![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/02/ชัยวุฒิ.jpg)
รมต.ดีอีเอส เตือน! แก๊งรับจ้างเปิดบัญชีม้า – ซิมม้า ระหวังโทษหนัก รีบไปแจ้งยกเลิกบัญชี หลัง ครม. เห็นชอบ พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมไซเบอร์ เตรียมเช็กบิล ต้นตอคอลเซ็นเตอร์ หลังระบาดหนักต่อเนื่อง
15 ก.พ. 2566 – นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เปิดเผยว่า คณะรัฐมตรีได้มีมติเห็นชอบ ร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ เมื่อประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา โดยกฎหมายฉบับดังกล่าว จะช่วยแก้ปัญหาการหลอกลวงออนไลน์รวมถึงอาชญากรรมรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการระงับยับยั้งการโอนเงินผ่านบัญชีม้า ซึ่งต่อไปผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า จะมีความผิดตามกฎหมาย คือ โทษจำคุก 3 ปี ปรับ 300,000บาท และหากพบว่ามีการใช้บัญชีม้าในการโอนเงินของคนร้าย หรือมิจฉาชีพ จะสามารถอายัดบัญชี และหยุดการโอนเงินทุกบัญชีที่เกี่ยวข้อง ในการโอนต่อไปเป็นทอดๆ ได้ทั้งหมด
นอกจากนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมากํากับดูแลและออกนโยบาย และกําหนดว่าลักษณะที่เป็นพฤติกรรมต้องสงสัยในการโอนเงิน หากเข้าข่ายเป็นพฤติกรรมต้องสงสัย และตรวจพบจะสามารถอายัดบัญชี และหยุดการทําธุรกรรม เพื่อรอการตรวจสอบได้เป็นเวลา 7 วัน ถ้าพบว่าทําถูกต้องตามกฎหมายไม่ใช่มิจฉาชีพก็จะปล่อยให้สามารถทําธุรกรรมต่อไปได้ แต่หากพบว่าเป็นบัญชีที่มีปัญหา ก็จะสั่งปิดและดําเนินคดี โดยการเพิ่มอํานาจนี้จะทําให้กระทรวงดีอีเอสสามารถป้องกันและแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ได้ทันที
“ในกฎหมายก็จะมีการตั้งคณะกรรมการ โดยนายกรัฐมนตรีมีอํานาจจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อมากําหนดนโยบายประสานงานกับทั้งเจ้าหน้าที่ตํารวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ปัญหานี้ รวมถึงกําหนดบัญชีต้องสงสัย หรือพฤติกรรมต้องสงสัยที่จะระงับการทําธุรกรรมทางการเงิน” นายชัยวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากการปราบปรามแก๊งเปิดบัญชีม้าแล้ว กฎหมายฉบับนี้ยังครอบคลุมถึงเรื่องของซิมม้า โดยการใช้ซิมหรือการติดต่อผ่านมือถือ ต่อไปต้องมีการลงทะเบียนตามที่ กสทช. กําหนด ซิมม้าหรือการนำซิมอื่นมาใช้ ก็จะมีความผิดเช่นเดียวกับการใช้บัญชีม้า จึงขอเตือนประชาชน และคนที่ไปเปิดบัญชี หรือไปลงทะเบียนมือถือให้ผู้อื่นใช้ จะมีความผิด โดยมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งไม่คุ้มกับที่ไปรับจ้างได้เงินเพียง 500- 2,000 บาท แต่ต้องมาโดนปรับเงินถึง 300,000 บาท และเป็นคดีความด้วย จึงขอเตือนให้พี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้กระทำการดังกล่าวไปแล้ว ไปที่ธนาคาร และแจ้งยกเลิกบัญชีที่ท่านไปรับจ้างเปิดไว้ไม่เช่นนั้นอาจจะมีความผิดหนัก หากตรวจพบในภายหลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับบัญชีม้า ลวงอดีตผู้ว่ารัฐวิสาหกิจลงทุนเทรดเหรียญคริปโต สูญกว่า 20 ล้านบาท
พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.กก.1 บก.สอท.1 ส่งกำลังชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.กฤชณัท เหล่ากอ รอง ผกก.กก.1 บก.สอท.1 เข้าร่วมจับกุมตัว นางสาวกัญญาณัฐ ทองจำรัส อายุ 23 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันโดย
'ตร.ไซเบอร์' รวบหัวโจกแก๊งหลอกขาย 'ควายงาม' ซื้อยาบ้าแจกบัญชีม้าเสพให้อยู่ในการควบคุม
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุมนายวัลลภ หรือ นัด อายุ 32 ปี ,นายวทัญญู อายุ 34 ปี ชาวอุดรธานี
นายกฯ สั่งปราบมิจฉาชีพออนไลน์ ปิดบัญชีม้าแล้ว 7 แสนบัญชี อายัดเงินเกือบ 1 พันล้าน
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้รัฐบาล ปิดบัญชีม้าแล้วกว่า 7 แสนบัญชี อายัดเงินเกือบ 1 พันล้าน และอยู่ระหว่าง ตรวจสอบ เพื่อคืนเงินผู้เสียหายต่อไป
เยาวชนกะเหรี่ยง เดือดร้อนหนัก! วอนช่วยเหลือตกเป็นเหยื่อแก๊งต้มตุ๋นหลอกเปิดบัญชีม้า
น.ส.แยมุย สายชลพิมาน ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงจากหมู่บ้านกลอเซโล ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าลูกสาวตนเป็นผู้เสียหายจากแก็งค์หลอกลวงทางอินเตอร์เน็ต (สแกมเมอร์) ถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารแล้วนำไปใช้เป็นบัญชีม้า
ตำรวจเตือน 5 สิ่งที่จะต้องเจอ เมื่อรับจ้างเปิดบัญชีม้า
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ