เจริญพรศรัทธาสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในท่ามกลางกระแสกิเลสที่มีกำลังร้อนแรงของโลก.. ทุกชีวิตจึงดำเนินไปในกระแสความพลุ่งพล่านแห่งกิเลส.. ที่ยากต่อการควบคุมกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในอำนาจของสติ...
การกระทบกระทั่ง การทะเลาะวิวาท การทำร้ายทำลายกันอย่างไม่มีสาระ .. ปรากฏมากขึ้น.. จนถึงขั้นลงมือฆ่ากัน.. ประหัตประหารกัน.. ทั้งนี้ เพราะภาวะขาดสติในกระแสจิต.. ที่พลุ่งพล่านไปด้วยกิเลส.. อันเป็นมูลเหตุก่อ... อกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ โมหะ
ชีวิตของคนเรา.. จะดี.. จะชั่ว ก็อยู่ที่เจ้า ๓ ตัวนี้ ถ้าไอ้เจ้า ๓ ตัวนี้กำเริบขึ้นเมื่อไหร่ ไอ้ที่เคยทำดี.. ก็กลายเป็นทำชั่วไปได้ไม่ยาก ..อย่าว่าแต่พวกชั่วเป็นสันดานอยู่แล้วเลย
ในกระแสสังคม.. จึงมีแต่ข่าวอกุศล.. ที่หนีไม่พ้นโลภะ โทสะ โมหะ เป็นเจ้าเรือน..
ข่าวดารา คนดัง.. ที่เข้าไปสู่กระแสความโลภ หวังความร่ำรวยที่ได้มาจากการขายหลอก.. ขายลวง..
ข่าวการปั่นหุ้นใน.. ตลาดการลงทุน ..การฉ้อโกงตามรูปแบบ โดยอ้างอิงความรู้ความเข้าใจในช่องว่างของกฎหมาย
ข่าวธุรกิจสีเทา.. ที่แพร่สะพัดไปทั่ว ลุกลามเข้าไปสู่การมีส่วนได้ส่วนเสียของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ให้เป็นไปตามแบบแผนความถูกต้องดีงาม.. ยุติธรรม ภายใต้กฎหมาย
ข่าวนักการเมือง.. คิดวางแผนแสวงหาก่อการใดๆ ที่จะได้มาซึ่งความชอบธรรมในการมีอำนาจตามกฎหมาย เพื่อปกครองแผ่นดินโดยอาศัยอำนาจรัฐ.. จึงได้เห็นบทบาทลีลาของแต่ละคน.. แต่ละพรรค.. ที่โลดแล่นเต้นไปตามเสียงเพลงแห่งโลภะ โทสะ โมหะ...
แม้ในแวดวงบรรพชิต.. ก็หนีไม่พ้นกระแสความวุ่นวายจากไฟโลกีย์.. ที่ไหลบ่าเข้าไปในกำแพงศาสนา.. เล่นเอาเจ้ากู.. เจ้ามึงทั้งหลาย กระสับกระส่าย วุ่นวาย อยู่กับลาภ ยศ สรรเสริญ สุข.. จนยากนักที่จะสงบนิ่งอยู่กับการเจริญพุทโธ.. ธัมโม.. สังโฆ..
จึงได้เห็นการโฆษณาผ่านโลกโซเชียลมีเดียในยุคไอที เพื่อโฆษณาประกาศตน.. แสดงตนว่า ตัวเองเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน.. นอกจากตนแล้วไม่มีใครรู้ในพระธรรมของพระพุทธเจ้าจริง...
การใช้กลยุทธ์การตลาด บวกกับเทคโนโลยียุคไอที จึงกลายเป็นเครื่องมืออันสำคัญของการเผยแพร่ความเป็นตัวตน ที่แฝงปนไปกับหลักธรรมคำสั่งสอน เพื่อให้ได้มาซึ่งค่านิยมทางสังคมวัตถุ...
คำว่า.. ของจริงนิ่งเป็นใบ้ .. ของพูดได้ล้วนไม่จริง .. จึงเป็นวาทะธรรมที่น่านำมาพิจารณายิ่งในยามนี้ ที่กระแสโลกเชี่ยวกรากไปด้วยอกุศลที่ปนเปื้อนอยู่ในวิถีจิตสัตว์ทั้งหลาย จนขาดการรู้เท่ารู้ทันในอารมณ์ทั้งหลาย จนขาดความเหมาะควรในการประพฤติตน..
ไม่แปลกที่เห็นกระแสของสังคม .. ที่ไหลไปในทิศทางเดียวกัน อย่างแยกกันไม่ออกว่า.. อะไรดี อะไรชั่ว.. เพราะมันปนเปื้อนจนเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ด้วยอำนาจโลภะ โทสะ โมหะ ซึ่งเป็นรากเหง้าของความชั่ว...
คำกล่าวที่ว่า.. “จริงๆ แล้ว อะไรดี อะไรชั่ว ก็พอรู้อยู่ ไม่ยากที่จะรู้ แต่สำหรับการจะลดละความชั่วนั้น มันยากแท้ แม้รู้อยู่......”
ครั้งหนึ่ง.. ได้พบอดีตมหาเปรียญธรรม ๘ ประโยค ที่ละเพศบรรพชิต.. กลับไปแสวงหาโลกียกาม มีครอบครัว.. การงาน รับราชการเป็นนายทหาร มีชั้นยศถึงนายพัน.. ซึ่งได้พูดว่า..
“กระผมเรียนมาจนจบเปรียญธรรม.. กระผมรู้ทั้งนั้น.. ในสัจธรรมความจริง.. แต่ที่ต้องลาออกมาจากเพศบรรพชิตทั้ง ๆ ที่รู้ธรรมอย่างดี.. ก็ เพราะยังอดไม่ได้!!...”.. อดีตพระมหาสารภาพตรงๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ...
เรื่องการอดใจ .. ไม่ได้ .. จึงเป็นเรื่องใหญ่ของคนเราในทุกแวดวง.. แม้ในหมู่พระทุศีล.. ที่รับเงินทอง แสวงหาลาภยศ.. ดังบางคนที่เลยเถิดไปมั่วสุมเสพกามกับคนทางโลก.. ก็เพราะ รู้ทั้งหมด.. แต่ยังอดไม่ได้ นี่แหละเป็นมหาเหตุ
ในพระพุทธศาสนา จึงสอนให้รู้จักไอ้ตัวที่ทำให้เราอดใจไม่ได้.. ตัวแรกคือ ความโลภ ..หรือ โลภะ...
สำหรับความโลภนั้นจัดแบ่งได้ ๓ ระดับ.. ระดับแรก ความโลภอย่างหยาบ ที่มีอยู่ในวิถีปุถุชนคนกินข้าวแกง จิตใจใฝ่หาดวงดาวทั้งหลาย ที่เดินเข้าคุกตะรางกันมากมายก็เพราะความโลภ ความอยากมั่งมีศรีสุข.. จากการประกอบอาชีพทุจริต โดยเฉพาะการยกตนเองเป็นผู้ค้าขายยาเสพติด.. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทั้งติดยา ทั้งขายยา ทั้งนี้ก็เพราะความโลภ.. ที่ไม่ได้ติดคุกเพราะติดยา แต่ติดคุกเพราะเสพติดเงิน.. ด้วยภาวะลงทุนน้อย กำไรสูง.. ไม่มีอะไรเกินค้ายาเสพติด.. จึงเป็นที่ติดอกติดใจของคนที่มากไปด้วยความโลภ..
ในสังคมวันนี้.. จึงได้เห็นเรื่องวุ่นวายมากมายที่เกิดจากความโลภขั้นหยาบๆ .. ใกล้เคียงสัตว์เดรัจฉาน.. ที่มีความอยากได้ของผู้อื่นโดยไม่ชอบธรรม โกงบ้าง กัดบ้าง แย่งชิงบ้าง.. เรียกว่า โกงกินคอร์รัปชันทุกรูปแบบ.. ทำได้ทั้งหมด อย่างไม่ละอายฟ้าดินเลย...
เมื่อพูดถึงเรื่อง ความโลภขั้นหยาบๆ นี้แล้ว ก็ให้นึกถึงเรื่องโกงกินค่าอาหารเด็กๆ ในโรงเรียนชั้นประถม ที่เล่นเอาเด็กนักเรียนตัวเล็กขาดอาหารกลางวันที่ควรจะได้กินตามงบประมาณต่อหัว.. โดยคนที่โกงกินอาหารกลางวันเด็กๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน.. เมื่อสืบสาวสอบสวนลงไปก็หนีไม่พ้นก็คือ ครูใหญ่.. ครูน้อยทั้งหลายในโรงเรียนนั้นๆ ที่มีอำนาจบริหารอาหารกลางวันเด็กๆ...
สมัยหนึ่ง.. เคยไปนั่งรับประทานอาหารกลางวันกับบรรดาครูผู้บริหารสถานศึกษาแห่งหนึ่ง.. ที่มีเงินกองกลางไว้สำหรับเลี้ยงรับรองอาหารกลางวัน.. เมื่อพูดคุยกันจึงทราบว่า.. เป็นเงินที่ได้มาจากเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งที่พ่อค้ามอบให้จากการส่งขายเครื่องมืออุปกรณ์การเรียนให้กับสถานศึกษาแห่งนั้น...
จากตัวอย่างย่นย่อ.. พอเข้าใจในอำนาจของความโลภอย่างหยาบ.. ก็เพื่อจะมองเห็นถึงรากเหง้าของปัญหาคอร์รัปชันในแวดวงข้าราชการ พนักงานรัฐทั้งหลาย.. ที่ปราบปรามอย่างไรก็ไม่ยอมหมดสิ้น.. เพราะมิได้แก้ไขที่ต้นเหตุ คือ การฟื้นฟูปลุกสร้างจิตสำนึกให้มีความละอายเกรงกลัวต่ออกุศลดังกล่าว ที่ชักนำไปสู่การก่อบาปสร้างเวรกรรม.. ให้โทษภัยกับชีวิตผู้กระทำอย่างสาสมทันตาเห็น ดังปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ ของการเรียกรับสินบนในหน้าที่ของตน.. ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีสืบเนื่องรกโลกมายาวนาน.. อย่างไม่เคยหมดสิ้น.. จนกล่าวกันว่า.. หากประเทศหยุดปัญหาคอร์รัปชันได้จริง ไม่ว่าจะใต้น้ำ.. หรือตามน้ำ.. ประเทศชาติย่อมเจริญเติบโตในทุกด้าน.. โดยไม่ต้องไปคิดทำแผนบริหารพัฒนาเศรษฐกิจอะไรมากมาย.. ทั้งนี้ ขอเพียงยุติปัญหาโกงกินให้ได้เท่านั้น
จึงมีคำถามในทุกสมัยว่า.. จะทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหาคอร์รัปชันให้หมดไปจากแวดวงข้าราชการ พนักงานรัฐ.. ทั้งหมดทั้งหลายได้....
คำตอบในศาสนา.. คือ การสอนให้คนเรามีความสันโดษ.. พอใจในความมักน้อยมาตั้งแต่เด็กๆ ... เรียกว่า ต้องปลูกฝังจิตสำนึกความสันโดษ-มักน้อยไว้เลย...
ด้วยวิธีที่จะแก้ความโลภอย่างหยาบนี้ได้ ก็ต้องใช้การปลูกฝังให้มีความรักสันโดษในชีวิต
ความสันโดษเป็นยาแก้ปัญหาคอร์รัปชัน.. แก้การลักเล็กขโมยน้อย
การสันโดษ ประกอบสัมมาอาชีวะ.. การไม่มีความโลภในทางผิดศีลธรรมก็จะเกิดขึ้นได้ในสังคมนั้นๆ .. การพัฒนาบ้านเมืองก็จะดำเนินไปได้ด้วยดีอย่างมีแบบแผน.. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
แต่หากยังมีความโลภในทางที่ผิดศีลธรรม.. การพัฒนาบ้านเมืองก็จะนำไปสู่ความหายนะ เช่น ถนนสายหนึ่ง.. ผิวยางมะตอยต้องลาดหน้า ๖ ซม. กลับมีการโกงกินไป ๒-๓ ซม. ซึ่งหากคิดคำนวณทั้งสาย ก็นับว่าไม่น้อยเลยต่อการสูญเสียคุณภาพของถนนลาดยางอย่างดี.. อันเกิดจากการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้เกี่ยวข้อง
สำหรับ ความโลภอย่างกลาง นั้น.. แม้จะดูดีกว่าอย่างหยาบ แต่สะท้อนความไม่รู้จักอิ่ม.. ไม่รู้จักพอเพียง.. จึงไม่รู้จักประมาณในการแสวงหา.. มีความอยากได้จนเกินไป แม้จะได้มาโดยสุจริต ..เสมือนเรืออวนลากปลาในทะเล.. ที่ลากต่อไปแม้จะได้ปลามามากพอแล้ว แสดงถึงความไม่รู้จักพอของบุคคลที่มีความโลภอย่างกลาง
หากคนในสังคม.. มีประเภทโลภอย่างกลางมาก การแข่งขัน การแย่งชิง.. การแสวงหาก็จะสูงมาก.. จนที่สุด คนในสังคมไร้ความเมตตากรุณาต่อกัน.. ไม่เกื้อกูลกัน.. ไม่สงเคราะห์กัน สังคมไม่รู้จักคำว่า พอ.. ดังคำไทยที่พูดกันว่า มือใครยาว สาวได้สาวเอา ลักษณะสังคมแบบนี้.. อันตรายยิ่งในระยะยาว... เพราะจะเป็นสังคมที่ไร้น้ำใจ.. ไม่สมัครสมานสามัคคีกัน...
มาสู่.. “ความโลภอย่างละเอียด” อันเกิดจากกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ภายในจิตใจ.. ยังมีความติดใจ อาลัย ผูกพัน อยู่กับสิ่งนั้นๆ.. จนยากจะปล่อยวาง นึกถึงเมื่อไร ยังยึดว่าเป็นของตนอยู่เสมอ.. เป็นความห่วงใยเหนียวแน่น ยากปล่อยวาง.. แต่เป็นแต่ภายในจิตใจ ยากจะมองเห็นโดยภายนอก
อย่างไรก็ตาม.. ไม่ว่าจะเป็นความโลภชนิดใด.. ก็ล้วนแล้วแต่เป็นอกุศล.. เป็นอกุศลจิต จิตบาป ควรที่จะชำระล้างด้วย สติปัญญา ที่กำหนดรู้ทั่วถึง.. เห็นแจ้งจริงในความโลภนั้นๆ .. ว่าเป็นโทษ ทุกข์ ภัย.. ในทุกขณะ ยากแท้จะมีความสุขได้เพราะความโลภ.. พึงจดจำใส่ใจเสมอว่า.. โลภมาก โลภน้อย ก็บาปเหมือนกัน... เพราะทำให้เกิดความเร่าร้อน ความทุกข์ใจได้เสมอ...
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..
รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ
เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก
ประมาทไม่ได้เลย คือ จิตของเรา!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีพระภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า..
คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!
เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย
ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?
การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก
ขบวนการแพทย์ชนบท กับรางวัลแมกไซไซ ปี 2024 ทิศทางพัฒนาระบบสุขภาพไทย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. คณะผู้แทน”ขบวนการแพทย์ชนบท” ได้เดินทางไปรับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2024