แบงก์รัฐพร้อมดำเนินการพ.ร.ก.ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ธนาคารสมาชิกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐพร้อมดำเนินการ ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

20 มี.ค. 2566 – นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (The Government Financial Institutions Association : GFA) เปิดเผยว่า ธนาคารสมาชิกสมาคมสถาบันการเงินของรัฐพร้อมดำเนินการตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยเฉพาะสถาบันการเงินของรัฐ 4 แห่งที่มีธุรกรรมด้านเงินฝากประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ไอแบงก์) จะเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ การเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าที่เกี่ยวข้องหากพบเหตุอันควรสงสัย หรือได้รับข้อมูลจากระบบหรือกระบวนการ รวมถึงระงับธุรกรรมนั้นไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันที่พบเหตุอันควรสงสัยหรือได้รับแจ้ง

พร้อมให้เปิดเผยข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ และแจ้งให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภายใน 72 ชั่วโมง เพื่อเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพร้อมให้ความร่วมมือในการเร่งดำเนินการระงับการทำธุรกรรมเป็นการชั่วคราว หากได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวเข้าข่ายเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และนำข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้ระงับการทำธุรกรรมดังกล่าวไว้ทันที และหากไม่มีคำสั่งให้ระงับการทำธุรกรรมไว้ต่อไปภายในระยะเวลาดังกล่าว สถาบันการเงินพร้อมยกเลิกการระงับการทำธุรกรรมนั้นต่อไป

ทั้งนี้ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เชื่อว่า พ.ร.ก.ที่ออกมานั้นจะส่งผลดีต่อประชาชน และสามารถลดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดหรือสงสัยว่าจะเป็นเหตุให้มีการกระทำความผิด สามารถแจ้งที่ศูนย์ Hot line ของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สาขาของสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง หรือ ผ่านทาง Call Center, Line@, Facebook, Website และ Mobile Application

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธอส.โชว์ปี 67 ปล่อยสินเชื่อใหม่ทะลุ 2.3 แสนล้านบาท

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2567 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้รวม 236,547 ล้านบาท โดยเป็นการปล่อยสินเชื่อใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 123,774 ราย ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 4/2567 เทียบกับ ณ สิ้นปี 2566 สินเชื่อคงค้าง 1,800,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06%, สินทรัพย์รวม 1,884,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.53%, เงินฝากรวม 1,630,490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.83% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 89,117 ล้านบาทคิดเป็น 4.95% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 สะท้อนการแก้หนี้ที่ตรงจุดให้กับลูกค้า ยืนยันพร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง เดินหน้าสนับสนุนคนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ธ.ก.ส. จับมือ สมาคมฌาปนกิจฯ อสม. ปล่อยสินเชื่อเงินด่วนสิบหมื่น

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และนายแพทย์ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านแห่งประเทศไทย

ทริสเรทติ้ง คงเครดิต ‘ธอส.’ ระดับ AAA 5 ปีติด

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผย ทริสเรทติ้ง ประกาศการจัดอันดับเครดิตองค์กรของ ธอส. ปี 2567 โดยคงอันดับเครดิตองค์กรในระดับ AAA เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และแนวโน้มอันดับเครดิตของ ธอส. ที่ระดับคงที่ (Stable) ตอกย้ำความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินและการเป็นผู้นำด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคาร

REIC ชี้ ไทยที่อยู่อาศัยคนแก่ขาดแคลนสวนทางประชากรสูงวัยโตพรวด

“REIC” เปิดผลสำรวจที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ ปี 2567 ยังไม่เพียงพอรองรับความต้องการ หลังประชากรสูงวัยโตพรวด 4.89% กางทั้งประเทศมีโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุเพียง 916 แห่ง ส่วนใหญ่ปักหมุดในนกรุงเทพ-ปริมณฑล

ธอส.เอาใจผู้สูงวัยอยากมีบ้านจัดสินเชื่อ 4 โครงการ

'คารม' เผย ธอส. สนับสนุนผู้สูงวัยมีบ้านก่อนสิ้นปี จัดทำสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุนำโดยอัตราดอกเบี้ย 3 เดือนแรก 0% ผ่อนชำระเพียงล้านละ 4,300 บาทต่อเดือน ยื่นได้ ธอส.ทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป