เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในยามนี้ของกระแสสังคมการเมืองบ้านเรา ให้หวนระลึกถึงพระพุทธพจน์บทหนึ่งที่ว่า
ทีฆา ชาครโต รตฺติ ทีฆํ สนฺตสฺสโยชนํ
ทีโฆ พาลาน สํสาโร สทฺธมฺมํ อวิชานตํฯ
แปลความว่า ราตรีของคนผู้ตื่นอยู่นาน.. โยชน์ของคนล้าแล้วไกล
สงสารของคนพาลทั้งหลาย ผู้ไม่รู้ซึ่งสัทธรรมย่อมยาว...
บทธรรมดังกล่าว สะท้อนความจริงของสังคมมนุษยชาติ.. สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่วุ่นวายวนเวียนกันอยู่แต่เรื่องเดิมๆ ด้วยอำนาจความอยาก
ความอยาก... จึงนำวิถีชีวิตไปสู่ความยุ่งยาก ด้วยเมื่อสัตว์ทั้งหลายมีความต้องการจนเกินขอบเขตที่จะควบคุม จึงเกิดการแข่งขันกันในการแสวงหา เพื่อให้ได้มาตอบสนองความต้องการหรือความอยากนั้นๆ...
ไม่ว่ายุคใด สมัยใด .. จะเป็นเจเนอเรชั่นรุ่นใด ที่สุดก็หนีไม่พ้นอำนาจแห่งความอยาก ที่มุ่งแสวงหาโลกธรรมแปด คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข.. ที่แสดงความมีอำนาจหากได้มาซึ่งโลกธรรมนั้นๆ
การแสวงหาอำนาจเพื่อการเข้าถึงโลกธรรม หรือการใช้โลกธรรมเพื่อความมีอำนาจ.. จึงเป็นจุดมุ่งหมายในชีวิตของทุกคน ที่ต่างอ้างเหตุผลไปตามจริต.. มายาของจิตของสัตว์นั้นๆ...
แต่มิใช่ว่า.. ใครๆ จะสมหวังกับการแสวงหาอำนาจให้ได้มา.. หรือแม้ได้มาแล้วก็ใช่ว่าจะสมหวังต่อการใช้อำนาจ ..ด้วย “อำนาจ” เป็นคุณลักษณะของสัจธรรม.. ที่ยากยิ่งต่อความเข้าใจ โดยเฉพาะในคนพาล.. หรือคนที่ขาดความรู้ความเข้าใจในธรรม...
เราจึงเห็นอุบัติเหตุจากการใช้อำนาจไม่เป็นอยู่บ่อยครั้ง ที่นำไปสู่ความฉิบหายของผู้ใช้และความเสียหายของบุคคล สังคม ที่เกี่ยวข้อง...
จึงมีการเตรียมบุคคลให้พร้อมด้วยคุณสมบัติ เพื่อการใช้อำนาจ.. ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งต้องคำนึงถึงคุณลักษณะดังนี้คือ ๑.ชาติวุฒิ คือ ความเป็นผู้ใหญ่โดยชาติกำเนิดฐานะอันสูง ๒.วัยวุฒิ คือ ความเป็นผู้ใหญ่โดยวัย.. ตามอายุ
๓.คุณวุฒิ คือ ความเป็นผู้ใหญ่โดยคุณความดี หรือโดยคุณพิเศษที่ได้บรรลุ (ผลสำเร็จดีงาม)
ต่อมาเมื่อเข้าสู่กระแสสังคมที่มีความผันผวนเปลี่ยนแปลงไปตามอำนาจอิทธิพลของโลกธรรมสูงขึ้น จึงมีการเพิ่มอีก ๒ วุฒิ ได้แก่ ๔. ธนวุฒิ คือ การมีฐานะความเป็นอยู่ที่มั่นคง มีทรัพย์สินเงินทองเพียงพอ เพื่อประโยชน์ตนและเพื่อการช่วยเหลือผู้อื่น.. จึงนับเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งในสังคมวัตถุนิยมปัจจุบัน ซึ่งมีการใช้ธนวุฒิเป็นเครื่องมือในการแสวงหาให้ได้มาซึ่งอำนาจหรือทุกสิ่งในโลกนี้.. ตามที่กล่าวว่า เงินทองย่อมเนรมิตทุกอย่างได้สมหวังดังใจนึก
๕.ธรรมาวุฒิ คือ คุณธรรมความดี อันเป็นพื้นฐานของคนดี.. ที่สำคัญยิ่งต่อการสร้างชีวิตให้มี ดุลยธรรม โดยคำนึงถึงพื้นฐานความรู้ความเข้าใจในศีลธรรม จริยธรรม และคุณธรรม เป็นสำคัญ ที่จะทำให้บุคคลผู้มีอำนาจ.. ได้ใช้อำนาจให้เป็นธรรม.. มิใช่การใช้ธรรมเป็นอำนาจ...
ใน ๕ ประการดังกล่าวของบุคคลที่ควรใช้อำนาจให้เป็นธรรมได้นั้น จึงสรุปรวมลงที่ จะต้องมีความรู้ควบคู่คุณธรรม.. เพื่อการถ่วงดุลการใช้อำนาจมิให้สูญเสียดุลยภาพแห่งธรรม เพื่อความยุติธรรมที่คำนึงถึงสันติธรรม.. เป็นสำคัญ
การใช้อำนาจให้เป็นธรรมนั้น.. จึงต้องคำนึงถึงดุลยภาพแห่งธรรมเสมอ.. หากไม่สามารถหาดุลยภาพแห่งธรรมได้ ก็ยากที่จะใช้อำนาจให้เป็นธรรมได้ ทั้งนี้ ผู้ใช้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี สติปัญญา และมั่นคงอยู่ในการกระทำความเพียรชอบ.. โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการถึงประโยชน์แห่งธรรม.. โดยธรรม อย่างแท้จริง..
นั่นหมายถึง.. บุคคลเหล่านั้นต้องเป็นผู้ที่มีพื้นฐานการศึกษาที่เข้าใจในธรรมชาติแท้จริงของชีวิต.. เข้าใจในกฎเกณฑ์ของชีวิตที่ควบคุมด้วยกฎแห่งธรรม.. ที่ไม่เคยผันแปรไปตามกระแสใดๆ ในโลกใบนี้
ความเข้าใจในธรรมชาติของชีวิต.. แท้จริง คือความเข้าใจในธรรม.. ที่จะน้อมนำให้บุคคลเหล่านั้นเข้าสู่กระแสธรรม ด้วยการประพฤติธรรม ปฏิบัติธรรม.. และมั่นคงอยู่กับความเคารพธรรม ไม่ผันแปร...
บุคคลที่เข้าใจธรรม เคารพธรรม จึงควรแก่การมีอำนาจ และควรแก่การใช้อำนาจที่มี.. เพื่อประโยชน์แห่งตนและผู้อื่น.. เพราะอำนาจ เมื่อใช้เป็นธรรม.. ย่อมเป็นไปเพื่อสันติสุขอย่างแท้จริง...
ในทางตรงข้าม ถ้าอำนาจนั้นถูกใช้ไม่เป็นธรรม ปราศจากธรรม.. ก็ย่อมเป็นไปเพื่อความเดือดร้อน ฉิบหาย ทั้งต่อผู้ใช้และสังคมบุคคลที่เกี่ยวข้อง.. รวมถึงประเทศชาติ ที่มีให้เห็นเป็นตัวอย่างมากมาย ว่า.. แม้จะก่อร่างสร้างประเทศมายาวนาน.. แต่ก็สามารถสูญสลายไปในชั่วพริบตาเดียว... เมื่อบุคคลในสังคมที่มีอำนาจหน้าที่.. ได้ใช้อำนาจหน้าที่ไปโดยปราศจากธรรม.. ไม่เคารพธรรม
อำนาจที่ปราศจากธรรม.. นั้นเป็นพระเดช ไร้พระคุณ มีความเร่าร้อนอยู่ในตัว เหมือนพระอาทิตย์ที่หาดวงดาวแวดล้อมมิได้เลย
ส่วนอำนาจที่เป็นธรรม มีลักษณะเป็นคุณ.. มีความสงบเย็นอยู่ในตัว เหมือนพระจันทร์มีหมู่ดาวแวดล้อมเต็มไปหมด
สำคัญยิ่ง ควรพิจารณาให้เข้าใจว่า.. อำนาจมีไว้เพื่อให้ใช้อำนาจ.. หากใช้ไม่เป็นก็จะเสื่อมจากอำนาจ
แม้ว่ามีอำนาจ.. แต่บ้าอำนาจ ใช้อำนาจเกินไป ก็จักฉิบหายเพราะอำนาจ
มีอำนาจ รู้จักใช้อำนาจให้เหมาะสมกับอำนาจ.. คำนึงถึงคุณธรรมความดี.. ย่อมเจริญในอำนาจ
สำหรับผู้ไม่มีอำนาจ แต่พยายามใช้อำนาจ.. ความหมายคือ พวกวิปริต.. วิปลาส.. คนบ้าเท่านั้น.. ซึ่งในวันนี้ เริ่มมีคนบ้าจำพวกนี้มากขึ้นในกระแสสังคมการเมือง ที่ไม่ได้มีบทบาทหน้าที่ในฐานะตำแหน่งใดๆ ... แต่เริ่มมัวเมาตีมึนเข้าไปเสพอำนาจของผู้อื่น.. โดยพยายามแสดงว่า ฉันมีอำนาจ ฉันเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจที่เธอมี.. พวกคนบ้าอำนาจพวกนี้จะทำให้สังคมวุ่นวายพอสมควร.. และจะทำให้พวกที่มีอำนาจโดยหน้าที่ฐานะ จะต้องพลอยเสียหายไปด้วย อย่างไม่คุ้มค่ากับชีวิตของตน กว่าที่จะต่อสู้ฝ่าคลื่นฝืนลม เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจที่ชอบธรรมตามกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญหรือกฎกติกาของสังคม...
จึงเป็นเรื่องที่น่ากลัว.. ต่อการเข้าไปสู่การใช้อำนาจหรือการมีอำนาจ..ในสังคม ที่สมมติขึ้นตามบัญญัติของสังคมประเทศชาตินั้นๆ.. หากขาดสติปัญญา.. ไม่รู้จักใคร่ครวญพิจารณาให้เข้าใจในทุกแง่ทุกมุม.. เพื่อความรู้ความเข้าใจ.. รู้เท่าทัน ต่อการจะใช้อำนาจนั้นๆ ให้เกิดประโยชน์ส่วนเดียว อย่างไม่เป็นโทษคืนกลับมาเลย.. ซึ่งคงเป็นไปได้ยากสำหรับสัตว์โลกที่วิถีชีวิต.. ความนึกคิดยังประกอบอยู่ด้วยกิเลส ที่รุมเร้าก่อให้เกิดความรัก ความชัง และความหลงอยู่เนืองๆ...
อันควรเข้าใจอย่างยิ่งในเรื่องดังกล่าว ด้วยสัตว์โลกตกอยู่ในอำนาจศัตรู ๒ จำพวก อย่างยากจะหลีกหนี ได้แก่
๑.ศัตรู คือ กิเลส ที่คอยก่อกวนความสงบสุข ทำให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
๒.ศัตรู คือ ความเจ็บและความตาย ที่คอยเบียดเบียน ขัดขวาง ตัดทอนกำลังอยู่เสมอ
ศัตรูทั้ง ๒ ชนิดดังกล่าว จักต้องใช้อาวุธ คือ ปัญญา..เท่านั้น ที่พึงจะชนะไปได้ ทั้งนี้ จะต้องรู้จักการปฏิบัติธรรม.. เพื่อให้เกิดปัญญา ซึ่งปัญญานั้นเกิดจาก ๓ ทาง คือ
๑.รู้จักฟัง.. เรื่องการรู้จักฟังผู้อื่น.. ฟังเสียงจากภายนอก เป็นเรื่องสำคัญยิ่งของการศึกษาเล่าเรียน เพื่อให้เกิดความรู้.. เกิดปัญญา.. ปัญหาของคนหนุ่มคนสาวในปัจจุบันคือ การไม่รู้จักฟังผู้อื่น.. ไม่รู้จักฟังเสียงจากภายนอก อันเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา ที่เรียก “ปรโตโฆสะ”
การดูถูก การดูชังผู้อื่น.. โดยไม่รับฟังใครๆ เลยนั้น นับเป็นความหายนะในเบื้องต้นเท่านั้น.. แม้มิได้ลึกซึ้งอะไรมากมาย.. แต่ยากที่คนพาลจะทำได้...
หากรู้จักละวางความอวดดื้อถือดี.. ความยกตนข่มท่าน ตีตัวเสมอท่าน ลงไปบ้าง.. และหันหน้ามามองดูกัน ด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง.. การได้รับฟังอะไรๆ ที่มีประโยชน์ ย่อมจะเกิดขึ้น.. เป็นผลดีต่อตนเอง.. ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งมิตรภาพ จากกัลยาณมิตร
อย่าได้เป็นอย่างคนบางจำพวก.. ที่อยากบำเพ็ญประโยชน์ แต่ไม่แสวงหากัลยาณมิตร
ไม่แสวงหาพรรคพวก แต่ต้องการเดินทางทุรกันดาร
ไม่แสวงหาความรู้ แต่อยากพูดแถลงข้อความในที่ประชุมชน..
ไม่แสวงหาอาวุธและกำลัง แต่อุตริอยากปกครองป้องกันประเทศ.. ซึ่งเป็นความผิดเพี้ยนที่ไม่สามารถสานฝันให้ก้าวไปให้ถึงจุดมุ่งหมายได้เลย.. ทั้งนี้ หากไม่ก้าวย่างไปด้วยความเคารพธรรม!!
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขึ้นต้นก็(เขียน)ผิดแล้ว ! ว่าด้วยเส้น “ละติดจูด” ที่ 11° “E” ในเอกสารแนบท้าย MOU 2544
เขียนและพูดเรื่อง MOU 2544 มาหลายปี หลากมุมมอง ล่าสุดช่วงนี้ก็จำแนกข้อดีข้อเสีย รวมทั้งส่วนที่จะได้และส่วนที่จะเสียหากเจรจาสำเร็จ ล้วนหนัก ๆ ทั้งนั้น .
ไม่เลิก MOU 44 ได้สอง-เสียสาม !
คำถามของท่านนายกรัฐมนตรึเมื่อวันก่อนที่ว่าถ้าเราเลิก MOU 2544 แล้วจะ “ได้” อะไร ดูเหมือนท่านจะเห็นว่าเราจะ “ไม่ได้” อะไรเลยละกระมัง จึงสรุปว่าจะไม่เลิกและจะเดินหน้าต่อ
พฤศจิกายน ศาลรธน. รับคำร้องคดี ทักษิณ-พท. ล้มล้างการปกครองฯ
ความคืบหน้าคำร้องคดีสำคัญทางการเมือง กรณีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1
ไปแอ่วหละปูนกันเต๊อะ ยลมหานครโคมโลก !
ประเด็น "การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล" ในไหล่ทวีป 26,400 ตารางกิโลเมตร ระหว่างไทย-กัมพูชา กลับมาเป็นเรื่องร้อนๆ ที่ถูกพูดถึงทางการเมืองอีกครั้ง
ความโง่ .. ศัตรูตัวทำลายให้สิ้นศาสนา!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ๔-๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ได้รับนิมนต์ให้เข้าร่วมประชุมพุทธศาสนาระดับนานาชาติ ที่นครเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งจัดโดย International Buddhist Confederation / IBC ร่วมกับ
พล.ร.อ.พัลลภ อดีตเสธ.ทร. ผ่ากับดัก MOU 44 บันไดสามขั้น เสี่ยงทำไทย สูญเสียดินแดน
ประเด็น "การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล" ในไหล่ทวีป 26,400 ตารางกิโลเมตร ระหว่างไทย-กัมพูชา กลับมาเป็นเรื่องร้อนๆ ที่ถูกพูดถึงทางการเมืองอีกครั้ง