นายกฯ พอใจสถานการณ์ลงทุนอุตสาหกรรมตามยุทธ์ศาสตร์ส่งเสริมลงทุนใหม่ ยอดขอบีโอไอทั้งไทยต่างชาติโตสูง ตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อนโยบายที่รัฐบาลได้วางฐานไว้
24 พ.ค.2566 - น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์ภาคอุตสาหกรรมโดยต่อเนื่อง เพื่อทราบถึงประสิทธิผลของนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อการเติบโตที่รวดเร็ว เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ประกอบด้วยอุตสาหกรรมใหม่เช่น หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม, การบินโลจิสติกส์, ชีวภาพ, ดิจิทัล และต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีศักยภาพ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ, ท่องเที่ยวเชิงสุภาพ, เกษตรชีวภาพ และแปรรูปอาหาร
น.ส.ไตรศุลีกล่าวอีกว่า ระยะที่ผ่านมารัฐบาลโดยหน่วยงานและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้วิเคราะห์สถานการณ์การแข่งขันระหว่างประเทศ แนวโน้มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่มีการเปลี่ยนเชิงโครงสร้างทั่วโลกเพื่อกำหนดเป็นชุดนโยบายส่งเสริมทั้งที่เป็นมาตรการภาษีและไม่ใช่ภาษี ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ได้รายงานข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีรับทราบผลของนโยบายเป็นระยะ
“นายกฯ พอใจต่อสถานการณ์ในภาพรวม ที่ตอนนี้ทั้งไทยและต่างชาติสนใจการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ หรือ New S-Curve ทำให้อุตสาหกรรมไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ขณะที่ตัวเลขขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นการย้ำถึงความเชื่อมั่นต่อนโยบายด้านอุตสาหกรรมที่รัฐบาลวางพื้นฐานไว้” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สำนักงานบีโอไอ ได้เปิดเผยถึงสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนไตรมาส1/66 (ม.ค.-มี.ค.) มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 397 โครงการ เพิ่มขึ้น 9% มูลค่าเงินลงทุน 185,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% ในจำนวนข้างต้นเป็นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 205 โครงการ มูลค่ารวม 154,414 ล้านบาท คิดเป็น 83% ของมูลค่าการขอรับส่งเสริมทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป เคมีภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ตามลำดับ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า หากแยกตามกลุ่มนักลงทุนแล้วพบว่าเป็นคำขอรับการส่งเสริมของต่างชาติ 211 โครงการ เพิ่มขึ้น 10% เงินลงทุน 155,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115% โดยชาติที่มีมูลค่าการลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี 31,400 ล้านบาท สิงคโปร์ 29,742 ล้านบาท จีน 25,001 ล้านบาท และญี่ปุ่น 24,771 ล้านบาท โดยจะเห็นว่ามูลค่าการลงทุนจากสาธารณรัฐเกาหลี และสิงคโปร์สูงมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีโครงการใหญ่ที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการใหม่ในปีนี้ ขณะที่ตัวเลขการลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น แม้จะอยู่ในอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ แต่ก็เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กล่าวคือเพิ่มขึ้น 87% สำหรับการลงทุนจากจีน และ 147% สำหรับญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงเลือกไทยเป็นฐานผลิตสำคัญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ซาบีดา' ลุยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานมีฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ. อุทัยธานี
'อนุทิน' สั่ง ปภ.เกาะติดน้ำท่วมเหนือ-อีสาน
'อนุทิน' ห่วงใยพี่น้องประชาชนภาคเหนือ-อีสาน ประสบอุทกภัย เกาะติดทุกพื้นที่ใกล้ชิด พบ 7 จังหวัดยังมีน้ำท่วม จ.น่านมีระดับน้ำสูงขึ้น กำชับ ปภ. ประสานหน่วยเกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ
'พีระพันธุ์' ยัน รทสช.หนุนแคนดิเดตจากเพื่อไทยแต่ต้องไม่มีเรื่อง 112
'รทสช.' ยันจุดยืนหนุนแคนดิเดตเพื่อไทยเป็นนายกฯต่อ แต่ต้องไม่แก้ ม.112 ยังไม่เคาะชื่อ 'ชัยเกษม นิติสิริ' หลังถามเรื่องสุขภาพ ลั่นไม่มีข้อตกลงบ้านจันทร์ส่องหล้า ด้านนโยบายเงินหมื่นรอ 'พท.' ชี้แจง
รัฐบาลชวนเที่ยวงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ 16-25 ส.ค.นี้
รัฐบาลเชิญชวนเที่ยวงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2567 ภายใต้แนวคิด 'Future Science Community for All' ระหว่างวันที่ 16 - 25 ส.ค. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
‘บีโอไอ’ เสริมแกร่งชิ้นส่วนยานยนต์ไทยส่งเสริมต่างชาติร่วมทุน
บีโอไอ ไฟเขียวมาตรการส่งเสริมการร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยและต่างชาติในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ มุ่งยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม คว้าโอกาสการก้าวสู่ Supply Chain ระดับโลก พร้อมอนุมัติมาตรการส่งเสริมกิจการขนส่งทางอากาศ รองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และเคาะส่งเสริมลงทุนกิจการดาต้า เซ็นเตอร์ จากฮ่องกง มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท