ขนส่งทางบก ดีเดย์!!! 1 ม.ค.65 ผู้ขับรถบรรทุกวัตถุอันตราย ต้องมีหนังสือรับรองการขับรถวัตถุอันตรายใช้คู่กับใบขับขี่ ท.4 พร้อมเริ่ม เดินหน้าอบรมและทดสอบตามข้อกำหนดมาตรฐานสากล มุ่งยกระดับความปลอดภัยการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนนของประเทศไทย
22 ธ.ค.2564-นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)เปิดเผยว่า การขนส่งวัตถุอันตรายในประเทศไทยมีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจและการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งเชื้อเพลิงที่จำเป็นต้องมีการขนส่งไปทั่วทั้งประเทศ เพื่อสนองความต้องการใช้พลังงานของประชาชน ซึ่งหากระหว่างการขนส่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็อาจเป็นสาเหตุของความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อมได้มากกว่าอุบัติเหตุในการขนส่งสินค้าทั่วไป
ทั้งนี้ การที่ผู้ขับขี่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของวัตถุอันตราย รวมไปถึงแนวทางวิธีการในการระงับความเสี่ยงและความเป็นอันตรายของวัตถุอันตรายเมื่อเกิดการรั่วไหล จึงเป็นการยกระดับความปลอดภัยในการขนส่งวัตถุอันตรายได้อีกทางหนึ่ง ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงได้ดำเนินการตามความตกลงระหว่างประเทศด้านการขนส่งสินค้าอันตรายที่ประเทศไทยเป็นภาคี
อย่างไรก็ตามโดยกำหนดให้ผู้ขับรถบรรทุกสินค้าที่เป็นวัตถุอันตรายทั้ง 9 ประเภท (ประเภทที่ 1 วัตถุระเบิด, ประเภทที่ 2 ก๊าซ, ประเภทที่ 3 ของเหลวไวไฟ, ประเภทที่ 4 ของแข็งไวไฟ, ประเภทที่ 5 สารออกซิไดส์, ประเภทที่ 6 สารพิษและสารติดเชื้อ, ประเภทที่ 7 วัสดุกัมมันตรังสี, ประเภทที่ 8 สารกัดกร่อน และประเภทที่ 9 วัตถุอันตรายเบ็ดเตล็ด) ต้องมีหนังสือรับรองการขับรถวัตถุอันตราย ควบคู่กับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถชนิดที่ 4 ซึ่งการจะได้รับหนังสือรับรองการขับรถวัตถุอันตรายนั้น ต้องผ่านการอบรมและทดสอบจากหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกมอบหมาย โดยมีหลักสูตรอบรม จำนวน 4 หลักสูตร
ดังนี้ หลักสูตรขั้นพื้นฐาน ซึ่งผู้ขับรถขนส่งสินค้าวัตถุอันตรายทุกประเภท ต้องผ่านการอบรมและทดสอบในหลักสูตรขั้นพื้นฐานทุกคน และหลักสูตรพิเศษ จำนวน 3 หลักสูตร สำหรับผู้ต้องปฏิบัติหน้าที่ขับรถวัตถุอันตรายประเภทที่ต้องการความเชี่ยวชาญเพิ่มเติม ประกอบด้วย หลักสูตรพิเศษสำหรับการขนส่งวัตถุอันตรายในรูปแบบแท็งก์, หลักสูตรพิเศษสำหรับการขนส่งวัตถุอันตราย ประเภทที่ 1 วัตถุระเบิด และหลักสูตรพิเศษสำหรับการขนส่งวัตถุอันตราย ประเภทที่ 7 วัสดุกัมมันตรังสี
นายจิรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หนังสือรับรองการขับรถวัตถุอันตรายมีลักษณะเป็นบัตรสมาร์ทการ์ดขนาดเดียวกับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถเพื่อให้สะดวกต่อการพกพา มีอายุไม่เกิน 3 ปี โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ผู้ขับรถวัตถุอันตราย (ท.4) ต้องเข้ารับการอบรมและทดสอบตามหลักสูตรอบรมที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ตามประเภทและลักษณะการบรรทุกวัตถุอันตราย ทั้งนี้ ความปลอดภัยการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนน ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน
ทั้งนี้โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนส่งวัตถุอันตรายต้องตระหนักและไม่ยินยอมให้พนักงานขับรถซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถชนิดที่ 4 (ท.4) และหนังสือรับรองการขับรถวัตถุอันตรายปฏิบัติหน้าที่โดยเด็ดขาด รวมถึงต้องมีเอกสารการขนส่งอยู่ในรถตลอดการขนส่ง ตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงและอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ตรวจสอบอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่จำเป็นในการระงับเหตุฉุกเฉิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยการขนส่งวัตถุอันตรายทางถนนของประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กสม. ชงนายกฯ เสนอแนะมาตรการความปลอดภัย เพื่อคุ้มครองเด็กจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
กสม. มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เสนอแนะมาตรการความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองเด็กจากอุบัติเหตุบนท้องถนน หลังเกิดโศกนาฏกรรมรถทัศนศึกษา
'กมธ.คมนาคม' สว. ไล่บี้กรมขนส่งฯ ปมบัสไฟไหม้ แนะขึ้นบัญชีรถบริการ 'ผู้สูงอายุ-นร.'
'สว.วุฒิชาติ' แจงเหตุชงญัตติด่วนไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ย้ำต้องยึดมาตรฐานความปลอดภัย ขู่เจอตรวจทิพย์ต้องดำเนินคดี แนะกรมขนส่งฯ ขึ้นบัญชีรถที่ให้บริการผู้สูงอายุ-นักเรียน
‘ขนส่ง’ สั่งเด้ง 2 นายช่างตรวจสภาพรถเปิดทางสอบสวนข้อเท็จจริงส่างปมรถบัสไฟไหม้
‘ขนส่งทางบก’ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีไฟไหม้รถบัสนักเรียน สั่งย้าย 2 ข้าราชการฝ่ายตรวจสภาพรถจังหวัดสิงห์บุรี ชี้หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการทางวินัยขั้นสูงสุด
'ธนกร' ฝากการบ้านคมนาคมตรวจเข้มสภาพรถบัสทั่วประเทศ!
'ธนกร' ฝากคมนาคมตรวจเข้ม สภาพรถบัสทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุไฟไหม้ ชี้ทัศนศึกษาเป็นเรื่องดี แต่ต้องแก้ตรงจุดตรวจสภาพรถ-คนขับให้ดี ปลอดภัยที่สุด เสียใจกับครอบครัวผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต
’ขนส่ง‘แจงปม นทท.จีนจ่ายเงินซื้อใบขับขี่ในไทย
นักท่องเที่ยวจีนโพสต์รีวิว จ่ายเงินซื้อใบขับขี่ในไทย ที่เชียงใหม่ ด้านขนส่งฯ แจงดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบของกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
รัฐบาลเข้มรถรับจ้างส่งนักเรียนต้องได้มาตรฐานและได้รับอนุญาต
รัฐบาลห่วงใยความปลอดภัยของเด็กและนักเรียน เข้มงวดรถรับจ้างรับส่งนักเรียนทุกคันต้องได้รับอนุญาต จากกรมการขนส่งทางบกและผ่านการรับรองจากโรงเรียน