![](https://storage-wp.thaipost.net/2021/09/56927_0-1024x768.jpg)
รัฐบาลได้ประกาศให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือนใน 8 ประเด็น ได้แก่ การแก้ไขหนี้กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) การกำหนดให้การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้เป็นวาระของประเทศ การแก้ไขปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์รถจักรยานยนต์ การแก้ไขหนี้ข้าราชการโดยเฉพาะครูและตำรวจ การแก้ไขปัญหาบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล การแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อยและ SME’s การปรับปรุงขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมเพื่อเอื้อให้เกิดการแก้ไขปัญหาหนี้สิน
บทความนี้เป็นการนำเสนอความเห็น เพื่อเสริมการแก้ไขหนี้ครูโดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นตัวขับเคลื่อน การขยายผลไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการ มหาวิทยาลัย ปัญหาด้านข้อมูลหนี้ของประชาชน ปัญหาการรวมหนี้ และการใช้หมอหนี้ช่วยให้คำแนะนำการแก้ไขหนี้
จากการตระหนักหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็น 14.58 ล้านล้านบาทในปี 2564 อัตราส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90.1 ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนการก่อหนี้ที่สูง เมื่อเทียบกับรายได้ ประกอบกับเมื่อโรคโควิด 19 ได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรง ประเทศไทยขาดรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ การเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบ ลูกหนี้ประสบปัญหา รายได้ลดลง ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ จำนวน 4.4 ล้านบัญชี มูลหนี้ 1.66 ล้านบาท ในปี 2564 ต่อเมื่อเกิดวิกฤตสงครามรัสเซียบุกยูเครน ปลายเดือน กุมภาพันธ์ 2565 เชื่อว่าจะมีหนี้จำนวนหนึ่งกลับมาเป็นปัญหาและต้องได้รับการแก้ไข
ลูกหนี้ครัวเรือนมีจำนวนมาก กระบวนการติดตามหนี้ กระชับ รวดเร็ว ถึงแม้จะมีการให้โอกาสในการผ่อนชำระ การแก้ไขหนี้อยู่บ้าง เราก็คงยังเห็นการฟ้องดำเนินคดี ยึดทรัพย์ผู้ค้ำประกันเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงลูกหนี้ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ( กยศ. )
กระทรวงยุติธรรม ได้จัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ไปแล้ว 3 ครั้ง ที่ กทม, โคราช สงขลา และครั้งล่าสุดที่นครศรีธรรมราชเมื่อ1เมษายน 2565 ทำให้หนี้ที่อยู่ในกระบวนการศาล ทั้งก่อนฟ้อง ระหว่างฟ้อง บังคับคดี รวมทั้งสิ้น กว่า 6000 รายจำนวนกว่า 1100 ล้านบาท ได้รับการแก้ไขนับเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ถูกเจ้าหนี้ฟ้องดำเนินคดี ได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง
การแก้ไขปัญหาหนี้ครู เป้าหมายระยะแรก จำนวน 200,000 ราย วิธีการใช้ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จำนวน 20 แห่งเป็นสหกรณ์นำร่อง กำหนดมาตรการช่วยเหลือหลายวิธีตัวอย่างเช่น ยุบยอดหนี้โดยใช้ทรัพย์สิน / เงินได้ในอนาคตมาตัดหนี้ รวมหนี้จากแหล่งเจ้าหนี้อื่นมาไว้ที่สหกรณ์ ลดภาระจ่ายดอกเบี้ยที่แพงมาดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า การลดดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 5 % ต่อปี เป็นต้น
หลายปีก่อนข้าราชการครูปรากฏเป็นข่าวมีหนี้สินจำนวนมาก จากหลายแหล่งเงินทุนเช่น หนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ หนี้บัตรเครดิต หนี้เช่าซื้อรถยนต์ ในขณะที่รายได้แต่ละเดือนหลังการหักหนี้แล้วเหลือไม่เพียงพอต่อการยังชีพ มาตรการรวมหนี้จากแหล่งเจ้าหนี้อื่นซึ่งอัตราดอกเบี้ยมักจะแพงที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 มาไว้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์จะเป็นการไขหนี้แบบเบ็ดเสร็จ
นอกจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแล้วยังมีสหกรณ์ออมทรัพย์อื่นๆ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ขนาดใหญ่ของราชการ มหาวิทยาลัย เป็นต้นซึ่งมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการดี สามารถช่วยแก้ไขปัญหาสมาชิกที่มีภาระหนี้สินจำนวนมาก ให้บรรเทาเบาบางลง ด้วยการขยายผลการใช้มาตรการช่วยเหลือข้าราชการครู
เงื่อนไขสำคัญที่ลดความเสี่ยงการบริหารหนี้ของสหกรณ์คือสิทธ์การรับชำระหนี้จากเงินเดือนสมาชิก เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินบำนาญ หุ้นสหกรณ์ ซึ่งปกติสามารถนำมาเป็นหลักประกันรวมกับทรัพย์สินประเภทอื่น เช่น บ้านที่ดิน การจัดการงวดผ่อนชำระให้สอดคล้องกับเงินเดือนรายได้ สามารถทำได้ โดยขยายเวลางวดผ่อนชำระให้ยาวขึ้น
รวมทั้งจัดงวดผ่อนได้หลายวิธี เช่น ผ่อนชำระเป็นรายเดือนๆ ละเท่าๆกัน การจัดงวดผ่อนชำระแบบขั้นบันได หรือ ชำระน้อยในระยะแรกและค่อย ๆ เพิ่มจำนวนในงวดถัดๆ ไป การจัดงวดผ่อนชำระแบบ bullet ผ่อนชำระน้อยมาก และชำระหนี้ที่เหลือทั้งจำนวนในงวดสุดท้าย
นอกจากนั้นสหกรณ์ สามารถทบทวนแผนการผ่อนชำระได้ทุก ๆ 3 หรือ 5 ปี สามารถบริหารต้นทุนได้โดยการลดดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกินเพดาน รวมถึงสามารถเพิ่มสภาพคล่องและสร้างความแข็งแกร่งของเงินส่วนทุนโดยการจัดสรรกำไรในแต่ละปีเป็นกำไรสะสมมากชึ้น เช่น ร้อยละ 30 -50 ของกำไรสุทธิ
นอกจากหนี้ช้าราชการแล้วยังหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหาในกลุ่มประชาชนทั่วไป ทั้งที่มีเงินเดือนประจำ ผู้ให้บริการในธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ขายของ online อาชีพอิสระอื่น SME’s หรือผู้ตกงานไม่มีรายได้ ที่รอรับการช่วยเหลือซึ่งส่วนใหญ่น่าจะมาจากจำนวน 4.4 ล้านบัญชี วงเงิน 1.66 ล้านบาทที่ได้รับการช่วยเหลือโดย ธปท.เมื่อปีที่แล้ว
หนี้ครัวเรือนปกติจะเป็นการเร่งคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เช่น กู้ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ เพื่อการศึกษา เป็นต้น หากมีการใช้วงเงินกุ้ที่เหมาะสมกับรายได้มีภาระจ่ายหนี้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 70 ของรายได้ในแต่ละเดือนและต้องมีเหลือเพื่อการดำรงชีพ ปัญหาหนี้ก็คงไม่เกิด เราจะหยิบยกปัญหาสำคัญขึ้นมา 2 ประเด็น
ปํญหาข้อมูลหนี้เป็นปัญหาใหญ่อย่างุหนึ่ง ผู้ให้กู้ไม่ทราบภาระหนี้ที่ผู้กู้ต้องจ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือน การตรวจสอบข้อมูลยังคงเป็นข้อจำกัดที่ได้จากบริษัทเครดิตบูโร ซึ่งมีแหล่งเงินให้กู้หลายแห่งยังไม่ได้เข้าเป็นสมาชิก เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ บริษัทเช่าซื้อ เป็นต้น รวมถึงหนี้นอกระบบ ปัจจุบันน่าจะเป็นแหล่งเงินที่พึ่งของผู้มีรายได้น้อย ตัวเลขรวม ๆ น่าจะเป็น แสนล้านบาท
ปัญหาการรวมหนี้จากลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย หลายประเภทหนี้ เช่น หนี้บัตรเครดิต 4 ใบ หนี้ส่วนบุคคล 2แห่ง หนี้เช่าซื้อ 3 แห่ง การจะรวมหนี้ไปอยู่ที่เจ้าหนี้รายใหญ่หรือรายใด ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายเจ้าหนี้ พร้อมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหรือไม่ มีอะไรเป็นการชดเชยความเสี่ยง และทำเพื่ออะไรไม่เหมือนกับสหกรณ์ออมทรัพย์หากการแก้ไขปัญหาสมาชิกเป็นหนึ่งในนโยบายที่ต้องทำ ด้วยหลักการดูแลคุณภาพชีวิตของสมาชิก ฤา จะให้ธนาคารประชาชนของรัฐเข้ามาทำหน้าที่นี้
การแก้หนี้ครัวเรือนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบต่อคนจำนวนมาก ปัญหาการก่อหนี้ที่สูงมีมาจากหลากหลายสาเหตุ ควรต้องทำความเข้าใจ เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิผล
สุดท้าย เมื่อคนป่วยไข้ก็ต้องหาหมอเพื่อการรักษาเยียวยา เช่นเดียวกับคนผิดนัดชำระหนี้ครัวเรือนก็สมควรได้รับคำปรึกษาเช่นที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย จัดหมอหนี้ ให้คำปรึกษาแก่ลูกหนี้ อย่างน้อยลูกหนี้ก็เข้าใจได้ว่าตนเองไม่ได้ต่อสู้ตามลำพัง วันนี้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสะสมในประเทศกว่า 1.5 ล้านรายได้รับการรักษาจากหมอแล้วหายเป็นส่วนใหญ่ การฉีดวัคซีนป้องกัน รัฐบาลต้องใช้ทรัพยากรสูงและหลากหลายในการต่อสู้ปัญหาโควิด ปัญหาหนี้ครัวเรือน รัฐบาลคงต้องจัดสรรทรัพยากรสูงและหลากหลายเพื่อให้หนี้เข้าสู่ภาวะปกติและเป็นหนี้ที่มีคุณภาพอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
วงศกร พิธุพันธ์
กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล
คอลัมน์ เวทีพิจารณ์นโยบายสาธารณะ
![](https://storage-wp.thaipost.net/2021/10/มูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล.jpg)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดี กยศ.คำนวณยอดหนี้ใหม่ ส่งผลให้ลูกหนี้ 2.8 ล้านรายชำระเงินลดลง
กยศ. เตรียมเปิดลงทะเบียน คืนเงินผู้กู้ยืม 1.7 แสนราย ที่ชำระเงินเกิน หลังการคำนวณยอดหนี้ใหม่ 1 ต.ค.นี้
ก้าวไกลซัดรัฐบาลไม่จริงใจแก้ปัญหาเรื่องการศึกษาไม่ให้งบ กยศ.แม้แต่บาทเดียว
สส.ปารมี เผยตัวเลขเด็กไทยหลุดออกจากระบบการศึกษา 1.02 ล้านคน ส่อหลุดอีก 2.8 ล้านคน อัด รัฐบาลไม่จริงใจแก้ปัญหา หลัง กยศ.ของบ 5,000 ล้านบาท แต่ไม่ให้สักบาทเดียว หวั่นทำเด็กกู้ยืมไม่มีเงินเรียนต่อ
ย้อนเจ็บ! คนวิพากษ์ 'ธปท.' ด้วยตรรกะตื้นเขิน ต้องโดนวิจารณ์ได้
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แบงก์ชาติ วิจารณ์ได้
รัฐบาลกวักมือเรียกผู้กู้ กยศ.ที่ถูกดำเนินคดีเร่งปรับโครงสร้างหนี้ด่วน!
รัฐบาลเชิญชวน ผู้กู้ยืม กยศ. ถูกดำเนินคดีในปี 2557 ที่ยังมีภาระหนี้ค้าง เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน