"ชฎาทิพ จูตระกูล" ปั้นวันสยามซูเปอร์แอป นำทัพพันธมิตรเปิดประสบการณ์ใหม่สู่โลกดิจิทัล

ในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกได้มีการยกระดับแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อตอบโจยท์และทันต่อยุคสมัยกันอย่างต่อเนื่อง โดย บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ก็เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เปิดตัว “ONESIAM” ซูเปอร์แอปพลิเคชันใหม่ ที่รวม 4 จักรวาลแห่งประสบการณ์เหนือความคาดหมายไว้ในแพลตฟอร์มเดียว

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่า เมื่อ 10 ปีก่อนสยามพิวรรธน์ได้พลิกกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ โดยเป็นคนแรกที่ประกาศว่าศูนย์การค้าของเราไม่ได้เป็นเพียงที่ขายสินค้าหรือให้บริการต่างๆ แต่เป็นสถานที่ที่จะนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่และยิ่งใหญ่ในทุกมิติ สร้างแรงบันดาลใจและมอบคุณค่าของการใช้ชีวิตแก่ผู้คนอย่างไม่สิ้นสุด ความสำเร็จในการทำธุรกิจของเราไม่ได้อยู่ที่ผลกำไร แต่คือการเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าของเราทั้งคนไทยและทั่วโลก จากนั้นมาสยามพิวรรธน์ได้ก้าวข้ามการแข่งขันในประเทศได้สำเร็จ สู่การเป็นผู้ชนะคว้ารางวัลที่หนึ่งในสาขาต่างๆ ในเวทีโลกได้อย่างต่อเนื่องเป็นปรากฏการณ์ และมีฐานลูกค้ามีระดับที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“สิ่งสำคัญที่สุด ความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ในวันนี้มาจากการร่วมมืออันยาวนานกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจที่พร้อมจะก้าวไปกับเราเพื่อร่วมปฏิวัติวงการและนำเสนอความแปลกใหม่ให้ได้ก่อนใคร อีกทั้งสนับสนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกันจนเติบโตและประสบความสำเร็จร่วมกันอย่างน่าภาคภูมิใจยิ่ง” นางชฎาทิพกล่าว

 ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญมากในการทำธุรกิจ ซึ่งส่งผลให้ระบบนิเวศธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เกิดโอกาสในการเชื่อมโยงระบบดิจิทัลซึ่งกันและกัน ดังนั้นธุรกิจค้าปลีกไม่จำเป็นต้องวางกรอบตัวเองอยู่ในอุตสาหกรรมเดิมอีกต่อไป แต่สามารถสร้างธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ จากการเชื่อมต่อกับพันธมิตร อีกทั้งผสานฐานลูกค้าให้มีการบริหารจัดการที่จะส่งประโยชน์สูงสุด พร้อมมอบหลากหลายประสบการณ์บนแพลตฟอร์มเดียวให้ลูกค้าได้อย่างน่าอัศจรรย์

สยามพิวรรธน์มองเห็นโอกาสนี้และได้เริ่มพัฒนาระบบนิเวศธุรกิจพรีเมียมระดับโลกที่จะเชื่อมคู่ค้าพันธมิตรจากทั่วโลกให้เติบโตร่วมกันบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากหลักในการดำเนินธุรกิจของสยามพิวรรธน์ที่ยึดมั่นในการ Share Values และ Co-creation เพื่อให้เกิดความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าร่วมกันอย่างยั่งยืนนั่นเอง

“ในวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าสู่โลกใหม่ของธุรกิจที่สามารถขยายไปได้อย่างไร้พรมแดน โดยนำเสนอจักรวาลแห่งประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายในโลกดิจิทัล ซึ่งเราได้ใช้ระยะเวลาเพียง 13 เดือน ในการปรับกลยุทธ์ และพัฒนาแอปพลิเคชันรูปแบบใหม่ที่จะทลายทุกข้อจำกัด และสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่างๆ อีกหลากหลายประเภทของพันธมิตรในระบบนิเวศของเรา ภายใต้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่และแอปพลิเคชันนี้ขึ้นมา โดยมุ่งเน้นให้สนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจของบรรดาร้านค้าใน 4 ศูนย์การค้าของเรา รวมถึงพันธมิตรกว่า 1,000 แบรนด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่ได้เชิญมาร่วมใน Global Ecosystem นี้ และจะเชื่อมโยงกว่า 13 อุตสาหกรรม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ผ่านวิสัยทัศน์ในการพัฒนา “ONESIAM” ซูเปอร์แอปพลิเคชัน”

อย่างไรก็ดี ในการสร้าง ONESIAM SuperApp สยามพิวรรธน์ได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เข้ามาช่วยสร้างสรรค์ประสบการณ์แปลกใหม่บนโลกดิจิทัลที่จะเป็นประโยชน์ทั้งกับกลุ่มพันธมิตรร้านค้าและคู่ค้า ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าจะได้รับประโยชน์เต็มอิ่มกับสิทธิประโยชน์เหนือระดับผ่านลอยัลตี้โปรแกรมรูปแบบใหม่ ซึ่งสยามพิวรรธน์มีแผนที่จะจับมือร่วมกับบริษัทชั้นนำสำหรับการพัฒนาเชื่อมสู่แพลตฟอร์มโลกการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลต่อไปในอนาคต ตั้งเป้าการดาวน์โหลดไว้ที่ 5 ล้านคนภายในสิ้นปี 2565.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เทวฤทธิ์ -กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ เสรีนิยมก้าวหน้า ปฏิรูปสภาสูง

สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ชุดปัจจุบัน 200 คน จะประชุมร่วมกันนัดแรกในวันอังคารนี้ 23 ก.ค. โดยมีระเบียบวาระสำคัญที่จะให้สว.ทั้งหมดร่วมกันประชุมลงมติ นั่นก็คือ

มองภาพสะท้อนการออกแบบ เมือง‘ไต้หวัน’ผ่าน‘ไทจง-ไทเป’

“ไต้หวัน” หนึ่งในจุดมุ่งหมายที่ใครหลายคนอยากมาสัมผัส เพราะเป็นประเทศที่เหมาะกับการท่องเที่ยว ผู้คนเป็นมิตร มีวินัย เดินทางง่าย อากาศกำลังสบาย สะดวก ปลอดภัย

“ศาสนกิจในอินเดีย .. ณ นครปูเน่” น้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ๒๘ ก.ค.๖๗ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ นครปูเน่ รัฐมหาราษฏระ อินเดีย เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการสร้างวัดแห่งแรกของชาวพุทธในอินเดีย