นายกฯ เชื่อ 320 เสียงพรรคร่วม หนุน พ.ร.บ.กู้เงิน แจกดิจิทัล 1 หมื่นบาท ผ่านสภาฯ ลั่นหาเงินได้ ใช้เงินเป็น ย้ำจำเป็นประเทศเหตุอยู่ในวิกฤตที่ต้องกระตุ้น อ้างผู้ว่าการแบงก์ชาติแนะเองให้กู้
13 พ.ย. 2566 – เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 พ.ย.(ตามเวลาท้องถิ่นซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 15 ชั่วโมง ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท ที่สังคมมีทั้งคนเห็นด้วย เห็นต่าง และสนับสนุน ว่า ต้องให้ข้อมูลที่ชัดเจน และไม่อยากให้สังคมไทย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายตรงข้าม หรือพวกเดียวกัน ไม่อยากให้มีธง อยากให้รับฟังความคิดเห็นว่าข้อดีข้อเสียคืออะไร แล้วหยิบยกมาพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุโครงการดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นจริง และอาจไม่ผ่านสภา ประชาชนจะไม่มีโอกาสได้รับเงินจริง นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมมั่นใจว่าเสียงของผม อย่างพรรคร่วมรัฐบาลมี 320 เสียง ผมว่าเสียงของผมมั่นคง และเราทำงานเป็นทีม เชื่อว่าผ่าน”
เมื่อถามย้ำว่า คนไทยจะมีโอกาสได้ใช้เงิน 10,000 บาท หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่า มั่นใจ เป็นหน้าที่ผู้นำรัฐบาลต้องรับฟังเสียงประชาชน โครงการดีเลย์จากที่ประกาศไว้เพราะทีมงานของเราต้องรับฟังความเห็นทั้งหมด ทั้งเรื่องการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กำหนดเกณฑ์คนรวย การจำกัดรายได้ที่พูดคุยและถกเถียงกัน
เมื่อถามว่า โครงการนี้จะมีอุบัติเหตุที่จะทำให้สะดุดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจว่านโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดี เหมาะสม และไม่เกี่ยวกับเรื่องเทคนิคหรือกฎหมาย รัฐบาลยืนยันว่าทำถูกต้องทั้งหมด และทางคณะกรรมการกฤษฎีกาคงจะให้ข้อคิดเห็นในเชิงที่เป็นบวกและเราสามารถทำโครงการนี้ได้ แต่มีจุดเดียวคือ มีคำถามว่าตอนนี้เราอยู่ในวิกฤต หรือไม่ได้อยู่ในวิกฤต มีวิกฤตและความจำเป็นที่ต้องทำหรือไม่ ถ้าบอกว่ามีวิกฤตและความจำเป็นคือเรามีจีดีพีติดลบ แบบนั้นคงไม่ต้องทำ เพราะจีดีพียังไม่ติดลบ แต่ 9 – 10 ปี ที่ผ่านมา จีดีพีแค่ 1.9 % ต่อปี เราไม่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ประเทศอื่นโตกว่าเรา 2 เท่า คู่แข่งของไทยทั้งประเทศเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ มีการเติบโต สมัยก่อนอาจจะอยู่ในโลกของเราคนเดียวได้ แต่ปัจจุบันอยู่ในโลกการแข่งขัน ถ้าไม่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ วันหนึ่งอาจไม่มีใครอยากมาลงทุนที่ไทย รัฐบาลเชื่อว่าเราอยู่ในวิกฤตที่ต้องการการกระตุ้น แม้คนอื่นจะบอกว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องใช้เงินขนาดนี้ กระตุ้นแค่คนจนที่มีรายได้ต่ำจริงๆ ก็พอ หากเถียงกันไปอย่างนี้ก็ไม่จบ
ส่วนกรณีโหวตเตอร์พรรคเพื่อไทยบางส่วน รู้สึกผิดหวัง ที่ไม่เข้าเกณฑ์ได้รับเงิน เนื่องจากมีเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท ทั้งที่เกิดจากวินัยการออม และมีรายรับไม่เกิน 7 หมื่นบาทนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจและเห็นใจ แต่ต้องรับฟังทุกภาคส่วน ทั้งสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย มีความชัดเจนไม่ให้แจกคนรวย และมีการสอบถามถึงกำหนดเกณฑ์คนรวย โดยจะต้องกำหนดตัวเลขให้ชัดเมื่อถึงจุดหนึ่ง โดยคนที่มีรายได้เกิน 7 หมื่นบาท และเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท รัฐบาลได้ออกโครงการอีรีฟัน หากมีการใช้จ่ายจะได้เงินคืนประมาณ 1 หมื่นบาท เทียบเท่ากับเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทีมงานคิดมาแล้ว รวมถึงโครงการระยะยาวในกองทุนส่งเสริมการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมใหม่ เป้าหมาย เช่น รถอีวี ไมโครชิพ จำนวน 1 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มใช้ในเดือน มิ.ย. 2567 ที่ต้องทำเร่งด่วน
เมื่อถามว่า ประชาชนมีข้อสงสัยว่าเงินฝาก 5 แสนบาท รวมไปถึงสลากออมสิน หุ้นกู้ กองทุนรวม และเงินเกษียณ ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า นับเฉพาะเงินฝากอย่างเดียว ไม่นับกองทุนรวมเพราะตรวจสอบไม่ได้ ส่วนเงินเกษียณ ถ้าไปในบัญชีก็นับรวมด้วย สำหรับเงินสดที่เก็บอยู่ที่บ้านไม่นับ โดยจะเริ่มตรวจสอบว่ามีเงินในบัญชีตั้งแต่เดือน ก.ย. 66 ทั้งนี้เมื่อครั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เติมเงินในแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่พบว่า 15 % ไม่มีการใช้จ่ายเพราะคนไม่ได้ใช้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีเงินพอที่จะนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประชาชนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย หาเงินได้ ใช้เงินเป็น นายกฯ กล่าวว่า “ผมเป็นนายกฯที่มาจากพรรคอะไร พรรคเพื่อไทย สื่อก็บอกว่าหาเงินได้ใช้เงินเป็น ผมก็มั่นใจว่าผมหาเงินได้ใช้เงินเป็น ส่วนเรื่องที่มาของการออกจะเป็นพ.ร.บ.เงินกู้ ทางผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้บอกเองว่านายกฯ กู้ดีกว่า ตอนนี้จาก 61% เป็น 64% เพราะเพดานเงินกู้อยู่ที่ 70% ให้กู้เลย ถ้านำมาใส่โครงการนี้บวกกับโครงการอื่น และหากยกระดับจีดีพีขึ้นไป สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะลดตามไป แม้หนี้จะเพิ่มแต่ถ้าจีดีพีมากกว่า หนี้จะลดลง”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เวชระเบียน’หลอนทักษิณ โยนรพ.ตำรวจมอบให้ปปช.
นายกฯ พยักหน้ารับปม "ป.ป.ช." ทวงถามเวชระเบียนรักษาตัว
'อิ๊งค์' แค่พยักหน้า ปม รพ.ตร. ไม่ยอมส่งเวชระเบียน 'พ่อนายกฯ' ให้ ป.ป.ช.
'นายกฯอิ๊งค์' ปฏิเสธตอบคำถาม ปม รพ.ตำรวจ ไม่ส่งเวชระเบียนรักษาตัว 'ทักษิณ' หลัง ‘ป.ป.ช.’ ทวงแล้ว 3 ครั้ง ทำแค่พยักหน้ารับทราบ
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
'ปชน.' ตีปี๊บ! 1 ปีฝ่ายค้านผลงานเพียบ เมินเรตติ้งร่วง โต้ฮั้ว พท.
'พรรคประชาชน' โวผลงานฝ่ายค้าน 1 ปี' เสนอกฎหมาย 84 ฉบับ ตั้งเป้าทำงานผสมผสานได้ทั้ง 'รุก-รับ' ปัดฮั้ว 'เพื่อไทย' เมินผลโพลคะแนนร่วง เปรียบ 'เตะบอล' ต้องรอจบ 90 นาที
'กูรูใหญ่' แฉเบื้องลึก! ทำไมนักการเมืองยุคนี้ไม่กลัว 'ยึดอำนาจ'
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองไทยกำลังเข้าสู่ทางตัน