'สนธิญา' ร้องดีเอสไอ สอบ 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' ไลฟ์ขายทองออนไลน์

30 ก.ย.2567 - ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เพื่อให้พิจารณาตรวจสอบกรณี น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ "แม่ตั๊ก" กับนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ "ป๋าเบียร์" ไลฟ์เกี่ยวกับการขายทองออนไลน์ ซึ่งมีผู้เสียหายในเบื้องต้น กว่า 214 ราย ทั้งกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และต่างประเทศ เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัย รับเรื่องตรวจสอบตามกฎหมาย

นายสนธิญา กล่าวว่า ตนนำข้อมูลมาแจ้งเบาะแสทางกฎหมายและข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้น ขอให้ ดีเอสไอ ร่วมตรวจสอบกรณีเพจแม่ตั๊กและเพจอื่นๆ ด้วยเพราะดีเอสไอ มีกฎหมายตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ 2547 หมวด 3 มาตรา 21 (ก) (ข) ประกอบฐานความผิด 41 ข้อที่อยู่ในอำนาจ เช่น เกี่ยวกับเงินตรา , คุ้มครองผู้บริโภค , ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ , ประมวลรัษฎากร , การฟอกเงิน และ กู้ยืมเงินโดยฉ้อโกงประชาชน รวมทั้ง เห็นว่ามีผู้เสียหายร้องเรียนหลายหน่วยงาน อาทิ สคบ. , ตำรวจ ปคบ. , ตำรวจ สอท. เกี่ยวกับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน หรือ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ จึงอยากให้ ดีเอสไอ มาเป็นเจ้าภาพประสานการทำงานร่วมกันในหน่วยงานเดียว

นายสนธิญา กล่าวว่า ส่วนที่มีภาพแม่ตั๊กนั่งทานข้าวกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มองว่าอาจไม่มีผลประโยชน์ แต่ผู้เสียหายคงไม่สบายใจที่จะให้หน่วยงานตำรวจที่รับผิดชอบทำคดี และดีเอสไอ ต้องมาสืบสวนสอบสวนเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน ส่วนตัวเชื่อว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังแม่ตั๊กแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนเคยได้รับความเสียหายซื้อของทางเพจออนไลน์แล้วไม่ได้รับสินค้า แต่ไม่ใช่เพจแม่ตั๊ก จึงไม่อยากปล่อยผ่านและไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีก

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน เผยว่า เบื้องต้น ดีเอสไอ จะเข้าตรวจสอบพิจารณาในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น เกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หรือคดีฉ้อโกงประชาชนและยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินอาจเข้าข่ายฟอกเงิน มูลค่าตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป ว่าอยู่ในอำนาจดีเอสไอหรือไม่ ส่วนการถ่ายรูปร่วมเฟรมกับตำรวจนั้น ดีเอสไอ จะดูตามพฤติการณ์บ่งชี้ว่ามีการแทรกแซงทำคดีมากกว่าไม่ใช่แค่ภาพถ่าย นอกจากนี้ ยังไม่พบการระดมการลงทุนหรือเล่นแชร์ ส่วนมีคนดังร่วมไลฟ์สดด้วยต้องตรวจสอบรายละเอียด ทั้งนี้ ดีเอสไอจะสืบสวนสอบสวนคู่ขนานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดีเอสไอ'​ แจ้งเพิ่มข้อหา 18 บอส 'ดิไอคอน' คดีแชร์ลูกโซ่-​ขายตรง

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีการดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก

พยาน 20 คน ฝั่งดิไอคอน ให้ปากคำดีเอสไอ ทนายขอให้สอบพยานเพิ่มอีกกว่า 2 พันคน

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป พาพยาน 20 คน ในฝั่ง "ดิไอคอน" เข้าพบ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ “กองคดีฮั้วประมูล” ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำยืนยันว่าดำเนินธุรกิจขายสินค้าบริษัทฯ จริง

โฆษกดีเอสไอ เผยผลสอบสินบน คลิปเสียงเทวดา DSI เอี่ยวดิไอคอน จะออกเร็วๆนี้

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ​กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีบริษัท ดิ ไอ คอน กรุ๊ป ว่า กรณีที่ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล จะนำพยานชุดแรก

DSI ฟัน 18 บอส นำร่อง ‘ฉ้อโกง’ ล็อต 2 ยังไม่ชัด!

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​ เผยแพร่เอกสารข่าว การส่งสำนวนการสอบสวนคดีเว็ปพนัน BNK ให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)​ สอบสวนต่อ

ผบ.ตร. ยอมรับสอบสวนนานเกินไป ปม 'พ.ต.อ.' เอี่ยวดิไอคอน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการกลั่นกรอง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีมติเอกฉันท์รับคดีหลอกลวงประชาชนลงทุน