การศึกษา .. ที่ท้าทายต่อ การเรียนรู้!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... ในทุกห้วงเวลาแห่งชีวิต สิ่งที่ควรคำนึงคือ “ความไม่ประมาท” ในการใช้ชีวิต เพื่อไม่ให้เป็นโทษภัย.. ที่นำไปสู่ความทุกข์แสนสาหัสในวงจรของความเป็น “สัตตาโน” ที่ย่นย่อเรียกว่า “สัตว์”

เพราะความไม่เข้าใจในความเป็น สัตว์ ทุกชีวิตจึงวุ่นวายอยู่กับการก่อร่างสร้างทุกข์ วกวนอยู่ในวนเวียนของความทุกข์ อย่างดูเหมือนจะไม่รู้จัก เบื่อหน่าย ในความเป็น ทุกข์

เมื่อ สัตว์ ไม่เข้าใจในความเป็น สัตตาโน.. จึงไม่แปลกที่ใช้ชีวิตหมักหมมอยู่ในกระแสทุกข์ อย่างไม่รู้ไม่เข้าใจในความเป็นธรรมดาของความเป็น สัตว์

ครั้งหนึ่ง พระราธเถระ ได้กราบทูลถาม พระพุทธเจ้า ว่า.. “ที่เรียกว่า สัตว์ สัตว์ .. ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร จึงเรียกว่าสัตว์?..”

พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า “ดูก่อนราธะ เพราะเหตุที่มี ความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยาก ในรูป..​ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ..

เพราะความติดแล้ว เพราะความข้องแล้ว เป็นผู้เกี่ยวข้องใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ.. นั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์

เมื่อทรงแสดงให้เห็นเหตุประมาณแห่งความเป็นสัตว์แล้วนั้น.. จึงได้ทรงสั่งสอนให้กำจัด ทำให้สิ้นไป ในปัจจัยแห่งเหตุนั้นๆ

ดังที่ตรัสกับ พระราธเถระ ว่า

“..ดูก่อนราธะ แม้เธอทั้งหลายก็

จงรื้อ จงยื้อแย่ง จงกำจัด จงทำรูป.. เวทนา.. สัญญา.. สังขาร วิญญาณ นั้น ให้เป็นของเล่นไม่ได้.. จงปฏิบัติเพื่อความสิ้นไป            เพราะความสิ้นไปแห่งตัณหา เป็นนิพพาน”

จากพระธรรมคำสั่งสอนดังกล่าว.. ทรงสอนให้รู้จัก เหตุปัจจัยของความเป็นสัตว์ โดยทรงแนะนำให้ รื้อ.. ยื้อแย่ง กำจัด ทำลาย รูปวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เป็นปัจจัยนำไปสู่เหตุแห่งความทุกข์.. คือ ตัณหา

หลักธรรมคำสั่งสอนดังกล่าว แสดงความเป็นจริงของการศึกษา.. การเรียนรู้.. ที่มุ่งสู่.. ความดับทุกข์ในชีวิต ..ด้วยชีวิตเป็นกระแสธรรมของความทุกข์

การเรียนรู้ เพื่อความเข้าใจในชีวิต..​ เพื่อประโยชน์แห่งการใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นโทษทุกข์ภัย.. จึงเป็นจุดมุ่งหมายที่แท้จริง ที่สอดคล้องกับหลักการ อุดมการณ์และข้อปฏิบัติ ที่ทรงแสดงไว้ดีแล้ว

เมื่อหันกลับไปมองดูการศึกษาทางโลก ที่มุ่งไปสู่การเรียนรู้ เพื่อความเข้าใจในโลก แม้เป็นเรื่องภายนอกที่มาสัมพันธ์กับชีวิต มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิต.. จนสามารถให้คุณให้โทษกับวิถีชีวิตที่ติดยึดอยู่กับวัตถุภายนอก จึงออกจะคลาดเคลื่อนไปจาก ความเป็นจริง..ที่แท้จริง!!

มิหนำซ้ำ!.. ยังทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสัจธรรม.. ความเป็นจริงที่มีอยู่ในธรรมชาติ ทำให้ การศึกษาเพื่อความเข้าใจโลก กลับติดบ่วงความรู้ทางโลก.. ที่สร้างค่านิยม ในความเป็นอัตตา-ตัวตน.. เที่ยงแท้.!!

เรื่องไร้สาระมากมายจึงปรากฏให้เห็นในกระแสชีวิต.. ของสัตว์โลก ที่ต้องสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันตามวิถีธรรมชาติแห่งชีวิตของสัตว์...

จึงก่อเกิด ความรัก ความชัง ความหลง เป็นปรากฏการณ์ของชีวิตที่ดำเนินไปตามวิถี

จึงไม่แปลก.. ที่จะเกิดมีเรื่องราวภาพลักษณ์มากมาย ที่ออกไปในทางไร้สาระ ติดแน่น ข้องเกี่ยว แต่ความเป็นตัวตนในความเป็นโลก..

วันนี้ของความจริงในทุกชีวิต.. จึงเป็นเรื่องที่น่าพิจารณา เพื่อให้เห็นถึงสภาพความเป็นจริงในชีวิต.. ที่ดำเนินไปตามอำนาจของกิเลส.. ว่า..

“ทำไป ทำไม.. ทำแล้ว ได้อะไร!?”

ซึ่งการจะตอบปัญหาดังกล่าวให้ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริงได้นั้น.. ต้องรู้จักการวางจิตให้เป็นกลางๆ.. ละอคติธรรมทั้งปวง ไม่ว่าจะ ราคะ โทสะ โมหะ และภัย.. หาไม่แล้วก็คงยากที่จะตอบคำถามดังกล่าวได้ถูกต้องตรงธรรม..

ในระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ได้มีโอกาสเดินทางไปสักการบูชา “พระมหาสติปัฏฐานธรรม” จากมหาสติปัฏฐานสูตร ที่นครนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งในอดีตอยู่ในแว่นแคว้นกุรุ..​ อันเป็นแผ่นดินที่พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดมหาชนในแว่นแคว้นดังกล่าว ณ หมู่บ้านกัมมาสธัมมะ โดยปัจจุบันอยู่ในกลางเมืองนครนิวเดลี.. ดังที่มีหลักฐานปรากฏจากการบันทึกลงบนแผ่นหินด้วย อักษรพราหมี (พรมมี) .. ที่นักโบราณคดีอินเดียเชื่อว่าเป็นฝีมือของพระเจ้าอโศกมหาราช

การเดินทางมาปฏิบัติ ณ กัมมาสธัมมนิคม แคว้นกุรุในอดีต เป็นเวลา ๒ วัน จึงนับว่าเกินกว่าคำว่า คุ้มค่า.. เมื่อวัดผลจากการได้มาประพฤติธรรม เคารพธรรม ปฏิบัติธรรม บนสถานที่อันเนื่องกับ มหาสติปัฏฐานสูตร

จึงได้เห็นความอัศจรรย์ของ สติปัญญา ที่ประกอบจิต จนก่อเกิดพลังบุญกุศล.. พลังคุณธรรมความดี.. เพื่อการอุปการะเกื้อกูลให้ชีวิตพ้นไปจากกระแสของความทุกข์ได้จริง แม้ว่า ผลการปฏิบัติจะไม่เป็นที่สุด.. ด้วยคุณค่าของการศึกษาเพื่อชีวิตที่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง.. ที่ควรจะเป็นโดยธรรม!!

สำคัญอย่างยิ่งคือ การได้ชักนำให้หมู่ชนได้ฟังธรรม ท่องบ่นจดจำธรรม เพื่อนำไปเพ่งรู้ให้แจ่มแจ้งใจ อันเป็นไปตามกระบวนการศึกษาในพระพุทธศาสนา ที่มุ่งเน้นความเข้าใจในเหตุปัจจัยอันเป็นไปเพื่อธรรมนั้นๆ.. ไม่ว่าจะเป็น กุศลธรรม.. หรือ อกุศลธรรม

ยิ่งได้ซาบซึ้งกับการศึกษาปฏิบัติธรรมตามหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา ยิ่งได้เห็นโทษของ การศึกษาทางโลกที่ปฏิเสธธรรม..

จึงไม่แปลกใจเลย ที่จะเกิดเรื่องราวไร้สาระมากมาย ในสังคมที่รกรุงรังไปด้วยเศษขยะแห่งความคิด.. ที่มีแต่ทุกข์ โทษ ภัย..

ทำอย่างไร.. ให้สัตว์โลกก้าวพ้นวิกฤตการณ์ ทุกข์ โทษ ภัย.. จึงเป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องเดินทางไปประชุมที่ นครนิวเดลี/อินเดีย.. เพื่อร่วมงานกับ “องค์กรพุทธศาสนานานาชาติในอินเดีย” ที่เรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า

 “International Buddhist Confederation” (IBC)

การประชุมทั้ง ๒ วัน.. นับว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการมีส่วนร่วมเพื่อการสนับสนุนให้ “องค์กรพุทธศาสนานานาชาติ” สามารถดำเนินงานสืบต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ.. เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนและโลกนี้.. ด้วยความเชื่อมั่นว่า

                    “อำนาจธรรม.. ย่อมชนะอำนาจอธรรม”

แต่จะทำอย่างไรให้สัตว์โลกเข้าใจ เข้าถึง..​ อำนาจแห่งธรรม ได้จริง.. เพื่อประโยชน์แห่งสัตว์เหล่านั้นที่เข้าถึงอำนาจแห่งธรรม...

จึงต้องชักชวนให้มหาชนกลับคืนมาศึกษาธรรมเพื่อชีวิต.. ตามหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา โดยความเชื่อมั่นว่า..

“หลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา จะนำพาสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ภัยได้จริง!!”

การผนึกกำลัง.. การร่วมสมานสามัคคี ภายใต้อำนาจแห่งธรรม.. ที่ทุกชีวิตสามารถเข้าถึงได้ก็ย่อมจักเกิดขึ้นได้.. เมื่อสัตว์โลกเข้าใจในธรรม ที่เกิดจากการศึกษาเพื่อชีวิต ที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา

“ประเทศไทย” ของเรา.. นับว่ามีความเป็นมงคลอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสรองรับพระพุทธศาสนา.. ทำให้ประชาชนชาวไทยได้มีโอกาสศึกษาเพื่อชีวิต ที่เป็นไปโดยธรรมได้อย่างมีคุณภาพ

ความสืบเนื่องความเป็นชาติไทย.. จึงสามารถก้าวข้ามปัญหาอุปสรรค..​ ทุกข์ โทษ ภัย มาได้โดยตลอด แม้จะมี...

ทั้งนี้ เพราะบรรพชนไทยไม่ละเลยในการอบรมสั่งสอนลูกหลาน ให้เข้าใจ ในคุณค่าของชีวิตตามวิถีธรรม! และไม่ละเลยในการจัดการศึกษาเพี่อชีวิต อันเป็นไปโดยธรรมอย่างแท้จริง..

หากเมื่อใดการศึกษาเพื่อชีวิตของชาวไทย พากันละเลย ไม่ใส่ใจในคุณธรรมความดี.. เมื่อนั้นก็คงจะยากที่จะเห็นความสวยงามของประเทศไทย ที่ส่งสืบมายาวนาน.. ดำรงไว้ซึ่งความเป็นชาติไทยที่มีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ!!.

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เทวฤทธิ์ -กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ เสรีนิยมก้าวหน้า ปฏิรูปสภาสูง

สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ชุดปัจจุบัน 200 คน จะประชุมร่วมกันนัดแรกในวันอังคารนี้ 23 ก.ค. โดยมีระเบียบวาระสำคัญที่จะให้สว.ทั้งหมดร่วมกันประชุมลงมติ นั่นก็คือ

“ศาสนกิจในอินเดีย .. ณ นครปูเน่” น้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ๒๘ ก.ค.๖๗ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ นครปูเน่ รัฐมหาราษฏระ อินเดีย เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการสร้างวัดแห่งแรกของชาวพุทธในอินเดีย

อังคณา สว. 2567 ภารกิจ-สิ่งท้าทาย สภาสูง กับโมเดลข้อเสนอ สภาเดี่ยว

การทำงานของสมาชิกวุฒิสภาชุดล่าสุด ที่เรียกกันว่า "สว. 2567" กำลังจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้ คาดหมายกันว่า การนัดประชุมวุฒิสภาเพื่อเลือก

บทธรรมถวายเป็นพระราชกุศล .. ในมหามงคลครบ ๖ รอบ “ราชธรรม .. สู่การเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย” (ตอนที่ ๗)

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. พระพุทธเจ้าได้ตรัส หลักการปกครองตามแบบธัมมิกสูตร ว่า..

ดร.มานะ-ว่าที่ สว. 2567 ความเป็นอิสระไม่มีอยู่จริง เรื่องใบสั่งก็คงมีบ้าง ไม่มีบ้าง

หนึ่งในผู้ผ่านการคัดเลือก 200 รายชื่อให้เตรียมเข้าไปทำหน้าที่ "สมาชิกวุฒิสภา" (สว.) ชุดใหม่ ที่น่าสนใจ ก็คือ "ดร.มานะ มหาสุวีระชัย อดีต สส.ศรีษะเกษ" ที่เคยสังกัดพรรคพลังธรรมและพรรคประชาธิปัตย์ตามลำดับ

บทธรรมถวายเป็นพระราชกุศล .. ในมหามงคลครบ ๖ รอบ “ราชธรรม .. สู่การเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย” (ตอนที่ ๖)

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ได้เขียนคำกล่าวสอนใจไว้บทหนึ่งว่า.. ถึงมีอำนาจ วาสนา สักปานไหน