พรรคประชาชาติ-พร้อมสู้ศึกบัตร 2 ใบ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งเป้า ส.ส.เขต 10 เก้าอี้

ในทางการเมืองจะพบว่า ช่วงที่ผ่านมาพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ถูกจับตามองและพูดถึงอย่างมาก หลังผลการเลือกตั้งปี  2562 พรรคการเมืองที่เคยได้ ส.ส.เขตแบบเป็นกอบเป็นกำต่อเนื่องยาวนานเกือบทั้งภาคอย่าง "พรรคประชาธิปัตย์" ถูกพรรคการเมืองอื่นเข้ามาแชร์เก้าอี้ ส.ส.เขตไปจำนวนไม่น้อย  ทำให้หลายพรรคการเมืองเริ่มเทน้ำหนักมาให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น ซึ่งช่วงเดือนมกราคมปี 2565 ภาคใต้ก็จะมีการเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร-สงขลา ที่จะเป็นการอุ่นเครื่องวัดกระแสการเมืองในภาคใต้คั่นกลางก่อนศึกเลือกตั้งใหญ่

สำหรับ พื้นที่เลือกตั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ  ยะลา, ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งการเลือกตั้งรอบหน้าจะมี ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นจาก 11 ที่นั่งเป็น 12 ที่นั่ง ถือเป็นอีกโซนเลือกตั้งในภาคใต้ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับท่าที-การเตรียมความพร้อมของ พรรคประชาชาติ ที่ได้ ส.ส.เขตในการเลือกตั้งปี 2562 มากที่สุด คือ 6 ที่นั่งจาก 11 ที่นั่ง

การสัมภาษณ์ครั้งนี้ เราได้พูดคุยกับผู้บริหารพรรคประชาชาติ คือ วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และ .ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย 5 ส.ส.เขต และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขตและบัญชีรายชื่อของพรรคประชาชาติ ที่ได้เปิดที่ทำการพรรคย่านดอนเมือง-สรงประภา ให้สัมภาษณ์และพูดคุยกับเรา

บทสัมภาษณ์เริ่มด้วยการที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เกริ่นนำว่า การเตรียมคัดเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาชาติ เมื่อดูจากการเลือกตั้งเมื่อปี  2562 พรรคได้ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งระบบเขตประมาณสองร้อยกว่าเขตเลือกตั้ง โดยพรรคมีการเก็บข้อมูลผลคะแนนของผู้สมัครแต่ละคนไว้ และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ผู้สมัครคนใดที่ยังอยู่กับพรรคประชาชาติและคะแนนเสียงค่อนข้างดี ก็อยู่ในส่วนที่พรรคจะนำมาพิจารณาส่งลงเลือกตั้งอีกครั้ง

การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มี ส.ส.เขต 11 ที่นั่ง พรรคประชาชาติได้มา 6 ที่นั่ง ได้มาครึ่งหนึ่งก็ถือว่าพรรคได้ครองเสียงข้างมากในพื้นที่ แต่การเลือกตั้งรอบหน้าจะมี ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นเป็น  12 ที่นั่ง พรรคประชาชาติมั่นใจว่าจะได้อย่างน้อย 10 ที่นั่ง

...การทำงานของพรรคประชาชาติทั้งการทำงานในและนอกสภาผู้แทนราษฎร คนของพรรคประชาชาติทำงานอย่างเต็มที่ ถึงตอนนี้พบว่ามีคนยื่นความจำนงขอลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาชาติเข้ามาแล้วหลายภาค-หลายเขตเลือกตั้ง  โดยหลังจากรัฐสภามีการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญสองฉบับคือ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.พรรคการเมืองแล้วเสร็จ มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ  พรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศต่อไป

-สนามเลือกตั้ง ส.ส.เขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร?

วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ - การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มี ส.ส.เขต 11 ที่นั่ง พรรคประชาชาติได้มา 6 ที่นั่ง คือได้มาครึ่งหนึ่งก็ถือว่าพรรคประชาชาติได้ครองเสียงข้างมากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่การเลือกตั้งรอบหน้าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมี ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นเป็น 12 ที่นั่ง  พรรคมั่นใจว่าจะได้คะแนนเสียงมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

"จากจำนวน 12 ที่นั่งของ ส.ส.ระบบเขต พรรคประชาชาติมั่นใจว่าเราจะได้อย่างน้อย 10 ที่นั่ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นอกจากประชาชนให้โอกาสคนของพรรคประชาชาติแล้ว จะพบว่าอีกห้าเขตเลือกตั้งที่พรรคประชาชาติไม่ได้รับเลือก เมื่อไปดูคะแนนเสียงพบว่า ผู้สมัครของพรรคประชาชาติได้มาอันดับสองหมดทั้งห้าเขตที่พรรคไม่ได้รับเลือก โดยบางเขตแพ้แค่หลักร้อย  บางเขตก็แค่หลักพัน ไม่มีที่แพ้เกินกว่าห้าพันคะแนน

ดังนั้น หากเร่งขึ้นมาก็จะทำให้ผู้สมัครของพรรคประชาชาติจากที่เคยได้อันดับสอง ก็จะขึ้นมาเป็นที่หนึ่งได้ ส่วนหกเขตที่พรรคมี ส.ส.อยู่ ก็มั่นใจว่าจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาอีก เพราะที่ผ่านมาการทำงานของเราในพื้นที่สอบผ่านแน่นอน จึงเป็นโอกาสที่พรรคประชาชาติจะได้ ส.ส.ในพื้นที่ตามที่ตั้งเป้าไว้ได้"   

-กรณีมี ส.ส.เขตบางคนของพรรคที่ไปทำกิจกรรมการเมืองกับพรรคการเมืองอื่น รวมถึงคนที่เคยอยู่กับพรรคแล้วตอนนี้ลาออกไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น จะมีผลในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นหรือไม่?

วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ - สำหรับ ส.ส.เขตในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรค ที่ผ่านมาก็อยู่กับพรรคประชาชาติมาตลอด เพียงแต่มี ส.ส.รายหนึ่ง ที่ความจริงออกจากพรรคเราก่อนหน้านี้แล้ว คือ ส.ส.เขต 3 ปัตตานี ที่ไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ส่วนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น นอกจาก ส.ส.คนดังกล่าวแล้ว ไม่มีใครไปอยู่พรรคการเมืองอื่น

ส่วนที่อาจจะมีคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ปัจจุบันได้เปิดตัวไปอยู่พรรคการเมืองอื่นแล้ว สิ่งนี้มองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา  เพราะบางคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. เป็นอดีต ส.ส. อยากไปลงสมัคร ส.ส.เขตในนามพรรค แต่พื้นที่ดังกล่าวไม่ว่าง เขาก็ออกไป ส่วนจะมีผลต่อพรรคประชาชาติหรือไม่ หากดูจากคะแนนนิยม ความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพรรคเพิ่มขึ้น คิดว่าการต่อสู้กันเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะไม่มีผลทำให้พรรคประชาชาติได้จำนวน ส.ส.เขตลดลง หรือไม่ได้ ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นจากที่พรรคตั้งเป้าหมายไว้ พรรคก็จะทำให้ดีที่สุดและขึ้นอยู่กับความศรัทธาของประชาชน รวมถึงผลงานของพรรคด้วย

-เรื่องกติกาการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไปจากบัตรใบเดียวเป็นบัตรสองใบ ที่คนมองกันว่าไม่เป็นผลดีต่อพรรคขนาดเล็ก พรรคจะปรับตัวสู้ศึกบัตรสองใบอย่างไร ?

วันมูหะมัดนอร์ มะทา - คนมองกันว่าการใช้บัตรสองใบทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็กเสียเปรียบพรรคการเมืองขนาดใหญ่ แต่เราคิดว่าไม่ได้ทำให้พรรคประชาชาติเสียเปรียบ เพราะพรรคมี ส.ส.เขตหกคน มี ส.ส.บัญชีรายชื่อหนึ่งคน

ฐานของพรรคประชาชาติเป็นฐานของ ส.ส.เขต บัตรสองใบทำให้มีการเพิ่ม ส.ส.เขตมากขึ้น จากเดิมมี 350 คน  เพิ่มเป็น 400 คน แล้วลดจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลงจาก 150  คน เหลือ 100  คน ซึ่งการลดลงดังกล่าวพรรคประชาชาติมี ส.ส.บัญชีรายชื่อหนึ่งคนอยู่แล้ว จึงไม่ได้มีผลอะไรกับพรรค

"เพราะฉะนั้น บัตรสองใบสำหรับพรรคการเมืองขนาดเล็ก ในส่วนของพรรคประชาชาติเราได้เปรียบมากกว่าเดิม"

...การเลือกตั้งปี 2562 ที่ใช้บัตรใบเดียว โดยไม่ได้แยกคะแนน ส.ส.เขตกับบัญชีรายชื่อ เมื่อไปดูจากคะแนนรวมทั้งหมดที่พรรคประชาชาติได้ พบว่าได้มาประมาณ 485,000  คะแนน แต่เมื่อใช้บัตรสองใบ หากดูจากฐานคะแนนเสียงดังกล่าวแล้ว การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเมื่อพรรคส่งคนลงสมัคร ส.ส.เขตต่างๆ และบางเขตแม้ไม่ได้ส่งผู้สมัคร แต่ประชาชนก็ยังเลือกปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคได้ ก็คิดว่าพรรคจะได้คะแนนที่นำมาคิดในระบบปาร์ตี้ลิสต์มากขึ้น

การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ฐานคะแนนในการคิดจำนวน  ส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่ที่ประมาณ 70,000 คะแนน แต่กติกาใหม่ มีการประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 300,000-350,000  คะแนนต่อปาร์ตี้ลิสต์หนึ่งที่นั่ง พรรคประชาชาติตั้งเป้าไว้ว่าพรรคน่าจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อย่างน้อยสัก 3-5 ที่นั่งหรือมากกว่านั้น แต่สำหรับพรรคการเมืองที่เคยได้แต่ ส.ส.บัญชีรายชื่อจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เมื่อกติกาการเลือกตั้งเปลี่ยนไปก็อาจทำให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อลดลงได้ 

-จากกติการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้พรรคขนาดเล็กมีการยุบพรรคเพื่อไปอยู่กับพรรคใหญ่ ถ้าหากจะมีพรรคการเมืองขนาดเล็กบางพรรคมาพูดคุย แล้วขอยุบมารวมกับพรรคประชาชาติจะเป็นไปได้หรือไม่?

.ต.อ.ทวี เลขาธิการพรรคประชาชาติ - ยืนยันได้ว่าพรรคประชาชาติไม่มีแนวคิดจะไปรวมกับพรรคการเมืองใด  ส่วนหากจะมีพรรคการเมืองอื่นมาขอรวมกับพรรคประชาชาติ  ถ้าหากมีอุดมการณ์และเห็นว่ามาแล้วจะเข้าไปร่วมกันแก้ปัญหาของประเทศได้ ทางพรรคก็พร้อมจะคุยกับทุกพรรค  แต่ถ้าจะนำพรรคประชาชาติไปรวมกับพรรคการเมืองอื่น ยืนยันว่าไม่มีอยู่ในความคิด เนื่องจากเราทำพรรคประชาชาติมา  ตอนนี้เราก็เป็นพรรคอันดับ 7 ของประเทศ จากที่มีพรรคการเมืองจดทะเบียนร่วมร้อยกว่าพรรค และเลือกตั้งที่ผ่านมามีพรรคการเมืองส่งคนลงเลือกตั้งประมาณแปดสิบกว่าพรรค  เราก็ได้ ส.ส.เข้ามาจำนวนหนึ่ง

จากประสบการณ์การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่มีบางพื้นที่เลือกตั้ง ผู้สมัครของพรรคประชาชาติคะแนนที่ได้แพ้ไม่เยอะ  ผนวกกับความนิยมที่คนมีต่อพรรคประชาชาติ โดยที่พรรคตั้งเป้าหมายไว้ว่าอาจจะได้ ส.ส.เขตในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 10 คน และเรามีนโยบายของพรรคที่จะเข้าไปแก้ปัญหาด้านต่างๆ ที่เป็นปัญหาสำคัญ พรรคคิดว่าคะแนนพรรคอาจจะได้มากกว่าคะแนนที่จะได้จาก ส.ส.เขตรวมกันแล้วประมาณสักห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เช่นสมมุติคะแนนที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตที่ชนะการเลือกตั้งของประชาชาติรวมกันแล้วได้ประมาณห้าแสนคะแนน แต่คะแนนพรรคก็น่าจะเพิ่มมาเป็นสักหนึ่งล้านคะแนน เพราะด้วยระบบบัตรสองใบ คนอาจไปกาเลือกผู้สมัคร ส.ส.เขตพรรคการเมืองอื่น แต่ใบบัตรระบบบัญชีรายชื่อ เขาอาจมาลงคะแนนให้พรรคประชาชาติก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า  ถ้าจะแก้ปัญหาของทุกพื้นที่ต้องใช้นโยบายพรรคและคนของพรรคประชาชาติที่เราก็ต้องทำงานหนัก

-ที่ผ่านมาพอใจบทบาทของพรรคในการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านมาสองปีกว่าอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นต่างๆ เช่น เรื่องที่ดินเขากระโดง บุรีรัมย์ หรือเรื่องประมูลสต๊อกยาง 1.04  แสนตันให้เอกชน?

ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ส.ส.ของพรรคประชาชาติได้ร่วมลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทุกครั้งที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ บางเรื่องคือการเอาทรัพย์สินคืนให้กับประเทศชาติ โดยประเด็นที่อภิปรายอย่างเรื่องที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นที่ยุติว่าที่ดินห้าพันกว่าไร่  ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยก็ประกาศว่าที่เป็นที่ดินของการรถไฟฯ แล้ว เห็นว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวควรนำมาคืนให้กับประเทศ ซึ่งในเชิงมูลค่าก็เป็นส่วนหนึ่ง ขณะเดียวกันในเชิงเรื่องความยุติธรรม ความกล้าหาญ การทำให้กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย การรักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน เรื่องเหล่านี้ต้องมีการดำเนินการต่อไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวปัจจุบันอยู่ที่สำนักงาน ป.ป.ช. หรือเรื่องยางพารา ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตยางพาราและส่งออกมากที่สุดในโลก แต่การที่มีการประมูลการขายยางพาราตามข้อมูลที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีการประมูลขายแบบทุ่มตลาด ต่ำกว่าราคาตลาดครึ่งหนึ่ง ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ทราบว่า ป.ป.ช.ก็มีการเรียกคนไปไต่สวนแล้ว โดยมีเส้นทางการเงิน เส้นทางยางไม่เป็นไปตามการประมูล เรื่องเหล่านี้ผมเชื่อว่า สิ่งที่ใครทำไว้ กระบวนการยุติธรรมต้องไปถึง

สิ่งเหล่านี้พรรคประชาชาติไม่ได้มีเรื่องส่วนตัวกับใคร แต่เป็นเรื่องที่เป็นสมบัติหรือเป็นภาษีอากรของประชาชน เป็นทรัพย์ของประชาชนทุกคน ส่วนการตรวจสอบในเรื่องอื่นๆ  พรรคประชาชาติเป็นพรรคการเมืองที่มีความชัดเจน เพราะพรรคมีความคิดอยู่อันหนึ่งว่า หากเป็นเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน พรรคอื่นอาจเกี๊ยะเซียะหรือสมยอมกันได้ แต่พรรคประชาชาติเป็นตัวของตัวเอง เพราะความเดือดร้อนของประชาชนมีความสำคัญกว่าความเดือดร้อนของคนในพรรคอีก เพราะเราเป็นตัวแทนของประชาชน

-ประเมินสถานการณ์การเมืองต่อจากนี้อย่างไร โดยเฉพาะมองว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่สภาอาจจะอยู่ไม่ครบสี่ปี มีการยุบสภาเกิดขึ้นก่อน?

การประเมินว่านายกฯ จะยุบสภาหรือไม่ ในส่วนของพรรคประชาชาติและประชาชนทั่วไปอยากจะเปลี่ยนรัฐบาล  ความจริงหากเปลี่ยนตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ประชาชนก็จะได้ประโยชน์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราเสียเวลากับรัฐบาลที่ไม่มีฝีมือ รัฐบาลที่อ่อนแอ รัฐบาลที่สร้างหนี้สินให้กับประเทศชาติตอนนี้มากกว่าสี่ล้านล้านบาทแล้ว จนกระทั่งต้องขอให้มีการขยายเพดานหนี้ ส่วนด้านเศรษฐกิจ พบว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของเราตอนนี้เราต่ำที่สุดในอาเซียนเพราะฉะนั้นการที่รัฐบาลพยายามจะอยู่ต่อไปจนกระทั่งถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ผมคิดว่าประโยชน์ไม่ได้เกิดขึ้นเลย ดังนั้นถ้าเรียกร้องได้ ก็ให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เพื่อจะได้มีรัฐบาลใหม่น่าจะดีที่สุด

ส่วนว่าจะมีการยุบสภา หรือสภาจะอยู่ครบเทอมหรือไม่  ปัญหาอยู่ที่รัฐบาลอย่างเดียวเลย พรรคประชาชาติแม้เราจะเป็นพรรคเล็ก แต่ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าให้ความเป็นธรรมแล้วมีการประเมินผล ผมคิดว่าพรรคประชาชาติทำหน้าที่ไม่แพ้พรรคขนาดกลางหรือพรรคขนาดใหญ่ โดยข้อมูลที่คนของพรรคประชาชาติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นข้อเท็จจริง เราจึงสามารถยื่นต่อ ป.ป.ช.ต่อได้ และเรื่องอาจไปถึงศาลคดีทางการเมืองในเร็ววันนี้ การเลือกตั้งรอบหน้าพรรคประชาชาติจะต่อสู้ต่อไป เพื่อให้มีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพเพื่อเข้าไปแก้ปัญหาของประเทศ

-การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ส.ส.เขตที่มีอยู่ปัจจุบันจะอยู่กันครบหรือไม่ และจะมี ส.ส.หรือนักการเมืองจากพรรคการเมืองอื่นเข้ามาอยู่กับพรรคประชาชาติหรือไม่?

พ.ต.อ.ทวี-เลขาธิการพรรคประชาชาติ - ขอย้ำว่าคนในพรรคประชาชาติเราอยู่ร่วมกันด้วยอุดมการณ์ และพวกเรามีความรัก ความสามัคคี เพราะว่าคนในพรรคมีเป้าหมายที่ตรงกันคือ การให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และด้วยอุดมการณ์แบบนี้พรรคเราจึงอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมาก

จากคำถามดังกล่าว ทำให้ ส.ส.เขตของพรรคประชาชาติรวม 5 คน ซึ่งทั้งหมดเป็น ส.ส.ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยู่ร่วมในวงสัมภาษณ์ครั้งนี้ด้วย ต่างให้สัมภาษณ์ยืนยันที่จะอยู่ร่วมกับพรรคประชาชาติต่อไปในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ยกตัวอย่างอาทิ

กูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.เขต 3 นราธิวาส พรรคประชาชาติ โดยเขาบอกว่า ผมบอกตรงๆ ว่าเล่นการเมืองถึงปัจจุบันรวมเวลาเกือบยี่สิบปี ซึ่งในการมาอยู่กับพรรคประชาชาติ เราได้คะแนนที่บริสุทธิ์ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาต้องบอกเลยว่า  เราเป็นพรรคการเมืองที่มีงบน้อยมาก แต่เราก็ผ่านเข้ามาได้ด้วยความศรัทธาจากประชาชน ที่ผ่านมาพวกเราในทีมที่เป็น ส.ส.เขตของประชาชาติ มีการพูดคุยกันตลอด มีหลายพรรคมาทาบทามหรือมาขอ แต่หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคก็ย้ำกับพวกเราเสมอว่า หากวันข้างหน้าถ้าพวกเราจะไป ถ้าวันไหนพวกเราไม่อยู่พรรค ขอให้ไปเป็นทีม อย่าไปคนเดียว เพราะเราจะไม่มีค่า จะไม่มีความหมาย ท่านบอกมาตลอด  และวันนี้พวกเราได้รับการยืนยันว่า ทางหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคจะสู้ต่อไป สำหรับผมเองยืนยันผมจะสู้ต่อไปเพื่อพรรคประชาชาติ

เมื่อถามถึงว่า มีพรรคการเมืองอื่นมาติดต่อหรือมาให้เงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้ย้ายไปอยู่ด้วยหรือไม่ กูเฮง-ส.ส.นราธิวาส 3 สมัย ยอมรับว่า ก็มีครับ แต่โดยมารยาทผมไม่ขอบอกว่าเป็นพรรคการเมืองไหน และจำนวนที่เสนอคือเท่าใด ก็มีมาตลอด แต่พวกเรายืนยันว่า วันนี้ความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีราคาแพงกว่าค่าตัวของ ส.ส.

จากคำตอบดังกล่าว วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวเสริมว่า ที่เสนอกันเสนอเป็นกล้วยเยอะ แต่พวกเราที่อยู่กันที่นี่ เราเป็น ส.ส.ที่ไม่กินกล้วย เรากินข้าว และข้าวนั้นเราต้องกินร่วมกับประชาชน เราท้องอิ่ม ประชาชนก็ต้องท้องอิ่มด้วย ไม่ใช่ว่าไปเลือกกินกล้วยที่แจกกันในสภา

ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ประชาชนยังรู้สึกถูกกดทับ ไม่ได้รับความเป็นธรรม    

สำหรับนโยบายพรรคประชาชาติที่จะนำมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมีขึ้น .ต.อ.ทวี-เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า นโยบายพรรคที่ใช้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เกิดจากการระดมความคิดเห็นร่วมกันของหัวหน้าพรรค,  กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค แต่เนื่องจากนโยบายของเรายังไม่ได้นำนโยบายไปใช้โดยตรง เพราะพรรคประชาชาติเป็นพรรคฝ่ายค้าน  อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า หากใช้นโยบายพรรคประชาชาติไปบริหารประเทศ คิดว่านโยบายของเราแก้ปัญหาของประเทศได้

...อย่างนโยบายเรื่องหนึ่งที่พรรคให้ความสำคัญคือ เรื่องของ คน-การให้ความสำคัญกับคน ดังนั้น งบประมาณที่ใช้ไปกับคนจะต้องไม่คิดเรื่องกำไร ขาดทุน เพราะการพัฒนาคนให้มีคุณภาพ ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า พรรคประชาชาติจึงเน้นเรื่องความยากจนของคนในประเทศต้องเป็นศูนย์ คนในประเทศต้องดำเนินชีวิตอยู่ได้ ซึ่งหลักสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่อง หลักสวัสดิการของรัฐ เช่นเราเคยกำหนดนโยบาย บำนาญถ้วนหน้า คือคนที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปควรจะมีบำนาญอย่างน้อย 3,000 บาท เพราะหากให้ 3,000 บาทกับคนที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไปที่มีประมาณ 11 ล้านคน พวกเขาจะได้ไม่ต้องห่วงอะไรมาก คือไม่ว่าจะเป็นคนยากดีมีจนควรให้เขามีตรงนี้ อันที่สองคือตั้งแต่เกิดจนถึงเชิงตะกอน เราต้องดูแลประชาชนในด้านต่างๆ เช่น เรื่องการศึกษา ที่ให้เรียนฟรี  การเรียนที่มีคุณภาพ และรัฐต้องเข้าไปดูแลเรื่องปัจจัยสี่ รวมถึงต้องทำให้เรื่องความเหลื่อมล้ำของคนในประเทศต้องเหลือน้อยที่สุด ไม่ใช่เหลื่อมล้ำมากที่สุด ควรทำให้ความเหลื่อมล้ำและการผูกขาดต้องไม่มี

พรรคประชาชาติจึงมีนโยบายเรื่อง การกระจายอำนาจ เพราะแม้ทุกพรรคการเมืองจะพูดเรื่องกระจายอำนาจทุกพรรค แต่พอเข้าไปเป็นรัฐบาลไม่กล้าทำ เพราะคนที่จะรู้ปัญหาของพื้นที่ตางๆ ทั่วประเทศ ไม่มีใครจะรู้ดีเท่ากับคนในพื้นที่ ท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนท้องถิ่น  แต่รัฐปัจจุบันได้ขยายอำนาจโดยไปยึดท้องถิ่นโดยการปกครองส่วนภูมิภาค โดยเอาส่วนราชการของตัวเองไปยึดและขยาย  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการงบประมาณ

...แม้พรรคประชาชาติจะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ ส.ส.ของพรรคคือ นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา ก็เป็นประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ ทำให้เราเห็นได้ชัดเลยว่าเวลาประชาชนเดือดร้อนมีปัญหาเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ เขาจะนึกถึงนายก อบต., นายกเทศบาล, นายก อบจ. เขาไม่ไปหานายกรัฐมนตรีหรือ รมว.มหาดไทยเพราะไกลเกินไป

เรื่องที่สาม เรื่องสุขภาพ การมีคุณภาพชีวิตที่ดี คือทำอย่างไรให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี มีคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดี  โดยนโยบายที่ใช้หาเสียงครั้งที่แล้ว พรรคชูนโยบายเรื่อง การปฏิรูปที่ดิน เพื่อทำให้เกษตรกรได้มีกรรมสิทธิ์และที่ดินเป็นของตัวเอง เพราะอย่างรัฐบาลชุดนี้ก็มีการนำที่ดินไปให้นายทุน คนรวยเยอะ ทำให้คนเหล่านี้เวลาพัฒนาที่ดินก็จะนึกถึงคนรวยก่อน

เรื่องที่สี่ การทำให้ราชการส่วนบนเล็กลง รัฐราชการ ควรจะหมดไป ไม่ใช่แบบที่ทำปัจจุบันที่ขยายอำนาจ ตั้งกรมกองไม่หยุดหย่อน เพราะพอตั้งกรมกองก็จะตามมาด้วยการตั้งสำนักงาน การให้ตำแหน่งต่างๆ และตามด้วยรถยนต์ประจำตำแหน่ง

เรื่องที่ห้า ซึ่งพรรคเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ คือความยุติธรรม-ความเป็นธรรม ต้องไม่มีสองมาตรฐาน 

ทั้งหมดคือสิ่งที่พรรคประชาชาติเห็นว่าคือปัญหาของชาติ ซึ่งบางเรื่องอาจเป็นนโยบายเดิมที่เคยใช้หาเสียงตอนปี 2562 พรรคก็จะมีการนำมาปรับ โดยหลังจากนี้จะมีการระดมความคิดเห็นเพื่อทำนโยบายพรรคต่อไป เพราะเราเชื่อว่านโยบายเดิมที่เคยใช้หาเสียง ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ หากนำไปใช้จะสามารถแก้ปัญหาของประเทศได้เลขาธิการพรรคประชาชาติกล่าวอย่างมั่นใจ

เมื่อถามถึงนโยบายของพรรคประชาชาติในเรื่องการพัฒนาและแก้ปัญหาต่างๆ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา-ปัตตานี-นราธิวาส เรื่องดังกล่าว พ.ต.อ.ทวี-เลขาธิการพรรคประชาชาติและอดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ให้คำตอบว่า ปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าจนถึงปัจจุบันปัญหาเดิมที่เคยมีอยู่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาที่ประชาชนเขารู้สึกว่าเขาถูก กดทับ ประชาชนยังมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่นเวลาจะออกจากบ้านไปบางสถานที่เช่นที่นราธิวาส ผมไปลงพื้นที่กับ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติคือนายกูเฮง ยาวอหะซัน พบว่าด่านตรวจยังเยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทำให้เห็นได้เลยว่า ถึงตอนนี้ปัญหาเดิมในพื้นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร เพราะรัฐบาลชุดปัจจุบันยังยึดความมั่นคงของทหาร คือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.เหนือความมั่นคงของประชาชน ซึ่งความมั่นคงของประชาชนคือเขาอยากมีอิสระ มีเสรีภาพในการดำเนินชีวิตและการทำมาหากิน ไม่ถูกกดทับ

นอกจากนี้มองว่า ปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาด้านอื่นๆ ก็เหมือนกับพื้นที่อื่น เพียงแต่ว่าพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เราคือผู้ผลิต เช่นเป็นผู้ผลิตทางการเกษตร ผลไม้อย่างทุเรียน โดยเราพบว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันมองข้ามในส่วนนี้ไป คือผลผลิตออกมามากแต่ราคาไม่ดี เพราะรัฐบาลไม่ได้มองในเรื่องการพัฒนา การสร้างโอกาส ยกตัวอย่างเช่นทุเรียนที่จังหวัดยะลา มีจำนวนมาก  แต่ขายได้ในราคาที่ต่ำกว่าทุเรียนหลังสวนเกือบสิบบาท เพราะรัฐบาลไม่จริงใจในการเข้าไปช่วย เช่นการทำตลาดกลาง, มีห้องเย็นเหมือนที่อื่นๆ ซึ่งหากรัฐบาลทำให้เกษตรกรที่ทำการเกษตรหรือทำประมง ที่เขามีความรู้แต่ยังอาจการเข้าถึงโอกาส ซึ่งโอกาสที่เข้าไม่ถึงดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นเพราะไปติดกับเรื่องกฎหมายความมั่นคง ยังมีความหวาดระแวงของหน่วยราชการมากเกินไป

...เชื่อว่านโยบายเกี่ยวกับพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคประชาชาติที่จะออกมาตอนเลือกตั้ง ประชาชนเขาจับต้องได้ เพราะพรรคให้ความจริงใจ ทำจริงจัง และเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ได้มีโอกาสพัฒนาและสร้างสันติภาพ  โดยไม่ต้องถูกครอบงำจากคนที่มีความคิดที่เขาอาจยังไม่เข้าใจคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จริงๆ เขามีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว ทั้งหมดคือนโยบายของพรรคประชาชาติที่จับต้องได้ ซึ่งรวมถึงนโยบายการพัฒนาด้านการศึกษา  การสร้างสันติสุข

-ถ้าพรรคประชาชาติเป็นรัฐบาล จะมีนโยบายในการเข้าไปแก้ปัญหาและพัฒนาพื้นที่ในสามจังหวัดภาคใต้ ที่เป็นเรื่องเร่งด่วนควรต้องทำโดยทันทีคืออะไร?

พ.ต.อ.ทวี - ปัญหาเร่งด่วนวันนี้ จริงๆ ผมยังคิดว่าก็คือการที่รัฐต้องเปิดโอกาสให้มีการ กระจายอำนาจ ไปให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะวันนี้ยังเป็นแค่การมอบอำนาจให้ส่วนภูมิภาค แต่ต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ท้องถิ่นมีงบประมาณและสามารถเข้าไปดูแลประชาชน คือต้องทำให้ประชาชนมีความสุขก่อน

ส่วนเรื่อง ความขัดแย้ง ซึ่งความขัดแย้งดังกล่าวไม่ได้เป็นแค่ความรู้สึกของรัฐเท่านั้น แต่ต้องให้ทุกคนเข้ามาร่วมแก้ปัญหาเพื่อลดความขัดแย้ง สิ่งที่เคยสร้างไว้อย่างเรื่อง การพูดคุย ก็ต้องมี โดยต้องเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมพูดคุย ผมเชื่อว่าเรื่องพวกนี้หากเกิดความเข้าใจทุกอย่างมันก็จะไปได้ ซึ่งจะทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาเป็นโอกาส เนื่องจากเรามีความเชื่อมโยง เพราะเมืองพื้นที่ชายแดนนั้นยิ่งใหญ่ และจะเป็นโอกาสให้กับพื้นที่อื่นๆ ด้วย  เพราะพื้นที่ชายแดนภาคใต้เรามีทั้งเกษตร ประมง และที่สำคัญในพื้นที่มีคนที่มีความรู้ค่อนข้างมาก ก็ทำให้เราสามารถที่จะค้าขายกับประเทศในแนวชายแดนและพื้นที่ต่างๆ ได้ จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศด้วย

ด้าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวเสริมในคำถามเดียวกันนี้ว่า เรื่องที่ถามว่าหากพรรคประชาชาติได้มีโอกาสร่วมรัฐบาล แล้วจะเข้าไปแก้ปัญหาในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเร่งด่วนนั้น สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าเราต้องทำให้ได้ นั่นก็คือต้องทำให้รายได้จากผลิตผลของชาวบ้านให้มีราคาสูงขึ้น เอาง่ายๆ อย่างเรื่อง ราคายางพารา ที่เป็นพืชหลักของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรากฏว่าราคายางพาราตั้งแต่รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา พบว่าราคายางพารามีราคาตกต่ำตลอด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยางพารามีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่ผลิต แต่การใช้ยางพารามีการใช้กันทั่วโลก  เช่นไปผลิตเป็นยางรถยนต์ โดยที่ประเทศไทยคือประเทศ 1 ใน 3 ประเทศผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ แต่เราไม่ได้มีการพูดคุยกันแล้วทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น ทั้งที่ผลิตผลจากยาง เช่นยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มันขึ้นตลอดเวลา เช่นจากสองพันต่อเส้นยางแล้วขยับไปที่สามพัน จนตอนนี้ขึ้นมาเป็นห้าพันแล้ว แต่ยางจากราคาเคยอยู่ที่ราคาร้อยกว่าบาท  ตอนนี้ลดลงเหลือ 30-40 บาท มันสวนกับข้อเท็จจริง หากรัฐบาลชุดปัจจุบันมีฝีมือ เข้าใจประเด็นนี้ ผมคิดว่าเราสามารถทำให้ราคายางพาราขึ้นไปมากกว่าราคาตอนนี้ได้

นอกจากนี้เราจะเห็นได้ว่า คนรุ่นใหม่ เด็กเยาวชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่างงาน ไม่มีงานทำทั้งที่เขามีความรู้ บางคนก็เรียนกลับมาจากต่างประเทศและที่กรุงเทพมหานคร แต่ปรากฏว่าพวกเขามีงานทำไม่ถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ยังว่างงานอยู่ 

...สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ มองว่าเป็นเพราะภาครัฐไม่ได้เข้าไปสร้างงานของรัฐในพื้นที่ หรือชักชวนนักลงทุนไปลงทุนเพิ่มเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ทำงาน หรือไม่ก็ให้ทุนแบบ  Start up เพื่อสร้างโอกาสให้คนได้ทำงานในพื้นที่มากขึ้น  เพราะเรามีคนที่มีศักยภาพ มีสติปัญญา มีกำลัง ภาครัฐก็ต้องกระตุ้นให้คนไปลงทุนในพื้นที่ หรือไม่ก็รัฐบาลต้องลงทุนเอง หรือทำให้เกิด Start up ในอาชีพใหม่ๆ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ๆ ในพื้นที่ได้มีงานทำ ปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ก็จะลดลงไปได้ รวมถึงต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติด เพราะตอนนี้ระบาดหนักมากกำลังใกล้เข้าไปใกล้ๆ สถานศึกษา ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นก็เพราะปัญหาการว่างงานอย่างที่บอกข้างต้น  แต่สาเหตุสำคัญก็เพราะรัฐบาลไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง จนประชาชนมองว่ารัฐบาลปล่อยปละละเลย เป็นปัญหาที่อันตรายมาก เพราะนอกจากคนในพื้นที่  เยาวชนรุ่นใหม่ไม่มีงานทำแล้วยังไปติดยาเสพติดอีก

พ.ต.อ.ทวี - ที่ถามว่า หากพรรคประชาชาติเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะทำอะไรทันทีเพื่อพัฒนาพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากสะท้อนให้ฟังว่า คนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาเรื่องการเดินทาง การคมนาคมอย่างมาก  โดยคนในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นความต้องการมากที่สุด เพราะรถไฟเป็นระบบคมนาคมที่ทุกคนต้องใช้ เราจึงควรจะต้องทำรถไฟความเร็วสูงจากสุไหงโก-ลกมาถึงหาดใหญ่ก่อน แต่ที่มีอยู่แล้วคือรถไฟรางคู่ที่เป็นรางเดี่ยวต้องทำทันที เพราะว่าเป็นความต้องการของประชาชน  เรื่องระบบคมนาคมที่รัฐบาลมีนโยบายทำรถไฟรางคู่ ที่จะทำในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การจะทำมีความล่าช้าคือจะทำในช่วงปี พ.ศ.2572-2579 แต่พื้นที่อื่นไปทำก่อนหมด  เหมือนมองประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นประชาชนชั้นสอง โดยหากรัฐบาลมีใจให้กับประชาชนก็ควรทำก่อนหน้านั้น จึงต้องถามว่าทำไมไม่ทำโครงการในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อน เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่พรรคประชาชาติพร้อมผลักดัน เพราะเป็นโครงการที่มีแผนงานอยู่ก่อนแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุทธัจจะ .. ในวังวนแห่งการตื่นธรรม .. ยุคไอที!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระรัตนตรัย... สัทธายะ ตะระติ โอฆัง.. บุคคลข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา.. โอฆะ หมายถึง ห้วงน้ำ ที่มีกระแสเชี่ยวกราก พัดพาสัตว์ทั้งหลายให้ตกไปในกระแสน้ำนั้น ยากจะข้ามฝั่งไปได้

คำนูณ ผ่าปม 2 ได้ 3 เสีย ถ้าไม่ยกเลิก MOU 2544

ความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นเรื่อง MOU 2544 ที่เชื่อมโยงถึงเกาะกูด, การหาแหล่งพลังงานแห่งใหม่ในพื้นที่อ้างสิทธิไทย-กัมพูชา ที่มีการประเมินกันว่ามีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท ยั

ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล

ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ" ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา"

'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้

ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การ​บริหาร​ส่วน​จังหวัด​ (อบจ.)​ อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก