เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. สภาพสังคมที่สะท้อนความจริงของความเป็น สัตว์โลก ได้ดีที่สุด คงจะไม่มียุคสมัยใดที่จะเทียบได้กับยุคสมัยปัจจุบัน...
บนรอยต่อของเส้นกาลเวลาที่ขีดคั่นระหว่างยุคสมัยจากอดีตกับปัจจุบัน ที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเชิงผกผันอีกครั้ง ระหว่าง ความเจริญทางจิตวิญญาณ กับ ความรุ่งเรืองทางวัตถุนิยม ซึ่งยากจะร่วมเส้นทางสายธารเดียวกันได้
เป็นตัวบ่งชี้ถึงความเป็นจริง ระหว่าง โลกนิยม กับ ธรรมนิยม ที่ยากจะเจริญเติบโตไปด้วยกันในกาลเดียวกัน
สมคำกล่าวที่ว่า.. ยากหาสัจจะ .. ในคนพาล ยากหาความไร้สัจจะ .. ในบัณฑิต
นับเป็นความเป็นจริงที่ไม่เคยหลอกลวง
จึงไม่แปลกที่สังคมวัตถุนิยมที่เต็มไปด้วยคนพาล จะคิด พูด ทำ.. เพื่อหวังแต่ผลประโยชน์ตนตามความต้องการที่ไม่เคยเต็ม..
จึงเป็นธรรมดาที่จะได้เห็นการจัดการศึกษาเล่าเรียนเดินไปอย่างโน้มเอียงไปสู่ส่วนสุดที่ไม่ควรเสพ คือ ความรักและความชัง.. มากกว่า วิถีการเรียนเพื่อการเพาะบ่มสร้างภูมิความรู้-ภูมิคุณธรรมความดี.. ตามแนววิธีการสร้างปัญญา
การละทิ้งการปลูกสร้างด้วยธรรมวิธี ปัญญา.. จึงเป็นปัญหาใหญ่ของสัตว์โลก.. ที่ก่อให้เกิดความอับปัญญา ที่ปรากฏในยุคเสื่อมถ่อยเถื่อน.. ที่มุ่งแต่การแสวงหาให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ อย่างขาดความเข้าใจ .. ความใส่ใจในเส้นขีดแบ่งความดีกับความชั่ว
เมื่อครอบครัว.. โรงเรียน สถานศึกษา.. พากันละทิ้งการปลูกสร้างปัญญาในภาวะจิตสำนึกความเป็นมนุษย์ มุ่งหน้าแต่เพียงการจัดการศึกษาเพื่อสนองตอบความต้องการของตัณหา..... อวิชชา จึงเป็นครูใหญ่ เป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา.. ที่มีบทบาทต่อการจัดการศึกษา เพื่อผูกมัดยึดให้ทุกจิตวิญญาณติดอยู่ในตาข่ายมาร.. อย่างยากจะรอดออกมาได้
ปัญหาสังคม .. ในวิถีชีวิตคนสมัยปัจจุบัน จึงไร้จิตวิญญาณคุณธรรมความดีเป็นส่วนใหญ่ ดังที่ได้เห็นความอกตัญญู.. ไม่รู้คุณ.. เป็นปกติของสัตว์สังคมยุคนี้!
การปลุกเร้าให้สังคมตื่นขึ้นมา เพื่อจัดการศึกษาเพื่อชีวิตอย่างยั่งยืน.. เพื่อการนำเอาศีลธรรมคุณความดีกลับคืนสู่จิตวิญญาณสัตว์สังคม.. จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรริเริ่มทำ...
ทั้งนี้ ฝ่ายผู้มีอำนาจปกครองแผ่นดิน.. ต้องหยุดการผลักดันสังคมสู่กระแสวัตถุนิยม อย่างไม่ลืมหูลืมตา.. จน สังคมเข้าสู่วิถีบอด.. บ้า.. ใบ้.. บ๊อง.. แบ๊ว!!
สังคม ประเทศชาติ.. จึงต้องมีผู้ปกครองที่ต้องเข้าใจในคุณค่าของคุณธรรมความดี.. เพื่อช่วยกันบริหารจัดการนำพาสังคมออกมาจากวิถีอับปัญญา.. ด้วยการมุ่งจัดการศึกษาเพื่อชีวิตแบบบูรณาการ นำคุณธรรม ความรู้ กลับคืนสู่จิตวิญญาณมนุษยชาติในฐานะสัตว์สังคมที่ประเสริฐได้...
ซึ่งจะต้องสร้างสภาวะสังคมความดีที่กินได้.. มีชีวิตอยู่ร่วมกับวัตถุนิยมได้อย่างไม่ปฏิเสธในการคบหา.. แต่จะต้องรู้จักการคบหาแบบ พอดี พอเหมาะ พอเพียง และพอควรแก่ฐานานุรูป บนพื้นฐาน ประโยชน์ และความเหมาะควร...
ดังมีคำถามว่า.. จะจัดการศึกษาอย่างไร.. ให้ทุกชีวิตมุ่งหน้าไปสู่ประโยชน์และความเหมาะควร.. เพื่อการอยู่ร่วมสมัยกับสังคมวัตถุนิยมได้ อย่างไม่สูญเสียคุณค่าความเป็น สัตว์มนุษย์
คำตอบที่ถูกต้อง.. คือ การจัดการศึกษาเพื่อการปลูกสร้างปัญญา.. ที่จะนำไปสู่คุณธรรมความดี อันเป็นประโยชน์และความเหมาะควรที่แท้จริงของสัตว์ประเสริฐ...
หากจะถามต่อไปว่า.. แล้วจะสร้างระบบการศึกษาเพื่อการปลูกสร้างปัญญา.. คุณธรรมความดี.. ได้อย่างไร
คำตอบที่ชัดเจน.. คือ การนำการเรียนรู้ฝึกฝนตนเองให้มี สติ สัมปชัญญะ และวิริยะ ตามแนวหลักสติปัฏฐานธรรมในวิถีพุทธ
จึงควรจัดให้มี “โรงเรียน .. สติปัฏฐานธรรม” ต้นแบบ เพื่อเพาะบ่มมนุษยชาติ.. รู้จักคิดพิจารณา.. รู้เข้าใจในธรรมชาติของชีวิตแท้จริง.. ซึ่งจะต้องดำเนินตั้งแต่วัยเยาว์ ควบคู่กับการเรียนรู้ศิลปะวิทยาการทางโลกวัตถุนิยม.. อย่างจริงจังและเข้าใจจริงในคุณประโยชน์ ด้วยความเข้าใจในวิถีชีวิตของสัตว์โลก ที่ควรโคจรท่องเที่ยวไปในแดนมรรคาแห่งบิดาตน คือ สติปัฏฐานธรรม
การเห็นคุณค่า สติ ในการเป็นประธานนำชีวิตไปอย่างมี ปัญญา คล้อยตาม.. เพื่อการรู้เข้าใจในการเคลื่อนไหว แปรปรวน เปลี่ยนแปลงไปของโลก.. จึงเป็นเบื้องต้นของการคิดที่จะมีโรงเรียน.. และสถานศึกษาแบบแนวธรรมชาติศึกษาดังกล่าวนี้.. ที่จะต้องมีการจัดการศึกษาอย่างมีแบบแผนเพื่อการพัฒนาชีวิตอย่างจริงจัง.. เพื่อจะนำไปสู่สภาพสังคมที่ไม่หลงผิด.. ไม่วิปลาสธรรม จนสูญเสียคุณธรรมความดี.. เพื่อการดำรงอยู่อย่างมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแรงในกระแสสังคม ที่เปลี่ยนแปลงแปรผันไปตามอำนาจวัตถุนิยมอย่างรุนแรง
การสร้างโรงเรียนที่มีการจัดการศึกษาอย่างมีแบบแผนเพื่อการพัฒนาชีวิตอย่างยั่งยืน ตามหลัก สติปัฏฐานธรรม ในพระพุทธศาสนา จึงเป็นเรื่องที่ควรริเริ่มดำเนินการสร้างโรงเรียนต้นแบบขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหา พฤติกรรม-พฤติจิตของเด็กๆ ก่อนเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ มีบทบาทฐานะทางสังคม
การสร้างคนดี.. อย่างมีแบบแผน.. จึงเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาเพื่อการพัฒนามนุษยชาติ ให้ก้าวไปสู่สังคมสันติสุขได้จริง.. เพื่อการพัฒนาให้มนุษยชาติกลับคืนมามีสติปัญญา.. ที่สามารถนำไปสู่ความเพียรชอบ.. การกระทำชอบ.. ซึ่งมีหลักการศึกษาเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามประสงค์ได้.. คือ การจัดหลักสูตรการศึกษาปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐานธรรมวิถีพุทธ (ธรรมชาติศึกษา) ตามที่กล่าวมา
ด้วยไม่มีอะไรดีที่สุด มีคุณค่าที่สุด ต่อชีวิต เท่ากับ การมีสติ..สตางค์ (เงินทอง) .. ไม่มีคุณค่าเลย หากขาดสติ
จะคิดหาเงินดิจิทัล.. จะคิดค้นส่งดาวเทียมไปนอกโลก.. จะคิดสร้างบ้านเมือง.. ให้ทันสมัย จะคิดสร้างกองทัพให้เกรียงไกร.. จะคิดพัฒนาปัจจัยขั้นพื้นฐานให้ครบสมบูรณ์ก้าวไกลอย่างไรนั้น คงไม่มีคุณค่าอะไรเลย.. หากคนในสังคม.. โดยเฉพาะเด็กๆ เยาวชน ยังขาดสติ.. กลายเป็นพวกสมาธิสั้นกันหมด.. นอกจากจะไร้คุณค่าต่อการดำรงชีวิตแล้ว ยังกลับเป็นโทษภัยอันตรายอันใหญ่หลวงอีกด้วย.. ดังปรากฏเหตุการณ์ต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน
ที่น่ากลัว คือ ในขณะที่สังคมมีสภาพอ่อนแอทางสติปัญญามากขึ้นๆๆ.. ในทางเดียวกัน การปลุกเร้าให้เกิดความลุ่มหลง เร่าร้อน อย่างขาดสติปัญญา ยิ่งมีมากขึ้น.. โดยเฉพาะ การจัดการศึกษาที่สนองตอบตัณหา.. ความต้องการ.. ความอยาก ที่เกิดจากความหลง.. ด้วยอำนาจอวิชชา
การนำสังคมสู่กระแสวิบัติธรรม จึงเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน.. อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แผ่ครอบคลุมไปทั่วทุกสถานศึกษาในทุกวัย.. ไม่เว้นในเด็กอนุบาล.. โดยไม่ต้องกล่าวถึง ครอบครัว ชุมชน ที่ล่มสลาย...
ความเข้าใจผิดในธรรม .. ความรู้เห็นที่ผิดไปจากธรรม จึงเป็นจำเลยตัวจริงแท้ในสภาพสังคมยามนี้.. ที่ทำเอา สังคมอารยธรรม.. ที่เคยดูดี สวยงาม น่ายินดี ละลายสิ้น...
ทั้งนี้.. เพราะเราจัดการศึกษาแบบสิ้นคิด.. จนคนในสังคม.. เป็นโรคคิดไม่เป็น คิดไม่ถูก.. คิดไม่มีเหตุผล คิดอย่างไร้กุศลคุณความดีกันเป็นทิวแถว
สะท้อน.. สภาพความเป็นจริงของสังคมว่า.. กำลังเดินทางเข้าสู่.. หล่มอวิชชาอย่างรุนแรง.. จนก่อเกิด สภาพสังคมวิบัติธรรม ได้จริง.. อันจะคืนกลับมาเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคม ประเทศนั้นๆ.. ที่จะเสื่อมโทรมสูญสิ้นคุณธรรมความดี ที่เคยปกป้องคุ้มครองดูแลไปอย่างยากจะฟื้นฟูให้คืนกลับมา.. หากไม่ตื่นรู้ เร่งรีบ ริเริ่ม สร้างโรงเรียน สถานศึกษา เพื่อพัฒนาชีวิตอย่างยั่งยืนที่แท้จริง.. ที่มุ่งสร้าง “สติปัญญา” ให้กับมหาชน!!.
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุทธัจจะ .. ในวังวนแห่งการตื่นธรรม .. ยุคไอที!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระรัตนตรัย... สัทธายะ ตะระติ โอฆัง.. บุคคลข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา.. โอฆะ หมายถึง ห้วงน้ำ ที่มีกระแสเชี่ยวกราก พัดพาสัตว์ทั้งหลายให้ตกไปในกระแสน้ำนั้น ยากจะข้ามฝั่งไปได้
’ห้าพันตารางกิโลเมตร‘ เท่ากับกี่ตารางนิ้ว ? เงื่อนตายของ MOU 2544 ?
MOU 2544 ไม่ใช่กรอบการเจรจาเพื่อหาข้อตกลง ”แบ่งผลประโยชน์(ปิโตรเลียม)“ เท่านั้น แต่หาข้อตกลง “แบ่งเขตแดน(ทะเล)“ ด้วย !
คำนูณ ผ่าปม 2 ได้ 3 เสีย ถ้าไม่ยกเลิก MOU 2544
ความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นเรื่อง MOU 2544 ที่เชื่อมโยงถึงเกาะกูด, การหาแหล่งพลังงานแห่งใหม่ในพื้นที่อ้างสิทธิไทย-กัมพูชา ที่มีการประเมินกันว่ามีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท ยั
'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?
นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???
อย่าได้ประมาทในธรรม.. “เมื่อใจตรง .. จะตรงใจ”..
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. เดินทางกลับมาจากอินเดีย เมื่อ ๗ พ.ย.๒๕๖๗.. ถึงกรุงเทพฯ ๘ พ.ย.๒๕๖๗ หลังจากไปร่วมประชุม “The First Asian Buddhist Summit 2024” ที่นิวเดลี งานนี้จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของรัฐบาลอินเดีย
ขึ้นต้นก็(เขียน)ผิดแล้ว ! ว่าด้วยเส้น “ละติดจูด” ที่ 11° “E” ในเอกสารแนบท้าย MOU 2544
เขียนและพูดเรื่อง MOU 2544 มาหลายปี หลากมุมมอง ล่าสุดช่วงนี้ก็จำแนกข้อดีข้อเสีย รวมทั้งส่วนที่จะได้และส่วนที่จะเสียหากเจรจาสำเร็จ ล้วนหนัก ๆ ทั้งนั้น .