เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้มีโอกาสล่องใต้เพื่อไปร่วมประกอบศาสนกิจกับ พระภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม.. ระหว่าง ๑-๓ มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ จ.ปัตตานี นับว่าเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อได้ร่วมงาน สวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย ครั้งที่ ๒ ณ วัดราษฎร์บูรณาราม หรือ วัดช้างให้ สถานที่ถวายเพลิงสรีระศพของหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดในอดีต...
ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสที่ พระภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม (ในกำกับของโครงการกำลังใจ ในพระดำริ) ได้เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจร่วมกับคณะสงฆ์ในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ ๑๖/๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๕...
เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๕ ได้กำหนดให้เป็นวันจัดงานดังกล่าว จึงได้ย้อนคืนกลับสู่แผ่นดินบารมีธรรมหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดของชาวไทยอีกครั้ง ซึ่งนับการจัดงานเป็นคำรบสอง หลังจากทิ้งห่างมา ๑๕ ปี.. ที่ได้จัดงานดังกล่าวครั้งแรกเมื่อ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๐ ที่วัดช้างให้ โดยการประสานงานของ พล.ต.ท.นิพนธ์ ศิริวงศ์ อดีต ผบช.ตชด. และพลโท วิโรจน์ บัวจรูญ อดีตแม่ทัพภาคที่ ๔ ในขณะนั้น ที่มีวิกฤตการณ์ก่อการร้ายกำลังรุนแรง...
จากข่าวที่แพร่สะพัดไปทั่ว ถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนไร้ศาสนา.. ไร้ศีลธรรม.. ไร้อารยธรรมของคนกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามนำเอาศาสนา.. มาเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหวทางสังคมการเมือง เพื่อหวังแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ตอนล่างออกไปจากความเป็น ราชอาณาจักรไทย
ความวุ่นวาย สับสนอลเวง หวาดหวั่นพรั่นพรึง.. เสียขวัญกำลังใจ จึงแพร่สะพัดไปทั่วหมู่คณะในพื้นที่.. ไม่เว้นว่าจะเป็นหมู่ชนในศาสนาใด..
เสียงปืน.. ที่ดังขึ้น เสียงระเบิดที่แผ่ก้องไปทั่ว.. ย่อมหมายถึง ความดับไป สิ้นไป.. ตายไป.. บาดเจ็บสาหัสของผู้คนในท้องถิ่น.. เจ้าหน้าที่ในพื้นที่... แม้กระทั่งผู้ก่อการร้ายนั้นๆ...
ความตายจากการประหัตประหารกัน.. นั้นเป็นเรื่องธรรมดา.. ที่โหดร้ายทารุณก็เมื่อเกิดปรากฏการณ์เลียนแบบฆ่าตัดศีรษะแบบไอซิส.. กองกำลังก่อการร้ายในอาหรับที่ถูกจัดตั้งขึ้นมา.. โดยประเทศมหาอำนาจที่หวังใช้เป็นเครื่องมือในการรุกราน ทำลายประเทศชาติที่เป็นเป้าหมาย...
ในขณะนั้น.. จึงเกิดการลอกเลียนแบบวิธีการของกลุ่มก่อการร้ายนานาชาติแพร่หลายขึ้นในภาคใต้ จึงได้เห็นภาพการฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณ ไม่เว้นเด็กหรือผู้ใหญ่.. พระภิกษุหรือสามเณร.. แม้ในยามกำลังเดินบิณฑบาตโปรดสัตว์...
กว่าฝ่ายกองกำลังของรัฐบาลจะตั้งหลักได้ ก็เล่นเอาชาวบ้านที่นับถือศาสนาพุทธ.. ต้องขายที่ขายทาง ขายสวนขายไร่ ขายบ้านราคาถูกๆ .. เพื่ออพยพหนีออกไปจากพื้นที่ที่เคยอยู่อาศัยอย่างน่าสงสาร
เมื่อชายไทยพุทธ.. วัดวาอาราม.. พระสงฆ์ กลายเป็นเป้าหมายหลักของการก่อการร้าย.. จึงได้เห็นการบุกเข้าไป เผา ฆ่า ทำลาย แม้กระทั่งในเขตวัดวาอาราม.. อย่าว่าแต่บนถนนขณะที่บิณฑบาตเลย...
แผนการขับไล่ชาวพุทธให้ทิ้งถิ่น.. แผนการไล่ฆ่าพระภิกษุให้ทิ้งวัด.. เพื่อยึดครอง ภายใต้ความเป็นคนกลุ่มเดียวที่ต้องเป็นศาสนาเดียวกับพวกก่อการร้ายจึงเกิดขึ้น เป็นยุทธศาสตร์ในการสร้างรัฐใหม่.. บนแผ่นดินด้ามขวานของราชอาณาจักรไทย
การกำหนดแผน ๗ ขั้น.. เพื่อความสำเร็จด้วยวิธีการต่างๆ จึงเกิดขึ้น.. เพื่อความสำเร็จในปีพุทธศักราช…. (ตามที่กลุ่มก่อการร้ายตั้งเป้าไว้)
ความถี่ของการก่อการร้ายในทุกรูปแบบจึงผุดบานเป็นดอกเห็ดทั่วชายแดนใต้ การฆ่าตัดคอเจ้าหน้าที่ ประชาชนชาวไทยพุทธ.. ที่บริสุทธิ์ มีปรากฏเกิดขึ้นหลายต่อหลายแห่ง.. ชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวนมากที่ต้องล้มตายนับถึงปัจจุบันหลายพันคน ที่สนองโมหจิตของสัตว์มนุษย์ด้วยกัน ที่ถ่อยเถื่อนไร้ศาสนา...
จำได้ว่า.. ในห้วงเวลาปี ๒๕๔๖-๔๗ .. เป็นความรุนแรงค่อนข้างสูงในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้.. ข้าราชการระดับสูง.. ประชาชนที่บริสุทธิ์ ต้องล้มหายตายจาก.. สูญเสียทรัพย์สินจากการถูกวางระเบิด.. เผาทำลายไปมากมาย
ไม่เว้นแม้กระทั่ง.. การวางระเบิดเข้าไปในเขตวัดช้างให้.. ตรงบันไดขึ้นพระเจดีย์ แม้ไม่ได้ออกฤทธิ์มากนัก...
เมื่อ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๐ .. จึงได้มีการจัดงานสวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย ขึ้นเป็นครั้งที่ ๑ ณ วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล.. โดยมี พลเอกจรัล กุลละวณิชย์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
ว่ากันว่า.. ข่าวกรองจากภายใน ไม่มีหน่วยงานความมั่นคงใดเห็นด้วยกับการจะจัดงานดังกล่าว...
แต่ด้วยความเชื่อมั่นในบารมีธรรมของหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ตามคำแนะนำของพระอาจารย์อารยวังโส วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ จ.ลำพูน จึงมีการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เพื่อจัดให้มีงานดังกล่าวขึ้นตามความประสงค์และข้อแนะนำที่กล้าหาญออกปากรับรองว่า.. จะไม่มีการสูญเสียใดๆ เกิดขึ้น ในห้วงเวลาจัดงานดังกล่าวอย่างแน่นอน !!
...ภายหลังจากการจัดงานดังกล่าวเสร็จสิ้น ข้อมูลของทุกหน่วยรายงานตรงกันว่า.. ในวันที่มีการจัดงานสวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย ครั้งที่ ๑ ณ วัดช้างให้ นั้น.. ไม่มีการยิง การวางระเบิดในที่ใดๆ เลยทั่วทั้ง ๕ จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเรื่องดังกล่าว พลเอกจรัล กุลละวณิชย์ ยังพูดให้ทุกคนฟังจนถึงวันนี้
การสวดมนต์ครั้งนั้นซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง ๑๑ กรมประชาสัมพันธ์.. จึงนับเป็นครั้งสำคัญยิ่ง ที่ส่งผลพลิกฟื้นความรู้สึกทางจิตวิญญาณของชาวพุทธใน ๕ จังหวัดภาคใต้ ที่กำลังหดหู่.. ว้าเหว่ โดดเดี่ยว.. และหวาดกลัว ภัยจากการก่อการร้ายที่รุนแรงมาก จนแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ยังลำบากต่อการดำรงชีวิตในผืนแผ่นดินดังกล่าว.. ที่ร้อนแรงด้วยไฟโมหจิตของสัตว์มนุษย์...
อย่าว่าแต่.. ชาวบ้าน ชาวเมือง คฤหัสถ์ผู้ครองเรือน เลย ที่ออกอาการดังกล่าว.. เพราะแม้แต่พระภิกษุผู้เป็นพระเถระ.. ยังเอ่ยปากพูดออกมาด้วยความรันทด.. สังเวชว่า.. มาสวดแล้วได้อะไร!?
เพราะญาติพี่น้องของพระภิกษุที่เป็นถึงระดับเจ้าอาวาสวัดใหญ่รูปนั้น ก็ยังถูกฆ่า.. เรือกสวนไร่นาก็ต้องทิ้งให้คนบางกลุ่มต่างศาสนาในถิ่นเข้าไปครอบครองทำกิน.. ด้วยอาศัยอิทธิพลจากการก่อการร้าย
จึงเป็นธรรมดา.. ที่การจัดงานสวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย ในครั้งที่ ๑ นั้น ไม่ค่อยราบเรียบ.. แต่ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี สมเจตนา.. เรียกว่า.. สัมฤทธิผลตามจุดมุ่งหมายก็ว่าได้..
ดังที่ได้ถวายพระพร เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องจากการจัดงานดังกล่าว เป็นทั้งหนังสือและบันทึกแผ่นซีดี ภาพ-เสียงการจัดงาน แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พ่อหลวงของชาวไทย ในขณะนั้น ที่ ได้ทรงมีพระดำรัสผ่านสำนักราชเลขาธิการ นำความเป็นลิขิตมาถึงว่า.. “ทรงอนุโมทนา !”
ต่อมา.. ความร้อนแรงจากวิกฤตการณ์ก่อการร้ายใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ค่อยๆ ลดลง ด้วยความสามารถของเจ้าหน้าที่รัฐและความพร้อมเพรียงของประชาชนชาวไทยทุกศาสนา.. ที่ร่วมมือกันประสานใจเป็นหนึ่งเดียว
จากวันนั้น.. ถึงวันนี้ ที่ ตรงกับ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๕.. เป็นระยะเวลารวม ๑๕ ปี.. ได้มีการจัดงานสวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย อีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ ๒ ณ วัดช้างให้ เพื่อความสงบร่มเย็นของ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล...
การจัดงานในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก พระภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม.. ได้ลงไปปฏิบัติศาสนกิจใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่กล่าวไปในตอนต้นแล้วนั้น.. เมื่อครบ ๑๕ วัน จึงได้กำหนดให้เดินทางมาประชุมพร้อมกันจากทั้ง ๕ จังหวัดที่วัดช้างให้ เพื่อสวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย เป็นครั้งที่ ๒
นอกจากจะมีการสวดพระปริตรฯ ดังกล่าวแล้ว ยังได้ต่อเนื่องด้วยการฟังธรรม ปฏิบัติธรรม.. เพื่อความพรั่งพร้อมในกำลังธรรมที่จะได้กระทำ สัตยาธิษฐาน อันเป็น ธรรมาวุธ ในพระพุทธศาสนา เพื่อการขจัดมารทั้งปวง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้กำลังของสงฆ์.. ในการขจัดทุกข์โรคภัย.. ให้แก่หมู่ชน สังคม ประเทศชาติ...
การจัดงานเมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๕.. ณ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี เป็นไปด้วยดี.. ด้วยได้รับความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจจากทุกฝ่าย.. และความสามัคคีของหมู่สงฆ์ คือ พระภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม ทุกรูป.. ที่ตั้งใจประกอบศาสนกิจในครั้งนี้.. เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕.. ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง..
(สาธุชนผู้สนใจในรายละเอียด ติดตามได้จาก YouTube ชื่อเรื่อง 02.06.65 สวดพระปริตร อธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย โดยพระอาจารย์อารยวังโส ณ วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม/YouTube: Arayawangso).
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..
รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ
เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก
ประมาทไม่ได้เลย คือ จิตของเรา!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีพระภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า..
คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!
เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย
ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?
การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก
ขบวนการแพทย์ชนบท กับรางวัลแมกไซไซ ปี 2024 ทิศทางพัฒนาระบบสุขภาพไทย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. คณะผู้แทน”ขบวนการแพทย์ชนบท” ได้เดินทางไปรับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2024