โลกวันนี้สร้างริ้วคลื่นการเปลี่ยนแปลงระลอกแล้วระลอกเล่า ส่งผ่านนวัตกรรม การแข่งขัน เทคโนโลยี และฐานความรู้ยุคใหม่ ฯลฯ ซึ่งกระแสคลื่นความเปลี่ยนแปลงแต่ละระลอกนั้นทรงพลัง และก่อรูปความเคลื่อนไหวใหม่ทางเศรษฐกิจ สังคม จนถึงการดำเนินชีวิตแบบที่ไม่มีใครหยุดได้! การปรับตัวตามไม่ทันโลกที่เปลี่ยนไปก็จะทำให้มวลสารนั้นๆ เผชิญวิกฤตและถูกเบียดขับกลบกลืนหายไป ไม่มีทางเลือกให้มากนัก นอกจากการรู้เท่าทันและปรับตัวให้ได้!
โลกแบบอนาล็อกวันนี้ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว แปลกแยก กลายเป็นอื่น วังเวงอยู่ลำพัง! โลกดิจิทัลเคลื่อนกลืนกลบเข้าแทนโลกเดิม! ปฏิสัมพันธ์-การสื่อสารระหว่างคนกับโลกแวดล้อมเปลี่ยน! ความเคลื่อนไหวในโลกดิจิทัลก่อรูประบบนิเวศใหม่ทางเศรษฐกิจ สังคม สัมพันธภาพ การเรียนรู้ คุณภาพชีวิต การงาน และความเคลื่อนไหวในวิถีชีวิตประจำวัน ฯลฯ ซึ่งแตกต่างเปลี่ยนจากเดิมมากขึ้นทุกขณะ!
ผู้คน การเรียนรู้ คุณภาพการดำรงชีวิต และการก่อร่างสร้างตัววันนี้ จึงไม่ใช่แบบแผนของระบบนิเวศในโลกใบเดิมอีกต่อไป การเติบโตทางเศรษฐกิจยุคใหม่ของคนรุ่นใหม่ในการเป็นพลเมืองยุคดิจิทัล ที่ชีวิตผสมกลมกลืนกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี จากพลังสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลงของการสื่อสารยุคใหม่ ได้สร้างความงอกเงยทางเศรษฐกิจ-สังคมขึ้นอย่างมหาศาลน่าอัศจรรย์! ส่งผลให้ความรู้ ความคิด ทักษะ การงาน ปฏิสัมพันธ์กับโลกแวดล้อมเปลี่ยนไปอย่างเกือบจะสิ้นเชิง!
วันนี้ ความคิด ทักษะแบบเดิมๆ รวมทั้งความรู้ ประสบการณ์ ความชำนาญการแบบที่ถ่ายทอดมาจากโลกใบเก่ากลายเป็นสิ่งแปลกแยกของยุคสมัย มันแปลกปลอม ต่อไม่ติด เชื่อมไม่เข้ากันกับความคิด ความรู้ ทักษะของโลกใบใหม่ นี่คือความจริงที่สัมผัสจับต้องได้ในเกือบทุกกลุ่มความรู้และการงาน!
การพัฒนาคน การสร้างทุนมนุษย์ และการศึกษา หรือกิจกรรมสัมพันธ์การเรียนรู้ทั้งหลายทั้งปวง จึงต้องปรับความคิด ปรับการทำงาน วิธีการ และปรับระบบระเบียบให้พ้นออกจากโลกใบเก่า ขจัดระบบนิเวศของโลกเก่าที่ครอบงำกำกับอยู่ให้พ้นไปจากความคิดที่เวียนว่ายอยู่! เพื่อจัดปรับสร้างการเรียนรู้ ความคิด ทักษะและสมรรถนะในแบบของโลกใบใหม่ขึ้นแทน!
ฐานปฏิบัติการยุคอนาล็อกในโลกเก่าที่ชี้นำ มากด้วยระบบระเบียบของรัฐราชการ บนวิธีคิดที่ยึดหลัก “เกิดก่อนรู้ดีกว่า” กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม ถูกตั้งคำถาม และกลายเป็นอุปสรรคที่ไม่สร้างสรรค์ ปิดกั้นการเรียนรู้ ความก้าวหน้า การประดิษฐ์คิดสร้างยุคใหม่ ของผู้คนพลเมืองดิจิทัลไปอย่างมีนัยสำคัญ!
การสร้างธุรกิจในเศรษฐกิจยุคใหม่สร้างความเติบโตต่อปีได้นับพันๆ เท่าในรุ่นคน! ขณะที่ความมั่งคั่ง ประสบการณ์ที่เท่าๆ กันโดยเปรียบเทียบนั้น คนรุ่นก่อนต้องสะสมความมั่งคั่ง ประสบการณ์ยาวนานถึงสองสามชั่วอายุคน! และมิติของความรู้ สร้างประสบการณ์ความชำนาญในยุคก่อนที่ต้องใช้เวลานับรุ่นคน ขณะที่การเข้าถึงความรู้ในโลกแวดล้อมจากการสื่อสารใหม่นั้นแตกต่างไป มันเปิดกว้างไร้พรมแดน ข้ามรัฐชาติ กาลเวลา ข้ามอคติแบบโลกใบเก่า และนำมาต่อยอดได้อย่างเสรี หากความรู้ ทักษะ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์เพียงพอ! พลังขับเคลื่อนใหม่นี้เปลี่ยนระบบนิเวศของความคิด การเรียนรู้ และการสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด! จนวันนี้...ไม่มีใครยอมจำนนถูกโลกเก่ากักขังอีกต่อไป!!!
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ที่ รมว.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กำกับดูแลอยู่ ได้เห็นทะลุถึงสภาวะกดทับและโลกแวดล้อมที่ปิดกั้นการศึกษาทั้งโครงสร้างอยู่ โดยเฉพาะอุดมศึกษาที่กำลังลำบากจากปัจจัยแวดล้อมหลายมิติ ทั้งในแง่การถูกดิสรัปชันจากความก้าวหน้าใหม่ คุณภาพหลักสูตร คุณภาพครู ระบบระเบียบที่เป็นระบบนิเวศที่รกรุงรังปิดกั้นไม่สร้างสรรค์ ตลอดจนถึงการปรับตัวไม่ทันของการศึกษาที่มหาวิทยาลัยผลิตคนสู่สังคมอย่างสูญเปล่า ขาดความรับผิดชอบ!!!
กระทรวงการอุดมศึกษาฯ จึงออกระเบียบปลดล็อก เปิดทางสร้างการเรียนรู้ใหม่ ให้มหาวิทยาลัยมีช่องทางสร้างระบบนิเวศและการจัดการใหม่ ใช้กระบวนการ sandbox สร้างระบบการเรียนการสอน การจัดการ ตลอดจนถึงพัฒนาหลักสูตรและระบบนิเวศการศึกษาขึ้นใหม่ให้ตอบโจทย์ความต้องการ เพื่อปรับตัวเข้ากับโลกแวดล้อมใหม่ ส่งเสริมการสร้างหลักสูตรแบบโมดูล ขจัดความเทอะทะเลอะเทอะที่กัดกินออกไป พร้อมกับปั้นสร้างระบบเครดิต แบงก์ หยุดการรีไทร์ ไล่คนออกจากระบบการศึกษา ส่งเสริมให้ผู้คนสร้างจิกซอว์ต่อยอดการเรียนรู้ พัฒนาทักษะ ประสานสร้างความก้าวหน้าในวิชาชีพ อาชีพตามความถนัด มุ่งเปิดการศึกษาให้กว้างออก ให้ผู้คนเข้าถึงได้อย่างไม่จำกัดการเวลา ไม่ถูกกดทับด้วยกฎกติกา ระบบระเบียบแบบเดิมๆ ฯลฯ เรียกว่าการอุดมศึกษาไทยยุค ดร.เอนก วันนี้ปรับตัวก้าวตามพลวัตความก้าวหน้าในโลกแวดล้อมใหม่ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง
จากนโยบายสู่ภาคปฏิบัติคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามผลจากความเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยทั้งหลายว่า รหัสนัยที่กระทรวงการอุดมฯ ปลดเปลื้อง หยิบยื่นให้นั้น จะช่วยให้การศึกษาของมหาวิทยาลัยปรับสร้างตัวตนให้ทันโลกใบใหม่ได้แค่ไหน? ท่ามกลางสภาพที่กำลังวนเวียนอยู่ในหมู่ฝูงระบบบริหารแบบเก่าๆ กลุ่มคนเดิมๆ ที่เวียนว่ายเป็นสภามหาวิทยาลัย สลับกันไปมา ที่ส่วนมากมักเก่งกฎระเบียบและกรอบคอกเดิมๆ รวมทั้งทีมบริหารของมหาวิทยาลัยจำนวนไม่น้อยที่ยังปิดความคิด ปิดตัวอยู่ในกับดักภาคปฏิบัติของโลกใบเก่าและวาทกรรมบทเดิมๆ กับความเนียนโดยไม่ค่อยมีมรรคผลความก้าวหน้าและการปรับตัวจริงๆ จังๆ ที่สัมผัสจับต้องได้!
...วันนี้ถ้ามหาวิทยาลัยยังถอดรหัสไม่ออก คิดใหม่ไม่ได้ ขาดเป้าหมาย ค้นไม่พบความคิด การปฏิบัติใหม่ จัดปรับตัวเอง สร้างระบบนิเวศใหม่ไม่ได้ ก็ยากที่จะอยู่รอดและไปต่อได้! เป้าหมายปลายทางคงไม่พ้นแค่ผลาญเงินหลวงไปเรื่อยๆ รอคอยความตายในกาลเวลาเท่านั้น ไม่ช้าก็เร็ว! งานนี้คงต้องติดตามดูกันต่อไป...!!!!.
โลกใบใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อภิสิทธิ์-อดีตนายกรัฐมนตรี มอง 'จุดเสี่ยง' รัฐบาลเพื่อไทย ระเบิดการเมือง วางไว้เองหลายลูก
แม้ขณะนี้จะไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แต่สำหรับ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" การแสดงทัศนะหรือความคิดเห็นทางด้านการเมือง
ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..
รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ
เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก
ประมาทไม่ได้เลย คือ จิตของเรา!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีพระภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า..
คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!
เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย
ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?
การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก