“สิทธิกร ดิเรกสุนทร” ยกระดับ บสย. สร้างนวัตกรรมค้ำประกันสินเชื่อเพื่อSME

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กับภารกิจหลักในการทำหน้าที่ช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ สร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพแต่ขาดหลักประกัน หรือหลักประกันไม่เพียงพอให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบที่เพียงพอกับความต้องการ

ปัจจุบัน บสย.เดินบนเส้นทางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาครบ 30 ปี กับอีกมิติในการการยกระดับองค์กรก้าวสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ภายใต้แนวคิด “TCG Fast & First” รวดเร็ว รอบคอบ และเป็นที่หนึ่งในใจเอสเอ็มอี ภายใต้การนำของแม่ทัพคนใหม่อย่าง สิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. ที่วางแนวทางในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี สร้าง Financial Platform ให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของ บสย. เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในปัจจุบัน ครอบคลุมถึงการขยายบทบาท บสย.สู่ Digital Credit Enhancer เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี


โดย สิทธิกร ได้ฉายภาพกลยุทธ์ 3N กับบทบาทการทำงานในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 1. New Engine พัฒนาผลิตภัณฑ์ ค้ำประกันสินเชื่อเจาะเฉพาะ

กลุ่ม (Segmentation) รูปแบบผสมผสาน (Hybrid Products) ระหว่างผลิตภัณฑ์ค้ำประกันเชิงพาณิชย์ของ บสย. (Commercial Product) และผลิตภัณฑ์ค้ำประกันที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ (PGS9) และการค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแบบเฉพาะกลุ่ม


2. New Culture ก้าวสู่วัฒนธรรมองค์กรใหม่ บสย. “TCG Fast & First” เป็นที่หนึ่งในใจเอสเอ็มอี รวดเร็วเหมือน Fintech Company และรอบคอบเหมือนสถาบันการเงิน พร้อมการปรับกระบวนการทำงานภายในที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี


3. New Business Model ด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน Digital Gateway เชื่อมโยงธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อมโยงระบบต่างๆ กับสถาบันการเงิน และผู้ให้บริการทุกแพลตฟอร์ม ผ่าน Digital Tuchpoint ในรูปแบบ O2O (Online to Online Lending) อาทิ Electronic Know Your Customer หรือ e-KYC และ e-Statement ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าและได้มาตรฐานการบริหารจัดการ Good Governance

สิทธิกร ระบุว่า ยุทธศาสตร์ของ บสย.ในปี 2565 จะยังคงดำเนินการตามแผนโครงการ Transformation ซึ่งมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของ บสย.ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเพื่อลดระดับการพึ่งพาจากภาครัฐ ซึ่งจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา และยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องและรุนแรงขึ้นนั้น ทำให้เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจและความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี


ภาครัฐจึงได้มีนโยบายให้รัฐวิสาหกิจช่วยผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบผ่านมาตรการต่างๆ ซึ่ง บสย.เองถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญของภาครัฐในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านการดำเนินโครงการที่สำคัญๆ ในปีที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟู, โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS ระยะที่ 9 และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Micro ระยะที่ 4


ความพยายามของ บสย.ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้สะท้อนให้เห็นจากผลการดำเนินงานในปี 2564 ที่ผ่านมา ซึ่ง บสย.มียอดค้ำประกันอยู่ที่ 2.45 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% จากปีก่อน เป็นสถิติการค้ำประกันสูงสุดในรอบ 29 ปี มียอดเคลมสินเชื่ออยู่ที่ 6.6 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าซึ่งมียอดเคลมอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท


โดยสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้กว่า 2.26 แสนราย เพิ่มขึ้น 36% ก่อให้เกิดสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ มูลค่า 2.61 แสนล้านบาท หรือ 1.06 เท่าของยอดการค้ำประกัน และก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่มากกว่า 4 แสนตำแหน่ง รักษาการจ้างงานได้มากกว่า 2 ล้านตำแหน่ง


“บสย.ได้ช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในระบบมากกว่า 3 ล้านรายให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ หรือคิดเป็น 22.52% ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อต่างๆ ได้แก่ โครงการค้ำประกัน PGS9 วงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท ปัจจุบันสามารถค้ำประกันไปแล้ว 8.17 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 33.30% โดยยังมีวงเงินเหลืออีกราว 6 หมื่นล้านบาท, โครงการค้ำประกัน Micro 4 เพื่อผู้ประกอบการรายย่อย มีการค้ำประกันไปแล้ว 2.05 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 8.40% เฉลี่ยรายละ 1.2 แสนบาท โดยยังเหลือวงเงินอีกราว 3.2 พันล้านบาท คาดว่าน่าจะครบวงเงินในช่วงกลางปีนี้”


สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2565 นั้น “สิทธิกร” ระบุว่า บสย.ยังคงให้ความสำคัญกับ 4 แนวทาง คือ 1.สร้างสรรค์นวัตกรรมค้ำประกันสินเชื่อในรูปแบบ “HyBrid Guarantee” ผสมผสาน เชื่อมโยง ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลกทางการเงิน พร้อมกับสร้าง Financial Platform ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มฐานราก กลุ่มอาชีพอิสระ และกลุ่มผู้ค้าออนไลน์

2.เพิ่มสัดส่วนคุ้มครองความเสี่ยงให้สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อ ในโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 9

3.จัดทำโครงการพิเศษในโอกาส บสย. ครบรอบ 30 ปี ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี 3 ปี และอัตราความคุ้มครอง 30% สำหรับลูกค้าค้ำประกันสินเชื่อ ลดต้นทุนธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว

4.ขยายบทบาท 2 ด้านหลัก ได้แก่ 1) ด้านค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอี มุ่งสู่ Digital Credit Enhancer เพื่อเพิ่มโอกาสเติมเต็มศักยภาพทางการเงิน และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมไปถึงเพื่อลดการพึ่งพาสินเชื่อนอกระบบ และ 2) เพิ่มบทบาทการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงินเอสเอ็มอี หรือ “บสย. F.A. Center”

โดยทีมผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญด้านการเงิน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ขอลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษาและอบรมหลักสูตรต่างๆ แล้วกว่า 3,680 ราย และขอรับคำปรึกษาผ่าน บสย. F.A. Center แล้ว 1,610 พันราย สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากการช่วยเหลือเพื่อเตรียมความพร้อม และนำส่งธนาคาร 35.64% ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงการให้คำปรึกษาเอสเอ็มอีภายใต้โครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน ที่ บสย.ร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จำนวน 118 ราย


ในปีนี้ บสย.จะติดตามผลการให้คำปรึกษาและลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ขอรับคำปรึกษา นอกเหนือจากการร่วมเป็นทีมที่ปรึกษาในโครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน ร่วมกับ ธปท. เพื่อให้คำปรึกษาปัญหาหนี้ ช่วยลดปัญหาการขยายตัวของหนี้ครัวเรือน” สิทธิกร ระบุ


ส่วนเป้าหมายการค้ำประกันของ บสย.ในปี 2565 นั้น อยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท พร้อมทั้งยังได้ตั้งเป้าหมายการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มเป็น 40% จากปีที่ผ่านมา อีกทั้งคาดว่าจะมียอดเคลมอยู่ที่ 8 พันล้านบาท จากยอดค้ำประกันสินเชื่อในปีที่ผ่านมา ที่ 2.45 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ดี จากความสำเร็จและประสิทธิภาพของโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 9 และโครงการค้ำประกัน Micro 4 ที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้เป็นจำนวนมากนั้น สิทธิกร คาดว่าภายในไตรมาส 2/2565 บสย.จะเข้าไปหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อขออนุมัติเดินหน้าโครงการค้ำประกัน Micro 5 วงเงินรวม 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3-4/2565 มีแผนจะขออนุมัติจากกระทรวงการคลังเดินหน้าโครงการค้ำประกัน PGS10 วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลึกสุดใจ. ”พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ผบ.ตร.” ยึดกฎกติกา ไม่กลัวทุกอิทธิพล

ถึงตอนนี้ "พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ บิ๊กต่าย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" ได้ทำหน้าที่ ผบ.ตร.อย่างเป็นทางการมาร่วมสามเดือนเศษ ส่วนการทำงานต่อจากนี้ ในฐานะ"บิ๊กสีกากี เบอร์หนึ่ง-รั้วปทุมวัน"จะเป็นอย่างไร?

2 สว. “ชาญวิศว์-พิสิษฐ์” ปักธงพิทักษ์รธน. ปกป้องสถาบันฯ พวกเราเป็นอิสระ ไม่มีรับใบสั่ง

กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูยเพื่อมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ต้องการทำให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น

ก้าวย่างออกจากปัญหา .. ของประเทศ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... คำกล่าวที่ว่า.. “เมื่อสังคมมนุษยชาติขาดศีลธรรม.. ย่อมพบภัยพิบัติ.. เสื่อมสูญสิ้นสลาย..” นับว่าเป็นสัจธรรมที่ควรน้อมนำมาพิจารณา.. เพื่อการตั้งอยู่ ดำรงอยู่ อย่างไม่ประมาท...

เหลียวหลังแลหน้า การเมืองไทย จาก 2567 สู่ 2568 ส่องจุดจบ ระบอบทักษิณภาค 2

รายการ"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด"สัมภาษณ์ นักวิชาการ-นักการเมือง สองคน เพื่อมา"เหลียวหลังการเมืองไทยปี 2567 และแลไปข้างหน้า

วิปริตธรรม .. ในสังคม!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. เลียบบ้านแลเมือง มองดูเข้าไปในหมู่ชนของบ้านเรา.. ในยามที่นักการเมืองเป็นใหญ่ มีอำนาจวาสนาบริหารราชการแผ่นดิน จึงได้เห็นความไหลหลงวกวนของหมู่ชน ที่สาละวนอยู่กับการแสวงหา เพื่อให้ได้มาใน ลาภ สักการะ ยศ สรรเสริญ สุข.. ไม่เว้นแม้ในแวดวงนักบวชที่มุ่งแสวงหามากกว่าละวาง

ธุรกิจคาสิโนถูกกฎหมาย ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มักเกี่ยวพันผู้มีอำนาจทางการเมือง

เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดงานเผยแพร่ผลการศึกษาผลกระทบของคาสิโนถูกกฎหมายต่อการฆาตกรรมและการข่มขืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้