เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระสัทธรรม .. อันพระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงไว้ดีแล้ว...
เมื่อ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ญาติมิตรชาวปากีสถานที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศไทย ได้จัดงาน Celebration of Melad E Mustafa.. ณ Anjuman Islam Auditiorium.. กรุงเทพฯ โดยรวมตัวกันจัดงานในนาม Oversea Pakistanis in Thailand…
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ได้มีการเชิญเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย และอาตมา เข้าร่วม.. เพื่อเป็น Most Revered Speaker to bring the message of Peace and love to Pakistanis Muslim community on the joyous day.. ในครั้งนี้
แต่ด้วยความไม่พร้อมทางร่างกาย.. ทำให้อาตมาไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานของญาติมิตรชาวปากีสถานในประเทศไทยได้.. จึงได้เขียนสาส์นแห่ง Peace and love.. ถึงญาติมิตรชาวปากีสถาน โดยมอบให้ ผศ.ดร.นิธินันท์ วิศเวศวร คณบดีวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วยฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้นำสาส์นไปอ่านให้ทุกคนได้รับฟังในที่ประชุม.. ซึ่งมีท่านเอกอัครราชทูตปากีสถานประจำประเทศไทยร่วมอยู่ด้วย... เพื่อส่งความรักและสันติภาพจากใจของพระภิกษุรูปหนึ่งในพุทธศาสนา ถึงเพื่อนมนุษยชาติ.. ชาวโลกในทุกศาสนา.. ด้วยความจริงใจ ดังมีข้อความที่กล่าวบางตอนดังนี้...
“Blessing to Oversea Pakistanis in Thailand (OPT)
อาตมามีความยินดียิ่งเมื่อได้รับจดหมายที่ลงนามโดย Mr.Rana Tanveer Ahmed Chairman ของ OPT เพื่อมาพูดคุยและทำความรู้จักกับชาวปากีสถานในประเทศไทยทุกคน ด้วยความรัก.. ความเคารพต่อกัน ในฐานะญาติมิตรที่มาจากความเป็น มนุษยชาติ เดียวกัน... ดังที่ได้ขอให้อาตมาได้ทำหน้าที่ “Most Revered speaker” เพื่อ to bring the message of Peace and love to Pakistanis Muslim community on the joyous day ในครั้งนี้
อาตมาได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานครั้งแรก เมื่อประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ.๒๕๖๒...
โดยได้มีโอกาสพบกับประธานาธิบดี.. และรัฐมนตรีในรัฐบาลของสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานหลายกระทรวง ซึ่งได้รับการต้อนรับดุจญาติมิตรที่คืนกลับไปเยี่ยมแผ่นดินมาตุภูมิอีกครั้ง
ที่สำคัญยิ่งคือ ภารกิจ.. ในการไปกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องการพัฒนาพื้นที่โบราณสถานพุทธศาสนาที่เป็นมรดกโลกในปากีสถาน ณ World Bank Campus In Pakistan… ตลอดจนได้เดินทางไปเยี่ยมชมพุทธศิลป์มรดกโลก.. และพื้นที่มรดกโลกของพุทธสถานพื้นที่เปชวาร์และตักศิลา.. อันทรงคุณค่ายิ่งต่อความรู้สึกทางจิตใจของชาวโลก โดยเฉพาะชาวพุทธจาก ๓๐ กว่าประเทศทั่วโลก...
การเดินทางไปในครั้งแรกนั้นจึงเต็มไปด้วยความประทับใจในบรรยากาศแห่งความเป็นญาติมิตรจากชาวอิสลามปากีสถานทุกระดับ.. จึงนำไปสู่ พันธสัญญาทางจิตใจ .. ที่จะช่วยเหลือในการให้คำแนะนำต่อการพัฒนาและรักษาไว้ซึ่งแผ่นดินมรดกโลกดังกล่าว อันเป็นสมบัติของชาวโลกอันทรงคุณค่ายิ่ง.. ที่ชาวปากีสถานได้ใส่ใจให้การดูแลเป็นอย่างดี ในฐานะแหล่งการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ.. ชาวโลกในแต่ละยุคสมัย...
จึงได้วางแผนจะเดินทางกลับไปอีกครั้งพร้อมรายชื่อผู้ติดตามไปมากกว่า ๑๐๐ คน เพื่อจะไปเยือนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงคุณค่าทางจิตวิญญาณ ที่ได้รับการยกฐานะเป็น มรดกโลก ในปากีสถาน.. โดยการสนับสนุนของกระทรวงการต่างประเทศทั้งของรัฐบาลไทยและรัฐบาลปากีสถาน... เพื่อการสื่อสารความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศทั้ง ๒ ประเทศ.. นับเป็นความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้ง ๒ ประเทศ.. ที่จะได้ร่วมมือร่วมใจด้วยความรักและจริงใจ เพื่อพัฒนาโครงการความร่วมมือต่างๆ จากทั้ง ๒ ประเทศให้เป็นไปด้วยดี.. ก่อเกิดประโยชน์แก่ประชาชนทั้ง ๒ ฝ่าย..
เป็นการลดช่องว่างทางความรู้สึก.. ที่มีต่อกัน.. โดยเฉพาะในภาพลักษณ์แต่ละประเทศที่ค่อนข้างจะละเอียด โดยเฉพาะการนับถือศาสนาที่ต่างกัน...
การลดช่องว่าง.. ด้านความรู้สึกดังกล่าวนั้น.. จะเกิดมีขึ้น เมื่อประชาชนทั้ง ๒ ฝ่ายคุ้นเคยกัน.. และไม่แปลกที่จะกลับมาสู่ความเป็นญาติมิตรเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน.. ในฐานะมนุษยชาติที่เดินทางมาจากฐานะเดียวกัน.. เพื่อมุ่งไปสู่จุดเดียวกัน.. คือ ความรัก ความสุข และความสงบ.. ที่ทุกคนปรารถนา..
การทำความเข้าใจต่อกันในด้านความแตกต่างทางภาษา ศาสนา สังคม การเมือง... ประเพณี วัฒนธรรม.. ของประชาชนในแต่ละประเทศนั้น.. จะเกิดมีได้ก็ด้วยการอาศัยการทูตทางธรรม.. ที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลไทย เรียกว่า “Dhamma Diplomacy” ซึ่งบัดนี้เกิดขึ้นแล้วบนความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานและราชอาณาจักรไทย ที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา บนพื้นฐานความเข้าใจ “หลักศาสนาเพื่อชีวิต” ที่ถูกต้องตรงกันว่า..
ตัวศาสนา แท้จริงคือ สันติภาพ
ตัวศาสนา แท้จริงคือ เสรีภาพ
ตัวศาสนา แท้จริงคือ ประโยชน์และความสงบสุขของมหาชน.. ชาวโลก..
ดังที่อาตมาได้สร้าง “ระฆังแห่งสันติภาพ” ขึ้นประดิษฐานบนแผ่นดินมรดกโลกทางพุทธสถานในปากีสถาน.. ทั้งที่เปชวาร์และตักศิลา เพื่อสื่อสาร เสียงแห่งสันติภาพ จากแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ในปากีสถานไปสู่ชาวโลก.. ทั่วโลก
เพื่อขอสันติภาพและความสุข.. พึงบังเกิดขึ้นในโลกนี้.. และพึงเกิดขึ้นในสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน.. เพื่อความสงบสุขในการดำรงชีวิตของชาวปากีสถานทุกหมู่เหล่า.. ที่ล้วนเป็นญาติมิตรของข้าฯ
“อาตมาคิดอย่างนั้น.. และได้ทำอย่างนั้นจริงๆ....”
ท่ามกลางสายตาของนักการทูตหลายประเทศในปากีสถานที่เดินทางมาร่วมงานการลั่นระฆังสันติภาพในครั้งนั้น... ด้วยจิตใจที่เข้าใจในสัจธรรม.. อันมีอยู่ในธรรมชาติ.. จึงเข้าใจในความบริสุทธิ์แห่งคำสั่งสอนในทุกศาสนาที่ชี้ตรงไปที่ความสงบสุข อันเป็นประโยชน์อันสูงสุดของมนุษยชาติ...
“คงจะไม่มีประโยชน์ใดที่ยิ่งไปกว่า ความสงบสุขในชีวิต..ของทุกคน”
อาตมาเชื่อมั่นในความเหมือนบนความแตกต่าง...
อาตมาเชื่อมั่นในความเป็นมนุษยชาติที่มาจากที่เดียวกัน... และกำลังมุ่งไปสู่จุดเดียวกัน.. อย่างไม่มีข้อขัดแย้ง ถ้าเข้าใจ สัจธรรมในธรรมชาติ... ที่แต่ละศาสนาอาจจะเรียกไปตามรูปศัพท์และความหมายแห่งศาสนาของตน...
อาตมาจึงเชื่อมั่นในความเป็นอิสลามของชาวมุสลิมทุกคนในปากีสถานและในโลกนี้ว่า.. มีหัวใจเดียวกันกับชาวพุทธ.. และมนุษยชาติทั่วโลก คือ สันติ.. และ ความสุข
จึงได้เห็นความสืบเนื่องในอายุศาสนาแต่ละศาสนามายาวนาน.. ด้วยความสืบเนื่องส่งต่อของมหาชน.. ในแต่ละภูมิภาคของโลก.. แม้ในความมีศาสนาต่างกัน แต่มี หัวใจสันติภาพ อันเดียวกัน
อาตมาจึงเข้าใจในเสียงระฆังบอกเวลา ทำละหมาดตามมัสยิดของท่านทั้งหลาย เสมือนเข้าใจในเสียงระฆังบอกเวลาการทำวัตรสวดมนต์ของพระสงฆ์และชาวพุทธตามวัดวาอารามต่างๆ...
เพราะข้าฯ เข้าใจในความหมายอันลึกซึ้งที่แฝงมาในเสียงระฆังว่า...
“นั่นคือสัญญาณแห่งสันติภาพในเสียงระฆังดังกล่าวนั้น แม้จะมาจากคนละศาสนา แต่การตีระฆังนั้นมีหัวใจอันเดียวกัน... คือ
“Peace and Happiness”
ศาสนา จึงไม่ใช่เครื่องขวางกั้น…
คำสั่งสอนของศาสดา จึงไม่ใช่เรื่องความแตกแยก...
ศาสนิกชน จึงไม่ใช่คนต่างเผ่าพันธุ์แปลกไปจากความเป็นมนุษย์...”
ดังนั้น.. ในความรู้สึกแท้จริงของอาตมา เมื่อกลับไปเยือนถิ่นมรดกโลกของพุทธศาสนาที่เดิมเรียกว่า แคว้นคันธาระ.. แคว้นกัมโพชะ แคว้นปัญจาบ.. แคว้นกุรุ.. ซึ่งปัจจุบันส่วนหนึ่งเป็นแผ่นดินสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน... จึงไม่ใช่ไปอย่างคนแปลกหน้า แต่อาตมาไปอย่างมีความรู้สึกว่า...
“..นี่คือการกลับไปเยี่ยมเยียนแผ่นดินมาตุภูมิ.. ไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องชาวอิสลามปากีสถาน.. และพร้อมจะช่วยเหลือเกื้อกูลกันในทุกกรณีตามความรู้.. ความสามารถ เพื่อการมุ่งไปสู่ความเจริญและความสงบสุข อันเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน..”
...ในท้ายที่สุดนี้ จึงขออัญเชิญอำนาจแห่งธรรมอันเป็นไปเพื่อสันติภาพ ได้ปกป้องคุ้มครองท่านทั้งหลายให้ปลอดจากภัยอันตรายทั้งปวง.. และประสบถึงความสุข.. ความสงบ สืบตลอดไป... และหวังว่าในโอกาสหน้าคงจะได้มาพบกับท่านทั้งหลาย ญาติมิตรชาวปากีสถานด้วยตนเอง.. ในสมาคมแห่งนี้ ที่ชื่อ.. Oversea Pakistanis in Thailand .. Blessing to All of you
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..
รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ
เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก
ประมาทไม่ได้เลย คือ จิตของเรา!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีพระภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า..
คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!
เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย
ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?
การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก
ขบวนการแพทย์ชนบท กับรางวัลแมกไซไซ ปี 2024 ทิศทางพัฒนาระบบสุขภาพไทย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. คณะผู้แทน”ขบวนการแพทย์ชนบท” ได้เดินทางไปรับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2024