รัฐบาลจีนประกาศนโยบายเปิดประเทศทั้งด้านการผ่อนคลายการเดินทางเข้าและออกจากประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ปฏิกิริยาของคนจีน คือ ยอดค้นหาแหล่งท่องเที่ยวบนเว็ป trip.com พุ่งงกระชูด ไทยติดหนึ่งในห้าของแหล่งท่องเที่ยวที่คนจีนค้นหาที่สุด ได้แก่ ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น ไทย และเกาหลีใต้
นโยบายการเปิดประเทศของจีนเป็นทั้งข่าวดี และข่าวร้าย ข่าวดี คือ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และสาขาบริการที่เกี่ยวข้องจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แรงงานที่ตกงานจะกลับมามีงานทำและมีรายได้อีกครั้ง อัตราการเติบโตของจีดีพีในปี 2566 อาจเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมของหน่วยงานต่างๆ (2.7%-4.0%) อีก 1%-1.5% หากมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30%- 40% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เคยพุ่งสูงสุดถึง 11.14 ล้านคนในปี 2562 (หรือ 28% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ) และมีรายรับจากนักท่องเที่ยวจีน 5.3 แสนล้านบาท (ประมาณ 27.3% รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ) แต่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะตัดสินใจเข้ามาเที่ยวไทยในปี 2566 จะขึ้นกับปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านเที่ยวบิน ความพร้อมของบริษัททัวร์ในจีน(ที่น่าจะปิดกิจการไปเป็นจำนวนมาก) การต่อหนังสือเดินทางที่หมดอายุหรือการออกหนังสือเดินทางของหน่วยงานราขการจีน ฯลฯ แม้จะมีข้อจำกัดในระยะแรก ผู้เขียนคาดว่าตลอดปีน่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนไม่ต่ำกว่า 20% หรืออาจสูงถึง 40% ของยอดนักท่องเที่ยวจีนในปี 2562 ถ้าหากไม่มีปัจจัยทางลบที่รุนแรง
ข่าวร้าย คือ อาจเกิดการระบาดของโควิดระลอกใหม่ เพราะคนจีนมิได้ฉีดวัคซีน mRNA และผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็มีอัตราฉีดวัคซีนต่ำมาก รวมทั้งข้อกังวลจากนานาชาติและ WHO เรื่องการเปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด และไม่มีข้อมูลชนิดของสายพันธุ์โควิดที่กำลังระบาดในหมู่คนจีน
ความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดโควิดระลอกใหม่
หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศเปิดเสรีให้คนจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ หลายประเทศที่กังวลเรื่องข้อมูลจำนวนผู้ติดโควิดในประเทศจีน และสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในประเทศจีน ออกประกาศกำหนดเงื่อนไขการเดินทางของคนจีนเข้าประเทศว่าจะต้องมีผลทดสอบโควิดเป็นหลักฐาน ได้แก่ อิตาลี สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฯลฯ
แต่สำหรับประเทศไทย ภาครัฐและเอกชนส่วนใหญ่คงต้องการเปิดเสรีให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยว เพื่อผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและการมีงานทำ อย่างไรก็ตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะหลั่งไหลเข้าประเทศตั้งแต่ช่วงตรุษจีน อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ด้วยเหตุผลที่กล่าวถึงแล้ว
แม้จะมีข่าวรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขได้เชิญผู้เกี่ยวข้องจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวฯและกระทรวงคมนาคมร่วมประชุมหารือด่วน โดยคาดว่าจะมีมาตรการรับมืออย่างน้อย 4 มาตรการ ได้แก่ การกำหนดให้ผู้ดินทางเข้าไทยทุกคนต้องฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อย 2 เข็ม ผู้เดินทางจากจีนต้องมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาโควิด และมีผลตรวจ ATK ก่อนเดินทางถึงไทย 48 ชั่วโมง รวมทั้งขอความร่วมมือเรื่องมาตรการป้องกันโรค เช่นการสวมหน้ากากาในที่ชุมชน แต่หลายประเทศ รวมทั้งองค์การอนามัยโลกยังไม่ไว้วางใจในข้อมูลของจีน และกำลังเรียกร้องขอให้รัฐบาลจีนเปิดเผยข้อมูลเพิ่มขึ้น
ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท รัฐบาลไทยโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณะสุขควรเร่งดำเนินการดังต่อไปนี้ (ก) กระทรวงสาธารณสุขควรจัดเตรียมความพร้อมเรื่องบุคลากร อุปกรณ์การแพทย์ ยารักษาโรค และสถานพยาบาล รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม ไว้ล่วงหน้า เพราะไม่มีใครมีข้อมูลที่ชัดเจนว่าคนจีนติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อะไร มีความรุนแรง และความรวดเร็วของการระบาดเพียงไร
(ข) กระทรวงต่างประเทศควรขอความร่วมมือเรื่องข้อมูลจำนวนผู้ติดโควิดและสายพันธุ์ที่กำลังระบาดในจีนจากรัฐบาลจีน เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนรับมือ แม้จะมีการให้สัมภาษณ์ของนายแพทย์ที่เกี่ยวข้องว่าสายพันธุ์โควิดที่ระบาดในจีนจะเป็นเคยระบาดในไทยมาก่อน แต่ดังที่กล่าวแล้วว่าองค์การอนามัยโลกยังเรียกร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมและความร่วมมือบางด้านจากรัฐบาลจีน
(ค) รัฐบาลควรเร่งพิจารณาจัดเก็บ “ค่าธรรมเนียมพิเศษเพื่อลดความเสียหายจากโควิด” จากนักท่องเที่ยวทุกชาติที่เดินทางเข้าประเทศ รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนที่ต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด เพราะถ้าหากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เป็นพาหะเชื้อโควิด หรือ ติดเชื้อโควิด แม้นักท่องเที่ยวเหล่านั้นจะมีประกันสุขภาพ แต่ถ้าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ารักษาในสถานพยาบาลมีจำนวนมาก ก็จะกระทบ9jvบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่คนไทยจะได้รับ รวมทั้งราคาค่ารักษาและค่ายาสำหรับคนไทย นักเศรษฐศาสตร์เรียกปัญหานี้ว่า ‘ผลกระทบภายนอกด้านลบ” (negative externalities) นี่คือเหตุผลที่รัฐต้องพิจารณาจัดเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษเพื่อลดความเสียหายของการระบาดของโควิดจากนัท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเกิดกับคนไทย ค่าธรรมเนียมนี้คล้ายกับค่าธรรมเนียมการเก็บจากนักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชมอุทยานต่างๆ จนก่อความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายด้านชีวภาพในป่าอุทยานทั้งบนบกและในทะเล
รัฐบาลสามารถขอความร่วมมือจากนักวิชาการด้านโรคติดต่อ การประกันภัยและเศรษฐศาสตร์ในการคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงอัตราความเสี่ยงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะก่อให้เกิดการระบาดระลอกใหญ่จนกระทบต่อการรักษาพยาบาลคนไทย
(ง) ร่วมมือกับภาคเอกชนในการสร้างระบบติดตามนักท่องเที่ยวจากจีนด้วยแอปพลิเคชัน รวมทั้งการรณรงค์ขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวจีน และสถานทูตจีน
ข้อจำกัดด้านแรงงานและที่พัก
แม้ว่าการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่ช่วงตรุษจีน จะเป็นข่าวดี แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการท่องเที่ยวกำลังเป็นห่วงเรื่องข้อจำกัดด้านแรงงานที่ให้บริการนักท่องเที่ยว และความเพียงพอของโรงแรมที่พักที่ปิดตัวไปจำนวนมาก รวมทั้งรถตู้ที่ให้บริการ ทั้งนี้เพราะในช่วงโควิดระบาด และโดยเฉพาะช่วงต้นปี 2563 ที่รัฐบาลมีคำสั่งบิดเมืองและกิจการบางอย่าง ปรากฏว่ามีแรงงานย้ายถิ่นกลับภูมิลำเนาขนานใหญ่ จำนวนประชากรทั้งย้ายเข้าสุทธิ และย้ายออกสุทธิสูงถึง 2 ล้านคนในช่วงกุมภาพันธ์-เมษายน 2563 เทียบกับค่าเฉลี่ยของช่วงหลังของปี 2563 ที่เฉลี่ยเพียงเดือนละ 2 แสนคน แรงงานอพยพที่กลับภูมิลำเนาส่วนใหญ่เป็นการอพยพออกจากกรุงเทพและปริมณฑลและเมืองท่องเที่ยงหลัก (เช่น ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ เป็นต้น) และส่วนใหญ่เป็นทำงานในภาคท่องเที่ยว โรงแรม ภัตตาคาร และภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
แรงงานสำคัญด้านการท่องเที่ยวที่อาจมีการขาดแคลนในระยะแรก คือ มัคคุเทศก์ที่ตามกฎหมายต้องมีใบอนุญาต 2 ประเภท 8 ชนิด และมีอายุ 5 ปี หากหมดอายุ ต้องขอใบอนุญาตใหม่โดยต้องผ่านการอบรมและทดสอบความรู้ความสามารถ (มาตรา 56 พรบ. ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์) แต่ในช่วงโควิดระบาดเกือบสามปีที่ผ่านมา คาดว่าจะมีมัคคุเทศก์จำนวนมากที่ใบอนุญาตหมดอายุและมิได้ต่ออายุ ดังนั้นเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนชั่วคราว กรมการท่องเที่ยวอาจพิจารณาผ่อนผันการต่ออายุใบอนุญาตชั่วคราว โดยให้มีมัคคุเทศก์ที่ใบอนุญาตหมดอายุ แจ้งความประสงค์ที่จะต่ออายุก่อน และกำหนดให้ต้องต่ออายุภายในเวลา 6 เดือน แต่ในระหว่างนั้น ยังอนุญาตให้ทำงานเป็นมัคคุเทศก์ได้ชั่วคราวด้วยใบอนุญาตฉบับเดิม
แรงงานที่ขาดแคลนอีก 2 ด้าน คือ พนักงานสปาที่มีกระแสข่าวว่าแรงงานเหล่านี้นได้เดินทางไปทำงานในต่างประเทศแล้ว รวมทั้งการขาดแคลนแรงงานคนไทยและต่างชาติที่ทำงานตามร้านอาหาร หรือร้านค้าต่างๆ สภาอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและกระทรวงแรงงานควรจัดทำข้อมูลจำนวนแรงงานทั้งสองประเภท และหามาตรการแก้ไข หากพบว่ามีปัญหาคอขวดที่รุนแรง
นอกจากนั้นก็อาจมีปัญหาด้านโรงแรมที่พักและรีสอร์ทที่ปิดตัวไปจำนวนมาก รวมทั้งรถตู้ที่ต้องเลิกกิจการในช่วงโควิด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรร่วมหามาตรการชั่วคราวในการฟื้นฟูโรงแรมและรีสอร์ท และถือโอกาสนี้กำหนดมาตรการสนับสนุนช่วยเหลือให้เจ้าของสถานบริการเหล่านั้น เข้าสู่ระบบการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม โฮสเทล รวมทั้งปรับแก้ไขกฎระเบียบ การใช้อาคารให้เหมาะสมกับข้อเท็จจริงตลอดจนการร่วมมือกับสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อปรับปรุงสถานบริการ ประเด็นหลักนี้อาจครอบคลุมสินเชื่อสำหรับเจ้าของรถตู้ หรือรถบัสที่ให้บริการท่องเที่ยวต้องซ่อมแซมรถของตนด้วย
นโยบายรายได้จากการท่องเที่ยว และการปรับโครงสร้างธุรกิจการท่องเที่ยวในระยะยาว
ถึงแม้ว่าไทยจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ว่ารายได้จำนวนมากไม่ได้ตกในมือของคนไทย และไม่ถูกเก็บภาษีเงินได้ในประเทศ แม้ปัจจุบันบริษัทข้ามชาติที่ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์จากแพลตฟอร์ม (online travel agency) จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว แต่ยังมิได้เสียภาษีเงินได้ ข่าวดี คือ กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการหารือกับองค์กรเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) และ 139 ประเทศ กำหนดมาตรการให้บริษัทข้ามชาติเหล่านั้นต้องเสียภาษีเงินได้ โดยปันส่วนกำไรมาให้กับประเทศผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม ประเด็นที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา คือ ข้อตกลงเรื่องสัดส่วนในการแบ่งรายได้ภาษีให้แต่ละประเทศ สิ่งที่หน่วยงานรัฐควรเตรียมพร้อม คือการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมของแพลตฟอร์มต่างๆทั้งไทยและเทศ
นอกจากนั้นกระทรวงพาณิชย์ควรพิจารณาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายการทำงานของธุรกิจต่างชาติใช้คนไทยเป็น nominee ทำธุรกิจที่ห้ามคนต่างชาติทำ หรือลักลอบทำธุรกิจในประเทศ รวมทั้งธุรกิจสีเทา และธุรกิจผิดกฎหมาย (เช่น การค้ายาเสพติด) เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี เป้าหมาย คือ พยายามให้คนต่างชาติและบริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต้องทำธุรกิจในระบบอย่างถูกกฎหมายและเสียภาษีอย่างถูกต้อง การทบทวนอาชีพต้องห้ามของคนต่างชาติ นอกจากนั้นกระทรวงพาณิชย์ และกรมตำรวจควรขอความร่วมมือจากสถานฑูตจีนเรื่องการตรวจสอบรายชื่อนักธุรกิจจีนที่มีประวัติทำผิดกฎหมายในประเทศจีน
การเตรียมตัวเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากการเกิดโควิดระลอกใหม่ โดยเฉพาะการพิจารณาจัดเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษเพื่อลดความเสียหายจากโควิด การกำหนดมาตรการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ที่พักและพาหนะในการให้บริการนักท่องเที่ยว เป็นงานเร่งด่วนที่หน่วยงานรัฐต้องเร่งดำเนินการ โดยการร่วมมือกันระหว่างหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน รวมทั้งการร่วมมือกับรัฐบาลจีน โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวเป็นเจ้าภาพ และต้องเร่งเตรียมแผนงานทั้งแผนระยะสั้นและระยะกลางทันที่ที่ข้าราชการกลับมาทำงานในวันที่ 3 มกราคม 2566
คอลัมน์ เวทีพิจารณ์นโยบายสาธารณะ
นิพนธ์ พัวพงศกร
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 549 ราย ดับเพิ่ม 1 คน
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2567
โควิดกลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’ ขออย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้
เวลาผ่านไปโรคโควิดลดความรุนแรงลง โรคโควิดไม่น่ากลัวหมือนเมื่อ 3-4 ปีก่อน คนไทยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกลัวโรคโควิดมากเกินไป
สายการบิน 'ลุฟท์ฮันซา' ต้องจ่ายค่าปรับกรณีเลือกปฏิบัติต่อผู้โดยสารชาวยิว
สายการบินลุฟท์ฮันซาต้องจ่ายค่าปรับจำนวน 4 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดขอ
ไทยติดโควิดรอบสัปดาห์ 353 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 6 - 12 ตุลาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่