บีโอไอ เปิดตัวเลขครึ่งปีแรกลงทุนภาคใต้ทะลุ 9 พันล้านบาท

บีโอไอ เปิดตัวเลข 6 เดือนลงทุนภาคใต้ทะลุ 9 พันล้านบาท พร้อมยกทัพลุยยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนภาคใต้ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรจัดงานชี้ศักยภาพและโอกาสการลงทุน ดึงนักธุรกิจในพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 180 คน

5 ก.ย. 2566 – นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อ 1 ก.ย. 2566 บีโอไอร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร อาทิ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) สภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าภาคใต้ จัดงาน “NEW Economy, NEW Opportunities” ที่จังหวัดสงขลา เพื่อประชาสัมพันธ์ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (2566 – 2570) และมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ที่สนับสนุนผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ โดยเน้นการส่งเสริมการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ภาคใต้มีศักยภาพ เช่นอุตสาหกรรมการเกษตร อาหาร ท่องเที่ยว และ BCG โดยมีผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 180 คน

“ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ยอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ มีจำนวน 53 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 9,600 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป ถุงมือยางทางการแพทย์ กิจการท่องเที่ยว และดิจิทัล สะท้อนให้เห็นว่าภาคใต้เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ ทั้งในด้านการเกษตร การท่องเที่ยว การค้าและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ และเห็นว่าภาคใต้มีทำเลที่ตั้งที่ดีและมีจุดแข็งอยู่มาก บีโอไอมองเห็นโอกาสในการดึงศักยภาพเหล่านี้มาทำให้เกิดพลังดึงดูดการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ สร้างความเจริญและอนาคตที่สดใสให้กับคนในพื้นที่” นายนฤตม์ กล่าว

สำหรับทิศทางการพัฒนาภาคใต้ตอนบน รัฐบาลมุ่งผลักดันให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค รองรับการขนส่งทั้งทางทะเลและทางบก โดยประกาศ “ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC)” ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี และเดินหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย – อันดามัน หรือ Land Bridge เงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท โดยจะมีการสร้างท่าเรือน้ำลึก มอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่ เพื่อเชื่อมต่อการค้าจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น และจีน ไปสู่เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาทางฝั่งอันดามัน เป็นต้น

ในส่วนของภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะพัฒนาให้เป็นพื้นที่รองรับการลงทุน ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนิคมอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เช่น นิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) เป็นต้น ซึ่งเป็นต้นแบบในการยกระดับการแปรรูปวัตถุดิบในพื้นที่สู่สินค้าที่มีมูลค่าสูง อาทิ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากยางพารา ผลิตภัณฑ์แปรรูปและเคมีภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน นอกจากนี้ ภาคใต้ตอนล่างยังมีศักยภาพในการเป็นประตูเศรษฐกิจการค้าแห่งภูมิภาคที่เชื่อมโยงกับมาเลเซียและสิงคโปร์ สะท้อนจากมูลค่าการค้าชายแดนของภาคใต้กว่า 6.6 แสนล้านบาท นับว่าสูงที่สุดในประเทศ

นอกจากภาคการผลิตและโลจิสติกส์แล้ว ภาคใต้ยังมีศักยภาพสูงในภาคบริการ ทั้งการท่องเที่ยวมูลค่าสูง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหาร รวมถึงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ 11 แห่งในพื้นที่ภาคใต้ นำโดยเมืองอัจฉริยะภูเก็ต หนึ่งในต้นแบบเมืองอัจฉริยะของไทย ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพให้เข้ามาพำนักอาศัยและทำงานในประเทศไทยระยะยาว และช่วยต่อยอดและสร้างรายได้ให้แก่พื้นที่ท่องเที่ยวและชุมชนได้อย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 3 เตือนฝนถล่มภาคใต้ คลื่นลมอ่าวไทย-อันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ ฉบับที่ 3 (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567)

รัฐบาลฟุ้งต่างชาติแห่ลงทุนกิจการดาต้าเซ็นเตอร์ต่อเนื่อง

'ศศิกานต์' เผยต่างชาติเชื่อมั่น ลงทุนในกิจการ Data Center ในประเทศไทยต่อเนื่อง ล่าสุด BOI ไฟเขียว 2 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท