ประกวดนวัตกรรมข้าวไทย ยกระดับผลิตภัณฑ์ข้าวสู่สากล

ตัวอย่างนวัตกรรมข้าวไทย : บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ จากฟางข้าวและปลายข้าวหัก

“ข้าว ” หนึ่งในพืชเศรษฐกิจของไทย ที่ใช้บริโภคภายในประเทศและยังเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งคนไทยคุ้นชินกับข้าวที่เป็นผลผลิตสำหรับรับประทานเป็นอาหารจานหลักในทุกมื้อ แต่ข้าวมีมิติเพียงแค่นั้นหรือ? เมื่อเทียบกับชา หรือเมล็ดกาแฟ ที่ไม่ใช่เพียงแค่วัตถุดิบสำหรับชงเพื่อดื่มเท่านั้น แต่ยังสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ เช่นเดียวกับ ข้าว หากมองในมิติที่หลากหลายก็สามารถนำไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยผ่านกระบวนการทางนวัตกรรมได้เช่นกัน

ในการขับเคลื่อนการพัฒนาข้าวด้วยนวัตกรรมที่น่าสนใจ คือ การจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับ มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากข้าว ส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้ ที่ได้ดำเนินการมากว่า 15 ปี มีผลงานส่งเข้าประกวดกว่า 669 ผลงาน และมีผลงานที่ได้รับรางวัลไปแล้ว 77 ผลงาน

เห็นได้ชัดเจนว่าความสนใจในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ข้าวของประเทศเพิ่มขึ้น ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์ข้าวแปลกใหม่ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มหลากหลายชนิด น้ำมันรำข้าว แป้งเบเกอรี่ แป้งเด็ก เครื่องสำอาง อุปกรณ์การแพทย์ หรือแม้กระทั่งคอนกรีตบล็อก ซึ่งล้วนมีคุณค่าและเป็นการต่อยอดสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ไม่ละทิ้งอาชีพเกษตรกรในอนาคตด้วย

ล่าสุด การจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2567 ครั้งที่ 16 ได้เริ่มเปิดรับสมัครวัตกรผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมข้าวไทย และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมข้าวไทย ซึ่งรวมทั้งผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต พร้อมกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวและพัฒนาความใฝ่รู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมไทย และเป็นขวัญกำลังใจและยกย่องผู้คิดค้นและผลักดันนวัตกรรมข้าวไทย

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ข้าวมีความสำคัญกับมนุษย์และชาวไทยที่มีผลต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในปัจจุบันกระบวนการผลิตข้าวของเกษตรกรไทยยังไม่พัฒนาไปมากจากในอดีต เพื่อส่งเสริมข้าวไทยทางมูลนิธิจึงได้เน้นบทบาทการพัฒนาข้าวไทยจากงานวิจัยและนวัตกรรม ที่สามารถช่วยสร้างมูลค่าของข้าวได้เพิ่มมากขึ้น อย่าง ผลงานที่นำปลายข้าวมาแปรรูปเป็นแผ่นซับหลังการผ่าตัดที่ทำให้เพิ่มมูลค่าได้กว่า 1,000 เท่า ดังนั้นในการจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย เพราะเป็นการสร้างและกระตุ้นความสนใจในกลุ่มคนไทยให้มีความคิดสร้างสรรค์ คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าข้าว และเกิดการผลิตในเชิงพาณิชย์มากขึ้นกว่าการแพ็คข้าวใส่ถุงและนำไปจำหน่ายเป็นข้าวสารเพียงอย่างเดียว

ดร.สุเมธ กล่าวต่อว่า การเข้าสู่การพัฒนาข้าวไทยด้านนวัตกรรม ไม่เพียงแค่ในส่วนของเมล็ดข้าว แต่ยังรวมข้าวหัก  แป้งข้าว แกลบ รำข้าว ฟางข้าว และอื่นๆ ที่สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบให้เกิดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์สูง ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้หมดปัญหาการขายข้าวไม่พอกิน และยังเป็นเสริมองค์ข้าวรู้ในกระบวนการพัฒนาข้าวให้แก่เกษตรรุ่นเก่ารุ่นใหม่ และในการประกวดจะมีการแบ่งประเภททั้งในระดับอุตสาหกรรมและระดับชุมชน ซึ่งในส่วนของชุมชนก็ได้สถาบันการศึกษาในพื้นที่เข้าไปให้องค์ความรู้ในการพัฒนาข้าวที่ทำให้สามารถเห็นการนำนวัตกรรมมาพัฒนาในหลากหลายมิติ บางรายที่ได้รับรางวัลไปแล้วก็เปิดบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับชาวบ้านในชุมชนได้เห็นช่องทางในการต่อยอดข้าวไทย

ถ้วยพระทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

“นอกจากการส่งเสริมด้านนวัตกรรมก็ต้องมองให้ลึกไปถึงผู้ที่จะมาเป็นเกษตรกรในอนาคต เพื่อสร้างแนวคิดใหม่ให้เด็กรุ่นใหม่เห็นว่าการผลิตข้าว ไม่ใช่เพียงแค่การทำนาตากแดดแต่ยังสามารถพัฒนาในรูปแบบอื่นๆ ได้ จึงได้ทำแคมป์ข้าว สำหรับเยาวชนโดยเฉพาะในกลุ่มลูกชาวนาที่ทำต่อเนื่องมาได้ 6 รุ่น จำนวนกว่า 30 คน ในการทำนาแบบสมาร์ทฟาร์มมิ่งเตรียมพร้อมที่จะสืบทอดต่อจากรุ่นพ่อแม่ และตั้งเป็นยุวฑูตลูกชาวนาในการส่งต่อความคิดในกลุ่มคนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม  ต้องยอมรับเด็กรุ่นใหม่ที่จะสนใจทำนาไม่ 100% แต่อย่างน้อยก็มีกว่าครึ่งที่มีใจและสนใจที่จะต่อยอดการทำนา เพื่อให้ข้าว ที่เป็นภูมิปัญญาและความภาคภูมิใจของชาวไทยไม่สูญหาย” ดร.สุเมธ กล่าว

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวเสริมว่า การรับรู้คนไทยยังมองว่า ข้าว คือ ข้าว ดังนั้นหากจะขับเคลื่อนข้าวไทยไปสู่ในระดับสากลในมิติด้านนวัตกรรมคนไทยต้องมองว่า ข้าว คือ วัตถุดิบที่สามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายได้ เพราะในตลาดต่างประเทศข้าวไทย ถือเป็นสินค้าพรีเมียมที่ต่างชาติให้การยอมรับและเลือกซื้อเป็นอันดับแรก ดังนั้นนวัตกรรมถือเป็นอีกปัจจัยในการพัฒนาคุณภาพข้าวให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป้นการพัฒนาสายพันธุ์ กระบวนการเก็บเกี่ยว การใช้ปุ๋ยชีวภาพ และการปลูกข้าวแบบลดการปล่อยการคาร์บอน ดังนั้นมานำข้าวมารวมกับนวัตกรรมจึงเกิดเป็นสินค้าที่หลากหลายทั้งในระดับชุมชนไปสู่ระดับสากล

ทั้งนี้นอกจากการประกวด ทาง NIA ยังได้สนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ทำนวัตกรรมจากข้าวไปแล้วกว่า 100 โครงการ มูลค่าการสนับสนุนกว่า 50 ล้านบาท ก่อให้เกิดการลงทุนรวมกว่า 392 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมฝีมือคนไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการนำนวัตกรรมไทยไปใช้ประโยชน์ และจุดประกายให้คนไทยเกิดความตื่นตัวในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะนำพาประเทศไปสู่การเป็นชาตินวัตกรรม และในอนาคตอาจจะมีการทำห้องเรียนชาวนา เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการที่เข้าใจยาก รวมไปถึงการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ พัฒนาให้เป็นหลักสูตรที่เข้าถึงและเข้าใจง่ายในแบบออนไลน์ด้วย

ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา

มุมมองของคนรุ่นใหม่กับข้าวไทย ช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท Cloud & Ground จำกัด ในฐานะผู้ร่วมจัดงาน “Thailand Rice Fest เทศกาลกินข้าวใหม่และสินค้าข้าวสร้างสรรค์ “กล่าวว่า ไทย เป็นประเทศที่ปลูกกาแฟได้ ซึ่งทำให้เกิดคาเฟ่และวัฒนธรรมทางกาแฟมากมาย ซึ่งในฐานะที่ได้จัดงาน Thailand Coffee Fest มากว่า 8 ปี ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกาแฟไทยเป็นอย่างมากที่ไม่เพียงแค่การส่งผลทางเศรษฐกิจ แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงการอนุรักษ์ป่าและต้นน้ำ ดังนั้นในมุมมองของข้าวไทย มีชาวนาที่ปลูกข้าวจำนวนมาก เมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งประเทศไทยคิดเป็นพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 60 ตร.กม. จึงได้เกิดแนวคิดในการทำงานเทศกาล Thailand Rice Fest ในปีที่ผ่านมา เพื่อยกระดับวงการข้าวไทย สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และผู้ที่ให้ความสนใจ และภายในการจัดงานที่ผ่านมายังได้รู้จัก ข้าวสรรพสี (Rainbow Rice) เป็นข้าวที่มีสันแตกต่างจากข้าวทั่วไป ซึ่งในมุมมองการต่อยอดสามารถนำไปสู่ในเชิงท่องเที่ยว รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จากใบข้าวมาผลิตเป็นโปรตีนทางเลือกที่เป็นอีกวัตถุดิบที่สามารถนำไปแปรรูปที่จะช่วยสร้างมูลค่าให้เพิ่มมากขึ้นได้ด้วย

นวัตกรรมข้าวไทย ที่นำสารสกัดมาทำเป็นเซรั่มบำรุงผิว ภายใต้ชื่อแบรนด์ Wabellas

อย่างไรก็ตามผู้ที่สนใจส่งผลงานในเวทีประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2567 สามารถส่งผลงานได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ThaiRiceFoundationTh.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปตท. พร้อมส่งเสริมทักษะนวัตกรรมในชุมชนสู่ความยั่งยืนด้านพลังงานจัดพิธีมอบ ใบประกาศนียบัตร หลักสูตรพลังงานเพื่อชุมชน รุ่นที่ 10

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดและมอบประกาศนียบัตร ผู้สำเร็จหลักสูตรพลังงานเพื่อชุมชน (พพช.)

NIA ดึง 7 หน่วยงานลงนามร่วมยกระดับระบบนิเวศนวัตกรรมไทย สร้างเครือข่ายความร่วมมือในงาน SITE2024

22 กรกฎาคม 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ดึง 7 หน่วยงาน ลงนามบันทึกข้อตกลง และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมในหลากหลายมิติต่าง ทั้งการพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรม

“ศุภมาส” เผยศักยภาพไทยพร้อมก้าวสู่การเป็น “ศูนย์กลางด้านอาหารแห่งอนาคตของภูมิภาค” พร้อมร่วมยินดีเอกชนสัญชาติไทยนำ วทน. ขับเคลื่อนธุรกิจสู่เวทีโลก

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าวเปิดตัวนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงและผลิตภัณฑ์วูล์ฟเฟีย ซึ่งจัดโดยบริษัทแอดวานซ์ กรีนฟาร์ม จำกัด