โฆษกรัฐบาลตอกย้ำระวัง 6 กลโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาลย้ำเตือนพี่น้องประชาชน ระวัง 6 กลโกงทางโทรศัพท์ของแก๊ง Call Center รู้เท่าทัน ไม่หลงเชื่อ ตรวจสอบข้อมูลจากสถาบันการเงินทุกครั้ง

17 ม.ค.2567 - นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่ารัฐบาลห่วงใยพี่น้องประชาชน ไม่ต้องการให้ตกเป็นเหยื่อกลโกงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยขอประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนประชาชน ระวัง 6 กลโกงทางโทรศัพท์ของแก๊ง Call Center ที่มักสร้างเรื่องหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพในยุคปัจจุบัน สามารถรับมือและป้องกันตนเอง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวง

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้สรุป 6 รูปแบบกลโกงทางโทรศัพท์ของแก๊ง Call Center ที่มักใช้หลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อ เพื่อนำเงินของเหยื่อออกจากบัญชีด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ดังนี้ 1.บัญชีเงินฝากถูกอายัด/เป็นหนี้บัตรเครดิต เป็นข้ออ้างที่มิจฉาชีพนิยมใช้มากที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่สามารถสร้างความตกใจ และง่ายต่อการชักจูงเหยื่อให้โอนเงิน 2.บัญชีเงินฝากพัวพันกับการค้ายาเสพติดหรือการฟอกเงิน โดยมิจฉาชีพจะหลอกถามข้อมูล และหากพบว่าเหยื่อมีเงินในบัญชีจำนวนมาก จะหลอกให้เหยื่อโอนเงินทั้งหมดมาตรวจสอบ 3.เงินคืนภาษี มิจฉาชีพมักใช้ในช่วงที่มีการยื่นภาษีและมีการขอคืน โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรแจ้งว่า เหยื่อได้รับภาษีคืน ซึ่งจะต้องยืนยันรายการและทำตามคำบอกที่ตู้ ATM แต่แท้จริงแล้วเป็นการหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้กับมิจฉาชีพ

4.โชคดีรับรางวัลใหญ่ มิจฉาชีพจะอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่บริษัท หรือตัวแทนองค์กร แจ้งข่าวดีแก่เหยื่อ และเมื่อเหยื่อหลงเชื่อ จะหลอกให้เหยื่อโอนเงินค่าภาษีให้ 5.หลอกขอข้อมูลส่วนตัว มิจฉาชีพอาจอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน หลอกด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น อัพเดทข้อมูลส่วนตัว สมัครงานออนไลน์ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวสำคัญ เช่น วัน/เดือน/ปีเกิด เลขที่บัตรประชาชน ก่อนนำไปใช้ในทางทุจริต และ 6.โอนเงินผิดเข้าบัญชีของเหยื่อ และขอให้โอนเงินคืน ซึ่งเงินที่โอนเข้ามานั้น เป็นเงินที่มิจฉาชีพหลอกเหยื่อรายอื่นให้โอนเข้ามา เพื่อใช้บัญชีเหยื่อเป็นที่พักเงิน หรือเป็นเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการป้องกัน หากประชาชนพบเจอเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้มีสติทุกครั้งเมื่อรับสายโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย คิดทบทวน หากไม่แน่ใจ ให้หยุดการสนทนา และหาข้อมูลหน่วยงานที่ถูกแอบอ้าง เพื่อโทรสอบถามความจริง ทั้งนี้ ในกรณีที่มีคนโอนเงินผิดบัญชีมาที่บัญชีเรา ไม่ควรโอนเงินคืนด้วยตนเอง ควรสอบถาม call center หรือสาขาของธนาคาร

“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ห่วงใยประชาชน เน้นย้ำการทำงานเชิงรุก ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างจริงจัง ควบคู่กับการสร้างการตระหนักรู้ ให้ความรู้แก่ประชาชนถึงภัยจากมิจฉาชีพในรูปแบบต่าง ๆ โดยเชื่อมั่นว่าข้อมูลข้างต้นจะเป็นประโยชน์ให้กับประชาชน รู้เท่าทันกลโกง ไม่หลงเชื่อคำแอบอ้างของมิจฉาชีพ” นายชัยกล่าวและว่า แต่หากหลงเชื่อและโอนเงินให้กับมิจฉาชีพแล้ว ขอให้ตั้งสติ รวบรวมข้อมูล หลักฐาน และไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ หรือแจ้งสายด่วน สอส. 1441 หรือแจ้งความออนไลน์ที่ https://www.thaipoliceonline.com

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน

ตร. แถลงจับจีนเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่าเบอร์โทร 02 นับหมื่นเลขหมาย โทรหลอกกว่า 700 ล้านครั้ง

พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงผลการปฏิบัติการ “มาตรการระเบิดสะพานโจร” 2 ปฏิบัติการ จับแก๊งจีนเทาเช่าเบอร์โทร 02-xxxxxxx กว่าหมื่นเลขหมาย โทรหลอกประชาชนมากกว่า 700 ล้านครั้ง และใช้เครื่องส่ง SMS ปลอม (False Base Station) ส่งข้อความถึงประชาชนภายใน 3 วัน เกือบล้านครั้ง

นักกฎหมาย ชี้ไม่ง่าย 'โต้ง' ว่าที่ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ จะแทรกแซงผู้ว่าแบงก์ชาติ

ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายคัดค้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ เป็นตัวแทนฝ่

รัฐบาลดี๊ด๊า! เปิดทำเนียบฯ รับม็อบเชียร์ 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ

เครือข่ายภาคประชาสังคมฯ ยื่น 1.5 หมื่นรายชื่อ หนุน 'กิตติรัตน์' นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ 'รองเลขาฯนายกฯ' รีบหอบส่ง ธปท.ทันที แย้มวันนี้ไม่เลื่อนแล้ว