชุดใหม่ ที่น่าสนใจ ก็คือ "ดร.มานะ มหาสุวีระชัย อดีต สส.ศรีษะเกษ" ที่เคยสังกัดพรรคพลังธรรมและพรรคประชาธิปัตย์ตามลำดับ

บทธรรมถวายเป็นพระราชกุศล .. ในมหามงคลครบ ๖ รอบ “ราชธรรม .. สู่การเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย” (ตอนที่ ๖)

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ได้เขียนคำกล่าวสอนใจไว้บทหนึ่งว่า.. ถึงมีอำนาจ วาสนา สักปานไหน