การผจญภัยในระบบการศึกษาไทย... ความอยู่รอดกับความก้าวหน้า!!!

ระบบการศึกษาและปฏิบัติการทางการศึกษาวันนี้ กำลังปรับตัวอยู่ท่ามกลางความสับสนอลหม่านในคลื่นการเปลี่ยนผ่านของภูมิทัศน์ใหม่ ที่ต้องพึ่งพาฐานความรู้แบบดิจิตอลที่โลดแล่นอยู่ในกระแสการสื่อสารที่เปิดกว้างไร้ขีดจำกัด!

การปรับตัว-ปรับระบบเพื่อเปลี่ยนแปลงจากโลกใบเก่าของการศึกษา ต้องการความแม่นยำรวดเร็วเท่าทันนวัตกรรมและมีพลังพอที่จะโลดแล่นในพื้นที่ที่เปิดกว้างในโลกใบใหม่ ซึ่งหากปรับตัวไม่ได้ก็ไม่พ้นที่จะถูกลบเลือน-ทำให้เป็นอื่นไปอย่างไม่อาจปฏิเสธได้!

ถ้าพิจารณาถึงความคิดฝังลึก mindsets และความเคลื่อนไหวหลักๆ ในปัจจุบันของระบบการศึกษาไทยนั้น ต้องบอกว่ายังน่าเป็นห่วง-น่าวิตก ด้วยเหตุว่าความคิด-สำนึก-และภาคปฏิบัติส่วนใหญ่ยังตกอยู่ในวังวนของกระบวนระบบที่ส่งผ่านมาจากอดีต ที่ถูกตีกรอบบริหารโดยที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับโลกยุคใหม่เลย! มีแต่วาทกรรมแสวงประโยชน์ที่ตื้นเขินเฉพาะหน้าเท่านั้นที่ดิ้นรนเอาตัวรอดไปวันๆ!

การสร้างการศึกษาใหม่หรือความพยายามรื้อสร้างการศึกษาปัจจุบันให้เชื่อมกับความก้าวหน้าใหม่ ที่มีพลวัตเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว-รุนแรงในคลื่นความเคลื่อนไหวของโลกใบใหม่ จึงกลายเป็นเรื่องของการเผชิญภัยที่หนักหนาสาหัสมากทีเดียว!!!

การผูกโยง 3 หล่อหลอมกล่อมเกลามายาวนานของระบบการศึกษากับอำนาจบริหาร ที่มีกฎหมายและระบบระเบียบราชการเป็นเงื่อนปมกำกับกดทับไว้ ทำให้การศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาไม่สนใจความก้าวหน้า-การประดิษฐ์คิดสร้างนวัตกรรมใดๆ เพียงมุ่งสนองอำนาจ-วิ่งหาช่องทางเอาตัวรอดและเติบโตไปตามสายอำนาจก็ถือว่าโอเคแล้ว!!! นี่คือค่านิยม-ความเชื่อที่ฝังมายาวนานจนกลายเป็นวัฒนธรรมการทำงานภายใต้ระบบรัฐราชการ!

การศึกษาและการพัฒนาตัวในระบบการศึกษาตามมโนคติแบบที่ถือปฏิบัติสืบกันมา จึงเน้นการสร้างตัวตนและการใช้วุฒิการศึกษามายกระดับฐานะ-อำนาจตัวเองเป็นสำคัญ ไม่เน้นการเรียนรู้-ตื่นตัว-ค้นคว้า-ไขว่คว้า-รับผิดชอบต่อการสร้างคนและความก้าวหน้าใหม่! นี่คือทัศนคติที่ทำให้การศึกษาตัดขาด-ไม่ปฏิสัมพันธ์กับความก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นจริง การบริหารจัดการและการสร้างความตระหนักของบุคลากรทางการศึกษาจึงถูกฝังอยู่ในภูมิทัศน์เก่าๆ เดิมๆ ที่หยุดนิ่ง ให้ความสนใจกับอำนาจและการสั่งการ มากกว่ามุ่งปรับตัวเปลี่ยนแปลงเรียนรู้ไปกับโลกแวดล้อม จะตื่นบ้างก็เฉพาะแต่ส่วนที่มีผลกระทบกับสถานภาพแบบใดแบบหนึ่งของตนเท่านั้น นี่คือความน่าวิตกที่เป็นวิบากกรรมอันน่าเวทนาของผู้คนในระบบการศึกษา!

ขณะเดียวกัน วิชาการที่ไม่อาจฝ่ากรอบความคิด-ระบบระเบียบที่กำกับกดทับอยู่ก็กลายเป็นความป่วยไข้ ด้วยเหตุว่าการเติบโตของวิชาการมักเป็นความเคลื่อนไหวเติบโตตามเส้นทางอำนาจและพวกพ้อง ที่ไม่เชื่อมโยงกับความก้าวหน้าอย่างเป็นจริง! เมื่อวิชาการต้องนำลงสู่ภาคปฏิบัติ-เผชิญกับความเปลี่ยนแปลง-ความก้าวหน้าที่ต้องอาศัยความรู้นวัตกรรมและทักษะที่จริง ก็ส่งผลให้โลกของวิชาการก้าวไม่ข้าม-ไปต่อไม่ได้-ปรับตัวไม่ทัน ขาดความเข้าใจแก่นแกนของวิธีคิด-กลไกปฏิบัติที่ปฏิสัมพันธ์กันในกระบวนระบบที่โยงกับโลกแวดล้อม-ความก้าวหน้าในโลกที่เป็นจริง! เมื่อวิชาการฝ่าข้ามไปไม่ได้ ก็ต้องเกาะกันอยู่ในโลกเก่าๆ ด้วยกันจนค่อยๆ ผุพัง-สึกกร่อนไป หรือไม่ก็ป่วยไข้-ค่อยๆ ถูกกลืนหายไปในที่สุด นี่คือวิบากกรรมของวิชาการไทย!

และถ้าพูดถึงเรื่อง “ความอยู่รอด” กับ “ความก้าวหน้า” ของการศึกษา ในความเป็นจริงจะพบว่าการบริหารจัดการการศึกษาเชิงสถาบันยังสับสนอยู่มาก สถาบันการศึกษาที่กำลังปรับตัวคงต้องพิจารณาตระหนัก-แยกแยะให้ชัดระหว่างความอยู่รอด ที่อาศัยมรดกชื่อเสียงเก่าๆ กับความก้าวหน้าที่เป็นจริง เพราะสองเรื่องนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ด้วยว่าการอยู่รอดโดยอาศัยมรดกหรือชื่อเสียงเก่าๆ ที่ทำให้พยุงตัวอยู่รอดได้วันนี้อาจจะเป็นเพียงการอยู่รอดที่ไร้อนาคต! แต่การปรับตัวสร้างความก้าวหน้านั้น เป็นมิติที่เชื่อมโยงกับการมีอนาคตและสร้างการอยู่รอดได้จริง! ซึ่งโดยนัยนี้ความอยู่รอดอาจไม่ชี้บอกถึงความมีอนาคต! แต่การสร้างความก้าวหน้าของสถาบันและระบบการศึกษาขึ้นต่างหากจะเป็นคุณค่า-มูลค่าที่สร้างอนาคตและสามารถต่อยอดสร้างความมั่นคงขึ้นจริงได้ นี่คือข้อสังเกตที่ผู้บริหาร-บุคลากรทางการศึกษา-และสถาบันการศึกษาต้องคิดให้กระจ่างชัด!

เมื่อพิจารณาถึงผู้คนหลายฝ่าย-หลายกลุ่ม-และหน่วยงานที่กำลังปลุกปล้ำ ปรับสร้างความก้าวหน้าอยู่ในระบบการศึกษาไทย รวมถึงการปรับตัวของหลายสถาบันการศึกษาที่กำลังรับมือกับความก้าวหน้ายุคใหม่ ล้วนน่าเห็นใจยิ่งว่าต้องผจญภัยอย่างมาก ในการที่จะฝ่าขวากหนามระบบระเบียบที่ปิดกั้นกดทับอยู่อย่างมากมหาศาลในระบบการศึกษาไทย! แต่สภาวะที่อาจจะช่วยผ่อนปรนให้หนักเป็นเบาได้ ก็เกิดจากภูมิทัศน์ใหม่-แลนด์สเคปใหม่ของระบบโครงสร้างการศึกษายุคดิจิทัล ที่โลกของการศึกษายุคเก่าปรับตัวไม่ได้หากขาดความเข้าใจ-ขาดวิธีคิด-ไม่สามารถทิ้งความคิดฝังลึก (mindsets) แบบเก่าได้ ฯลฯ ซึ่งการละวางโลกเก่าไม่ได้-คิดใหม่ไม่ได้ก็จะส่งผลให้การปรับตัว-ปรับความคิด-และเคลื่อนไหวไปในภูมิทัศน์แบบใหม่ไม่ได้แน่ แม้จะมากความคิด-ความเห็น แต่ในทางปฏิบัติ-มีทางเลือกไม่มากนักในโลกของ Digital literacy ที่ต้องการความรู้และทักษะ ต้องปรับความคิด-ความรู้ยกระดับทักษะให้หลุดออกจากโลกใบเก่าขึ้นอย่างเกือบจะสิ้นเชิง แบบราวกับว่าเป็นโลกคนละใบกันเลยทีเดียว นี่คือสภาพที่ผู้คนมากมายกำลังต้องผจญภัยอยู่ในระบบการศึกษาไทยวันนี้!!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ราชธรรม..อำนาจธรรมคุ้มครองแผ่นดินไทย' เทศนาธรรม ณ หอประชุมศรีบูรพา (มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)..

เจริญพร สาธุชนผู้มีศรัทธาปสาทะในพระพุทธศาสนา เมื่อ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ได้รับนิมนต์จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ร่วมกับ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน

ร่องรอยธรรม .. จากโครงการร้อยใจธรรม .. ร้อยอำเภอฯ ณ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. เมื่อ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา ได้ปฏิบัติกิจใน “โครงการร้อยใจธรรม .. ร้อยอำเภอ “สืบสานราชธรรม”” ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบฯ

เทวฤทธิ์ -กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ เสรีนิยมก้าวหน้า ปฏิรูปสภาสูง

สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ชุดปัจจุบัน 200 คน จะประชุมร่วมกันนัดแรกในวันอังคารนี้ 23 ก.ค. โดยมีระเบียบวาระสำคัญที่จะให้สว.ทั้งหมดร่วมกันประชุมลงมติ นั่นก็คือ

“ศาสนกิจในอินเดีย .. ณ นครปูเน่” น้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ๒๘ ก.ค.๖๗ ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ นครปูเน่ รัฐมหาราษฏระ อินเดีย เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการสร้างวัดแห่งแรกของชาวพุทธในอินเดีย

อังคณา สว. 2567 ภารกิจ-สิ่งท้าทาย สภาสูง กับโมเดลข้อเสนอ สภาเดี่ยว

การทำงานของสมาชิกวุฒิสภาชุดล่าสุด ที่เรียกกันว่า "สว. 2567" กำลังจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้ คาดหมายกันว่า การนัดประชุมวุฒิสภาเพื่อเลือก

บทธรรมถวายเป็นพระราชกุศล .. ในมหามงคลครบ ๖ รอบ “ราชธรรม .. สู่การเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย” (ตอนที่ ๗)

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. พระพุทธเจ้าได้ตรัส หลักการปกครองตามแบบธัมมิกสูตร ว่า..