‘ส.ว.อกนิษฐ์’ ชงสังคายนาประวัติศาสตร์ปัตตานี แก้ปัญหาปลุกระดม

2 ก.ค.2566-พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภาและประธานคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา ในฐานะอดีตนายทหารที่เคยมีประสบการณ์ทำงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาหลายปี กล่าวถึงการแก้ปัญหาภาคใต้ในระยะยาวในช่วงที่กำลังจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องคิดใหม่ เคยมีคนถามผมว่าถ้ามีอำนาจจะแก้ปัญหาอย่างไร ก็ให้ความเห็นไปว่า ต้องแก้ที่ตัวเองก่อน ฝ่ายเรา วิธีคิดฝ่ายเรา ต้องแก้กระบวนทัศน์ก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้พูดมาตั้งแต่สมัยรับราชการทหารว่า พื้นที่ดังกล่าว มีสนามรบสองสนามซ้อนกันอยู่ คือ สนามรบทางทหาร เช่น ซุ่มยิง วางระเบิด กับสนามรบทางวัฒนธรรม การต่อสู้ทางวัฒนธรรม เพื่อดำรงอัตลักษณ์ของความเป็นมลายู-ปัตตานีแม่ทัพเป็นแม่ทัพในสนามรบทางทหารได้ แต่ในสนามรบทางวัฒนธรรม ไม่ใช่ เริ่มตั้งแต่อะไร ก็ความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ ใครจะไปแก้ กระทรวงวัฒนธรรมหรือกระทรวงศึกษาธิการ

“ผมเสนอให้มีการสังคายนา ประวัติศาสตร์ปัตตานี พูดไว้นานแล้วตั้งแต่รับราชการ ไม่ใช่ว่าใครอยากศึกษาประวัติศาสตร์ปัตตานี ต้องไปแอบหาหนังสืออ่าน ก็ควรให้มีการมานั่งพูดคุยกัน โดยมีผู้รู้ นักวิชาการต่างๆ ให้มีความหลากหลาย มองประวัติศาสตร์ปัตตานี แล้วสรุปให้มีเรื่องเดียว มีฉบับเดียว ไม่ใช่มีหลายฉบับแล้วเอาประวัติศาสตร์ไปบิดเบือน ไปปลุกระดม บอกว่า ปาตานี ผมไม่เคยเห็น ไม่มี ประเทศไทย ไม่เคยมีปาตานี มีแต่จังหวัดปัตตานี ประเทศไทยอาจมีประวัติศาสตร์หลายฉบับก็ได้ ประวัติศาสตร์ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประวัติศาสตร์ของภาคเหนือล้านนา ประเทศหนึ่งมีหลายประวัติศาสตร์ได้ แต่จะยอมรับกันได้ไหม นี้คือเรื่องกระบวนทัศน์”

พล.อ.อกนิษฐ์กล่าวว่า  เรื่องลักษณะดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องของแม่ทัพ แต่เป็นเรื่องของเวทีประชาชน คณะพูดคุยฯ ที่เป็นจุดอ่อน ตรงนี้คือไม่ยึดโยงกับประชาชน ทั้งที่ประชาชนคือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นผู้ได้รับผลกระทบ เป็น stakeholder ใหญ่ ส่วนว่าจะให้ประชาชนมีบทบาท เปิดพื้นที่ให้เขาแสดงความคิดเห็นอย่างไร ค่อยมาหารือกันว่าจะมีวิธีการอย่างไร

ถามว่า โมเดลการมีคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล คณะทำงานลักษณะดังกล่าวยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า ต้องถามว่าคณะดังกล่าว เป็นพันธะกรณีหรือไม่ บางคนที่เคยอยู่ในคณะแบบนี้ไปลงนาม เป็นพันธะกรณีหรือไม่ คือหากเป็นพันธะกรณี ยังไง เราก็ต้องปฏิบัติตาม เปลี่ยนรัฐบาลยังไง ก็ต้องปฏิบัติตาม แต่อันนี้ไม่ใช่พันธะกรณี เพราะการเป็นพันธะกรณีคือต้องมีลักษณะแบบสนธิสัญญา มีการลงนามกัน ต้องส่งเรื่องมาที่รัฐสภา ถามว่าจะเลิกเมื่อไหร่ได้หรือไม่ ก็ตอบว่าเลิกได้ เพราะไม่ใช่พันธะกรณี แต่จะเลิกตอนนี้เลยได้หรือไม่ เลิกนะเลิกได้ แต่ผลคืออะไร ก็คือทั่วโลกที่เขาสนใจ จะมองว่าประเทศไทยไม่ยอมใช้สันติวิธี

พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวที่มีการจัดตั้งขบวนการนักศึกษา มีการจัดกิจกรรมทางความคิดเรื่องแยกดินแดนที่ปัตตานีว่า เป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว และมีไม่รู้กี่ขบวนการ บางกลุ่มหายไป ก็มีกลุ่มใหม่ขึ้นมา มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่มีบางพรรคการเมืองที่กำลังจะเข้าไปเป็นรัฐบาลบอกว่า มีนโยบายจะให้ ทหารด้านความมั่นคงออกจากพื้นที่หรือการยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่นั้น ต้องบอกว่า เรื่องให้ทหารออกจากพื้นที่ ในความเป็นจริง ในปีพ.ศ. 2570 กำลังทหารด้านความมั่นคงก็จะไม่มีในพื้นที่แล้ว เรื่องนี้อยู่ในแผนลดทหารในพื้นที่ ส่วนการปรับบทบาทกอ.รมน. ก็มีการปรับอยู่แล้ว เขามีการทำอยู่แล้วเรื่องพวกนี้ มันไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นการเอาเรื่องที่เขาทำอยู่แล้วมาพูด เพราะอย่างตามแผนที่ทราบมา ในปีพ.ศ. 2570 กองทัพภาคที่ 4 ก็จะถอนทหารออกหมด ส่วนหากจะมีการทำอะไรกันก่อนหน้าปี 2570  ก็ต้องดูว่าเขาจะมีมาตราการมารองรับสถานการณ์หรือไม่ และรัฐบาลจะรับผิดชอบหรือไม่ หากมีเหตุการณ์อะไรขึ้นมา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปัตตานีอุกอาจ! ยิงทหารพรานดับในคลองชลประทาน

พ.ต.อ.พัฒนชัย ปาละสุวรรณ ผกก.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งพบศพบริเวณคลองชลประทาน ม.1 ต. คอลอตันหยง อ.หนองจิก หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

คนร้ายประกบยิงลูกจ้าง อบต. ดับคาที่

พ.ต.อ.พัฒนชัย ปาละสุวรรณ ผกก.สภ.หนองจิก ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิต 1ราย เหตุเกิดที่ม. 1 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งจึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

อุกอาจ! คนร้ายถล่มยิงรองนายก อบต. ดับคาที่

พลตำรวจตรี สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ต.อ.ชาญศราวุธ แสงอรุณ ผกก.สภ.นาประดู่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าทำการตรวจสอบกรณีเหตุคนร้ายลอบยิง นายนันท์ คงสมบูรณ์ อายุ 57 ปี

คนบันเทิงเตรียมสะบัดธงสีรุ้ง ชวน LGBTQ+ ทั่วโลกรวมตัวที่ไทย 1 มิถุนายนนี้

นฤมิตไพรด์ จับมือ กรุงเทพมหานคร และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมพันธมิตรภาคประชาสังคมและภาคเอกชน จัดแถลงข่าวเตรียมความพร้อมที่จะเนรมิต ถนนพระราม 1 เป็นถนนสีรุ้งแห่งความเท่าเทียมใจกลางกรุงในงาน “บางกอกไพรด์ เฟสติวัล 2024” (Bangkok Pride Festival 2024)