
17 ก.ย.2567- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)คนใหม่ว่า อยู่ในกระบวนการกำลังเร่งและเรียกเรื่องมาดูทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ตนไม่ได้เป็นผู้ดูแล นายกฯเป็นผู้ดูแล แต่เดี๋ยวจะมีการพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถตั้งได้ทันเกษียณราชการได้เลยหรือไม่ จะได้ไม่มีรอยต่อ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องพยายามให้เป็นอย่างนั้นเท่าที่ทำได้ แต่หากมีข้อจำกัดอะไรก็ต้องไปดูข้อเท็จจริง
ถามว่า การแต่งตั้งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) จะมาจากพลเรือนหรือทหาร ตรงนี้มีนโยบายอย่างไร รองนายกฯตอบว่า ไม่มีนโยบายที่จะต้องเป็นใคร ดูคนที่เหมาะสม มีศักยภาพและทำได้ ถ้าตอนนี้ถามความชัดเจนว่าเป็นหน่วยไหนมันตอบยาก เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่เข้ามาและเป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างโยกย้าย อย่างไรก็ตามทุกหน่วยก็ต้องพยายามทำให้เสร็จให้ทันเดือนก.ย.-ต.ค.แต่หากถ้าไม่ทันก็มีคนดูแลตามกระบวนการอยู่แล้ว ถ้าไม่ทันคนที่เกษียณก็เกษียณไป คนที่อยู่ก็มีขั้นตอน มีบุคคลที่รับผิดชอบรักษาการไปอยู่แล้ว ส่วนการคัดสรรก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ
เมื่อถามว่า กรณีการแต่งตั้งคนนอกนั่งเลขาธิการสมช.ขณะที่คนในรอจ่อนั่งเลขาธิการสมช. ทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจตรงนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ค่อยมี เพราะอยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละที่เป็นอย่างไร สามารถเลือกคนที่เหมาะสมกับงาน สามารถที่จะอธิบายได้ ปัญหาเหล่านั้นก็คงจะหมดไป ซึ่งส่วนใหญ่ข้าราชการเหล่าทัพเขาก็มีวินัย ตนคิดว่าถ้าเราใช้กระบวนการที่โปร่งใส ถ้าอธิบายได้ชัดเจนว่าทำไมตัดสินใจเลือกอย่างนั้นอย่างนี้ตนคิดว่าปัญหาอื่นๆก็จะหมดไปเพราะหลายเรื่องที่เป็นปัญหาเกิดขึ้น เพราะความไม่เข้าใจหรือไปคิดวิเคราะห์จากข้อมูลที่ได้รับมาซึ่งก็ไม่ตรง อย่างโผทหารที่มีการพูดกันไปเยอะมีไม่รู้กี่โผ ตนเข้าไปก็ยังเห็นโผเดิมอยู่ ซึ่งอยู่ระหว่างคุยกันด้วยบรรยากาศที่ดีไม่มีปัญหาอะไร ทุกส่วนก็เป็นแบบนี้
ซักว่า ตำแหน่งเลขาธิการสมช. ต้องรอการแต่งตั้งผบ.ตร. ให้ลงตัวก่อน เพื่อที่ว่าคนที่ไม่ได้จะได้มานั่ง เลขาธิการสมช. รองนายกฯ กล่าวว่า “พูดอย่างนี้เหมือนกับว่าสมช.เป็นหน่วยงานรองบ่อน ที่ไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น ที่ผ่านมาก็ว่าไปเพราะผมไม่ทราบว่าเงื่อนไข แต่ปัจจุบันต้องดูความเหมาะสมของหน่วยงาน และเลือกบุคคลที่หน่วยงาน ไม่ใช่เลือกตรงไหนไม่ได้แล้วเอามาใส่ตรงนี้ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น“.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชาวอุยกูร์ บอกหลงเชื่อกลุ่มหัวรุนแรงชวนไปตุรกี ดีใจได้กลับมาดูแลพ่อแม่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะ และ สื่อมวลชน มาเยี่ยมชาวอุยกูร์ 1 ใน 40 คน ที่ถูกส่งตัวกลับจากไทย ซึ่งพักอาศัยอยู่ในอำเภอซาเชอ เมืองคาซือ
'สส.โรม' ยืนกราน 40 อุยกูร์ตกอยู่ในอันตราย ต่างชาติวิจารณ์รัฐบาลหนักขึ้น
นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนำทีมสื่อมวลชนไปติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ 40 คน
'ภูมิธรรม' ฝากถึงสื่อไม่ได้ไปซินเจียงอุยกูร์ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ กระทบความเชื่อมั่นประเทศ
นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยชี้แจงว่า ทางการจีนได้ประสานและอำนวยความสะดวกในการพบกับชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งตัวกลับจากไทย และจากการสื่อสารต้องใช้ภาษาอุยกูร์ ภาษาจีน และภาษาไทย แปลกลับไปกลับมาแบบเปิดเผย
ชาวอุยกูร์ บอกคนไทยไม่ต้องห่วง ชีวิตปกติดี มีวัว 52 ตัว จีนสร้างบ้านให้
นายภูมิธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี ได้วิดีโอคอล กับชาวอุยกูร์ ที่เดินทางกลับมาจากประเทศไทย จำนวน 6 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับมาเมื่อปี 58 ซึ่งได้เล่าชีวิตหลังกลับมายังเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
'จิรายุ' เผยภารกิจพบ 'ชาวอุยกูร์' ถูกส่งกลับจีน ได้รับการดูแลอย่างดี แม่สุดดีใจได้พบลูก
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 09.40 น. (ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก
'ภูมิธรรม' ขอบคุณรัฐบาลจีน จัดการให้ไทยได้พบชาวอุยกูร์ถูกส่งกลับ
ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน วันนี้ (19 มี.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม