29 ก.ย.2564-น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสครบรอบการดำเนินงาน 15 ปี ทสภ. ภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ นำมาซึ่งรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล แม้ต้องเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ ทสภ. ยังคงพร้อมให้บริการผู้โดยสาร และเตรียมพร้อมรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ตลอดจนสร้างความพึงพอใจในการให้บริการภายใต้รูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (NEW NORMAL) โดยการก้าวเข้าสู่ปีที่ 16 จะมุ่งมั่นพัฒนา และยกระดับคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่องทุกด้าน เพื่อคงความเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชีย และสมกับเป็นประตูสู่นานาชาติของไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างรอยยิ้มให้คนไทยอีกครั้ง
สำหรับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 64 ตั้งแต่เดือน ต.ค.63 – ส.ค.64 (รวม 11 เดือน) ทสภ. มีสายการบินประจำให้บริการ 77 สายการบิน มีเที่ยวบินทำการบินขึ้น-ลง 1.13 แสนเที่ยวบิน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 46.4% มีผู้โดยสารใช้บริการรวม 5.95 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 80.7% และมีปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 1.1 ล้านตัน ลดลง 4.3% ทั้งนี้นับตั้งแต่ ทสภ. เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.49 มีผู้โดยสารใช้บริการรวมกว่า 692 ล้านคน ปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศรวม 18.6 ล้านตัน ปริมาณเที่ยวบินรวมกว่า 4.3 ล้านเที่ยวบิน
น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทสภ. ได้พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการผู้โดยสารในด้านต่างๆ อาทิ โครงการก่อสร้างอาคารจอดรถด้านทิศตะวันออก (อาคารจอดรถโซน 2 ส่วนขยาย) หากก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.65 จะสามารถเพิ่มช่องจอดรถให้สามารถจอดรถได้ 1,022 ช่องจอด, โครงการปรับปรุงอาคารจอดรถโซน 2 และอาคารจอดรถโซน 3 เพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยในการใช้บริการ และติดตั้งระบบจัดเก็บค่าบริการจอดรถยนต์แบบอัตโนมัติ (Auto Pay) ใช้งานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยสามารถดูจำนวนช่องจอดได้แบบเรียลไทม์ และในอนาคตจะสามารถดูจำนวนช่องจอดรถที่สามารถใช้งานได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น AOT Airports
นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาพื้นที่ลานจอดรถระยะยาวโซน A และลานจอดรถโซน 6 – 7, โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารผู้โดยสาร, โครงการก่อสร้างและปรับปรุงห้องสุขา ภายในอาคารผู้โดยสาร อาคารเทียบเครื่องบิน A ถึง G 52 จุด และการจัดทำห้องให้นมบุตร (BABY ROOM) เพิ่มเติม ณ ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ชั้น 2 อาคารเทียบเครื่องบิน D และ ขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 3 อาคารเทียบเครื่องบิน B, โครงการปรับปรุงจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โซน 1-3 อาคารผู้โดยสาร, โครงการพัฒนาระบบรถรับจ้างสาธารณะ (รถแท็กซี่) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ทสภ. ยังปรับปรุงพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ด้านขนส่งสินค้าทางอากาศ อาทิ โครงการตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนส่งออก (Preshipment Inspection Center) หรือ PPL เป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าและมาตรฐานการตรวจสอบสินค้าเกษตรให้แก่ผู้ส่งออกและเกษตรกรของไทย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก้ จำกัด และ บริษัทเอกชนหลายแห่งที่ให้ความร่วมมือส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานสินค้าการเกษตรของไทยให้ทัดเทียมนานาชาติโดย คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 65
นอกจากนี้ยังเป็นโครงการที่เชื่อมโยงท่าอากาศยานภูมิภาค (AOT Local Logistics Link) เพื่อประกอบกิจการกระจายสินค้าภายใต้การขนส่งหลายรูปแบบ ที่นำเข้าทางด่านศุลกากรอื่น เพื่อมาปฏิบัติพิธีการศุลกากร ณ เขตปลอดอากร ทสภ. นับเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการส่งมอบสินค้าภายใต้หลักการจัดการโลจิสติกส์ที่สร้างความได้เปรียบในการขนส่งสินค้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 65, โครงการขยายอาคารตรวจค้น (Access Control), โครงการติดตั้งระบบออกบัตรคิวอัตโนมัติ (AOT Free Zone Smart Queue Application) และจะดำเนินการพัฒนาระบบในส่วนของการจองคิวล่วงหน้าแบบออนไลน์ผ่าน Mobile Application (FZ Smart Queue)
และโครงการปรับปรุงสำนักงานศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปรามทั้ง 4 โครงการ มีกำหนดเวลาแล้วเสร็จประมาณเดือน ธ.ค.65 และโครงการติดตั้งระบบบริหารจัดการบุคคลและยานพาหนะที่ผ่านเข้า-ออกพื้นที่กำกับดูแล ณ เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ทสภ. หรือ Pre-Smart AccessPhase 1 Digital Cargo M4 เป็นระบบสำหรับออกบัตรอนุญาตบุคคลและยานพาหนะชนิดชั่วคราวรายวัน (ไม่เกิน 24 ชม.) สำหรับบุคคลทั่วไป (Visitor) โดยคาดว่าจะพัฒนาและติดตั้งระบบแล้วเสร็จประมาณเดือน มิ.ย.2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระทึก! สาวโปแลนด์ ขู่บึ้มเครื่องบินกลางอากาศ ทสภ. งัดแผนเผชิญเหตุ
ศูนย์วิทยุสุวรรณภูมิภาคพื้นดิน รับแจ้งจากกัปตันเครื่องบิน เที่ยวบิน VZ 961 ของสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ มีผู้โดยสารขู่วางระเบิด ระหว่างบินบนอากาศ
'สนามบินสุวรรณภูมิ' ซ้อมแผนเผชิญเหตุกราดยิง
เมื่อเวลา 01.00 น. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เป็นประธานในจัดการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ (Full Scale Exercise)