สงครามการเมืองตัวแทนคนรุ่นใหม่-คนรุ่นเก่า สะท้อนการเกิด 'พรรคอนาคตไกล'

จากผลการเลือกตั้งซ่อม จังหวัดระยอง เขต 3 อำเภอแกลง-เขาชะเมา อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ จากพรรคก้าวไกล คว้าคะแนนลำดับหนึ่ง 39,296 คะแนน ทิ้งห่างจาก นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ จากอดีต ส.ส.หลายสมัยจากพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของพื้นที่เดิม ที่ได้คะแนนเพียง 26,466 คะแนน ทิ้งห่างม้วนเดียวจบกว่าหนึ่งหมื่นสองพันกว่าคะแนน ส่วนพรรคแรงงานสร้างชาติ ชิมลางได้เพียงหลักร้อยคะแนนเท่านั้น

การเมืองอุปถัมภ์สำหรับการเมืองภูธร ที่สร้างฐานอำนาจบ้านใหญ่ต่างๆ ในการครองพื้นที่การเมืองระดับชาติ การเมืองระดับท้องถิ่นด้วยหัวคะแนนและฐานเสียง กระแสการเมืองยุคใหม่ได้เปลี่ยนไป อำนาจเงินสู้กระแสสื่อโซเชียลไม่ได้ ทำให้ผุดเกิดพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ อย่างพรรคอนาคตใหม่ หลังศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค จนเกิดพรรคก้าวไกล ภายใต้การนำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หากพิจารณาย้อนดูสถิติทางการเมือง พบว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไป ครั้ง ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 พรรคก้าวไกล คว้า 151 ที่นั่ง ส่วนพรรคเพื่อไทย คว้า 141 ที่นั่งโดยแคมเปญ แลนสไลด์ 310 ที่นั่ง แต่กลับสู้กระแสพรรคก้าวไกลไม่ได้ แทบสูญพันธ์ในเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร ไม่ต่างจากประชาธิปัตย์ หากพิจารณาถึงการเมืองระดับภูธร หรือการเมืองในต่างจังหวัด ยกตัวอย่างภาคตะวันออก บ้านใหญ่ต่างๆ ล้มช้างระเนระนาด หากเทียบเคียงกับการเมืองในปี 2550 ที่พรรคประชาธิปัตย์ฟีเวอร์ ไม่ต่างกัน ที่ภาคใต้กระแสนิยมสูง ว่ากันว่า แม้พรรคส่งเสาไฟฟ้า ก็ได้เป็น ส.ส.

แต่การเมืองในยุคปัจจุบัน ทุกพรรคการเมืองจะต้องปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีสมัยใหม่ หากพิจารณาผลการเลือกตั้งซ่อม แก้มือของ นพ.บัญญัติ การพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อม สะท้อนไปถึงการเป็นตัวแทนของบ้านใหญ่ระยอง ของ”นายกช้าง” นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง โดยมีน้องชาย นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค ปชป.และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารสุข หรือเรียกกันว่า หมอตี๋ ทำให้ ปชป.ระยอง ที่ครองพื้นที่มานานกลับสูญพันธ์ แม้ในช่วงออกตัวสตาร์ทครั้งแรกในการเลือกตั้งซ่อม นายกช้าง ถึงกับออกอาการโดยเปิดแคมเปญ ต้องเลือกคนบ้านเรา ในเฟชบุ๊ก ของ อบจ.ระยอง แล้วก็ลบหายไป

ในโลกไร้พรมแดน ในทางการเมือง ปฎิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีกับนวัตกรรมใหม่ จะต้องพัฒนา จะเห็นได้จาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อสภาในวันนี้ เป็นปฐมฤกษ์ก่อนบริหารราชการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162

การเมืองภายหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน เป็นการเมืองกีฬาสี โดยเฉพาะการเมืองภูธรระยอง เครื่องหมายบ่งชี้เป็นสีเหลือง ที่ค่ายสีแดง ไม่เคยเจาะพื้นที่ได้ แตกต่างจากการเมืองยุคใหม่ ภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ ในโลกไร้พรมแดน การใช้ประโยชน์จากสื่อโซเชียล ทำให้ประชาชนเข้าถึงการเมืองระดับชาติมากที่สุด มากกว่าป้ายหาเสียง ทำให้บ้านใหญ่ชลบุรี บ้านใหญ่ระยอง สิ้นมนต์ขลัง เพราะสู้กระแสโซเชียลไม่ได้ แม้จะพร้อมด้วยองคาพยพและเกาะติดพื้นที่ด้วยระบบหัวคะแนนก็ตาม

สงครามการเมืองในระบบตัวแทนการเมืองระดับชาติ ในสนามเลือกตั้งซ่อมระยอง เขต 3 อำเภอแกลง-เขาชะเมา ระหว่างค่ายสีส้มกับค่ายสีฟ้า สะท้อนให้เห็นตัวแทนคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า เป็นสงครามตัวแทนของบ้านใหญ่ระยอง ตระกูลปิตุเตชะ ในทางการเมือง ปฎิเสธไม่ได้ว่า คนในพื้นที่ไม่รู้จักว่าที่ ส.ส.พงศธร ศรเพชรนรินทร์ พรรคก้าวไกล เพราะไม่เคยเป็นนักการเมืองหรือไม่ได้เป็นทายาทการเมือง ไม่เคยไปร่วมงานบุญ งานศพ งานแต่ง เหมือนกับนักการเมืองทั่วไป แม้กระทั่งตัวอดีต ส.ส.นครชัย ขุนณรงค์ ประชาชนในพื้นที่ไม่รู้จัก หากเทียบเคียงกับทายาททางการเมืองในพื้นที่ระยอง ไม่ว่าจะเป็นขาเก่า หรือหน้าใหม่ จะเป็นทายาททางการเมืองล้วนๆ โดยเฉพาะนายกฤษดา การุญ บุตรชายของ นายเสริมศักดิ์ การุณ อดีต ส.ส.ระยองหลายสมัย หรืออดีต ส.ส.ระยอง อย่างนายสิน กุมภะ หรือ แม้กระทั่ง พ.ต.อ.พนา เจือเพ็ชร กฤษณะราช ที่เสนอตัวให้แก่ประชาชน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันการเมืองกีฬาสี ทำให้บ้านใหญ่ระยอง ผงาด ครองพื้นที่ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา จนถึงการล้มช้างของจริงในปี 2566 ทำให้คนรุ่นใหม่แทนคนรุ่นเก่า จึงเกิดพรรคการเมืองใหม่น้องใหม่ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ ที่ชื่อว่า พรรคอนาคตไกล(อนก.)

สงครามตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่พรรคก้าวไกลชนะประชาธิปัตย์ ม้วนเดียวจบ โดยคะแนนชนะแทบทุกหน่วยเลือกตั้ง โดยค่ายสีส้มงัดกลยุทธ์ ชนะเลือกตั้งไม่ได้เป็นรัฐบาล ขณะเดียวกันค่ายสีฟ้า พลิกเกมสู้กระแสฟีเวอร์ให้เลือกคนบ้านเรา กระแสสู้กับกระสุน แต่สู้กระแสไม่ได้ แม้หมอบัญญัติ ปชป.จะงัดกลยุทธ์ เลือกคนบ้านเรา ในขณะที่พงศธร เป็นคนนอกพื้นที่ แต่เป็นเขยคนแกลง กลยุทธ์ทางการเมืองหนนี้ ไม่อาจชนะใจคนแกลง คนเขาชะเมาได้ อาจเกิดจากตัวแปรเพราะไร้ผลงานหรือไม่ อย่างไร หรือว่าประชาชนเบื่อหน่าย อยากลองของใหม่หรือไม่อย่างไร ส่งผลประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ออกมาใช้สิทธิ เทคะแนนให้ก้าวไกลตัวแทนคนรุ่นใหม่ชนะเลือกตั้งแบบทิ้งคะแนนห่างไม่เห็นฝุ่น

อีกฟากฝั่งหนึ่ง กระแสพรรคเกิดใหม่ คือ “พรรคอนาคตไกล” ออกตัวแรง สะเทือนในวงการเมืองเพราะทั้งชื่อ โลโก้พรรค สีของพรรค ไม่ได้เกิดจากการเมืองกีฬาสี แต่แกนนำพรรคยืนยันว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดและไม่ได้เป็นนอมินีของใคร แต่ในทางการเมือง ยิ่งปฎิเสธ ถือว่าเป็นจริงทางการเมือง ล่าสุด แกนนำอนาคตไกล หลุดรายชื่อทางสื่อในการทาบทามคนรุ่นใหม่มานั่งเป็นกระบอกเสียงของพรรค หากพิจารณาของแบรนด์เนมว่าที่โฆษกพรรค “ไก่ต๊อก” “ภาวัต เชี่ยวชาญเรือ” เป็นคนหนุ่มอายุน้อย อนาคตไกล มีประสบการณ์การเมืองภายในองค์กร สถาบันการศึกษา สู่สนามการเมืองระดับชาติ การวางตัวอย่างแยบยล ทั้งยืนยันว่า นโยบายอนาคตไกล ไม่แก้มาตรา 112 โดยเลื่อมใสในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

หากพิจารณาถึงว่าที่โฆษกพรรคอนาคตไกล รอที่ประชุมใหญ่เลือก กก.บห.อย่างเป็นทางการ รายชื่อที่หลุดออกมา แม้ “ไก่ต๊อก” ภวัต เชี่ยวชาญเรือ จะเป็นคนรุ่นใหม่และเป็นหน้าใหม่ทางการเมืองของอนาคตไกล ไม่ต่างจาก อดีต ส.ส.นครชัย ขุนณรงค์ หรือว่าที่ ส.ส.พงศธร ศรเพชรนรินทร์ จากพรรคก้าวไกล ที่เป็นหน้าใหม่ทางการเมืองทั้งคู่ แต่ประชาชนต่างเทคะแนนให้ หากพิจารณากฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 16 กำหนดอายุบุคคลที่เป็น กก.บห.ต้องเป็นสมาชิกที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี หากพิจารณายี่ห้ออนาคตไกล แม้ยังไม่ทราบหน้าตาว่า กก.บห.พรรคอนาคตไกล เป็นใครบ้าง หากพิจารณา ความรู้ ความสามารถ ประวัติการศึกษาและประสบการณ์ทางการเมือง เป็นนักกิจกรรมตัวยง เคยผ่านเป็นประธานสภานักเรียน มีความรู้ด้านการเมืองการปกครอง รัฐศาสตร์สาขาการเมืองการปกครอง ในระดับปริญญาตรี เคยผ่านการเป็นคณะกรรมการสโมสรนิสิต คณะรัฐศาสตร์และคณะนิติศาสตร์และผู้เสนอตัวแข่งขันนายกสโมสรนิสิตคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ม.บูรพา ถือว่า เป็นการชิมลางการเมืองในองค์กร ก้าวมาสู่สนามการเมืองเลือกตั้งระดับชาติ สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบ การจัดวาง กก.บห.ในมิติใหม่ สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่มีอายุน้อยเพื่อจิตอาสาทำงานให้แก่บ้านเมือง นับจากนี้เป็นต้นไป จะเห็นความร้อนแรงทางการเมือง กระแสจุดติดในคนรุ่นใหม่ จะรวมกันตี หรือแยกกันตี สำหรับในสนามการเมืองระหว่างพรรคอนาคตไกลกับพรรคก้าวไกล เป็นสงครามคนรุ่นใหม่ จุดแตกต่าง แกนนำอนาคตไกล ยืนยันว่า ไม่แก้ มาตรา 112 ความก้าวล้ำเทคโนโลยีเข้าถึงประชาชน แต่ประชาชนจับต้องได้ แข่งขันกันที่นโยบาย เชื่อว่าจะมีบางพรรคการเมือง ตระบัดสัตย์ ตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเพื่อแสวงหาอำนาจให้แก่ตนเอง อ้างว่า นโยบายเป็นเพียงเทคนิคการหาเสียง บางพรรค ส.ส.ไม่เคารพมติพรรค บางพรรคไม่มีอุดมการณ์ แม้จะแถลงนโยบายเพื่อเข้าบริหารราชการแผ่นดินในวันนี้ อีกไม่นานเกินรอ จะมีการเลือกตั้งรอบใหม่ ประชาชนไม่ถูกหลอกเพราะรู้เท่าทัน เชื่อว่าบางพรรคอาจเข้าขั้นสูญพันธุ์

โดยทีมงานพรรคอนาคตไกล