การปฏิรูปการสอนธรรมในอินเดีย ณ นครปูเน่ ครั้งที่ ๑

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... มีคำกล่าวของผู้รู้ในเรื่องคุณค่าของ ศีลเพื่อชีวิต ไว้อย่างหนึ่งว่า

“ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้ง เป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดีทั้งหลาย..

ศีลเป็นประธานแห่งธรรมทั้งปวง

บุคคลใดชำระศีลให้บริสุทธิ์แล้ว จะเป็นเหตุให้ละเว้นจากความทุจริต จิตจะร่าเริงแจ่มใส และเป็นท่าหยั่งลงสู่มหาสมุทร คือ พระนิพพาน...”

ในพระพุทธศาสนาจึงสั่งสอนให้สาธุชนรู้จักการสมาทานศีลด้วยความตั้งใจ ใส่ใจ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อความสุข เพื่อความมีโภคทรัพย์ และเพื่อความดับเย็น.. อันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของการพัฒนาชีวิตด้วยการครรลองไปโดยมีศีลเป็นพื้นฐานรองรับ

“ศีล” .. จึงเป็นหลักประกันของมนุษยชาติ ที่มีความหมายว่า สามารถพัฒนาจิตใจให้ประเสริฐได้ ด้วย “การเจริญสติปัญญา”

สมกับคำของมนุษย์ที่มาจาก “มน+อุษย” (ใจ+สูง) ที่แปลรวมว่า ผู้มีใจพัฒนาจนสูงได้

ยิ่งมีศีลสูงขึ้น.. การพัฒนาของจิตก็ยิ่งสูงขึ้นตาม ดังในศีลแปดที่สามารถพัฒนาจิตใจเข้าถึงความเป็น “พรหม” ได้ เพราะมิได้สูงเพียงอย่างเดียว แต่มีความสงบ ตื่นตัวอยู่ด้วยปีติและความสุข.. อันเกิดจากการปฏิบัติเข้าถึงองค์คุณของ ศีลแปด ได้จริง

“ศีลแปด” จึงเหมาะสมอย่างยิ่งต่อนักปฏิบัติธรรมที่ปรารถนาเจริญก้าวหน้าในการอบรมจิตภาวนาให้มีสมาธิและปัญญาตามหลักมัชฌิมาปฏิปทาในพระพุทธศาสนา

ในช่วงแรก ตั้งแต่ ๑๖-๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา อาตมาได้เดินทางมาพำนัก ณ วัด DVMP (Dhamma Vinaya Monastery in Pune /India) ที่ชาวพุทธในอินเดียสร้างถวาย โดยการสนับสนุนของรัฐบาลท้องถิ่นแห่งรัฐมหาราษฏระ อินเดีย ในด้านงบประมาณที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ด้วยเป็นวัดที่จัดอยู่ในความเป็น มหาวิหาร เลยทีเดียว ที่เป็นความภาคภูมิใจยิ่งของชาวพุทธในอินเดีย ต่อการร่วมแรงร่วมใจร่วมทุนทรัพย์สร้างวัดดังกล่าวนี้ โดยการถวายที่ดินแปลงสวยงามบนเนินเขาในโครงการจัดสรรที่ดินของ Mr.Jayant Hiralal shah ที่นับถือ ศาสนาฮินดู แต่มีศรัทธาในอาตมาในฐานะ กูรูยีของชาวอินเดีย

การเดินทางไปอินเดียในครั้งนี้ นอกจากแวะไปตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าของการสร้าง วัด DVMP (Dhamma Vinaya Monastery in Pune /India) แล้ว ยังได้มีโอกาสไปสอนการปฏิบัติธรรมชั้นสูงตามหลักวิปัสสนากรรมฐานแก่ชาวพุทธอินเดียและศรัทธาชาวไทยที่ติดตามไปด้วย ซึ่งคณะกรรมการบริหาร DVMP ได้จัดขึ้นเป็นเวลารวม ๕ วัน โดยมี Mr.Ratnakar Gaikwad Former Chief Secretary, Government of Maharashtra เป็นประธานการจัดการอบรมจิตภาวนาในครั้งนี้ ซึ่งชาวพุทธอินเดียและผู้สนใจจากศาสนาเชน ฮินดู ได้เข้ามารับการศึกษาอบรมส่วนใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะผ่านการอบรมวิปัสสนากรรมฐานจาก สำนักท่านโกเอนก้า (Goenka) แล้วทั้งนั้น บางท่านก็เป็น ครูวิปัสสนาในสำนักท่านโกเอนก้า ซึ่งปัจจุบันท่านโกเอนก้าถึงแก่กรรมไปแล้ว

การเปิดการอบรมในครั้งนี้จึงมีความสำคัญยิ่งต่อการปูพื้นฐานการศึกษาปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องตามหลักธรรมวินัยในพุทธศาสนา ซึ่งเป็นความต้องการของบรรดาผู้มีจิตใจใฝ่เรียนรู้ในธรรมชั้นสูง.. โดยเฉพาะกลุ่มชาวพุทธอินเดียที่มีความศรัทธาปสาทะในพระพุทธศาสนา โดยเข้ามาจากการชักนำของ ดร.บี อาร์ อัมเบ็ดการ์ ที่กล้าหาญนำชาวฮินดูจำนวนหลายแสนคนเปลี่ยนศาสนามาเป็นชาวพุทธ นับเป็นเวลาถึงปัจจุบันร่วม ๖๗ ปี (๑๔ ตุลาคม ๒๔๙๙)

ปัจจุบันมีชาวพุทธอินเดียมากกว่า ๑๐ ล้านคน ซึ่งอาจจะเกิน ๒๐ ล้านคนไปแล้วก็ได้ หากสำรวจจำนวนประชากรแต่ละศาสนาในอินเดียอย่างจริงจังอย่างเป็นทางการ..

ซึ่งปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งในหมู่ชาวพุทธจำนวนมาก รวมถึงพระภิกษุอินเดียในปัจจุบัน คือ การศึกษาปฏิบัติถูกต้องตามพระธรรมวินัย โดยปัญหาจากเรื่องดังกล่าว มิใช่ความบกพร่องของชาวพุทธในอินเดีย แต่เป็นเหตุปัจจัยที่สืบเนื่องมาจากองค์กรพุทธศาสนาทั่วโลก ที่มีความหลากหลายในการยึดถือปฏิบัติที่ยังไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน

ชาวพุทธในอินเดียจึงเป็นผลปรากฏจากความหลากหลายของการสั่งสอนของคณะสงฆ์นานาชาติ ที่นำไปสู่การศึกษาปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่แปลกแยกกันไปจากพุทธศาสนาดั้งเดิม ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยสืบเนื่องมายาวนาน มากกว่าพันปีหลังพุทธปรินิพพาน อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พุทธศาสนาสูญหายไปจากชมพูทวีปในพุทธศตวรรษที่ ๑๗ เป็นต้นมา..

การเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนที่เกิดจากความหลากหลาย อันเป็นผลมาจากทิฏฐิของผู้เผยแพร่เป็นสำคัญ.. จึงนำพาให้เกิดความสับสนในหมู่ชน และเป็นเหตุให้นำไปสู่ความแตกแยกทางความรู้ความเข้าใจ จนก่อเกิดเป็นลัทธิ ทิฏฐิ ในพุทธศาสนา ซับซ้อนขึ้นในความเป็นองค์กรพุทธศาสนาที่ไม่มีความเป็นอันหนึ่งเดียวกันโดยพระธรรมวินัย

จึงได้เห็นการดำเนินไปของ องค์กรศาสนาที่อาศัยความอยู่รอดด้วยการพึ่งพากฎหมาย.. อำนาจทางการปกครองของบ้านเมืองฝ่ายอาณาจักรมากกว่า.. การพึ่งพากันภายในศาสนจักรที่มีพระธรรมวินัยเป็นองค์ศาสดาแทน สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จปรินิพพานไปแล้วนั้น

การเดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในทุกครั้ง จึงได้เห็น ได้ยิน ได้รับฟัง.. การเรียนรู้.. ความเข้าใจ จากการประพฤติปฏิบัติของชาวพุทธในอินเดีย ที่ยังไร้รากฐานของความเป็นพุทธศาสนาตามพระธรรมวินัยที่ถูกต้อง

ยิ่งสังคมสมัยใหม่ให้ความสนใจในการปฏิบัติสมาธิ.. อบรมจิตภาวนากันมากขึ้น.. จึง ยิ่งน่าเป็นห่วงในวิปัสสนาคอร์สเหล่านั้น ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Master Vipassana ทั้งหลายที่มีความรู้หลากหลายมาตรฐาน โดยเฉพาะยิ่งชาวพุทธอินเดียให้ความสนใจการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่มีการจัดอบรมอยู่เป็นระยะๆ ตลอดทั้งปีตามศูนย์วิปัสสนาทั่วประเทศอินเดีย รวมถึงชาวอินเดียจากศาสนาต่างๆ..

สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การไม่ได้ปลูกฝังความศรัทธาที่ถูกต้องในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ในหมู่ชาวพุทธใหม่ในอินเดีย ซึ่งหมายถึง การไม่ได้ปลูกสร้างความรู้ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัยแท้จริงของพระพุทธศาสนา และการไม่ได้วางระเบียบแบบแผนการปฏิบัติตามอริยประเพณีในวิถีพุทธ ให้แก่ชาวพุทธหรือผู้สนใจจากศาสนาต่างๆ ในอินเดียหรือจากประเทศต่างๆ... มันจึงกลายเป็นปัญหา เมื่อเกิด ฮินดูสไตล์ พราหมณ์สไตล์ คริสเตียนสไตล์ เชนสไตล์.. ฯลฯ ขึ้นในหมู่ชาวพุทธใหม่ในอินเดียที่มาจากความหลากหลายของความเชื่อ..

จึงไม่แปลกที่จะเกิดการเรียนรู้แบบโลกๆ ขึ้น โดยเข้าใจว่า.. พระพุทธศาสนามีหลักการคำสอนที่สามารถปฏิบัติได้เลย ตามทฤษฎีที่ปรากฏตามพระธรรมวินัยจากพระไตรปิฎกในพระพุทธศาสนา โดยไม่ต้องคำนึงถึงศรัทธาอย่างมีปัญญา​

คล้ายๆ กับในประเทศไทย ที่พยายามอ้างอิงความเห็นที่ตนเชื่อมั่นว่า วิเศษสุดๆ.. เมื่อได้ฟัง ได้อ่าน ได้เรียน.. ทรงจำได้ โดยคาดคิดว่า สามารถปฏิบัติได้อย่างไม่ต้องมีแบบอย่างจากครูบาอาจารย์ที่ประพฤติปฏิบัติถูกต้อง สืบเนื่องอริยประเพณี เชิดชูพระธรรมคำสั่งสอนสืบเนื่องมา

การยกพระธรรมคำสั่งสอนมานำเสนอตามแนวทิฏฐิของตน แม้จะอ้าง “พระพุทธพจน์” ที่ถูกต้อง.. ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการนิยมแพร่หลายไปอย่างกว้างขวาง.. ด้วยการโน้มน้าวของครูบาอาจารย์ที่เข้าใจว่า ตนเองรู้เห็นถูกต้อง จนนำไปสู่การละทิ้งคำสั่งสอน ที่พยายามอรรถาธิบายพระธรรมวินัย ที่เกิดจาก ภิกษุผู้เป็นรัตตัญญู.. ผู้บวชมานาน.. ภิกษุผู้เป็นสังฆบิดร.. ภิกษุผู้เป็นสังฆปรินายก.. ผู้เป็นพหูสูต ผู้กล่าวคำของพระตถาคตเจ้า.. ผู้มีผลงานเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมทั้งหลาย.. ที่ต้องอ้างอิงภาษาท้องถิ่นในการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างไม่ผิดเพี้ยนไปจาก คำและความหมาย อันเป็นระเบียบปฏิบัติที่เรียกว่า “อริยประเพณี” ที่ถือสืบเนื่องกันมา

การมาอินเดียในครั้งนี้.. จึงเป็นการมาปฏิรูปการศึกษาปฏิบัติธรรมครั้งสำคัญ ให้แก่ชาวพุทธในอินเดีย.. ด้วยการชักนำกลับมาสู่การศึกษาปฏิบัติขั้นพื้นฐานให้ถูกต้องตามหลัก สุจริตสามในพระพุทธศาสนา ที่เป็นพื้นฐานของการพัฒนาชีวิตของชาวพุทธ .. ชาวโลกที่แท้จริง...

การวางรากฐานความรู้ความเข้าใจ.. ในพระธรรมวินัย เพื่อสร้างความศรัทธาที่ถูกต้องในตถาคตโพธิสัทธา.. จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ก่อนลำดับเข้าสู่การทำทานแบบชาวพุทธ.. การรักษาศีล ๕-๘ ตามแบบชาวพุทธ และการภาวนาด้วยการเจริญสติปัฏฐานตามแบบชาวพุทธที่ควรปฏิบัติ..

 

เจริญพร

dhamma_araya@hotmail.com

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความโลภ ที่น่ากลัว...... ความเลว ที่น่ารังเกียจ..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... นับเป็นห้วงเวลาแห่งการบำเพ็ญเพียร ประพฤติธรรม ที่ให้คุณค่ายิ่งต่อการพัฒนาจิต.. ในวิถีสติปัฏฐานธรรม รวม ๑๗ วัน ที่ให้ประโยชน์ทั้งต่อตน.. ต่อภิกษุ อุบาสก-อุบาสิกา.. และต่อการสืบอายุพระพุทธศาสนา บนภูเขาในเขตเสนาสนะป่า พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี ที่ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน เกาะภูเก็ต

อุตสาหกรรมผลิต-ขายอาวุธ ในประเทศไทยโตพุ่ง 150%

เรื่อง งบซื้ออาวุธ ของ กองทัพ เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจมาตลอด เพราะงบซื้ออาวุธคือเงินภาษีประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาถูกตั้งคำถามถึงเหตุผล-ความจำเป็น ตลอดจนเสียงวิจารณ์เรื่องความโปร่งใสในการจัดซื้ออาวุธ

บอกมาให้ชัด ต้องการใช้พื้นที่ การท่าเรือฯ-คลองเตย ทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

พูดตรงๆ ถ้าอยากได้ท่าเรือคลองเตย แล้วเขียนใส่ไว้เลยว่าตรงพื้นที่ของการท่าเรือฯ มหาศาลตรงนั้น หากจะทำให้เป็นสถานบันเทิงครบวงจร ให้มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ จะให้มีพื้นที่กาสิโนเท่าใด..ทำแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมว่าต้องเอาให้ชัด..ในอนาคตต่อไปหากจะให้ชี้ได้หลายที่แบบในกฎหมายเขียน ผมว่ามันไม่ใช่ Marina Bay Sands แบบสิงคโปร์ แต่จะกลายเป็นโมเดลแบบที่ลาว กัมพูชา ในอนาคต ซึ่งมันจะไม่ดี..แต่หากเอาที่เดียวแบบเจาะๆ มันจะชัดกว่าหรือไม่ ก็พูดดังๆ เลยหากจะเอาพื้นที่ตรงการท่าเรือฯ คลองเตย

กรณีบ่อนกาสิโน.. สู่กระแสอารยธรรม .. ที่น่าชื่นชม!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ... ในห้วงเวลาที่สังคมไทยได้รับผลจากแผ่นดินไหว ตึกถล่ม.. เกิดการสูญเสียชีวิตของคนจำนวนหนึ่ง เมื่อ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา นับเป็นห้วงเวลาแห่งความกังวล ห่วงใยในภัยอันตรายจากธรรมชาติ ที่เชื่อมโยงกับภัยร้ายอันเกิดจากการกระทำของคนเรา..

ศ. ดร.ไชยันต์ ไชยพร กับการสมัครชิง ตุลาการศาล รธน. มั่นใจ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม

การรับสมัครเพื่อสรรหาและคัดเลือก "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ใหม่สองคน เพื่อมาแทน ศ. ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

สว.จี้รัฐบาลถอน ร่างพรบ.สถานบันเทิงฯ ออกไปจากสภาฯ ไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้

สภาผู้แทนราษฎรได้ปิดสมัยประชุมไปแล้วเมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีการพิจารณา"ร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..ฯ"เพราะรัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการผลักดันให้สภาฯพิจารณาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.