เป็นที่รู้กันว่า โลกวันนี้กำลังเคลื่อนไหวอย่างสับสนอลหม่าน! จากปัจจัยหลากมิติที่ถาโถมใส่อย่างไม่คาดคิดมาก่อน ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยียุคใหม่ที่เป็นนวัตกรรมชั้นสูง ซึ่งส่งผลรุนแรงต่อการสื่อสาร การพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม ระบบโลจิสติกส์ และวิถีชีวิตแต่ละวัน หรือการเผชิญกับโรคระบาดรุนแรงที่คุกคามทำลายล้างจนหลายประเทศย่อยยับไป ขณะที่อีกหลายประเทศกำลังปรับตัวเป็นโรคท้องถิ่น! จนถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ก่อตัวจากความซับซ้อนของมิติประวัติศาสตร์และความทะเยอทะยานของอเมริกาที่ใช้นาโตเป็นเครื่องมือ โดยอเมริกานั่งบงการ-จัดการขยายความขัดแย้ง! จนความรุนแรงแตกแยกลุกลามไปทั่วโลก เปลี่ยนภูมิรัฐศาสตร์โลกสู่ทิศทางใหม่อย่างที่เห็นกันอยู่ นี่คือความยากของการจัดการตัวเองของแต่ละบ้านเมืองวันนี้!!!
ความพยายามแบ่งฝ่าย-จัดขั้วที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างหนักของอเมริกาที่นาโตเป็นพันธมิตรหลัก ส่งผลรุนแรงต่อเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในคลื่นใหม่ของภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐกิจ อย่างไม่อาจปฏิเสธได้เลย!
สังคมโลกในสภาพนี้ ประเทศไทยคงต้องจัดวางตัวเอง-ปรับตัวรับภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ ในกระแสที่มีความพยายามแบ่งขั้ว-แบ่งข้างจาก 2 ฟากฝั่ง! โดยเฉพาะจากการรุกไล่ของอเมริกาที่มองว่าเราเป็นมิตรประเทศที่เขาบงการได้ตลอดมา!
แต่ในทุกวิกฤต-ย่อมมีโอกาสเสมอ การจัดวางตัวเองของไทยในภูมิรัฐศาสตร์ใหม่จึงเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่เราคงต้องปลดภาพจำเก่าๆ จากภาพการเป็นสมุนรับใช้อเมริกามาเนิ่นนานสู่ภาพของประเทศเล็กๆ ที่มีอิสระ-สง่างาม-เป็นตัวของตัวเอง ตั้งอยู่บนฐานการจัดการผลประโยชน์ตัวเอง-ไม่เสียสัมพันธ์กับฝ่ายใด จัดวางการสร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ที่รักษาสถานภาพความเป็นตัวของตัวเอง มีความสงบสุขกับมิตรประเทศ ทำการค้า-ทำมาหากินกับทุกฝ่าย มุ่งยกระดับความก้าวหน้าใหม่ทางเศรษฐกิจเปิดความร่วมมือทางการค้ากับทุกขั้ว หลีกเลี่ยงความขัดแย้งรุนแรงตามการบงการจัดแบ่งฝักฝ่าย จากขั้วอำนาจที่กำลังต่อสู้ช่วงชิงกัน ฯลฯ
นี่คือภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิเศรษฐกิจยุคใหม่ของไทยในกระแสสับสนของสังคมโลก ที่เราต้องใช้โอกาสนี้หันมาสร้างตัวตน-ยกระดับความก้าวหน้า-ส่งสร้างความเข้าใจถึงทุกฝ่าย ไม่ร่วมความรุนแรง-ขัดแย้ง โดยมีอาเซียนเป็นมิตรประเทศรอบบ้านที่ก่อร่างสร้างโอกาสร่วมกัน ยามที่โลกต้องการความสงบสุข-ความก้าวหน้าใหม่ มากกว่ากระหายหิวสงคราม-การช่วงชิงอำนาจแบบโลกใบเดิม!
ตำแหน่งแห่งที่ของไทยในภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ต้องยึดประโยชน์ตัวเอง ไม่ขัดแย้งกับเพื่อนบ้านอาเซียน มีสัมพันธภาพที่ดีกับอเมริกาที่เป็นพันธมิตรยุคก่อนหน้านี้มา แต่ก็คำนึงถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เสมอภาคเท่าเทียม ขณะที่เรามีเพื่อนบ้านมหาอำนาจที่อยู่ไม่ไกลนักอย่างจีน รัสเซีย ที่ต่างก็มีสัมพันธ์ที่ดีกันมายาวนานและเคยเกื้อหนุนประเทศไทย กับรัสเซียนั้นเราคบกันมาตั้งแต่ยุคตะวันตกล่าอาณานิคม ที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย จนทำให้ฝูงนักล่าอาณานิคมตะวันตกยุคนั้นระมัดระวังที่จะมีปัญหากับไทย ส่วนกับจีนเองก็เหมือนพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียง เคยช่วยจัดการปัญหาช่วงที่เวียดนามเตรียมจะบุกไทย ช่วงนั้นเรายังอ่อนแอก็ขอให้จีนช่วย จีนก็ช่วยกรีธาทัพถล่มเวียดนามจนเวียดนามต้องยกเลิกเปิดศึกกับไทยในที่สุด!
ภาพรวมเหล่านี้การเลือกข้าง ไม่เกิดผลดีกับประเทศแต่อย่างใดเลย นอกจากนั้นระบบโลจิสติกส์ คมนาคมของไทยก็มีเส้นทางเชื่อมต่อกันกับ 2 ประเทศนี้ดีทีเดียว นี่คือสิ่งที่ต้องมีการจัดการทางเศรษฐกิจใหม่กับมิตรประเทศอย่างจีน รัสเซีย และอินเดียให้มากขึ้น
ภารกิจหลักสำคัญของเราวันนี้ คือการจัดการตัวเองภายในบ้านเมืองในทุกมิติ ทั้งการยกระดับพัฒนาคน-พัฒนาบุคลากรยุคใหม่ รับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี-พัฒนาความก้าวหน้า-ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ-สังคม มุ่งยกระดับเกษตรกรรม-สนับสนุนการจัดการความก้าวหน้าใหม่ให้ภาคเกษตร ปรับสร้างการพัฒนายุคใหม่ในแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ฐาน BCG ใช้ตัวแบบที่มีการลงทุน-ร่วมทุนจากทุกฟากฝั่งของประชาคมโลก เช่น การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ฯลฯ
ความเคลื่อนไหวที่กล่าวมานี้ต่างหาก คือความก้าวหน้ายุคใหม่ของไทย คือการวางตัวขับเคลื่อนที่ทำให้สังคมโลกเชื่อมั่นประเทศไทย ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้ง-ลดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายลงได้ บนฐานความร่วมมือกับอาเซียน ซึ่งจะทำให้ประชาคมโลกเกรงใจ-ไว้ใจ มองไทยและอาเซียนอย่างเป็นมิตรทั้งในวันนี้และระยะยาว
วันนี้รัฐบาลได้ประกาศขยายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษกระจายสู่ทุกภูมิภาค ภาคเหนือ พื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี หนองคาย มุ่งสร้างเขตเศรษฐกิจชีวภาพแห่งใหม่ของประเทศ ภาคกลางและตะวันตก ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี เพื่อยกเป็นเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเกษตรกรรมและท่องเที่ยว ส่วนภาคใต้ ที่ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ มุ่งให้เป็นศูนย์กลางการค้า โลจิสติกส์ อุตสาหกรรมชีวภาพ แปรรูปการเกษตร และพื้นที่ท่องเที่ยวระดับนานาชาติ เป็นการต่อยอดขับเคลื่อนการพัฒนาเขตภาคตะวันออก เพื่อช่วยเสริมสร้างขับเร่งความก้าวหน้าใหม่ให้ประเทศ นี่คือภารกิจที่ต้องร่วมมือกันส่งเสริมให้ความสำคัญปรับตัวตนภายในของบ้านเมือง ช่วงที่โลกเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่านวันนี้!!!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความโลภ ที่น่ากลัว...... ความเลว ที่น่ารังเกียจ..!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... นับเป็นห้วงเวลาแห่งการบำเพ็ญเพียร ประพฤติธรรม ที่ให้คุณค่ายิ่งต่อการพัฒนาจิต.. ในวิถีสติปัฏฐานธรรม รวม ๑๗ วัน ที่ให้ประโยชน์ทั้งต่อตน.. ต่อภิกษุ อุบาสก-อุบาสิกา.. และต่อการสืบอายุพระพุทธศาสนา บนภูเขาในเขตเสนาสนะป่า พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี ที่ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน เกาะภูเก็ต
อุตสาหกรรมผลิต-ขายอาวุธ ในประเทศไทยโตพุ่ง 150%
เรื่อง งบซื้ออาวุธ ของ กองทัพ เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจมาตลอด เพราะงบซื้ออาวุธคือเงินภาษีประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาถูกตั้งคำถามถึงเหตุผล-ความจำเป็น ตลอดจนเสียงวิจารณ์เรื่องความโปร่งใสในการจัดซื้ออาวุธ
บอกมาให้ชัด ต้องการใช้พื้นที่ การท่าเรือฯ-คลองเตย ทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
พูดตรงๆ ถ้าอยากได้ท่าเรือคลองเตย แล้วเขียนใส่ไว้เลยว่าตรงพื้นที่ของการท่าเรือฯ มหาศาลตรงนั้น หากจะทำให้เป็นสถานบันเทิงครบวงจร ให้มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ จะให้มีพื้นที่กาสิโนเท่าใด..ทำแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมว่าต้องเอาให้ชัด..ในอนาคตต่อไปหากจะให้ชี้ได้หลายที่แบบในกฎหมายเขียน ผมว่ามันไม่ใช่ Marina Bay Sands แบบสิงคโปร์ แต่จะกลายเป็นโมเดลแบบที่ลาว กัมพูชา ในอนาคต ซึ่งมันจะไม่ดี..แต่หากเอาที่เดียวแบบเจาะๆ มันจะชัดกว่าหรือไม่ ก็พูดดังๆ เลยหากจะเอาพื้นที่ตรงการท่าเรือฯ คลองเตย
กรณีบ่อนกาสิโน.. สู่กระแสอารยธรรม .. ที่น่าชื่นชม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ... ในห้วงเวลาที่สังคมไทยได้รับผลจากแผ่นดินไหว ตึกถล่ม.. เกิดการสูญเสียชีวิตของคนจำนวนหนึ่ง เมื่อ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ผ่านมา นับเป็นห้วงเวลาแห่งความกังวล ห่วงใยในภัยอันตรายจากธรรมชาติ ที่เชื่อมโยงกับภัยร้ายอันเกิดจากการกระทำของคนเรา..
ศ. ดร.ไชยันต์ ไชยพร กับการสมัครชิง ตุลาการศาล รธน. มั่นใจ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม
การรับสมัครเพื่อสรรหาและคัดเลือก "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ใหม่สองคน เพื่อมาแทน ศ. ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
สว.จี้รัฐบาลถอน ร่างพรบ.สถานบันเทิงฯ ออกไปจากสภาฯ ไม่ใช่ทิ้งเชื้อคาไว้
สภาผู้แทนราษฎรได้ปิดสมัยประชุมไปแล้วเมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีการพิจารณา"ร่างพรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..ฯ"เพราะรัฐบาลตัดสินใจเลื่อนการผลักดันให้สภาฯพิจารณาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.