เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ตั้งแต่กลับมาจากจำพรรษาที่นครตักศิลา ปากีสถาน เมื่อ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ ยังไม่ได้ปลีกวิเวกเพื่อพัก..ภาวนา อย่างจริงจัง ด้วยศาสนกิจที่มีสืบต่อเนื่องมาตั้งแต่ออกพรรษา ที่ต้องไปร่วมงานถวายผ้ากฐินตามวัดต่างๆ ที่เป็นสาขาในการปกครองของวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ซึ่งปัจจุบันมีถึง ๘ แห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (อินเดีย) ซึ่งงานถวายผ้ากฐินทั้งหมดสิ้นเขตกาลทานไปเมื่อวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ซึ่งในปีนี้ตรงกับ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ซึ่งสำนักสงฆ์วัดป่าเทสรังสี พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี จ.ภูเก็ต เป็นวัดสุดท้ายในการถวายผ้ากฐินประจำปีพรรษานี้
การจัดงานถวายผ้ากฐินของคณะศรัทธาญาติโยมในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ.. นับเป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนายิ่งในกระแสความศรัทธา.. ที่ไม่เคยจืดจางไปจากเขตบุญพระพุทธศาสนา ส่วนจะได้ถึงความเป็นกุศลแค่ไหน. อย่างไร.. ก็คงต้องขึ้นอยู่กับการได้รับการเรียนรู้ศึกษาปฏิบัติจากพระภิกษุในแต่ละวัดที่สัมพันธ์กับความศรัทธาของญาติโยม...
จริงๆ แล้ว.. ต้องยอมรับว่า.. พวกเราโชคดียิ่งที่เกิดมาเป็นชาวพุทธอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย อันอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ.. อันควรยิ่งที่จะรองรับพระสัทธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า..
เราจึงได้ฟังธรรม.. ปฏิบัติธรรม.. ด้วยการทำทาน สมาทานศีล และภาวนาพัฒนาจิต เพื่อให้เกิดปัญญามาโดยตลอดอย่างเสรี.. จะมากจะน้อย ก็แล้วแต่จิตสำนึกในความเป็นชาวพุทธ.. ของเราทั้งหลาย แต่เชื่อว่า.. ทุกคนที่เกิดบนแผ่นดินธรรมนี้ ล้วนได้รับอิทธิพลจากพระพุทธศาสนา ที่ถ่ายทอดภาษาธรรมผ่านมาทางโครงสร้างของสังคมสู่จิตวิญญาณ ชุมชน.. และบุคคล ไม่ว่าในรูปแบบวัฒนธรรมประเพณี.. หรือวิถีชุมชนนั้นๆ...
จึงเป็นเรื่องปกติ.. ที่ชาวไทยทุกคน ไม่ว่าจะเลว.. จะดี จะมีหรือจน.. หรือจะเป็นใครๆ อยู่ในฐานะ.. บทบาทหน้าที่ใดๆ ล้วนแต่ต้องเคยเข้าวัด.. ทำบุญ รักษาศีล.. ฟังธรรม.. ตามที่บรรพชนและสังคมส่วนใหญ่ได้ถือปฏิบัติกันมา..
ส่วนจะสามารถพัฒนาจิตสำนึก.. ให้อยู่ในระดับใดของความเป็นพุทธศาสนิกชนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยคุณธรรมความดีนั้น.. ก็คงเป็นเรื่องปัจเจกชน.. ซึ่งไม่ว่าจะมีจิตสำนึก.. ในระดับใด.. สุดท้ายก็ต้องวางชีวิตนี้ไว้หน้าพระ... เพื่อสวดมาติกา.. บังสุกุล ทำบุญกุศลเพื่อแผ่อุทิศไปให้.. เมื่อยามจิตวิญญาณพรากออกจากกายนี้แล้ว.. อย่างไม่เคยเห็นมีใครลุกขึ้นมาปฏิเสธ.. แม้คนที่ได้ชื่อว่าชั่วช้าเลวทรามสุดๆ....
การกลับคืนสู่ธรรมชาติ.. ของทุกคน.. จึงเป็นวันที่ประกาศการพบธรรมเป็นครั้งสุดท้าย ที่แสดงความเป็นปกติธรรมดาของธรรมชาติแห่งสิ่งมีชีวิตทั้งหลายว่า... ที่สุดของปลายทางแห่งชีวิต.. คือ เชิงตะกอน ที่ทุกชีวิต.. ไม่ว่ากษัตริย์ พราหมณ์ เวศ ศูทร ต้องไปบรรจบพบธรรมที่จุดเดียวกัน...
การเดินทางกลับมาประเทศไทย หลังจากออกพรรษาในปีนี้.. นอกเหนือจากการร่วมงานถวายผ้ากฐินตามวัดวาอารามต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว.. จึงมีงาน “วันทุกชีวิตต้องพบธรรม” ที่ไม่ควรปฏิเสธกับการไปร่วมงานบำเพ็ญทักษิณานุปทานกิจแด่ผู้วายชนม์หรือมรณภาพของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ซึ่งใน ๒-๓ เดือนที่ผ่านมาถึงบัดนี้ มีละสังขารไปถึง ๔ รูป ได้แก่
๑.หลวงพ่ออิ่ม (พระพรหมวชิรเมธาจารย์) วัดโสมนัสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ มรณภาพไปเมื่อ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ สิริอายุรวม ๙๔ ปี...
๒.หลวงพ่อสังข์ สังกิจโจ เจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ละสังขารก่อนเข้าพรรษา ๑ วัน (๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕) สิริอายุรวม ๙๒ ปี
๓.หลวงพ่อบุญกู้ อนุวัฑฒโน ประธานสงฆ์วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ที่ละสังขารไปเมื่อ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๕ สิริอายุรวม ๙๓ ปี..
๔.หลวงพ่อผาสุข ฐานวุฑโฒ .. (ดร.ผาสุข กุลละวณิชย์) อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ จ.สงขลา.. มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี ที่มรณภาพไปด้วยอายุ ๘๘ ปี เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา..
รวมอายุทั้ง ๔ รูป (๙๔+๙๓+๙๒+๘๘) เกือบ ๔๐๐ ปี (๓๖๗ ปี) เรียกว่า.. ไม่น้อยเลยกับการดำรงชีวิตมีอายุขัยได้ถึงขนาดนี้ ที่สำคัญยิ่ง ท่านทั้ง ๔ ได้ลาจากโลกนี้ไปในฐานะ สมณเพศ อันควรแก่การอนุโมทนายิ่ง ในบั้นปลายชีวิตของแต่ละท่าน โดยเฉพาะ หลวงพ่อผาสุข ที่ได้ใช้ชีวิตบั้นปลายเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บวชเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา สังกัดวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ จ.ลำพูน เป็นลูกศิษย์ของอาตมา.. (พระ อ.อารยวังโส) โดยเข้าสู่เพศบรรพชิต เมื่ออายุ ๖๘ ปี.. เมื่อนับพรรษาการบวชถึงปัจจุบัน รวม ๒๐ พรรษา.. ในวัย ๘๘ ปี.. ที่นับเข้าสู่เป็นพระเถระได้อย่างสมบูรณ์
บนเส้นทางชีวิตของพระเถระทั้ง ๔ รูปนั้นน่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง อันควรนำมาเป็นแบบอย่างของทุกคน ซึ่งอาตมาเกี่ยวข้องใกล้ชิดทั้ง ๔ รูป.. โดยเฉพาะหลวงพ่ออิ่ม หลวงพ่อบุญกู้.. หลวงพ่อสังข์.. ที่นับเป็นครูบาอาจารย์ที่ควรแก่การถวายความเคารพอย่างยิ่งตามปฏิปทาของแต่ละท่าน...
ดังนั้น.. เมื่อเดินทางกลับมาจากนครตักศิลา.. ปากีสถาน ถึงสุวรรณภูมิ.. ประเทศไทย ในเวลาเช้าของวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๕ จึงได้เดินทางไปถวายการสักการะคารวคุณ หลวงพ่ออิ่ม หรือพระพรหมวชิรเมธาจารย์ ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร โดยได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างดีจากพระเถระที่มีหน้าที่ดูแลการจัดงานบำเพ็ญทักษิณานุปทานกิจ (บำเพ็ญกุศลศพ) ในหลวงพ่ออิ่ม.. ซึ่งมีกำหนดการไปจนถึงต้นปีหน้า (๒๕๖๖) โดยจะมีพระราชทานเพลิงสรีรศพในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๖.. โดยในวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๖ เป็นวันครบรอบอายุ ๙๕ ปีของหลวงพ่ออิ่ม.. ที่ได้อาราธนาอาตมาไปเป็นองค์แสดงธรรม.. นำอบรมจิตภาวนา.. อุทิศกุศลถวายแด่หลวงพ่ออิ่ม.. ซึ่งคณะศิษย์ศรัทธา.. ญาติมิตรในหลวงพ่ออิ่มจะมาร่วมปฏิบัติธรรมด้วยความพร้อมเพรียงกัน เพื่อจะได้บำเพ็ญกุศลอุทิศถวายครั้งใหญ่ ก่อนการพระราชทานเพลิงสรีรศพ ดังที่ได้มีการแจ้งให้คณะศรัทธาญาติโยม.. ผู้ปฏิบัติธรรมทุกคนได้รับทราบโดยทั่วกัน เพื่อจะได้มาร่วมกันปฏิบัติธรรม.. ฟังธรรม.. ในวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๖ เริ่มเวลา ๑๘.๐๐ น.
และนอกจากการไปปฏิบัติศาสนกิจอันควรในเช้าวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๕ ณ วัดโสมนัสราชวรวิหาร ตามที่กล่าวมาแล้ว.. ในวันดังกล่าวยังมีกำหนดการที่จะต้องเดินทางไปเป็นองค์แสดงธรรม ณ วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ในเวลา ๑๘.๓๐ น. (๑๖ ต.ค.๒๕๖๕) เนื่องในงานบำเพ็ญทักษิณานุปทานกิจของ หลวงพ่อบุญกู้ อนุวัฑฒโน หรือ พระราชมงคลวชิรานุวัฒน์ ตามอาราธนานิมนต์ของวัดอโศการาม.. จึงกล่าวได้ว่า.. เมื่อเท้าแตะแผ่นดินไทย.. สิ่งที่ควรกระทำ.. สิ่งที่ควรปฏิบัติได้รอคอย ให้ได้กระทำ.. ได้ปฏิบัติ ทันทีทันใด.. โดยไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากมาย.. เพราะเตรียมใจเป็นปกติอยู่แล้วกับการเจริญมรณานุสติ.. และอัปปมาทธรรม.. ดังที่ได้แสดงธรรมนำอบรมจิต.. เพื่อการเข้าถึง ตัวบุญกุศล ในพุทธศาสนาที่แท้จริงด้วย ปัญญาชอบ ในพระพุทธศาสนา
หลังจากวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๕.. จึงได้เดินทางกลับ จ.ลำพูน ทันที เพื่อไปร่วมอนุโมทนาการถวายผ้ากฐินที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ที่ได้มีพระศรัทธาถวายแด่คณะสงฆ์ที่อยู่จำพรรษา ณ วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ จ.ลำพูน ในปีพรรษาที่ ๒๕๖๕ ซึ่งได้มีกำหนดการถวายผ้ากฐินในวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๕.. โดยมี หม่อมหลวงสราลี กิติยากร เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญผ้ากฐินประทานไปถวาย...
ต่อมาในวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๕ .. จึงได้รับอาราธนานิมนต์จากวัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นองค์แสดงธรรม.. และนำสวดพระอภิธรรมในงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่หลวงพ่อสังข์ สังกิจโจ หรือพระครูภาวนาภิรัต ซึ่งถึงแก่มรณภาพ (ละสังขาร) ไปก่อนวันเข้าพรรษาหนึ่งวัน โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ปลัดจังหวัดลำพูน.. นายอำเภอเมืองลำพูน นำคณะศรัทธา.. เข้าร่วมฟังธรรม.. ปฏิบัติธรรม ในค่ำคืนดังกล่าว ณ วัดป่าอาจารย์ตื้อ ที่ยังร่มเย็นเงียบสงบ.. เหมาะแก่ความเป็นธรรมสถานพระป่า แม้ในปัจจุบันนี้
รายสุดท้าย คือ หลวงพ่อผาสุข ฐานวุฑโฒ ที่มรณภาพไปด้วยโรคร้าย (มะเร็ง) หลังจากกลับมาจากการจำพรรษาที่สหรัฐอเมริกามาหลายปี ซี่งมาพักรักษาตัวอยู่ในเมืองไทย โดยสุดท้ายเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ และ ได้ถึงแก่มรณภาพไปเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา มีการตั้งสรีรศพเพื่อทำพิธีบำเพ็ญบุญอุทิศส่วนกุศล ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพฯ โดยอาตมา.. ในฐานะครูบาอาจารย์ของท่าน ได้รับเป็นองค์แสดงธรรม.. อบรมจิตภาวนา.. และนำสวดพระอภิธรรมไปเมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา.. ทั้งนี้ ได้รับความเมตตาจาก เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุทธพจนวชิรมุนี วัดเครือวัลย์วรวิหาร กรุงเทพฯ มาเป็นประธานสงฆ์ในพิธี.. โดยธรรมที่นำแสดงในค่ำคืนดังกล่าวคือ “อริยสัจ ๔ หัวใจพระพุทธศาสนา” อันมีเนื้อหาที่บรรยายโดยพิสดาร เพื่อการอบรมจิตภาวนา ที่เจ้าประคุณ สมเด็จฯ ได้กล่าวอนุโมทนาในตอนท้ายก่อนจะกลับว่า.. “..เป็นการแสดงธรรมที่ดีมาก.. อนุโมทนา”.. จึงขอนำเรื่องราวอันควรแก่การระลึกถึงเป็นธรรมานุสติ ควรจารึกไว้ใน “ปักธงธรรม” ฉบับนี้.
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การแก้ปัญหาความขัดแย้ง.. ด้วยวิธีการไม่ขัดแย้ง.. อย่างไร!?
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... พระพุทธเจ้าของเราได้ประทานหลักธรรมเป็นไป.. เพื่อความรัก.. ความระลึกถึงกัน.. ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ชัยชนะ (ไม่เป็นโทษ) .. ในสงครามเพื่อสันติภาพ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... มีคำกล่าวว่า.. สันติภาพ.. ไม่ใช่ภาวะที่ได้มาโดยง่าย.. แต่ต้องอาศัยการเตรียมพร้อมอย่าง มีสติและการกระทำอันถูกตรงธรรมอย่างกล้าหาญ..
ไทยก้าวใหม่ โชว์ฟิต ลุยเลือกตั้ง เปิดตัวผู้สมัครส.ส.-โชว์นโยบายรัวๆ
“พรรคไทยก้าวไหม่”หนึ่งในพรรคการเมืองใหม่ที่เข้าสู่สนามการเลือกตั้งปี 2569 ซึ่งมี”ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์”เป็น หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ และมี “คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรมช.ศึกษาธิการเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคไทยก้าวใหม่”
ร้ายกว่าวิกฤตการณ์ธรรมชาติ ..ภัยมนุษย์ .. ขาดศีลธรรม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา...
เมื่อคน.. สังคม! .. ไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์.. ประเทศชาติหายนะ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา.. คำว่า “ศรัทธา” ในพระพุทธศาสนา มีความหมายกินลึกลงไปมากกว่าความเชื่อโดยทั่วไป ด้วยต้องมีความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของคุณสมบัติสิ่งนั้นๆ
สมดังเป็น .. “วีรกษัตรี มหาราชินี...” ของชาวไทย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

