ประเทศที่ยึดถือการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยย่อมให้ความสำคัญแก่การมีตัวแทนของประชาชน ในการทำหน้าที่พิจารณาออกระเบียบกฎหมายและควบคุมรัฐบาล การได้มาซึ่งตัวแทนของประชาชนดังกล่าวอาจมีกรรมวิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่องค์ประกอบสำคัญเรื่องหนึ่งในการจัดการเลือกตั้ง คือ การกำหนดเขตเลือกตั้ง (ไม่ว่าจะเป็นระบบผู้แทนแบบคนเดียวหรือหลายคนในหนึ่งเขต) ฝ่ายผู้มีอำนาจจัดการเลือกตั้งในบางประเทศหรือในบางยุคสมัยอาจหาทางเอารัดเอาเปรียบและก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้งขึ้นได้ โดยเฉพาะในการเลือกตั้งระบบที่เรียกว่า SMP (Single-member plurality voting) คือ ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุดเป็นผู้ชนะเพียงคนเดียว (winner takes all) การเอาเปรียบในการแบ่งเขตเลือกตั้งนี้ เรียกเป็นภาษาวิชาการ ทางรัฐศาสตร์ว่า Gerrymandering ซึ่งมาจากชื่อของนาย Elbridge Gerry อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ ชของสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ผู้ใช้การแบ่งเขตเลือกตั้งเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองเป็นคนแรกๆ โดยเส้นการแบ่งเขตของเขาคดเคี้ยวไปตามพื้นที่ฐานเสียงของเขาประหนึ่งรูปร่างของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่เรียกว่า salamander
การเลือกตั้งทั่วไปในประเทศไทยที่เคยเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนนับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบมีตัวแทนประชาชนในรัฐสภานั้น มีคนจำนวนไม่น้อยระแวงสงสัยว่าน่ามีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่เหมาะสมเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บางคนบางกลุ่มเกิดขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดมาโดยตลอด แม้แต่ การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อต้นปี 2562 ก็มีผู้กล่าวหาว่าคณะผู้ดำเนินการเลือกตั้งถูกผู้มีอำนาจเข้าแทรกแซงกระบวนการ แบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าวด้วย
สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึงก่อนกลางปี 2566 นี้ รัฐธรรมนูญ 2560 (แก้ไขเพิ่มเติม 2564) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง 2561 (แก้ไขเพิ่มเติม 2565 ) ได้กำหนดให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน นำตัวเลขนี้ไปหารจำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565) เพื่อไปคำนวณว่าแต่ละจังหวัดจะมีจำนวนผู้แทนฯเท่าใด โดยอย่างน้อยที่สุดในจังหวัดหนึ่งต้องมีผู้แทนฯอย่างน้อย 1 คน (1 เขตเลือกตั้ง) ถ้าคำนวณได้จำนวนผู้แทนฯแต่ละจังหวัดได้แล้ว แต่ยังไม่ครบจำนวน 400 คน จังหวัดใดมีเศษมากกว่าก็จะได้ผู้แทนฯเพิ่มเรียงกันไปจนกว่าจะครบสี่ร้อยคน ขณะนี้ได้คำนวณจำนวน ส.ส.หรือเขตการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดออกมาแล้ว (ตัวเลขที่ใช้หาร คือ 165,226 คน) มากที่สุดมี 33 เขตเลือกตั้ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร น้อยที่สุดมี 1 เขตเลือกตั้ง ได้แก่ ตราด สมุทรสงคราม สิงห์บุรี และ ระนอง
จังหวัดใดมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เกินหนึ่งคน รัฐธรรมนูญกำหนดให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งเท่าจำนวนสมาชิกที่พึงมี โดยต้องแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกันและต้องจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตใกล้เคียงกัน ในเรื่องนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง
ประจำจังหวัดต่าง ๆ และกรุงเทพมหานคร (ที่มีเขตเลือกตั้งเกิน 1 เขต) ยกร่างเขตเลือกตั้งขึ้นอย่างน้อย 3 แบบ แล้วติดประกาศให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้แสดงความคิดเห็นภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 หลังจากนั้นสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งจะรวบรวมความคิดเห็นจากจังหวัดต่างๆ นำเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา ซึ่งมีการกำหนดว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
เมื่อการตัดสินใจสุดท้ายในการกำหนดเขตเลือกตั้งเป็นอำนาจของคณะกรรมการเลือกตั้งตามกฎหมายแรงกดดันและความระแวงสงสัยจึงพุ่งมาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการเป็นผู้สมัคร รับเลือกตั้งที่ผิดฝาผิดตัวผิดพื้นที่ อาจจะทำให้ “ตัวเก็ง” ที่พรรคการเมืองอุตส่าห์ไปซื้อ ไปแย่งชิงมากลายเป็น “ตัวเกร็ง” กลายเป็นพ่ายแพ้อย่างพลิกล็อคได้ ดังนั้น พรรคการเมืองและประชาชนทั่วไปคงต้องหวังพึ่งความสุจริตเที่ยงธรรมของคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่ละคนเป็นสำคัญ รวมทั้งติดตามผลการดำเนินงานของ กกต. อย่างใกล้ชิดด้วย
นอกจากศึกการแบ่งเขตเลือกตั้งและการจัดการเลือกตั้งทั่วไปให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมแล้ว การถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าการนำตัวเลข “ราษฎร” ทั้งที่มีสัญชาติไทยและไม่มีสัญชาติไทย มาคำนวณจำนวนผู้แทนราษฎรของแต่ละจังหวัด น่าจะไม่ถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ก็คงจะเป็นปัญหาหนักใจ กกต.เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยเลยทีเดียว ปัญหาเรื่องนี้มีเดิมพันสูงทั้งเรื่องงบประมาณและเกียรติภูมิของประเทศ จึงขอเอาใจช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถนำพาบ้านเมืองเราฝ่าปัญหาเหล่านี้ไปได้ด้วยดี…
คอลัมน์ เวทีพิจารณ์นโยบายสาธารณะ
นาย พงศ์โพยม วาศภูติ
กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลปกครองสูงสุด ยกฟ้อง กกต. ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง ชี้ เป็นไปตาม รธน.
ศาลปกครองสูงสุด ยกฟ้อง กกต. ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม.-สุโขทัย-สกลนคร ชี้ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตาม รธน. ไม่มากไม่น้อย กว่าร้อยละ 10 'อรรถวิชช์' ระบุ บรรทัดฐานใหม่ หลังจากนี้กกต.สามารถแบ่งเขตได้ตามใจชอบ
ชทพ.ชี้อย่าตีตนไปก่อนไข้ปมแบ่งเขตเลือกตั้ง
'วราวุธ' รับแบ่งเขต กกต.ทำกระทบพื้นที่เชียงรายแต่พร้อมลุยต่อ บอกอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้หลังมีคนยื่นฟ้องศาลปกครอง
'รทสช.’ถกวางตัวผู้สมัครส.ส.กทม.33 เขต ลั่นพรรคการเมืองต้องปรับตามกกต.แบ่งเขต
'รทสช.’ถกวางตัวผู้สมัครส.ส.กทม.33 เขต ลั่นพรรคการเมืองต้องปรับตามกกต.แบ่งเขต
ปชป.เพิ่งตื่น! จี้ กกต.เคาะเขตเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม
'องอาจ' จี้ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งในกรุงเทพฯ ให้เป็นไปตามกฎหมาย บริสุทธิ์ ยุติธรรม หลังมีกระแสจะเคาะแบบขัดกฎหมาย
'อรรถวิชช์' ท้วง 'กกต.กทม.' แบ่งเขตเลือกตั้งผิด พ.ร.ป.เลือกตั้ง
'อรรถวิชช์' ท้วง กกต.กทม.แบ่งเขตเลือกตั้งแบบที่ 1,2 ผิด พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. รวมตำบลเป็นเขตเลือกตั้งไม่ได้ พบเกือบทุกเขตเลือกตั้ง มีการระเบิดเขตแยกแขวงมารวมเขตใหม่
วุ่นแล้ว! ศาลรธน. มติเอกฉันท์ ชี้ขาดคำว่า 'ราษฎร' ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย
ศาลรับธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ชี้ขาดคำว่า 'ราษฎร' ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย ปม กกต.นำคนไม่มีสัญชาติไทยคำนวณแบ่งเขตเลือกตั้ง