พาณิชย์เร่งเดินหน้าพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ไทย รับมือการแข่งขัน

18 ส.ค. 2566 - นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า  กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะหน่วยงานหนึ่งที่มีภารกิจในการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ SMEs ของไทย โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ให้มีศักยภาพและมาตรฐาน สามารถให้บริการรองรับการแข่งขันในยุคปัจจุบันและ การค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป  จึงได้ดำเนินโครงการ “สร้างศักยภาพธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ไทยสู่สากล” ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมการพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ให้มีระบบการบริหารจัดการในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานระดับสากล และเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ด้วยเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลต่อการขยายตัวของมูลค่าธุรกิจโลจิสติกส์ของประเทศ

นายทศพลกล่าวว่า การพัฒนาจะเน้นส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างโอกาสในการแข่งขัน และ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการและเชื่อมโยงข้อมูลธุรกิจ ในการต่อยอดธุรกิจได้อย่างเหมาะสมตามข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานสากล และได้รับการรับรองมาตรฐานเพื่อ สร้างความเชื่อมั่นและโอกาสทางการค้าสู่สากล เพื่อให้ ผู้ประกอบการสามารถใช้เทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการธุรกิจ ขยายโอกาสทางการตลาด และฐานลูกค้าได้อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อต่อยอดให้ธุรกิจมีการให้บริการ โลจิสติกส์ที่ครบวงจร

 ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น สมาคมผู้จัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในการจัดทำหลักสูตรและร่วมเป็นวิทยากร เพื่อเสริมสร้างความรู้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ มีความเข้าใจ ภาพรวมแนวโน้มธูรกิจให้บริการโลจิสติกส์ มีระยะเวลา ดำเนินการสิ้นสุดภายในเดือนกันยายน 2566 นี้ ผ่านกิจกรรมจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ และ กิจกรรมเวิร์คช้อป ( Work shop)ใน การวิเคราะห์ธุรกิจเชิงกลยุทธ์ การวางแผนธุรกิจ และแนวคิดวิธีนำไปสู่การบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ   การรวบรวมข้อมูล และการเข้าถึงข้อมูล ผ่านการใช้  แอพพลิเคชั่น ต่างๆ และ สุดท้าย คือกิจกรรม ยกระดับความเชื่อมั่นธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์  สู่มาตรฐานสากล โดยแนะนำการวางระบบตามแนวทางมาตรฐาน ISO 9001 ณ สถานประกอบการเพื่อให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้าง โดยทั้ง 3  กิจกรรมตั้งเป้าหมายพัฒนาผู้ประกอบการรวม 600  ราย

อย่างไรก็ดี โครงการนี้ จะช่วยให้ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์สามารถใช้เทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการธุรกิจ ขยายโอกาสทางการตลาด และฐานลูกค้าได้อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อต่อยอดให้ธุรกิจมีการให้บริการโลจิสติกส์ที่ครบวงจรในอนาคต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทย-ตุรกี ชื่นมื่น รมช. สุชาติ จับมือ รมช. การค้าตุรกี ผลักดันเจรจา FTA ต่อ เพื่อสานสัมพันธ์การค้าการลงทุน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้พบหารือทวิภาคีกับนายมุสตาฟา ตุซคู (H.E. Mr. Mustafa Tuzcu) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าสาธารณรัฐตุรกี ในห้วงการเดินทางเยือนตุรกี เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการถาวรว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า

“รมช. สุชาติ” ร่วมเวทีครบรอบ 40 ปี COMCEC กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับโลกมุสลิม มุ่งส่งเสริมการค้าผ่านระบบดิจิทัล

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมประชุม COMCEC ครั้งที่ 40 ณ นครอิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้า มุ่งกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศมุสลิม

พาณิชย์ติดตามสถานการณ์ข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่ของเกษตรกร พร้อมเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรใน นบข. 8 พ.ย.นี้

พาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ทุ่งกุลาร้องไห้ ติดตามการซื้อขายข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ ที่เริ่มทยอยออกสู่ตลาด และพบปะกลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์

พาณิชย์ ร่วมกับ ICONSIAM จัดงาน ‘Market D @ICONSIAM’ เปิดตลาดใหม่ให้ผลิตภัณฑ์ชุมชน เจาะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ จัดเต็ม 9 สัปดาห์ ตั้งแต่วันนี้ - 22 ธ.ค.67 ณ ลานเมืองสุขสยาม ICONSIAM

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน ในงาน ‘Market D @ICONSIAM’ ปลื้มที่เห็นความสำเร็จของสินค้าไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายกทัพผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นทั่วไทย

“สุชาติ” เคลียร์ชัด ”มาตรการช่วยเกษตรกร“ เป้าหมายรัฐบาลนายกแพทองธาร “เกษตรกรต้องมีกินมีใช้”

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับมอบหมายจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบกระทู้แทนท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นกระทู้ถามด้วยวาจาของท่านเศรณี อนิลบล สมาชิกวุฒิสภา เกี่ยวกับประเด็นราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ว่า