สัตยาธิษฐาน ถวายพระกุศล.. ณ กองทัพเรือ

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา เมื่อ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ กองทัพเรือและวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ได้ร่วมกันจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายเป็นพระกุศลแด่พระองค์ท่าน โดยมี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานในพิธีฯ

การจัดงานในวันดังกล่าว.. เป็นการจัดเนื่องในวาระครบ ๑ ปี ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงมีพระอาการประชวรและทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

แม้ว่าจะมีการเตรียมการจัดงานกันอย่างกระชั้นชิด แต่ด้วยความพรั่งพร้อมของกำลังพลกองทัพเรือ ผนวกกับความรักและศรัทธาของชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่มีต่อพระองค์ท่าน จึงได้เห็นพลังขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ จนนำไปสู่ความสำเร็จของการจัดงานมหากุศลดังกล่าวในทุกๆ ด้านที่กำหนดไว้

ดังได้เห็นภาพความพร้อมเพรียงของคณะนายทหารเรือและภริยา.. ร่วมกับตัวแทนพสกนิกรชาวไทยจากทุกภาค ที่เข้าสู่ห้องประชุมเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ ด้วยความตั้งใจมั่นในการร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ฯ จึงได้เห็นการดำเนินไปของพิธีการอย่างมีระบบระเบียบ ถูกต้องเหมาะสม โดยมีบุคคลสำคัญที่มีความจงรักภักดี เทิดทูนในคุณความดีของพระองค์ท่านเข้าร่วมกันมากมาย เช่น

พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรีและภริยา

พลเรือเอกพิเชฐ ตานะเศรษฐ อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม

พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ และภริยา

พร้อมทั้งนายทหารเรือระดับสูง ทั้งผู้บังคับบัญชาที่เกษียณไปแล้วและที่ยังคงทำหน้าที่อยู่ในตำแหน่งจำนวนมาก ที่เข้าร่วมงานมหามงคลในครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้ประสานงานฝ่ายคณะศิษย์ศรัทธา-ตัวแทนพสกนิกรชาวไทยที่เข้าร่วมงาน ซึ่งมีบทบาทยิ่งต่อความสำเร็จของงานดังกล่าว ได้แก่

นางเมทินี ชโลธร อดีตประธานศาลฎีกา

คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

โดยงานพิธีมงคลธรรมในครั้งนี้ ได้รับพระมหากรุณาพระราชทานผ้าไตรและเครื่องไทยธรรม จาก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกทั้งยังได้รับประทาน เทียนส่องธรรม จาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อให้สมกับเป็นพิธีมหามงคลธรรม น้อมถวายเป็นพระกุศล...

การดำเนินพิธีเป็นไปตามลำดับด้วยความเรียบร้อยสวยงาม นับตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป ซึ่งเริ่มต้นด้วยการแสดงธรรมนำอบรมจิตภาวนา โดย พระราชวัชรสุทธิวงศ์ (พระอาจารย์อารยวังโส) ซึ่งได้บรรยายธรรมไปตามลำดับ ประกอบการอบรมจิตภาวนา ตั้งแต่ความเข้าใจใน หลักธรรมของอริยสัจธรรม และ สติปัฏฐานธรรม เพื่อจะได้นำไปสู่ความรู้ความเข้าใจใน พระสัทธรรมแท้จริง ในพระพุทธศาสนาว่ามีคุณประโยชน์อย่างไร และวิธีการเข้าถึงซึ่งอำนาจแห่งพระสัทธรรม ด้วยการยึดหลัก “พึ่งตน-พึ่งธรรม” ตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน

“การพึ่งตน-พึ่งธรรม” .. ที่จะนำไปสู่ประโยชน์ ๓ ประการ ได้แก่ ประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น และประโยชน์แห่งธรรม.. จึงได้ถูกบรรยาย แจกแจง แสดง ไปตามหลักธรรมที่ตรงตามพระพุทธพจน์ทุกประการ

จึงได้เห็นความตั้งใจฟัง.. และศึกษาปฏิบัติไปตามลำดับ ของทุกคนในห้องประชุมเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ จนเข้าสู่กระบวนการพัฒนาจิตตามหลัก สติปัฏฐานธรรม.. ที่ได้สรุปย่นย่อให้เข้าใจเพื่อการปฏิบัติได้ไม่ยาก สามารถปฏิบัติได้เลยแม้ในเวลาอันสั้นๆ ก่อนที่จะประชุมธรรมลงสู่จิต.. ด้วยการตั้งสัจจะขึ้นในดวงจิตเพื่ออธิษฐานธรรม.. ให้เป็นไปตามความประสงค์โดยพร้อมเพรียงกัน โดยการนำกระทำสัตยาธิษฐานขององค์แสดงธรรม..

“ความสงบเงียบอันทรงพลัง” .. เป็นสัจธรรมที่ปรากฏขึ้นในห้องประชุมเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือในเวลา ณ ขณะนั้น.. ที่มีประธานองคมนตรีเป็นประธาน นำคณะบุคคลทั้งฝ่ายข้าราชการ ทหาร เจ้าหน้าที่ และประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่เป็นตัวแทนเดินทางมาจากภาคต่างๆ ปฏิบัติธรรม เคารพธรรม ประพฤติธรรม ร่วมกัน จนเป็นหนึ่งเดียวกัน

“ร้อยดวงจิต เป็นหนึ่งเดียว.. ด้วยธรรม” .. จึงเกิดขึ้นปรากฏให้เห็นเป็นจริงได้ด้วย  การเจริญสติปัฏฐานธรรม ด้วยความเข้าใจในอริยสัจธรรม ที่เป็นไปอย่างมีแบบแผนขั้นตอนปฏิบัติเป็นหนึ่งเดียวกัน จนเข้าสู่การดำริธรรม.. เพื่อการก่อเกิดอำนาจธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและพระกุศล ด้วยคำกล่าวอธิษฐานที่ว่า....

“..ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอกระทำสัตยาธิษฐาน ดุจต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระอรหันต์ ผู้อนุเคราะห์โลก ผู้ปลุกเวไนยสัตว์ ผู้ทรงพร่ำสอนทางแห่งความสงบ

ข้าฯ ขอถวายการสักการบูชา พระธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ตรัสไว้ดีแล้ว เป็นสิ่งสูงสุด เป็นเครื่องกำจัดความมืดของชาวโลก เป็นเครื่องนำสัตว์ออกจากทุกข์ได้ และเป็นเครื่องตามรักษาผู้ประพฤติธรรม

ข้าฯ ขอกราบสักการบูชา พระสงฆ์หมู่ใหญ่ เป็นผู้ปฏิบัติดี เป็นบ่อเกิดแห่งบุญของชาวโลก สะอาดหมดจดด้วยศีลและทิฏฐิ และเป็นผู้ประกอบสัตว์ไว้ในทางแห่งความสงบ..

ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง

ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมทั้งปวง

ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งปวง

ด้วยอานุภาพแห่งรัตนะทั้งสาม คือ พุทธรัตนะ ธัมมรัตนะ สังฆรัตนะ

ที่ ข้าฯ ได้กระทำการสักการบูชาด้วยดีแล้วนี้ ด้วยการปฏิบัติบูชา อันเป็นการสูงสุดในพระศาสนานี้

ขอโรค ภัย อันตราย นิมิตร้าย อัปมงคลทั้งหลาย จงพินาศไปจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย ที่ ข้าฯ ได้เข้าถึงแล้ว ด้วยการปฏิบัติบูชา อันเป็นการบูชาอันสูงสุด จงประสิทธิ์ประสาทความเจริญใน อายุ ทรัพย์ สิริ ยศ กำลัง ผิวพรรณ ความสุข.. ความไม่มีโรค แก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา .. ขอได้ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน มีพระฉวีวรรณผุดผ่อง ทรงถึงพร้อมด้วยพระกำลังธรรมทั้งสิบ.. เพื่อการขจัดทุกข์ให้สิ้นไป

ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย ขอเดชแห่งคุณพระรัตนตรัย.. ขออำนาจแห่งบุญกุศล ที่ ข้าฯ ได้กระทำสำเร็จด้วยดีแล้วนี้ จงได้อภิบาลรักษา แผ่ปกป้องค้ำชู ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า.. ตลอดจนถึงแผ่นดินไทย ให้ดำรงอยู่ในความสงบสุข มีความมั่งคั่งไพบูลย์ และงอกงามเจริญยิ่งในการดำรงชีวิตอยู่ในกระแสสังคมปัจจุบัน และขอประชาชนชาวไทย-พุทธศาสนิกชน จงเป็นผู้ดำรงตนอยู่อย่างมั่นคงในพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ด้วยดีแล้วนี้

ด้วยอานิสงส์ผลบุญกุศล.. ที่สำเร็จด้วยดีแล้วในครั้งนี้ อัน ข้าฯ ทั้งหลาย ได้กระทำโดยพร้อมเพรียงกัน ด้วยจิตใจ “จงรักและภักดี” ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ข้าฯ ขอ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระ
วชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว.. สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี.. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
.. พึงสำเร็จในพระราชกุศล.. พระกุศล ที่ ข้าฯ ได้น้อมถวายด้วยดีแล้วนี้ เทอญฯ

ขออานุภาพแห่งผล ทาน ศีล ภาวนา ที่ ข้าฯ ได้ปฏิบัติ อันก่อเกิดความไพบูลย์แห่งบุญกุศลด้วยดีแล้วนี้.. ข้าฯ ขอพลีบุญอุทิศถวาย แด่บุรพกษัตริย์ไทย.. ประชาชนชาวไทย ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลาย อันไม่มีประมาณ ไม่มีที่สุด พึงมีส่วนในบุญกุศลนี้ ที่สำเร็จด้วยดีแล้วนี้.. แม้ในบุญกุศลอื่นที่ทำไว้ก่อนแล้ว ฯลฯ

ขอพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แสดงหนทางแห่งความหมดจด แก่เหล่าสัตว์ผู้สมควร จงดำรงอยู่ในประเทศไทยและในโลกนี้ สิ้นกาลนาน เทอญ”.

 

เจริญพร

dhamma_araya@hotmail.com

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คุณหญิงสุดารัตน์-หน.ไทยสร้างไทย มองการเมืองแบบตบจูบในรัฐบาล พท.ยึดมหาดไทยคืนจากภท.

“คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย-นักการเมืองหญิงชื่อดังที่คว่ำหวอดอยู่ในการเมืองไทยมาร่วมสามสิบปีกว่าปี”โดยที่ผ่านมา

ความโลภ ที่น่ากลัว...... ความเลว ที่น่ารังเกียจ..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... นับเป็นห้วงเวลาแห่งการบำเพ็ญเพียร ประพฤติธรรม ที่ให้คุณค่ายิ่งต่อการพัฒนาจิต.. ในวิถีสติปัฏฐานธรรม รวม ๑๗ วัน ที่ให้ประโยชน์ทั้งต่อตน.. ต่อภิกษุ อุบาสก-อุบาสิกา.. และต่อการสืบอายุพระพุทธศาสนา บนภูเขาในเขตเสนาสนะป่า พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี ที่ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน เกาะภูเก็ต

อุตสาหกรรมผลิต-ขายอาวุธ ในประเทศไทยโตพุ่ง 150%

เรื่อง งบซื้ออาวุธ ของ กองทัพ เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจมาตลอด เพราะงบซื้ออาวุธคือเงินภาษีประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาถูกตั้งคำถามถึงเหตุผล-ความจำเป็น ตลอดจนเสียงวิจารณ์เรื่องความโปร่งใสในการจัดซื้ออาวุธ

บอกมาให้ชัด ต้องการใช้พื้นที่ การท่าเรือฯ-คลองเตย ทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

พูดตรงๆ ถ้าอยากได้ท่าเรือคลองเตย แล้วเขียนใส่ไว้เลยว่าตรงพื้นที่ของการท่าเรือฯ มหาศาลตรงนั้น หากจะทำให้เป็นสถานบันเทิงครบวงจร ให้มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ จะให้มีพื้นที่กาสิโนเท่าใด..ทำแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมว่าต้องเอาให้ชัด..ในอนาคตต่อไปหากจะให้ชี้ได้หลายที่แบบในกฎหมายเขียน ผมว่ามันไม่ใช่ Marina Bay Sands แบบสิงคโปร์ แต่จะกลายเป็นโมเดลแบบที่ลาว กัมพูชา ในอนาคต ซึ่งมันจะไม่ดี..แต่หากเอาที่เดียวแบบเจาะๆ มันจะชัดกว่าหรือไม่ ก็พูดดังๆ เลยหากจะเอาพื้นที่ตรงการท่าเรือฯ คลองเตย

กรณีบ่อนกาสิโน.. สู่กระแสอารยธรรม .. ที่น่าชื่นชม!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ... ในห้วงเวลาที่สังคมไทยได้รับผลจากแผ่นดินไหว ตึกถล่ม.. เกิดการสูญเสียชีวิตของคนจำนวนหนึ่ง เมื่อ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา นับเป็นห้วงเวลาแห่งความกังวล ห่วงใยในภัยอันตรายจากธรรมชาติ ที่เชื่อมโยงกับภัยร้ายอันเกิดจากการกระทำของคนเรา..

ศ. ดร.ไชยันต์ ไชยพร กับการสมัครชิง ตุลาการศาล รธน. มั่นใจ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม

การรับสมัครเพื่อสรรหาและคัดเลือก "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ใหม่สองคน เพื่อมาแทน ศ. ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ