การดิ้นรน-เอาตัวรอดของการพัฒนา-ยกระดับคุณภาพคนในบ้านเมืองยุคเปลี่ยนผ่าน!!!

หากได้พิจารณาสถานการณ์โลกวันนี้ จะพบหลากหลายปรากฏการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ สังคม การเติบโตก้าวหน้าของประเทศ ไปจนถึงการดำเนินชีวิตของผู้คนหลายมิติทีเดียว เรียกว่าเป็นสถานการณ์ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนั้น-ส่งผลอย่างทั่วถึงแบบชีวิตในชุมชนโลก หรือ one world ไปแล้ว!

ปมปัญหาที่ผู้คน-สังคมเผชิญอยู่วันนี้ส่งผลทั้งตรง-ทางอ้อม ต่อการดำเนินชีวิตปัจจุบันมาก!

ประการแรก การเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี-ความก้าวหน้ายุคใหม่ ที่วันนี้สังคมไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัวพัฒนา-สร้างความก้าวหน้าให้ทันโลก ขับเคลื่อนสร้างสิ่งแวดล้อมใหม่เพื่อเข้าสู่สภาพการเรียนรู้ใหม่ให้กับผู้คน-สังคมในทุกด้าน ทั้งสังคม เศรษฐกิจ ความก้าวหน้าที่มีอนาคต ในการที่จะก้าวฝ่าสภาพความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ให้เคลื่อนสู่ความก้าวหน้าใหม่ ที่มีศักยภาพในการปรับตัวและสังคมโดยรวม สู่อนาคตที่เท่าทันโลกที่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วตลอดเวลาให้ได้!

ประการที่ 2 การเผชิญวิกฤตการณ์โรคระบาด ที่ส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ การดำเนินชีวิต-การงานจนถึงการศึกษา ที่การบริหารบ้านเมืองจำเป็นต้องจัดปรับการเรียนรู้ใหม่ ที่จะช่วยสร้างความอยู่รอด-เข้มแข็งให้กับผู้คนและสถาบันทางเศรษฐกิจ-สังคม ซึ่งวันนี้กำลังเผชิญชะตากรรมที่ไม่ปรารถนาอย่างทั่วถ้วน ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ การขาดงาน-ตกงาน-ไม่มีงานทำ สังคม การต้องปรับตัว-ปรับวิถีชีวิตใหม่-การปกป้องให้พ้นจากภัยโรคระบาดที่คุกคาม ตลอดจนถึงการดิ้นรนในชีวิตแต่ละวัน-ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการเฝ้าระวังตัว ซึ่งล้วนเป็นสภาพที่ทุกผู้คนกำลังเผชิญปัญหาหนักหน่วงทุกวันนี้-ที่เป็นเหมือนกันทั้งโลก!

ประการที่สาม สภาพการจัดปรับตัวของภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ จากความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจผู้เคยครองโลกมาก่อนอย่างอเมริกากับกลุ่มนาโตที่เผชิญกับฟากฝั่งรัสเซีย ประเทศที่มีพัฒนาการทางการทหารมาต่อเนื่องหลังสิ้นยุคสงครามเย็น-เป็นพันธมิตรที่ดีกับจีน-มหาอำนาจใหม่ทางเศรษฐกิจและอินเดียที่มีความเก่งด้านเทคโนโลยียุคใหม่กับการแพทย์ ฯลฯ      ความขัดแย้ง-ยั่วยุของฝั่งอเมริกา-นาโตได้ทำให้เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนขึ้น! ความขัดแย้ง 3 ความพยายามขยายอิทธิพลของมหาอำนาจเก่าได้แบ่งฝักฝ่ายประชาคมโลกออกเป็น 2 ฟากฝั่ง! มิตร-กับ-ศัตรู ซึ่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการจัดปรับดุลยภาพทางภูมิรัฐศาสตร์-ภูมิเศรษฐกิจขึ้นใหม่อย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลกระทบต่อความพอเพียงของสินค้าในการดำรงชีวิต ราคาสินค้า และห่วงโซ่อุปทานในการผลิตและบริการ ที่มีผลต่อชีวิตเศรษฐกิจ สังคม และการปรับตัวครั้งใหญ่ในกระแสภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ ที่ทำให้สังคมไทยต้องก้าวเดินให้เป็นตัวของตัวเองอย่างระมัดระวัง!

ท่ามกลางความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงจากโลกภายนอก ในสังคมไทยเองก็มีเหตุการณ์กระหน่ำซ้ำสร้างปัญหาขึ้นตลอดเวลา ล้วนดูจะไม่เป็นคุณ-ไม่ช่วยให้ผู้คน-สังคมปรับตัวเปลี่ยนแปลงเชิงบวกได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกรณีความขัดแย้งภายในสังคมไทย ที่ก่อรูปขยายผลกลายเป็นความเคลื่อนไหว-ขัดแย้งเชิงการเมือง-ความเคลื่อนไหวทางสังคมที่มีมิติความคิดเรื่องรุ่นคน แฝงฝังอยู่ในความขัดแย้งที่เกิดขึ้น! ทุกความเคลื่อนไหวล้วนก่อผลกระทบด้านลบต่อผู้คน-สังคมมากทีเดียว

ด้านการบริหารประเทศและแนวคิด-มุมมองทางการเมือง เป็นเรื่องที่อยู่ในช่วงเวลาของการช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง ที่มีปมความขัดแย้งบ่มเพาะ-ซ้อนทับอยู่ในความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลากกลุ่ม ซึ่งล้วนมองไม่เห็นมิติที่เป็นพันธสัญญา-ความมุ่งมั่นทางการเมืองที่มีเป้าหมายในการที่จะสร้างความก้าวหน้าเปลี่ยนแปลง-ปรับตัวทันโลก ในทุกความเคลื่อนไหวที่มีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการช่วงชิงขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ไม่ส่งผลดีต่อบ้านเมืองเลย!!!

ด้านปัญหาสังคมรายวันที่ปรากฏขึ้นสะท้อนให้เห็นความอ่อนแอ อ่อนด้อย ป่วยไข้ของผู้คน-สังคมอย่างน่าวิตก! ไม่ว่ากรณีความเชื่อของผู้คน-สาวกของลัทธิพระบิดา ที่มีเหตุเกิดที่เขตจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งทำให้คนค่อนประเทศช็อก-ฉงนว่า ยังมีผู้คน-ความเชื่อ-และลัทธิเช่นนี้อยู่ในโลกนี้อีกหรือ แม้กาลเวลาของโลกวันนี้เป็นโลกแห่งเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 แล้วก็ตาม!

หรือกับกรณีความตกต่ำ-ขัดแย้ง-ล้มเหลวในข่าวคาวที่ปรากฏอยู่เป็นประจำวัน จากสารพัดสื่อ-มากปรากฏการณ์-ที่สื่อสารความขัดแย้งของกลุ่มความคิดต่างๆ ในหลายข่าวดังต่างๆ ที่ปรากฏขึ้น! หรือจากการปฏิบัติตัวของสงฆ์บางรูป-จากบางวัด ที่สะท้อนให้เห็นถึงความตกต่ำ อ่อนแอ ป่วยไข้ ขาดการตรวจสอบ มีการประพฤติปฏิบัติตัวที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งการครองตนของสงฆ์ ฯลฯ ส่งผลกระทบด้านลบต่อผู้คน-สังคมมากหลายกรณี ฯลฯ

ไม่นับเรื่องการก่ออาชญากรรมต่างๆ ในสังคมทั้งแบบดั้งเดิม-จนถึงอาชญากรรมยุคใหม่ไฮเทค ที่ใช้โซเชียลมีเดียต้มตุ๋นกันอย่างกว้างขวาง ปัจจัยภายในทางสังคมที่เกิดขึ้นทั้งหลายทั้งปวงนี้ ล้วนส่งผลลบต่อการพัฒนาความคิด-ความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ!

การปรับพื้นฐานการพัฒนาคน-พัฒนาการศึกษาท่ามกลางความแปรปรวน-ป่วยไข้ของสังคมวันนี้ ไม่อาจพึ่งพาระบบโรงเรียนโดดๆ อีกต่อไป ต้องมีการบริหารจัดการที่สร้างการพัฒนาหลากมิติ-ทุกด้านตั้งแต่ในครัวเรือน ชุมชน สังคม จนถึงสถาบันการศึกษา ฯลฯ โดยการบริหารจัดการศึกษาใหม่ ต้องไม่อิงอยู่แค่อำนาจ-คำสั่งตามระบบราชการ แต่ต้องเป็นการจัดการที่สร้างการมีส่วนร่วม-มีความเสมอภาค-มีนวัตกรรมสร้างการเรียนรู้เท่าทันโลก ช่วยเยียวยาความป่วยไข้ให้ผู้คน-สังคมคู่ไปด้วยกัน

หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล-เข้าใจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีศักยภาพพอที่จะกระตุ้นการมีส่วนร่วม สร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนรู้และเยียวยาสังคม-ผู้คนได้ในขณะเดียวกัน   มิติการบริหารจัดการแบบเก่าๆ ที่ยึดกฎระบียบ-อำนาจ เป็นความล้าหลังที่ไม่ช่วยสร้างอนาคตได้เลย!!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม .. ณ จังหวัดนครปฐม!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๗ โครงการร้อยใจธรรม สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ที่ดำเนินการโดย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยและวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ จ.ลำพูน

ลึกสุดใจ. ”พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ผบ.ตร.” ยึดกฎกติกา ไม่กลัวทุกอิทธิพล

ถึงตอนนี้ "พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ บิ๊กต่าย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" ได้ทำหน้าที่ ผบ.ตร.อย่างเป็นทางการมาร่วมสามเดือนเศษ ส่วนการทำงานต่อจากนี้ ในฐานะ"บิ๊กสีกากี เบอร์หนึ่ง-รั้วปทุมวัน"จะเป็นอย่างไร?

2 สว. “ชาญวิศว์-พิสิษฐ์” ปักธงพิทักษ์รธน. ปกป้องสถาบันฯ พวกเราเป็นอิสระ ไม่มีรับใบสั่ง

กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูยเพื่อมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ต้องการทำให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

ก้าวย่างออกจากปัญหา .. ของประเทศ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... คำกล่าวที่ว่า.. “เมื่อสังคมมนุษยชาติขาดศีลธรรม.. ย่อมพบภัยพิบัติ.. เสื่อมสูญสิ้นสลาย..” นับว่าเป็นสัจธรรมที่ควรน้อมนำมาพิจารณา.. เพื่อการตั้งอยู่ ดำรงอยู่ อย่างไม่ประมาท...

เหลียวหลังแลหน้า การเมืองไทย จาก 2567 สู่ 2568 ส่องจุดจบ ระบอบทักษิณภาค 2

รายการ"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด"สัมภาษณ์ นักวิชาการ-นักการเมือง สองคน เพื่อมา"เหลียวหลังการเมืองไทยปี 2567 และแลไปข้างหน้า

วิปริตธรรม .. ในสังคม!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. เลียบบ้านแลเมือง มองดูเข้าไปในหมู่ชนของบ้านเรา.. ในยามที่นักการเมืองเป็นใหญ่ มีอำนาจวาสนาบริหารราชการแผ่นดิน จึงได้เห็นความไหลหลงวกวนของหมู่ชน ที่สาละวนอยู่กับการแสวงหา เพื่อให้ได้มาใน ลาภ สักการะ ยศ สรรเสริญ สุข.. ไม่เว้นแม้ในแวดวงนักบวชที่มุ่งแสวงหามากกว่าละวาง