ระยอง เปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรมมลพิษสู่ Green & Digital CITY

ย้อนกลับไปช่วงที่ประเทศไทยสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ช่วงปลายทศวรรษ พ.ศ 2520 เป็นต้นมา ระยอง-เมืองชายฝั่งทะเลที่อยู่ในวิถีเกษตรกรรม ประมง การค้าพื้นฐาน และการท่องเที่ยว ถูกกระแสความเปลี่ยนแปลงซัดกระหน่ำเปลี่ยนสู่โลกอุตสาหกรรม ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอุตสาหกรรมช่วงนั้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมยุค 1.5 - 2.0 ถาโถมกระหน่ำระยองจนจมมิด!

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สร้างบาดแผล-ตำนานให้ผู้คน-สังคมท้องถิ่นสาหัสสากรรจ์! สิ่งที่ปรากฏขึ้นช่วงนั้นคือความตาย  คราบเลือด น้ำตา ความขัดแย้ง และความแตกสลายของชุมชน! ผลลัพธ์ที่ผู้คน-ชุมชนได้รับ ขณะที่เมืองผุดโรงงานขึ้นตามแนวเขตชายฝั่งและพื้นที่ทั่วไป โดยเฉพาะเขตมาบตาพุต! และเมื่อเครื่องจักรเริ่มเดินเครื่อง สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้คนก็ถูกทำร้ายทำลายอย่างต่อเนื่อง! ระยองกลายเป็นพื้นที่รับผลกระทบที่เลวร้ายในกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรม มันสร้างบาดแผลที่เจ็บปวด ที่กล่าวขาน-จดจำกันจากรุ่นสู่รุ่น-จากพื้นที่สู่พื้นที่ ในการเปลี่ยนผ่านตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา!

มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม 1.5-2.0 ทำลายสิ่งแวดล้อมโดยรวม ทำลายคุณภาพของผืนน้ำ ท้องทะเล มวลอากาศ ผืนดิน จนถึงเรือกสวนไร่นา และชีวิตสุขภาพของผู้คน! มันเกิดขึ้นอย่างรุนแรงรวดเร็ว! ชีวิตผู้คน-สังคมท้องถิ่น ความสัมพันธ์เชิงวัฒนธรรมประเพณีถิ่นย่านต่างๆ ถูกทำลายเบี่ยงเบนไปอย่างต่อเนื่อง!

ผู้คนในท้องถิ่นที่เคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแต่ละถิ่นย่าน ถูกเบียดขับจนกลายเป็นประชาชนชายขอบ เป็นแรงงาน และเป็นคนแปลกหน้าในรุ่นคนต่อ ๆ มา เมื่อความเป็นเมืองและการเปลี่ยนแปลงเป็นอุตสาหกรรมกระจายครอบคลุมจังหวัดระยอง มันก่อการกลืนกลายทำให้ท้องถิ่นเข้าสู่โหมดเศรษฐกิจอุตสาหกรรม-การลงทุนอย่างไร้ความรับผิดชอบ!

เศรษฐกิจเกษตรกรรม ประมง ท่องเที่ยว เปลี่ยนเป็นเศรษฐกิจอุตสาหกรรม-สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ผู้ลงทน-นำไปเฉลี่ยรวมเป็นรายได้ต่อหัวของประชากรระยอง ทำให้รายได้ต่อหัวในระยองพุ่งสูงขึ้นเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ทั้งที่คนภาคแรงงาน-คนท้องถิ่นไม่ได้มั่งมี-ไม่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย! การต่อสู้-ต่อต้านอุตสาหกรรมจึงผุดขึ้นตลอดเวลา! แต่มักจบลงที่ความเจ็บปวด-พ่ายแพ้ของผู้คน และการมองผ่านเลยปัญหา-ถูกทำให้ลืม จากความพร่ามัวของผลประโยชน์มหาศาล!

มลพิษยุคเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมมันไม่เพียงแค่สร้างมลพิษในน้ำ ในทะเล ในอากาศ เท่านั้น แต่มันฝังลึกซึมสู่เลือดเนื้อ-จิตวิญญาณชาวระยองอย่างปฏิเสธไม่ได้! กระแสการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของประเทศที่ชาวระยองถูกทำให้กลายเป็นผู้เสียสละ สูญเสียความสุขสงบของชีวิต-สังคม-สุขภาวะ-และคุณภาพชีวิตไปนั้น ทำให้ผู้คน-สังคมระยองต้องปรับตัวอย่างหนัก เพื่อจะกลมกลืนกับความเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลากว่า 3 ทศวรรษมาจนวันนี้!

แม้ในความเป็นจริงของการเปลี่ยนสู่อุตสาหกรรมในทุกมุมโลกมีสภาพคล้ายกัน เพียงแต่เกิดขึ้นต่างช่วงเวลากัน เช่น ยุโรปช่วงศตวรรษการเปลี่ยนผ่านเป็นอุตสาหกรรมที่กระจายไปทั่วยุโรปของทุนนิยมขูดรีด ก็มีการการทำลายสิ่งแวดล้อม-เอารัดเอาเปรียบ-กลืนกลายท้องถิ่น-กดขี่ขูดรีดแรงงาน ฯ จนลัทธิมาร์กออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน กลายเป็นโลกฝ่ายซ้ายที่เผชิญหน้ากับฝ่ายขวาไปในที่สุด!

อย่างไรก็ดีบาดแผลของโลก-บาดแผลของระยอง ฯ ก่อให้เกิดการแสวงหาความเสมอภาคเป็นธรรม-ความยุติธรรมใหม่ และตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต ฯ ซึ่งเคลื่อนไหวอย่างหนักนับแต่กลางศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ส่งผลให้มีการคิดค้นเทคโนโลยีนวัตกรรม ปรับสร้างเป้าหมายเศรษฐกิจเชิงบวกในโครงสร้างการผลิต-บริการโดยรวม ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา!

เมื่อเคลื่อนเข้าสู่ต้นศตวรรษ 21 การประชุม World Economic forum ประกาศขับเคลื่อนโลกสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 เป็นช่วงเวลาเดียวกับประเทศไทยขับเคลื่อนนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC เปิดพื้นที่การลงทุนปรับฐานอุตสาหกรรมเดิมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ลดการผลาญทรัพยากร ดูแลปกป้องสิ่งแวดล้อม ที่เคลื่อนสร้างโลกใหม่พร้อมกับกฎบัตร-ฉันทามติในธุรกิจการค้า-การลงทุนระหว่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยและชาวระยองได้โอกาสที่ดีนี้ด้วย

ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ถูกประกาศเป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจยกระดับประเทศออกจากกับดักรายได้ปานกลาง ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม 4.0 สั่งสมความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดสร้างอนาคต ปรับสู่การลงทุนใหม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการบริโภคทรัพยากร ปรับสร้างความเสมอภาคและคุณภาพชีวิต ฯลฯ ความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงนี้เป็นฐานความก้าวหน้าใหม่ที่เคลื่อนเข้าแทนสภาวะมลพิษที่ระยองเผชิญมาตลอด!

ช่วงการเปลี่ยนผ่านนี้ นายก อบจ.ระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ เป็นแกนบริหารบ้านเมืองระยอง! ด้วยวิสัยทัศน์ของนายก อบจ.ท่านนี้ ได้วางกรอบโครงสร้างขับเคลื่อนระยองสู่ Green and Digital City สร้างการเติบโตเป็นมหานครดิจิตอล-สีเขียว เป็นประตูของมหานครการบินอู่ตะเภา! มีการจัดการขยะ ปรับมลภาวะ ปรับฐานการบริหารจัดการดูแลท้องถิ่นด้วยระบบดิจิตอล ปรับสร้างการสื่อสาร 5G สร้างกิจกรรมขจัดมลภาวะทุกรูปแบบ เชื่อมต่อการสื่อสาร-คมนาคม-การเดินทางใหม่ร่วมกับ EEC ดูแลสุขภาพความปลอดภัยของผู้คน-สังคมในระยอง ฯ กิจกรรม Green and Digital City นี้ กำลังขยายครอบคลุมทุกพื้นที่ระยอง ผ่านเครือข่ายองค์กรบริหารท้องถิ่นในทุกมิติ นี่คือความเคลื่อนใหวที่น่าติดตามและชื่นชมยิ่งของพี่น้องชาวระยอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุทธัจจะ .. ในวังวนแห่งการตื่นธรรม .. ยุคไอที!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระรัตนตรัย... สัทธายะ ตะระติ โอฆัง.. บุคคลข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา.. โอฆะ หมายถึง ห้วงน้ำ ที่มีกระแสเชี่ยวกราก พัดพาสัตว์ทั้งหลายให้ตกไปในกระแสน้ำนั้น ยากจะข้ามฝั่งไปได้

คำนูณ ผ่าปม 2 ได้ 3 เสีย ถ้าไม่ยกเลิก MOU 2544

ความเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นเรื่อง MOU 2544 ที่เชื่อมโยงถึงเกาะกูด, การหาแหล่งพลังงานแห่งใหม่ในพื้นที่อ้างสิทธิไทย-กัมพูชา ที่มีการประเมินกันว่ามีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านบาท ยั

'แก้วสรร' แพร่บทความ 'นิติสงคราม' คืออะไร?

นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ออกบทความเรื่อง “นิติสงคราม” คืออะไร???

อย่าได้ประมาทในธรรม.. “เมื่อใจตรง .. จะตรงใจ”..

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. เดินทางกลับมาจากอินเดีย เมื่อ ๗ พ.ย.๒๕๖๗.. ถึงกรุงเทพฯ ๘ พ.ย.๒๕๖๗ หลังจากไปร่วมประชุม “The First Asian Buddhist Summit 2024” ที่นิวเดลี งานนี้จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของรัฐบาลอินเดีย