เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในวิถีสังคมใหม่ ยุคการสื่อสารที่รวดเร็ว .. การเสพข่าวสารทุกเวลา เป็นพฤติกรรมของหมู่ชนในยุคสมัยที่อาศัยไอทีเป็นปัจจัยที่ ๕ สำคัญในการดำรงชีวิต
การเสพข่าวสาร .. จึงเป็นพฤติกรรมปกติของหมู่ชนในกระแสสังคมปัจจุบัน.. พฤติกรรมของบุคคลและสังคมจึงเปลี่ยนแปลงไป ด้วยอิทธิพลการสื่อสารการรับรู้ที่ไร้พรมแดน...
การไม่พัฒนาจิตวิญญาณให้พร้อมที่จะรับรู้ เพื่อการเรียนรู้ จึงนำไปสู่ปัญหาใหญ่ของสังคมในยุคนี้!
การเสพข่าวสารอย่างไร้คุณภาพ จึงเป็นโทษมากกว่าประโยชน์ ที่สะท้อนกลับมาสู่สภาวะอ่อนแอทางจิตใจของหมู่ชน.. ที่ยังประมาทในการประกอบตนอยู่กับอารมณ์ต่างๆ อันเป็นที่ตั้งของกิเลส ที่ชักนำจิตไปให้เกิดความรักบ้าง ความโกรธบ้าง ความหลงบ้าง ยากยิ่งที่จะสงบสุข เยือกเย็น ได้ดังแต่ก่อน
อันที่จริงแล้ว.. พุทธศาสนามีหลักธรรมปฏิบัติเพื่อการแก้ไขปัญหา.. ขจัดทุกข์โทษภัยในชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพใช้ได้ในทุกสมัย.. ไม่เสื่อมไปตามกาลเวลา.. ไม่ว่ากาลใดสมัยใด.. ก็สามารถพึ่งหลักธรรมคำสั่งสอนในการขจัดทุกข์โทษภัยให้สิ้นไปได้จริง..
แต่ด้วยความห่างไกลการศึกษาเล่าเรียนปฏิบัติตามหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา จึงทำให้หมู่สัตว์ขาดเครื่องมือ ความรู้ ที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาชีวิตให้มีคุณภาพ เพื่อรับกระแสโลกได้อย่างมีคุณภาพ
จึงเกิดปรากฏปัญหานานัปการ.. ในสังคมยุคใหม่ที่สะท้อนให้เห็นความจริงของธรรมชาติในด้านจิตใจที่ไร้คุณภาพของสัตว์สังคมยุคไอที..
ความเปราะบาง.. ความอ่อนไหว.. ความเครียด ภาวะความไม่อดทน.. ไม่เพียรพยายาม ขาดความใส่ใจ ไม่ตั้งใจจริง.. จึงเป็นปรากฏการณ์ของสภาวะลักษณะทางจิตวิญญาณของมนุษยชาติในยุคนี้ ที่นำไปสู่การใช้อารมณ์มากกว่าการใช้เหตุผล.. ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ จะเป็นเรื่องเล็กน้อย.. ไร้สาระ ก็ย่อมมีอิทธิพลต่อคนในสังคมทันที หากมีการจุดประกายเผยแพร่แสดงความเห็นสื่อสารออกไปโดยเฉพาะใน ทางลบ..
หากเป็นเรื่องดีๆ .. ก็ไม่ค่อยมีใครใส่ใจ.. แต่ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี.. ก็จะขยายความนำไปวิพากษ์วิจารณ์ต่อกันไปได้อีกยาวนาน.. จนจากเรื่องหนึ่งกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งและแปรไปอีกเรื่องหนึ่ง.. ที่ชักนำให้เกิดกระแสไหลตามกันไป จนหลงลืมไปว่า สาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไร!?
จึงเห็นการแปรเปลี่ยนในประเด็นของปัญหาหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทุกๆ ขณะ .. ที่มีการสื่อสารส่งสืบต่อกันไป มีการขยายข่าวสารเรื่องราวดังกล่าวแตกกระจายไปสู่ประเด็นต่างๆ จนกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกัน.. โดยมีผู้คนหลงเข้าไปติดตามจำนวนมาก... เรื่องไม่เป็นปัญหาจึงเป็นปัญหา.. เรื่องปัญหาเล็กๆ ควรแก้ไขได้ด้วยวิธีการปกติ จึงยกระดับเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องหาวิธีการพิเศษเข้าไปแก้ไข ให้วุ่นวายไปกับเรื่องราวที่ไม่เป็นสาระ.. จนกลายเป็นสาระของชีวิตที่สะท้อนความมีชีวิตที่ไร้สาระอย่างมึนงง!!
อะไรทำให้สภาวะสังคมแปรเปลี่ยนเป็นไปเช่นนั้น.. คำตอบคือ.. กระแสจิตที่ไหลไปด้วยการประยุกต์ของกิเลสฝ่ายต่ำอย่างหยาบที่กำลังขับเคลื่อน.. ในกระแสชีวิตของปุถุชนให้เป็นไปเช่นนี้!!
ปัญหาในสังคมที่สะท้อนถึงความอ่อนแอของหมู่ชนจึงเกิดมีปรากฏให้เห็นในทุกมิติ ไม่เว้นแม้ในเขตพระพุทธศาสนา ดังที่ได้เห็นการบรรพชา-อุปสมบทของบุคคลอย่างไม่ได้มี ความศรัทธาที่ถูกต้อง.. ปสาทะ ความเลื่อมใสที่แท้จริง.. ในพระพุทธศาสนา
ปัญหาในแวดวงสงฆ์ในพระพุทธศาสนา จึงหนีไม่พ้นเรื่องของตัวบุคคลที่เข้ามาบวชเป็นพระภิกษุ สามเณร หรือหมู่ชนผู้อ้างว่าตนเองเป็นชาวพุทธ...
เรื่องเน่าๆ เหม็นๆ จึงโชยออกมาจากดงขมิ้นเป็นระยะๆ .. จนนำไปสู่การตั้งปัญหาว่า แท้จริงมาจากอะไร!?
การจัดตั้ง โครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม จึงเกิดขึ้น เพื่อเตรียมบุคคลที่จะเข้าบรรพชา-อุปสมบทให้มีความพร้อมทั้งกายใจ.. ด้วยการศึกษาเล่าเรียนปฏิบัติ เพื่อสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง มีทัศนคติที่ดี.. มีพฤติกรรมภาวะจิตสำนึกที่ควร.. ก่อนการเข้าสู่การบรรพชา-อุปสมบทตามพระพุทธานุญาต.. ที่ควรมีความรู้ความเข้าใจในพระธรรมวินัยเบื้องต้นอย่างแท้จริง...
จึงได้มีการเปิดการอบรมตามโครงการดังกล่าวครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา ณ วัดป่าอารยวังสาราม บางไทร อยุธยา โดยอาตมาได้กล่าวถวายโอวาทธรรมในที่ประชุม ที่มี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นองค์ประธาน ดังนี้
“ขอถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เนื่องในวโรกาสเสด็จเป็นองค์ประธาน เปิด โครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม ครั้งที่ ๑ ณ วัดป่าอารยวังสาราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ที่จะจัดให้มีโครงการดังกล่าวขึ้น ระหว่างวันที่ ๒๑-๓๐ มีนาคม ๒๕๖๕ นี้
ด้วยความศรัทธาปสาทะในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่ให้ความสำคัญในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ อันเท่าเทียมกัน ภายใต้กฎแห่งกรรม ... อำนาจแห่งธรรม จึงเกิดโครงการพัชรธรรม .. ในการกำกับของโครงการกำลังใจในพระดำริขึ้น สืบเนื่องเข้าสู่ ปีที่ ๔ ในปัจจุบัน ที่ได้ให้โอกาสผู้ต้องขังจากเรือนจำต่างๆ ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน ปฏิบัติธรรม .. ตามแนว พึ่งตน-พึ่งธรรม โดยการสร้างความศรัทธาในตนเอง ว่า.. สามารพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงตนเองได้ด้วยตนเอง.. โดยการทำตนเองให้มี ธรรม...
การปรับเปลี่ยน เสริมสร้าง ให้มีทัศนคติที่ถูกต้องว่า.. คุณค่าของชีวิต เกิดจากการพัฒนาชีวิตให้มีคุณธรรมความดี.. นับเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในโลกสมัยวัตถุนิยมปัจจุบัน
การสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น .. ด้วยความเข้าใจที่ว่า ถ้าจะพึ่งตนให้สำเร็จผล ก็ต้องรู้จักธรรม.. รู้จักความเป็นไปตามเหตุปัจจัย.. รู้ว่าอะไรเป็นเหตุปัจจัยของความเสื่อม.. อะไรเป็นเหตุปัจจัยของความเจริญ เพื่อการทำให้ถูกต้องตามเหตุปัจจัยนั้นๆ..
อะไรเป็นเหตุปัจจัย นำไปสู่ความเสื่อม ก็รู้จักละเว้น
อะไรเป็นเหตุปัจจัย นำไปสู่ความเจริญ ก็เร่งรัดจัดทำให้สำเร็จ..
จึงเป็นที่มาของการปลูกสร้างองค์ความรู้ให้กับสมาชิกพัชรธรรมทุกแห่ง.. จนนำไปสู่ความสำเร็จในการบริหารชีวิตในพื้นที่จำกัด.. ให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีกำลังใจ.. ว่า.. สามารถกำหนดชะตาชีวิตตนเองได้...
สมาชิกพัชรธรรม .. จึงมีการสั่งสมความสำนึกที่ถูกต้อง.. มีทัศนคติที่ดี .. ต่อตนเองและสังคมประเทศชาติ.. โดยเฉพาะความกตัญญูรู้คุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จึงได้สมัครใจมาขอบรรพชา-อุปสมบทในพระพุทธศาสนา.. นอกจากต้องการกลับคืนสู่สังคมในฐานะความเป็นคนดีแล้ว.. สำคัญยิ่งตามที่แจ้งความประสงค์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล...
ในห้วงเวลาที่ผ่านมา.. มีสมาชิกพัชรธรรมเข้ามาสู่โครงการภิกษุพัชรธรรมอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มมากขึ้น โดยเฉพาะการบวชกันในระยะยาว... ดังที่มีพระภิกษุพัชรธรรมจำนวนหลายรูปที่ตั้งใจบวชเป็นภิกษุมาตลอดถึงปัจจุบัน...
แต่อย่างไรก็ตาม การมีเจตนาทำความดี ความบริสุทธิ์อันประณีตตามหลักพระธรรมวินัยในพระพุทธศาสนา .. มิได้สำเร็จ เพราะการได้บรรพชา-อุปสมบท นุ่งห่มผ้ากาสายะ ปลงผมโกนหนวด.. แต่จะต้องเกิดจากการได้ศึกษาเล่าเรียน ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย .. อย่างจริงจัง.. มีวินัยที่เข้มแข็ง มีความอดทนสูง เพื่อการดำรงอยู่ในสมณเพศที่บริสุทธิ์.. จึงต้องมีจิตสำนึกที่ถูกต้อง และมั่นคงในความศรัทธา ตั้งอยู่ในสัมมาปฏิบัติ...
ดังนั้น การเตรียมบุคคล เพื่อความพร้อมต่อการเข้าสู่การบรรพชา-อุปสมบท เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง.. โดยเฉพาะการปลูกสร้างศรัทธาในหลักการ.. การปลูกฝังอุดมการณ์ และฝึกอบรมให้เป็นบุคคลที่มีวินัยในการปฏิบัติ โดยคำนึงถึงประโยชน์แห่งธรรมเป็นสูงสุด นอกจากประโยชน์แห่งตนและผู้อื่นเป็นพื้นฐานแล้วนั้น
ด้วยพุทธศาสนา .. มีหลักคำสั่งสอนที่เป็นมนุษยนิยม รักตนเอง รักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จึงสอนให้รู้จักปกครองตนเองด้วยธรรม คือ คุ้มครอง กาย วาจา ใจ ให้อยู่ในกรอบศีลธรรม โดยต้องมีความสำนึกรับผิดชอบต่อการ คิด พูด ทำ ของตนเอง .. ที่จะต้องดำเนินไปตามทางแห่ง กุศลกรรมบถสิบ.. ไม่ประพฤติปฏิบัติไปในทางอกุศล.. เบียดเบียนทำร้ายใครๆ ... อันเป็นวินัยของคนดีในสังคมวิถีพุทธศาสนา!
จึงเป็นความชอบควรอย่างยิ่ง ... ที่จักต้องจัด โครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม...ขึ้น เพื่อรองรับสมาชิกพัชรธรรม.. ตลอดจนบุคลากรในโครงการพัชรธรรม และบุคคลที่เหมาะควรที่มุ่งขอรับการจะบรรพชา-อุปสมบทในพระพุทธศาสนา จากโครงการ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ... ที่จักต้องมีการเรียนรู้ ฝึกอบรมให้พรั่งพร้อมบริบูรณ์ด้วย กาย วาจา ใจ และทิฏฐิ.. ก่อนที่จะเข้าสู่การบรรพชา-อุปสมบท ต่อไป.. เพื่อประโยชน์ของบุคคลที่จะเข้ามาบรรพชา-อุปสมบท.. เพื่อประโยชน์ของสังคมประเทศชาติและพุทธศาสนาสืบไป
จึงใคร่ขอถวายพระพรด้วยความปีติยินดียิ่งที่พระองค์ทรงพระกรุณาเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรมในครั้งนี้…”
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..
รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ
เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก
ประมาทไม่ได้เลย คือ จิตของเรา!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีพระภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า..
คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!
เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย
ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?
การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก
ขบวนการแพทย์ชนบท กับรางวัลแมกไซไซ ปี 2024 ทิศทางพัฒนาระบบสุขภาพไทย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. คณะผู้แทน”ขบวนการแพทย์ชนบท” ได้เดินทางไปรับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2024