ความใส่ใจ ... ที่ควรเข้าใจในแวดวงสงฆ์ ... เพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ... ช่วงเวลาระหว่างวันที่ ๑-๙ เมษายน ที่ผ่านมา ... ได้เข้าอบรมฝึกซ้อมในหลักสูตรพระอุปัชฌาย์ ของคณะสงฆ์ธรรมยุตที่วัดอาวุธวิกสิตาราม บางพลัด หลังจากผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพระกรรมวาจาจารย์ รุ่นที่ ๔ ไปเมื่อปีที่แล้ว ... อันเป็นไปตามนโยบายของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ที่ต้องการให้มีพระอุปัชฌาย์ที่มีคุณภาพครบถ้วน ด้วยจริยธรรมของความเป็นพระเถระ ... เพื่อเป็นต้นแบบของ สัทธิวิหาริก คือ พระภิกษุที่เป็นศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย

พระอุปัชฌาย์ ... นับเป็นหน้าที่สูงสุดของความเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ที่ต้องรับผิดชอบในการให้กำเนิดภิกษุ ดุจเป็นบิดา จึงต้องอบรมกันอย่างเข้มงวดกวดขันในทุกด้าน เพื่อจะได้เข้าแบบพิมพ์ความเป็น พระอุปัชฌาย์ ที่ถูกต้องตรงตามพระวินัยและระเบียบแบบแผนของคณะสงฆ์

การเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อเรียนรู้ปฏิบัติให้ตรงตามแบบแผน ... เพื่อจะได้พระอุปัชฌาย์ที่ดีครบถ้วน ด้วย จริยธรรม ของความเป็นพระเถระในพระพุทธศาสนานั้น จึงเป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ... ที่มอบหมายให้ “เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์” เลขาธิการคณะสงฆ์ธรรมยุต ได้คัดเลือกพระสังฆาธิการ ที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วในระดับจังหวัดและภาค เพื่อเข้ารับการอบรมฝึกซ้อม และสอบความรู้ เพื่อแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งบัดนี้ได้ปิดการอบรมฝึกซ้อมและสอบความรู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอาตมาเป็นหนึ่งในจำนวน ๙๓ รูป ที่ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในตราตั้งของความเป็น พระอุปัชฌาย์ เพื่อจะได้ทำหน้าที่อันสำคัญยิ่งต่อการช่วยจรรโลงอายุพระพุทธศาสนาให้สืบทอดต่อไป

ดังที่เคยกล่าวไว้หลายครั้งในหลายสถานที่ว่า ... ปัญหาในหมู่สงฆ์ที่ผุดบานเป็นดอกเห็ด... ในปัจจุบัน มีรากเหง้าของปัญหามาจากการรับคนเข้ามาบวชอย่างไม่ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนในพระวินัย และกฎหมายของบ้านเมือง.. นั่นหมายถึง พระอุปัชฌาย์ขาดการประพฤติตามแบบแผน จริยธรรม ของความเป็นพระอุปัชฌาย์ จนนำไปสู่การบวชกันอย่างไร้คุณภาพ ... และไม่ใส่ใจในการทำหน้าที่อบรมสั่งสอนของพระอุปัชฌาย์ที่ต้องทำหน้าที่ดุจบิดา หรือพ่อทางธรรมของภิกษุที่เป็นลูกๆ เหล่านั้น ที่ตนเป็นผู้ให้กำเนิด ... ดังที่ถูกกล่าวประณามว่า อุปัชฌาย์เป็ด-อุปัชฌาย์ไก่.. อันหมายถึง ไข่แล้วปล่อยทิ้งไว้เรี่ยราด.. ให้ออกหากินเองโดยมิได้คิดตามอบรมฝึกสอน...

ปัญหา อุปัชฌาย์เป็ด-อุปัชฌาย์ไก่ จึงเป็นมหาเหตุของความเกลื่อนกลาดเพ่นพ่านของภิกษุผู้ยังอ่อนในพระวินัย และ ไม่มี “ภิกขุภาวะ” ที่ควรจะเรียกตนเองว่าเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทั้งนี้ เพราะขาดความใส่ใจในการอบรมสั่งสอนควบคุมดูแลของพระอุปัชฌาย์ครูบาอาจารย์

จึงเกิดปัญหาปรากฏมากมายในสังคมไอทีปัจจุบัน ที่นำไปสู่ความไม่มีศรัทธาของผู้ที่ยังไม่ศรัทธา.. และความเสื่อมศรัทธาของผู้ที่มีศรัทธา..โดยเฉพาะไปเข้าทางตีนของผู้มุ่งร้ายหวังทำลายพระพุทธศาสนา ที่พยายามยกทุกปัญหาในแวดวงภิกษุสงฆ์ กลับเข้ามาทิ่มแทงทำลายสถาบันพระพุทธศาสนา เพื่อให้สูญสิ้นไปจากแผ่นดิน.. ดังที่ปรากฏพฤติกรรมแบบนี้ ให้เห็นอย่างเปิดเผยยิ่งขึ้นในสังคมไอที

ยิ่งคณะเหล่านี้มีการเรียนรู้ในหลักธรรมคำสั่งสอน อ่านหนังสือออกเข้าใจเนื้อหาสาระ... จึงยิ่งเกิดการวิพากษ์พระภิกษุกันมากขึ้น.. เมื่อพระภิกษุย่อหย่อนต่อการเรียนรู้ศึกษาปฏิบัติตามพระธรรมวินัย

การพุ่งเป้าทำลายคณะสงฆ์.. วัดวาอารามทั้งหลาย... ว่าเป็นเขตที่ไม่ควรเข้าไป.. เพราะรังแต่จะเป็นโทษ.. จึงเป็นอีกมิติหนึ่งที่ถูกขยายผลเข้าไปโน้มน้าวชักนำให้หมู่ชนที่ยังขาดศรัทธาได้เข้าใจตามทิฏฐิของตน โดยอาศัยเครื่องมือเผยแพร่สื่อสารทางไอทีที่ทันสมัย ช่วยในการนำเสนอ ... เพื่อปรับความคิดจิตใจของมหาชนอย่างต่อเนื่องไม่เว้นวันโกน-วันพระ...

ประกอบกับการแสดงออกอย่างผิดเพี้ยนของพระภิกษุบางกลุ่ม ที่อาศัยการเผยแพร่หลักธรรมความคิดพฤติกรรมของตนและหมู่คณะ อย่างขาดความเคารพในแบบแผนของคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ที่มีบทบัญญัติอันสืบเนื่องกันมาจนเป็นจารีตประเพณี จึงยิ่งเพิ่มเติมสถานการณ์เชิงลบให้ยิ่งขึ้น

จึงได้เห็น กาลโกลาหล ของการเผยแผ่ของคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าขึ้นในแวดวงชาวพุทธ ที่แฝงไปด้วยทิฏฐิของตน ปรากฏมากขึ้นในโลกการสื่อสารเป็นใหญ่ อย่างขาดการควบคุมดูแล ด้วยการเป็นโลกเสรีประชาธิปไตยในสังคมวัตถุนิยม

จึงไม่แปลกในความเจริญด้าน วัตถุนิยม ... ที่กลับนำมาสู่ความเสื่อมในด้าน ธรรมนิยม อะไรๆ จึงเกิดขึ้นได้อย่างไม่ยาก ในโลกไร้แก่นสารใบนี้ ... และนี่คือความจริง ... ที่พบว่าหากเราขาดสติเพียงชั่วขณะ ในการเข้าไปติดตามดูเรื่องราวนั้นๆ ... ผ่าน social media ที่พัฒนาก้าวไกลไปมาก ... เราก็จะเริ่มสับสนในความรู้ความเข้าใจ ให้เกิดความวิตกกังวลฟุ้งซ่าน...ก่อเกิดวิจิกิจฉา... ต่อหลักธรรมคำสั่งสอนที่ถูกต้องที่เรียกว่า พระสัทธรรมดั้งเดิม!!

จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ผู้ทำงานรับใช้พระศาสนาทุกฝ่ายจะต้องศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจ...รู้ให้เท่าทันในการดำเนินไปของโลกวัตถุนิยม ... และหมู่ชนในกระแสวัตถุนิยม ... โดยเฉพาะพฤติกรรมของบุคคลที่แสดงออก ในการชี้นำจิตวิญญาณของหมู่ชน โดยอ้างอิง หลักศาสนา ว่าแท้จริง .. เป็นหลักธรรมที่ถูกต้องและมีเจตนาที่บริสุทธิ์ อันเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งธรรม

สิ่งสำคัญยิ่งในเวลานี้ ... จึงต้องรู้ เท่าทัน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวได้จริง ... เพื่อการสืบทอดวิถีสังคมทางพุทธศาสนา ให้ดำรงอยู่ต่อไป จึงเป็นเรื่องแห่งความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการมีความรู้ความเข้าใจในความเจริญก้าวหน้าของโลก โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อการชี้นำชีวิตของคนในสังคมปัจจุบันอย่างยากจะหลีกเลี่ยง

จึงยากที่จะปฏิเสธต่อการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ... การใช้วัตถุนิยมประเภทเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ได้ประโยชน์ ไม่เป็นโทษต่อผู้ใช้ที่มีหน้าที่ และยากยิ่งคือ การเจริญพรหมจรรย์ในพุทธศาสนา ที่ต้องหลีกเลี่ยงการเสพวัตถุกาม

ในห้วงรอยต่อที่ย้อนแย้งกัน ... จึงเป็นความรับผิดชอบของคณะสงฆ์ ทั้งฝ่ายอนุรักษ์ และฝ่ายแนวปฏิรูป จะได้หันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน เพื่อสรุปแนวทางสายกลาง ... ในการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อการศึกษาเรียนรู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้สืบเนื่องสอดรับกับยุคสมัย โดยเฉพาะในโลกวัตถุนิยม ที่ก้าวไปเร็วมากในการแย่งชิงความเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณ ...

ดังนั้น เมื่อได้เข้าสู่การศึกษาอบรมตามหลักสูตร พระอุปัชฌาย์ ที่มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ต่อการสืบอายุพระพุทธศาสนาโดยตรง ... จึงยินดียิ่งต่อภาระหน้าที่ตามพระวินัยดังกล่าว ซึ่งคณะสงฆ์ได้วางรากฐานการสืบต่ออายุพระศาสนามาอย่างดียิ่ง ดังปรากฏระเบียบแบบแผนที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมา ... ที่อ้างอิงพระธรรมวินัยและข้อกฎหมายบ้านเมือง ที่เอื้อเฟื้อต่อความมั่นคงของคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ซึ่งหาก พระอุปัชฌาย์ ทุกรูป ทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด ใส่ใจในพระธรรมวินัย เพื่อเอื้อเฟื้อกุลบุตรอย่างจริงจัง ... เชื่อมั่นได้เลยว่า ... “พระพุทธศาสนาจะมีเนื้อนาบุญ ไม่ขาดพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ” ... สังคมพระพุทธศาสนา จะไม่ขาดศรัทธาญาติโยม ... ที่เข้มแข็งมั่นคง โดยไม่ต้องเป็นห่วงว่า ... จะมีมารใดมาล่อลวงไปทำลาย เพื่อล้มล้างพระพุทธศาสนา ในเมื่อพุทธบริษัทไม่เสื่อมศรัทธาในคุณพระรัตนตรัย ไม่ประมาทในไตรสิกขา ... เคารพยำเกรงในความไม่ประมาท ...

ดังพระพุทธดำรัส อันทรงคุณค่ายิ่งในปัจฉิมกาลของพระองค์ที่ควรระลึก ... อันปรากฏในท้ายมหาปรินิพพานสูตรว่า ...

 “... ดูก่อน มารผู้มีบาป ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้เป็นสาวก สาวิกา ของตถาคตยังไม่ฉลาด ยังไม่ได้รับคำแนะนำ ยังไม่แกล้วกล้า ไม่เป็นพหูสูต ไม่ทรงธรรม ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ไม่ปฏิบัติชอบ ไม่ประพฤติตามธรรม

... เรียนกับอาจารย์ของตน จักบอกจักแสดง จักบัญญัติ จักแต่งตั้ง จักเปิดเผย จักจำแนก จักทำให้ตื้น จักแสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ ข่มขี่ปรัปวาทที่เกิดขึ้น ให้เรียบร้อยโดยสหธรรมไม่ได้

ดูก่อนมารผู้มีบาป ตถาคตจักยังไม่ปรินิพพาน เพียงนั้น ...”.

                 

 

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..

รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ

เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก

คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!

เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย

ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?

การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก